บช.น. ยันแจ้งข้อหาคนขับรถเบนท์ลีย์แล้วรอผล “เมา-ความเร็ว”

บช.น.9 ม.ค. – โฆษก บช.น. แถลงการดำเนินคดีกรณีอุบัติเหตุรถชนบนทางด่วนที่ปรากฏคลิปเป็นรถหรูเบนท์ลีย์พุ่งชนรถปาเจโร่สปอร์ต และชนกับรถดับเพลิงบนทางด่วนว่า ขณะนี้ได้แจ้งข้อหาคนขับรถหรูขับขี่รถโดยประมาทฯ แล้ว ส่วนข้อหาเมา-ความเร็ว ต้องรอผลก่อน


พล.ต.ต.จิรสันต์ แก้วแสงเอก รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล ในฐานะโฆษกกองบัญชาการตำรวจนครบาล ระบุว่าจากกรณีดังกล่าวมีผู้ได้รับบาดเจ็บทั้งสิ้น 8 ราย ขณะนี้เหลือยังพักรักษาตัวอยู่ในโรงพยาบาลอีก 3 ราย ขณะที่ในส่วนของการดำเนินการแจ้งข้อหากับทางผู้ขับขี่รถยนต์หรูเบนท์ลีย์ ขณะนี้ทราบว่าพนักงานสอบสวนมีการแจ้งข้อหาขับขี่รถโดยประมาทเป็นเหตุให้ผู้อื่นได้รับบาดเจ็บและทรัพย์สินเสียหายไปแล้วตั้งแต่คืนวันเกิดเหตุ ส่วนข้อหาเมาแล้วขับและความผิดเกี่ยวกับการใช้ความเร็วอยู่ระหว่างการรอผลการตรวจพิสูจน์จากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ซึ่งในส่วนของผลการตรวจวัดปริมาณแอลกอฮอล์ในเส้นเลือดทราบว่าจะมีผลออกมาในวันพรุ่งนี้

ส่วนประเด็นที่ผู้ขับขี่รถยนต์หรูไม่ยินยอมเป่าวัดปริมาณแอลกอฮอล์ถือว่าทำได้เพราะผู้ขับขี่รถยนต์หรูยินดีให้การร่วมมือในการตรวจสอบ แต่ขอตรวจวัดโดยการเจาะเลือด พนักงานสอบสวนจึงไม่ได้มีการดำเนินการแจ้งข้อหาเมาแล้วขับในทันที รวมถึงหากผู้ได้รับบาดเจ็บมีการระบุผลจากทางแพทย์ว่าได้รับบาดเจ็บสาหัสก็จะดำเนินการแจ้งข้อหาเพิ่มเติมกับทางผู้ขับขี่รถยนต์อีกครั้ง ซึ่งถือเป็นขั้นตอนปกติที่พนักงานสอบสวนสามารถดำเนินการได้
ยืนยันว่าในประเด็นนี้สามารถทำได้เพราะการตรวจวัดด้วยการเป่าอาจจะมีความคาดเคลื่อนในเรื่องของความแม่นยำของตัวเครื่อง


ขณะที่ประเด็นเรื่องของระยะเวลาในการส่งตัวตรวจวัดปริมาณแอลกอฮอล์ในเส้นเลือด จากการตรวจสอบพบว่าพนักงานสอบสวนมีการส่งตัวผู้ขับขี่รถยนต์หรูไปตรวจสอบวัดปริมาณแอลกอฮอล์ในเส้นเลือดในช่วงเวลาประมาณ 01.30 น. หลังจากได้รับการส่งตัวจากพนักงานทางด่วน ส่วนประเด็นที่มีการระบุว่าผู้ขับขี่รถยนต์หรูพยายามออกจากจุดเกิดเหตุก่อนที่พนักงานสอบสวนหรือเจ้าหน้าที่ตำรวจจะเดินทางถึงจุดเกิดเหตุขณะนี้อยู่ระหว่างการตรวจสอบ จะยืนยันได้ว่าโดยปกติแล้วหากเกิดกรณีอุบัติเหตุเกิดขึ้นผู้ที่เกี่ยวข้องทั้งหมด ต้องอยู่รอเจ้าพนักงานตำรวจ ก่อนจะเคลื่อนย้ายออกจากจุดเกิดเหตุ

