ปส.ทลายเครือข่ายไอซ์ข้ามชาติ ของกลางกว่า 1,000 กก.

ปส. 24 ม.ค.- ตํารวจ ปส.ทลายเครือข่ายไอซ์ข้ามชาติ ลำเลียงผ่านไทยไปประเทศที่สาม ของกลาง 3 คดี รวมกว่า 1,000 กก. มีทั้งใช้รถบรรทุกสินค้าทางการเกษตรบังหน้า และดัดแปลงรถไว้เพื่อขนยาเสพติดโดยเฉพาะ


พล.ต.อ.ชินภัทร สารสิน รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ แถลงผลการปฏิบัติของกองบัญชาการตำรวจปราบปรามยาเสพติด สามารถจับกุมเครือข่ายค้าไอซ์ 3 คดี รวมยึดของกลางได้กว่า 1,145 กิโลกรัม โดยคดีแรก กองบังคับการตำรวจปราบปรามยาเสพติด 4 จับกุมนายอาคม อายุ 27 ปี, นางสาวแหม่ม อายุ 32 ปี และนางสาวชญาดา อายุ 35 ปี พร้อมของกลาง ไอซ์ 688 กิโลกรัม และรถยนต์ 3 คัน ขณะลำเลียงขนไอซ์จากพื้นที่ภาคกลางไปส่งให้ขบวนการค้ายาเสพติดในประเทศเพื่อนบ้านทางภาคใต้ โดยใช้รถบรรทุกสินค้าทางการเกษตรบังหน้า โดยตำรวจติดตามและเข้าจับกุมได้ ขณะจอดแวะที่ปั๊มน้ำมันในอำเภอเมืองพัทลุง จากนั้นขยายผลไปจับกุมผู้ต้องหาอีก 4 คน พร้อมของกลาง ไอซ์กว่า 43 กิโลกรัม และผงเมทแอมเฟตามีน 660 กรัม สำหรับเครือข่ายนี้เป็นกระบวนการค้าไอซ์ข้ามชาติ โดยนำยาเสพติดมาจากภาคอีสาน ส่งต่อกันเป็นทอดๆ ปลายทางประเทศที่สาม โดยมีขบวนการมารอรับยาเสพติดบริเวณชายแดน และมีการซื้อขายยาเสพติดผ่านกันทางแอปพลิเคชันไลน์

คดีที่ 2 กองบังคับการสืบสวนสอบสวน ตำรวจปราบปรามยาเสพติด จับกุมนายทวีชัย อายุ 25 ปี พร้อมของกลางไอซ์ 300 กิโลกรัม ได้ที่บริเวณลานจอดรถห้างฯ ในอำเภอเมืองเชียงราย ขณะขนส่งลำเลียงยาเสพติดจากพื้นที่ภาคเหนือ ผ่านกรุงเทพมหานครและปริมณฑล โดยไปส่งมอบให้ลูกค้าในพื้นที่จังหวัดสตูล เพื่อส่งออกไปประเทศที่สามเช่นกัน


และคดีที่ 3 กองบังคับการตำรวจปราบปรามยาเสพติด 3 จับกุมนางภคอร อายุ 43 ปี และนายกนกธัช อ่ยุ 35 ปี พร้อมของกลาง ไอซ์ 114 กิโลกรัม ขณะลำเลียงยาเสพติดจากภาคเหนือตอนบนมายังพื้นที่ภาคกลางตอนล่าง โดยจับกุมผู้ต้องหาพร้อมรถยนต์ ได้ที่ด่านตรวจพยุหะคีรี จังหวัดนครสวรรค์ และบริเวณค้าส่งใหญ่ในจังหวัดปทุมธานี เพราะว่ามีการดัดแปลงรถไว้เพื่อขนยาเสพติดโดยเฉพาะ

พล.ต.อ.ชินภัทร เปิดเผยว่า ส่วนใหญ่กลุ่มขบวนการค้าไอซ์จะส่งยาเสพติดไปยังประเทศที่สามร้อยละ 80-90 เนื่องจากในต่างประเทศยังมีความต้องการสูง ทางกลุ่มขบวนการยาเสพติดจึงทำทุกวิถีทางที่จะขนส่งลำเลียงยาเสพติดออกนอกประเทศให้ได้มากที่สุด อีกทั้งในประเทศไทยระบบการขนส่งมีความสะดวก จึงมีความพยายามที่จะขนลำเลียงยาเสพติดอย่างต่อเนื่อง.-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

