กรุงเทพฯ 27 ม.ค. – “พล.ต.อ.สุรเชษฐ์” รอง ผบ.ตร. ระบุอดีตอธิบดีดีเอสไอให้การย้อนแย้งกับชุดจับกุมในบ้านพักอดีตกงสุลนาอูรู ส่วนเงิน 9.5 ล้านบาท พบแบ่งกันหมดแล้ว เตรียมไล่ตรวจสอบคำให้การ เชื่อความจริงมีหนึ่งเดียว ไม่มีใครยอมตายคนเดียว
พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เปิดเผยถึงกรณีนายไตรยฤทธิ์ เตมหิวงศ์ อดีตอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ หรือดีเอสไอ เข้าให้ข้อมูลในฐานะพยานเมื่อค่ำวานนี้ กรณีเจ้าหน้าที่ดีเอสไอ ร่วมกับตำรวจ 191 ตบทรัพย์ 9.5 ล้าน จากแก๊งจีนเทาทำพาสปอร์ตปลอมในบ้านอดีตกงสุลใหญ่นาอูรู ย่านสาทร เมื่อวันที่ 22 ธันวาคม 2565 ว่า นายไตรยฤทธิ์ ยอมรับเป็นผู้แต่งตั้งชุดเฉพาะกิจในการปฏิบัติหน้าที่ด้านการข่าว และให้ไปปฏิบัติงานโดยชอบด้วยกฎหมาย และไม่ได้สั่งการให้ไปกระทำความผิด หลังจากปฏิบัติการตรวจค้นเสร็จแล้วไม่ได้รายงานกลับมาให้ทราบถึงผลการตรวจค้น
พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ ยังระบุว่าคำให้การของอดีตอธิบดีดีเอสไอ ยังไม่สอดคล้องกับชุดจับกุมที่สอบสวนไปแล้ว และให้การว่าได้รายงานกับนายไตรยฤทธิ์ ทั้งหมดแล้ว หลังจากนี้พนักงานสอบสวนจะไล่ความเชื่อมโยงของคำให้การ และเปรียบเทียบกับพยานหลักฐาน โดยเชื่อว่าความจริงมีหนึ่งเดียว และจะต้องมีฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งเป็นคนไม่พูดความจริง
ซึ่งวันนี้จะเรียกนายเสกสิทธิ์ ซึ่งอยู่หน้าห้องทำงานของนายไตรยฤทธิ์ มาสอบปากคำเพิ่มเติม เพื่อเทียบเคียง และไล่เวลาตามพยานหลักฐานที่ตรวจพบ ซึ่งยังมีบางประเด็นที่ให้การไม่ตรงกับนายไตรยฤทธิ์ ส่วนนายไตรยฤทธิ์ ให้การครบถ้วนแล้วยังไม่ออกหมายเรียกให้มาพบเพิ่มเติม ส่วนจะเข้าข่ายว่าเป็นสั่งการให้ไปปฏิบัติงานหรือไม่นั้น ขอเวลาตรวจสอบพยานหลักฐานก่อน
สำหรับเงิน 9.5 ล้านบาทที่ถูกรีดทรัพย์ไปนั้น เชื่อว่าแบ่งกันทั้งหมดแล้ว และหาไม่พบ และอดีตอธิบดีดีเอสไอ ก็ไม่รู้ว่ามีการรีดทรัพย์เงินในจำนวนดังกล่าว รวมทั้งการเข้าไปตรวจค้นในคอนโดมิเนียมย่านห้วยขวางของเจ้าหน้าที่ดีเอสไอ 3 คน ขณะนี้พนักงานสอบสวน สน.ห้วยขวาง เตรียมขอศาลออกหมายจับข้อหาบุกรุกเคหสถานและลักทรัพย์ เนื่องจากพบภาพจากวงจรปิดว่านำพระเครื่องออกจากห้องไป ซึ่งห้องนี้เป็นของครอบครัวอดีตกงสุลนาอูรูที่ในวันเกิดเหตุไม่อยู่ในห้อง
สำหรับจุดเริ่มต้นในการเข้าตรวจค้นบ้านพักอดีตกงสุลนาอูรู เริ่มจากเจ้าหน้าที่สถานกงสุลทำหนังสือแจ้งมาที่อธิบดีดีเอสไอให้จัดชุดไปตรวจสอบ ซึ่งจะต้องเรียกหญิงคนนี้มาให้ข้อมูลถึงสาเหตุการให้ไปตรวจสอบ รวมทั้งการเข้าตรวจค้นที่คอนโดมิเนียม
พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ เชื่อว่าหลังจากการสอบสวนทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องแล้วจะสามารถพิสูจน์ความจริงได้ว่าใครเป็นผู้สั่งการ และสุดท้ายจะไม่มีใครยอมตายคนเดียว.-สำนักข่าวไทย