19 ม.ค. – ผู้ประกาศข่าวชื่อดังแฉอาจารย์สายเขียวโกงค่าตัวหลอก ลงทุนทำธุรกิจปลูกพืชมหัศจรรย์ โดยมีการอ้างคนใหญ่โตระดับประเทศและวางตัวเหนือกฎหมาย ข่มขู่ผู้เสียหายด้วยหมายเรียกคดีอาญาบอกให้เป็นของขวัญวันเกิด ซึ่งมีผู้เสียหายหลงเชื่อลงทุนเสียหายกว่า 50 ล้านบาท
“เคนโด้” ผู้ประกาศข่าวชื่อดังพร้อมด้วย น.ส.แหม่ม เลขาฯ ส่วนตัว เดินทางมาพบกับ เอก สายไหมต้องรอด เพื่อขอความช่วยเหลือ หลังถูกอาจารย์สายเขียวท่านหนึ่ง ซึ่งมีชื่อเสียงโด่งดังทางสังคมและในหน้าสื่อฯ หลอกให้ร่วมทำธุรกิจผลิตภัณฑ์สายเขียว นอกจากนี้ยังถูกกลั่นแกล้ง แจ้งความยัดข้อหาดำเนินคดี บอกว่า ให้เป็นของขวัญวันเกิดด้วยคดีอาญา จนตัว คุณแหม่ม เกิดความเครียดถึงขั้นคิดฆ่าตัวตาย
โดย เคนโด้และคุณแหม่ม วันนี้นั่งโต๊ะแถลงต่อสื่อมวลชนพร้อมทำหลักฐานเป็นสไลด์ power point ชัดเจนว่า ถูกหลอกเอาชื่อเสียงไปใช้ออกหน้า ออกตาในการชักชวนคนมาทำธุรกิจสายเขียว ผู้เสียหายแบ่งเป็น 3 ส่วน คือ 1.คุณแหม่ม เลขาฯ เคนโด้ ถูกอาจารย์คนดังกล่าวกลั่นแกล้งไปแจ้งความหาว่าปล่อยคลิปโป๊ลงกลุ่มไลน์ จนทำให้ครอบครัวและตัวคุณแหม่มเครียดถึงขั้นฆ่าตัวตาย
2.ตัว “เคนโด้” ถูกหลอกให้ทำงาน โดยใช้ชื่อเสียงออกหน้า ออกสื่อฯ ชักชวนทำธุรกิจสายเขียว ซึ่งเคนโด้สำรองออกค่าใช้จ่ายไปก่อน สุดท้ายเบิกไม่ได้เป็นเงินประมาณ 5-6 หมื่นบาท และ 3.บอกเลิกสัญญาไม่เป็นธรรม พอมีปัญหาเกี่ยวกับธุรกิจเกิดขึ้นก็บอกเลิกสัญญาอ้างว่าทางเคนโด้และคุณแหม่ม ยึดแพลตฟอร์ม, เพจเฟซบุ๊ก, เว็บไซต์ไปทำธุรกิจเอง จึงยกเลิกสัญญา
นอกจากนี้มีการหลอกทำฉลากผลิตภัณฑ์ โดยอาจารย์คนดังกล่าวบอกว่า เป็นฉลากที่สามารถส่งออกต่างประเทศได้ แต่ความจริงแล้วไม่สามารถส่งออกต่างประเทศได้, ธงชาติที่ใช้ก็ไม่ใช่ธงชาติไทย แต่เป็นธงชาติคอสตาริกา พอทักท้วงบอกว่า ขายๆ ไปก่อนลอตนี้ยังไม่ต้องส่งออก โดยระหว่างการแถลงข่าว สื่อฯ เข้าไปสอดส่องความเคลื่อนไหวทาง Facebook พบว่า Facebook ของอาจารย์ท่านหนึ่งมีการโพสต์ ก่อนที่เคนโด้จะแถลงข่าวประมาณ 14 นาที ว่า นอกจากต้องรบกับโจร อาจารย์ต้องมารบกับอะไรเนี่ย พวกเสียผลประโยชน์ทั้งนั้น
ซึ่งทางเคนโด้ ยืนยันเลยว่า เรื่องนี้ไม่ใช่เรื่องการเสียผลประโยชน์ แต่เป็นการเสียชื่อเสียง ถ้าอาจารย์คนดังกล่าวจะแถลงตอบโต้ เคนโด้ท้าให้งัดเอาหลังฐานออกมาพูดด้วย ความเสียหายที่เป็นตัวเงิน คือ ค่าจ้างที่ตกลงไว้ แต่ไม่จ่าย 5-6 หมื่นบาท แต่ความเสียหายทางชื่อเสียงและสภาพจิตใจประเมินมูลค่าไม่ได้
