ร้องเพจสายไหมฯ แท้งลูกจากหลบกระสุนปืน

กรุงเทพฯ 7 พ.ย. – มีคนถูกลูกหลงจากเหตุทะเลาะวิวาทภายในเครือญาติที่ชุมชนประชาร่วมใจ 1 หลังวัดเสมียนนารี ลามปามถึงขึ้นยิงปืนข่มขู่ และเกิดการชุลมุนทำให้หญิงตั้งครรภ์อ่อนหนีตายจนล้มและแท้งลูก


คลิปเหตุการณ์คืนวันที่ 6 พ.ย.ที่ผ่านมา ที่ผู้เสียหายนำมาร้องขอความเป็นธรรมกับเพจสายไหมต้องรอด โดยเป็นเหตุการณ์ที่มีกลุ่มคนทะเลาะวิวาทกันภายในชุมชนประชาร่วมใจ 1 หลังวัดเสมียนนารี ก่อนมีเสียงปืนดังขึ้นหลายนัด จากริมกำแพงวัด พร้อมกับการตะโกนท้าทายกัน ตามด้วยเสียงปืนอีกครั้ง ทำให้ต่างวิ่งหนีกระเจิดกระเจิง

ผู้เสียหายที่โร่พึ่งเพจสายไหมต้องรอด ระบุว่า คนแถวบ้านมีปากเสียงกันเป็นธรรมดา แต่อีกฝ่ายได้ตามพวกเอาปืนมากระหน่ำยิงตามภาพที่ปรากฏในคลิป ทำให้พี่สาวของแฟนตนซึ่งตั้งท้อง 2 เดือน นั่งอยู่ไม่รู้เรื่องรู้ราวต้องวิ่งหนีตายหลบกระสุนจนล้มตกเลือด ทำให้เด็กในท้องเสียชีวิต เบื้องต้นตำรวจ สน.ประชาชื่น จับกุมมือยิงได้แล้วแต่พวกคนยิงกลับเข้ามาข่มขู่ห้ามใครไปเป็นพยาน คุยโตว่ารู้จักตำรวจชั้นผู้ใหญ่หลายคน มีเส้นสาย เคลียร์คดีได้ จึงตัดสินใจเข้าร้องขอความเป็นธรรม


ผู้สื่อข่าวของเราติดต่อไปยังนางสาวบี (นามสมมุติ) สาวท้องที่แท้งลูกจากเหตุการณ์ดังกล่าว เธอบอกว่า อยู่ในชุมชนประชาชนร่วมใจ 2 อีกฝั่งหนึ่งของที่เกิดเหตุ แต่จะมานั่งเล่นที่นี่เป็นประจำ ช่วงที่เกิดเรื่องมีญาติพี่น้องกำลังทะเลาะโต้เถียงกันไปมา ไม่นานก็มีเสียงปืนดังขึ้นหลายนัด ทุกคนต่างก็ตกใจ แล้วพยายามวิ่งหนีเอาตัวรอดเข้าไปในบ้านหลังหนึ่ง แต่ด้วยความที่เหตุการณ์ชุลมุนทำให้วิ่งกระแทกกัน แล้วต่อมาตนก็รู้สึกปวดท้อง จึงเข้าไปในห้องน้ำ ก่อนพบว่ามีเลือดออก จึงให้สามีรีบพาไปโรงพยาบาล ต่อมาหมอได้แจ้งว่า เด็กในท้องเสียชีวิตแล้ว ยอมรับว่า ช็อคมาก ทำอะไรไม่ถูก เพราะเป็นลูกคนแรก หลังเกิดเหตุจึงได้เข้าแจ้งความกับตำรวจ สน.ประชาชื่น ได้รับคำชี้แจงว่า กรณีที่เกิดขึ้นผู้เสียหายไม่ได้ถูกยิงจนทำให้บาดเจ็บแท้งลูก จึงต้องหาหลักฐานที่ชัดเจนมาเพื่อจะดำเนินคดีกับผู้ก่อเหตุ ซึ่งตนมองว่า ไม่ได้รับความเป็นธรรม เพราะยืนยันว่าตั้งท้องมา 9 สัปดาห์ หมอระบุว่าเด็กสมบูรณ์ดี จึงเชื่อว่าสาเหตุที่ทำให้ตนแท้งลูกมาจากเหตุรุนแรงที่เกิดขึ้น แต่ยังไม่รู้ว่าจะหาหลักฐานอะไรมาเอาผิดได้ ยืนยันตนไม่ได้เป็นคู่ขัดแย้งของทั้ง 2 ฝ่าย แต่บังเอิญเข้าไปอยู่ในที่เกิดเหตุพอดี และที่รู้สึกสะเทือนใจ

ด้านพนักงานสอบสวน สน.ประชาชื่น ระบุว่า คืนเกิดเหตุตรวจพบปลอกกระสุนปืนนับ 10 นัด สาเหตุมาจากการสะสมความแค้นที่มีปัญหาทะเลาะเบาะและกระทบกระทั่งกันเรื่อยมาโดยทั้ง 2 ฝ่าย เป็นญาติพี่น้อง อยู่ในชุมชนเดียวกัน อย่างไรก็ตาม วันนี้ตำรวจจะนำตัวผู้ก่อเหตุ ทั้ง 2 คน คือ นายปณิภาณ และนายประกายเพชร ไปขออำนาจฝากขังศาลอาญาลที่ฝากขังในหลายข้อหา อาทิ มีอาวุธปืนและเครื่องกระสุน โดยไม่ได้รับอนุญาต ยิงปืนในที่สาธารณะ และช่วยเหลือผู้กระทำผิดหลบหนี พร้อมคัดค้านการประกันตัว. -สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