หนุ่ม 31 ซิ่งเก๋งชนไรเดอร์ดับคาที่ หลังมีปากเสียงเรื่องขับเฉี่ยวชน

หนุ่มไทยเชื้อสายอินเดีย ลูกเจ้าของร้านขายผ้าซิ่งเก๋งชนไรเดอร์ดับ ริมถนนสุขุมวิท หลังมีปากเสียงเรื่องขับรถเฉี่ยวไม่ลงมาเจรจา

พ่อพาญาติเยี่ยมลูกชายลูกครึ่งอินเดีย ขับรถชนไรเดอร์ดับ

พ่อพาญาติเยี่ยมลูกชายลูกครึ่งอินเดีย ที่หัวร้อนขับรถชนไรเดอร์ดับคาที่กลางสุขุมวิท เมื่อวานนี้ พร้อมไหว้ขอสื่อ อย่ามายุ่งกับครอบครัว

จำคุกทนายเดชา

ศาลสั่งจำคุก 1 ปี “ทนายเดชา” ปมไลฟ์หมิ่น “อ.อ๊อด”

ศาลสั่งจำคุก 1 ปี “ทนายเดชา” คดีหมิ่น “อ.อ๊อด” ปรับ 1 แสนบาท ปมไลฟ์ด่าเสียหาย ให้รอลงอาญา โจทก์เตรียมอุทธรณ์ต่อ ขอให้ติดคุกจริง

ศาลให้ประกันหนุ่มลูกครึ่งอินเดียหัวร้อนขับรถไล่ชนไรเดอร์ดับ

ครอบครัวไรเดอร์ที่ถูกหนุ่มลูกครึ่งอินเดียหัวร้อนขับรถไล่ชนเสียชีวิต กอดกันร้องไห้รับร่างและรดน้ำศพ ด้านศาลให้ประกันตัวผู้ต้องหา วงเงิน 600,000 บาท ติดกำไล EM-ห้ามออกนอกประเทศ

ข่าวแนะนำ

วันประวัติศาสตร์ สมรสเท่าเทียมวันแรก

วันนี้เป็นวันแรกที่กฎหมายสมรสเท่าเทียม มีผลใช้บังคับอย่างเป็นทางการ ใน กทม. มีการจัดงานวันสมรสเท่าเทียมอย่างยิ่งใหญ่ เฉลิมฉลองให้กับเส้นทางการต่อสู้อันยาวนานกว่าที่กฎหมายจะมีผลบังคับใช้ ไม่ว่าเพศใดก็จะได้รับสิทธิการสมรสอย่างเท่าเทียมกัน

นาทีประวัติศาสตร์! นายกฯ ร่วมพิธีลงนาม FTA ไทย-เอฟตา

นายกฯ ร่วมพิธีลงนาม FTA ไทย-เอฟตา ฉบับแรกไทยกับยุโรป ความสำเร็จรัฐบาลแพทองธาร สร้างโอกาสยุคทองการค้า-ลงทุน ทำเงินเข้าประเทศ

ตำรวจ ปปป.ซ้อนแผนบุกจับนายช่างโยธา เรียกรับเงิน 4 แสน

ตำรวจ ปปป. บุกจับนายช่างโยธาปฏิบัติงาน ฝ่ายโยธา สำนักงานเขตพระโขนง เรียกรับเงินค่าออกใบอนุญาตก่อสร้างอาคาร 400,000 บาท

สมรสเท่าเทียม

นายกฯ ส่งคลิปสารร่วมยินดีกฎหมายสมรสเท่าเทียมบังคับใช้

“แพทองธาร” นายกฯ ส่งคลิปสารร่วมแสดงความยินดีกฎหมายสมรสเท่าเทียมบังคับใช้ ขอบคุณทุกภาคส่วนผ่านการต่อสู้กับอคติกว่า 2 ทศวรรษ ทำให้ ทุกตารางนิ้วของประเทศไทยโอบรับความหลากหลาย และเท่าเทียม