โดยระหว่างการแถลงข่าว ทางคุณแหม่ม นั่งร้องไห้ตลอดเวลา ซึ่งคุณแหม่ม เป็นเลขาฯ ของเคนโด้และถูกกลั่นแกล้งดำเนินคดีด้วย, คุณแหม่ม บอกว่า ตัวเองถูกอาจารย์คนดังกล่าวแจ้งความเกี่ยวกับ พ.ร.บ.คอมฯ โดยกล่าวหาว่า คุณแหม่ม ส่งคลิปโป๊เข้าไปในกลุ่มไลน์ ซึ่งทางคุณแหม่ม ยืนยันว่าตัวเองไม่ได้เป็นคนส่งเข้าไป มันจะเป็นลักษณะเหมือนไวรัส หลังจากคลิปโป๊ถูกส่งเข้าไปในกลุ่มสมาชิกในกลุ่มไลน์ก็จะถูกลบออกจากกลุ่ม ซึ่งอาจารย์ท่านนี้ก็เอาเรื่องนี้ไปแจ้งความดำเนินคดีกับทางคุณแหม่ม พร้อมพูดจาลักษณะว่าจะให้คดีอาญาเป็นของขวัญวันเกิดซึ่งก็มีหมายศาลพร้อมกับตำรวจมาที่บ้านของคุณแหม่มที่จังหวัดขอนแก่นจริงๆ จนครอบครัวญาติพี่น้องรู้สึกตกใจ หลังจากนั้นตัวเองตกอยู่ในสภาวะความเครียด จนกลายเป็นซึมเศร้าและเครียดจนถึงขั้นเคยคิดฆ่าตัวตาย
นอกจากนี้ยังมีผู้เสียหายอีก 2 คน ถูกอาจารย์ท่านนี้หลอกลงทุนด้วย โดยทางเคนโด้ ขอต่อสายโทรศัพท์ถึงคุณเปี๊ยก ผู้เสียหายรายนี้ ซึ่งทางผู้เสียหายบอกว่า เห็นอาจารย์คนดังกล่าวโฆษณาอวดอ้างสรรพคุณทางสื่อทีวีและสื่อโซเชียลต่างๆ ว่ามีความรู้อย่างชัดเจนทะลุปรุโปร่งเกี่ยวกับกัญชา พืชมหัศจรรย์ จึงชักชวนมาลงทุนโปรเจ็คปลูกกัญชาตั้งแต่ต้นกระบวนการจนถึงปลายทาง เก็บเงินแรกเข้าอ้างเป็นค่าที่ปรึกษา 50,000 บาทต่อเดือน สุดท้ายลงทุนเป็นมูลค่าความเสียหายประมาณ 50 ล้านบาท ปรากฏว่า ไม่เป็นไปตามที่โฆษณาชวนเชื่อ พอทวงถามไปก็กลับชวนทะเลาะและหาว่าทางผู้เสียหายมาข่มขู่ซึ่งมีผู้เสียหายอีกหลายรายที่ถูกอาจารย์ท่านนี้หลอกลงทุนปลูกกัญชา
ขณะที่เรื่องนี้ เอก สายไหมต้องรอด บอกว่าตั้งข้อสังเกตเกี่ยวกับหมายเรียกจาก สภ.เมืองนครปฐม ซึ่งไม่ใช่หมายเรียกในฐานะพยานก่อนด้วย แต่เป็นหมายเรียกในฐานะผู้ต้องหา ซึ่งอาจจะเป็นการกลั่นแกล้ง หากตรวจสอบอย่างละเอียดแล้วทางตำรวจอาจจะมีความผิดต่อหน้าที่ด้วย หลังจากนี้ในประเด็นของฉลากผลิตภัณฑ์ที่เข้าข่ายความผิดเกี่ยวกับการคุ้มครองผู้บริโภคหากทางผู้เสียหายประสงค์ที่จะแจ้งความดำเนินคดีก็จะพาไปร้องทุกข์กล่าวโทษต่อ ปคบ. ส่วนความผิดเรื่องการลงทุนต่างๆ ต้องให้โอกาสทางอาจารย์คนดังกล่าวได้ออกมาชี้แจงหรืออธิบายข้อเท็จจริงในมุมของตัวเองก่อนและค่อยดำเนินการตามกระบวนการยุติธรรม. -สำนักข่าวไทย