กรุงเทพฯ 17 ต.ค.- สาวพรีเซนเตอร์สินค้าไอที แจ้งความดำเนินคดีหนุ่มใช้รูปโปร์ไฟล์สวมชุดทหาร แอบถ่ายคลิปสวมชุดว่ายน้ำลง Tiktok จนมียอดวิวเกือบ 2 ล้านครั้ง
หญิงสาวอายุ 25 ปี พรีเซนเตอร์สินค้าไอที เข้าให้ปากคำต่อพนักงานสอบสวน สน.สายไหม กรณีมีชายคนหนึ่งแอบถ่ายคลิปของเธอขณะใส่ชุดว่ายน้ำนั่งอยู่บริเวณขอบสระว่ายน้ำของโรงแรมแห่งหนึ่งในเขาใหญ่ เมื่อวันที่ 13 ตุลาคมที่ผ่านมา โดยไม่ได้รับอนุญาต ก่อนนำไปเผยแพร่ในแอปพลิเคชัน TikTok จนมีผู้เจ้ารับชมจำนวนเกือบ 2 ล้านคน มีการแชร์กันกว่า 1,600 ครั้ง มีผู้เซฟคลิปไปถึง 6,326 ครั้ง และมีคอมเมนต์กว่า 1,600 ข้อความ
ผู้เสียหายเล่าว่า เมื่อวันที่ 15 ตุลาคม มีเพื่อนบอกว่ามีภาพของตัวเองโพสต์ลง Tiktok จนแพร่หลาย จึงสมัครเข้าไปเป็น User ในแอปฯ เพื่อตรวจสอบ พบมีการโพสต์คลิปตนเองจริง จึงคอมเมนต์ขอให้คนโพสต์คลิปที่เป็นชายใช้รูปโปรไฟล์สวมชุดทหารลบภาพ แต่ก็ถูกลบคอมเมนต์อย่างรวดเร็ว เลยพยายามทักเข้าไปทางแชตส่วนตัวให้ลบภาพ ก็ได้รับคำตอบว่าขออนุญาตไม่ลบภาพ จึงแจ้งไปว่าจะมีการดำเนินคดี ก่อนเข้าแจ้งความดำเนินคดีทันที
ล่าสุด เจ้าของโพสต์ลบโพสต์แล้วเมื่อวานนี้ พร้อมเสนอให้เงินจำนวน 10,000-20,000 บาท เป็นค่าสินไหมทดแทน พร้อมพยายามแก้ตัวว่าตั้งใจจะถ่ายภาพภรรยากับลูก แต่เห็นตนเข้าจึงซูมเข้าไปถ่ายภาพเก็บไว้มาลง Tiktok รวมทั้งพยายามปลอบว่าคอมเมนต์ต่างๆ ในโพสต์ก็ไม่ได้ทำให้เสียหายอะไร ขณะที่ตนเองรู้สึกว่าถึงจะเป็นการถ่ายภาพในสถานที่สาธารณะ แต่ก็เป็นเรื่องที่กระทบความเป็นส่วนตัวกับหน้าที่การงานที่ต้องทำคลิปพรีเซนเตอร์สินค้าไอทีให้บริษัทต้นสังกัด และเป็นการนำภาพขณะที่ตัวเองไม่ได้ระมัดระวังท่าทาง จึงต้องดำเนินการทางคดีตาม พ.ร.บ.คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ.2562
นอกจากนี้ ยังถือว่าเป็นการนำภาพส่วนตัวไปใช้แสวงหาประโยชน์โดยไม่ได้รับอนุญาต เพราะผู้โพสต์คลิปภาพก็ได้รายได้จากจำนวนยอดรับชม ผู้เสียหายยังขอร้องผู้ที่เซฟคลิปภาพดังกล่าวไป อย่าเผยแพร่ส่งต่ออีก เพราะตนเองไม่ยินยอมให้มีการเผยแพร่ หากพบเห็นจะดำเนินคดีเช่นเดียวกับผู้เป็นต้นทางของภาพ
ขณะที่พนักงานสอบสวนกำลังรวบรวมพยานหลักฐานทั้งหมด เพื่อพิจารณาตั้งข้อหา เบื้องต้นลักษณะดังกล่าวเข้าข่ายการเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลโดยไม่ได้รับความยินยอม และน่าจะทำให้เจ้าของข้อมูลเสียหาย ตามมาตรา 79 ของ พ.ร.บ.คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล มีโทษจำคุกไม่เกิน 6 เดือน ปรับไม่เกิน 500,000 บาท และอาจเข้าข่ายความผิดในกฎหมายฉบับอื่นอีกด้วย.-สำนักข่าวไทย