พ่อเลี้ยงล่วงละเมิด

“ต้นอ้อ” แฉพิรุธพ่อเลี้ยงปมคลิปเสียง-DNA ส่วนเด็กอาการดีขึ้น

“ต้นอ้อ” แฉพิรุธพ่อเลี้ยงปมคลิปเสียง-DNA เชื่อ แม่ไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง แค่เชื่อผัวเพราะลูกเคยโกหก เผย ตอนแม่รู้ความจริงว่าใครทำลูกถึงกับร้องไห้โฮโผกอดลูก ส่วนเด็ก 10 ขวบอาการดีขึ้น แต่ต้องรักษาตัวอีกหลายสัปดาห์

งานแต่งธนกร

วิวาห์ชื่นมื่น “ธนกร-แคทลีน” คนดังการเมือง-นักธุรกิจ ร่วมยินดีครึกครื้น

งานวิวาห์ “ธนกร-แคทลีน” ชื่นมื่น คนดังการเมือง-นักธุรกิจ ร่วมยินดีครึกครื้น ด้าน “ทักษิณ” ไม่ได้มาร่วม แต่ส่งของขวัญแสดงความยินดี

ทรัมป์สั่งปลด

“ทรัมป์” สั่งปลดประธานคณะเสนาธิการร่วมตามแผนปรับปรุงกลาโหม

ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐ ออกคำสั่งในวันศุกร์ตามเวลาท้องถิ่นปลด พลอากาศเอก ซี. คิว. บราวน์ จูเนียร์ (Charles Quinton Brown Jr.) เป็นประธานคณะเสนาธิการทหารร่วมของสหรัฐออกจากตำแหน่ง

ข่าวแนะนำ

“ทักษิณ” ถึงนราธิวาส กลับมาในรอบ 19 ปี

“ทักษิณ” ถึงนราธิวาส บอกคนนราธิวาสน่ารักเสมอ ต้อนรับอบอุ่นกับการกลับมาในรอบ 19 ปี ก่อนเดินทางต่อตามกำหนดเดิม แม้มีระเบิดที่สนามบิน

บึ้มรถกระบะ สนามบินนราธิวาส ก่อน “ทักษิณ” ลงพื้นที่

บึ้มรถกระบะจอดใกล้กับหอบังคับการบิน ท่าอากาศยานนราธิวาส ก่อน “ทักษิณ” ลงพื้นที่สนามบินบ้านทอน ในอีก 50 นาที ไม่มีรายงานผู้ได้รับบาดเจ็บ

น้ำป่าหลากท่วม อ.ไทรโยค กลางดึก

ระทึกกลางดึก น้ำป่าหลากท่วมบ้านเรือนประชาชน อ.ไทรโยค จ.กาญจนบุรี ถนนหลายเส้นถูกน้ำป่าพัดขาด จนท.เร่งอพยพประชาชนด้วยความยากลำบาก

Pope at Vatican on Feb 5, 2025 says have a strong cold

โป๊ปฟรันซิสพระอาการวิกฤต

วาติกัน 23 ก.พ.- พระอาการประชวรของสมเด็จพระสันตะปาปาฟรันซิส พระประมุขแห่งพระศาสนจักรโรมันคาทอลิก ทรุดลงอยู่ในขั้นวิกฤตในช่วง 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา สำนักวาติกันออกแถลงการณ์ฉบับล่าสุดเมื่อวันเสาร์ว่า พระอาการประชวรของสมเด็จพระสันตะปาปาทรุดลงในช่วง 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา และระบุเป็นครั้งแรกว่า พระอาการของพระองค์อยู่ในขั้นวิกฤตจากโรคระบบทางเดินหายใจคล้ายกับโรคหอบหืดในช่วงเช้าวันเสาร์ ทำให้ขณะนี้พระองค์จำเป็นต้องได้รับออกซิเจนเสริมและการถ่ายเลือด โดยรวมแล้วถือว่า พระอาการอยู่ในขั้นวิกฤตและยังไม่พ้นขีดอันตราย อย่างไรก็ดี พระองค์ยังทรงตื่นตัว และประทับนั่งบนเก้าอี้ตลอดวัน แม้ว่าทรงประชวรมากกว่าวันก่อนหน้านี้ก็ตาม พระสันตะปาปาฟรันซิส พระชนมายุ 88 พรรษา ทรงเข้ารับการถวายการรักษาที่โรงพยาบาลเจเมลลี ในกรุงโรม ตั้งแต่วันที่ 14 กุมภาพันธ์ หลังทรงมีพระอาการหายใจติดขัดต่อเนื่องหลายวัน และตรวจพบว่าปอดอักเสบทั้งสองข้าง ทรงร้องขอให้เปิดเผยรายละเอียดเกี่ยวกับพระอาการของพระองค์อย่างตรงไปตรงมา สำนักวาติกันจึงออกแถลงการณ์ชี้แจงความคืบหน้าอาการประชวรของพระองค์ต่อเนื่องทุกวัน แต่แถลงการณ์ฉบับล่าสุดถือเป็นครั้งแรกที่มีเนื้อหาระบุชัดเจนว่า อาการประชวรของพระองค์อยู่ในขั้นวิกฤต ขณะที่แพทย์คาดการณ์ว่า พระองค์จะต้องประทับอยู่ในโรงพยาบาลอย่างน้อยตลอดสัปดาห์หน้า ภารกิจต่อสาธารณชนทั้งหมดของพระสันตะปาปาจึงถูกยกเลิกตลอดสัปดาห์ ทั้งพิธีมิสซาประจำวันอาทิตย์ รวมถึงการสวดภาวนาแองเจลัส (Angelus) ตามปกติทุกสัปดาห์ด้วย.-815(814).-สำนักข่าวไทย