ในส่วนประเด็นเกี่ยวกับตัวรถยนต์หรูคันเกิดเหตุทราบว่ามีการตรวจสอบเบื้องต้นพบว่ามีการจดทะเบียนถูกต้องตามกฏหมายยังไม่มีรายงานเกี่ยวกับความผิดของตัวรถ แต่จะมีการกำชับให้ตรวจสอบในรายละเอียดเพิ่มเติมอีกครั้ง ส่วนก่อนเกิดเหตุผู้ขับขี่รถยนต์หรูเดินทางมาจากจุดใดมาจากงานปาร์ตี้หรืองานสังสรรค์หรือไม่ ยังไม่สามารถเปิดเผยได้เนื่องจากเป็นรายละเอียดในสำนวนคดีและเป็นเรื่องส่วนตัวของผู้ขับขี่. -สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ป.ป.ส. รวบ 3 นักค้ายาเสพติดต่างชาติ ที่สนามบินสุวรรณภูมิ

ป.ป.ส. รวบนักค้ายาเสพติดต่างชาติ 3 ราย ที่สนามบินสุวรรณภูมิ ส่งออกไปอิตาลี-อังกฤษ เลขาฯ ป.ป.ส. เผยความสำเร็จครั้งนี้เป็นผลจากการประสานงานใกล้ชิดระหว่างหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง

ตรวจสอบตลาดปาล์มน้ำมัน หลังราคาพุ่ง

ช่วงนี้น้ำมันปาล์มตามท้องตลาดปรับราคาแพงขึ้น จากเดิมขวดละราว 10 บาท ทำให้ผู้บริโภคถึงกับโอดครวญ ขณะที่เกษตรกรชาวสวนปาล์มน้ำมัน ระบุแม้ช่วงนี้ราคาปาล์มน้ำมันขายได้ราคาดีที่สุดในรอบหลายปี แต่เกษตรกรกลับไม่มีปาล์มขาย

ข่าวแนะนำ

เดินหน้าเสนอ ครม. ตั้งคณะกรรมการร่วมไทย-กัมพูชา เจรจาพื้นที่ทับซ้อน

กระทรวงการต่างประเทศ เดินหน้าเสนอ ครม. ตั้งคณะกรรมการร่วมด้านเทคนิค JTC ไทย-กัมพูชา เจรจาพื้นที่ทับซ้อนทางทะเลระหว่างไทยกับกัมพูชา ตามแนว MOU 2544 ยืนยันไม่ทำให้เสียเกาะกูด

เข้าสู่ฤดูหนาว

อุตุฯ ประกาศไทยเข้าสู่ฤดูหนาวแล้ว

กรมอุตุฯ ประกาศการเข้าสู่ฤดูหนาวของประเทศไทย ปี 2567 ตั้งแต่วันที่ 3 พ.ย. โดยเป็นการเข้าสู่ฤดูหนาวช้ากว่าปกติประมาณ 2 สัปดาห์ เนื่องจากมีพายุก่อตัวในมหาสมุทรแปซิฟิกและเคลื่อนเข้าสู่ทะเลจีนใต้ และยังมีฝนบางพื้นที่ ปีนี้จะหนาวกว่าปีที่แล้ว

ช้างพลายขุนเดช

ย้ายแล้ว “ช้างพลายขุนเดช” ไปสถาบันคชบาลแห่งชาติ จ.ลำปาง

ย้ายแล้ว “ช้างพลายขุนเดช” สู่สถาบันคชบาลแห่งชาติ จ.ลำปาง จบดราม่า หลังฝากเลี้ยงที่มูลนิธิอนุรักษ์ช้างและสิ่งแวดล้อม จ.เชียงใหม่