ผบ.ตร. สั่งทุกหน่วยออกช่วยเหลือประชาชน ช่วงฝนตกหนัก

กรุงเทพฯ 13 ต.ค. – ผบ.ตร. สั่งหน่วยเตรียมรับมือ ออกช่วยเหลือประชาชน ช่วงฝนตกหนัก 14-15 ต.ค.นี้ หวั่นซ้ำเติมประชาชนที่เดือดร้อนน้ำท่วม


ตามประกาศ กรมอุตุนิยมวิทยาได้มีประกาศฉบับที่ 1 (279/2565) ลงวันที่ 12 ตุลาคม 2565 แจ้งว่า หย่อมความกดอากาศต่ำกำลังแรงบริเวณสาธารณรัฐฟิลิปปินส์ ทวีกำลังแรงขึ้นและเคลื่อนเข้าใกล้ชายฝั่งสาธารณรัฐสังคมนิยมเวียดนามตอนกลางช่วงวันที่ 13 – 14 ตุลาคม 2565 ส่งผลทำให้ในช่วงวันที่ 14 – 15 ตุลาคม 2565 บริเวณภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลาง รวมทั้งกรุงเทพมหานครและปริมณฑล จะมีฝนตกหนักบางพื้นที่ โดยเฉพาะในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ให้เฝ้าระวังสถานการณ์น้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก น้ำล้นตลิ่ง และน้ำท่วมขัง

ประกอบกับกองบัญชาการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยแห่งชาติได้ติดตามการคาดหมายลักษณะอากาศร่วมกับกรมอุตุนิยมวิทยาพบว่าช่วงครึ่งหลังของเดือนตุลาคม 2565 ร่องความกดอากาศต่ำที่พาดผ่านบริเวณภาคใต้และอ่าวไทย ทำให้บริเวณภาคใต้มีฝนตกชุกหนาแน่นและอาจมีส่งผลให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก ใน 14 จังหวัดภาคใต้


พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ เปิดเผยว่า ได้สั่งการให้ทุกหน่วยพร้อมช่วยเหลือประชาชนจากเหตุอุทุกภัย ฝนตกหนักในพื้นที่ ที่จะกลายเป็นความเดือดร้อนซ้ำเติมประชาชนที่ถูกน้ำท่วมมาต่อเนื่องหลายวัน โดยเฉพาะในพื้นที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และภาคกลางบางส่วน กำชับผู้บังบัญชานำกำลังพล ยุทโธปกรณ์ ยานพาหนะ (รถยนต์/เรือ) อุปกรณ์อื่นๆ ออกช่วยเหลือประชาชนที่ประสบภัยในพื้นที่ และให้ ดูแลเอาใจใส่บำรุงขวัญ และช่วยเหลือผู้ใต้บังคับบัญชาที่ได้รับผลกระทบ

ทั้งเพิ่มความเข้มงวดในการปฏิบัติหน้าที่รักษาความสงบเรียบร้อย อำนวยความสะดวกด้านการจราจร เพิ่มกำลังสายตรวจทั้งทางบกและทางน้ำ วางมาตรการในการดูแลความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของประชาชน เพื่อป้องกันมิให้ถูกคนร้ายฉวยโอกาสช้ำเติมผู้ประสบภัย

ผบ.ตร.กล่าวอีกว่า ทั้งนี้ให้ใช้ ศูนย์ปฏิบัติการ (ศปก.) ที่จัดตั้งขึ้น เพื่อบูรณาการกับทุกภาคส่วน รวมทั้งจิตอาสาในพื้นที่รับผิดชอบให้ความช่วยเหลือประชาชนผู้ได้รับผลกระทบจากเหตุสาธารณภัยอย่างใกล้ชิด และจัดชุดช่วยเหลือประชาชนพร้อมออกปฏิบัติการในพื้นที่ประสบภัยอย่างทันที


ทั้งนี้ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ได้เปิดสายด่วนให้ความช่วยเหลือประชาชนทั้งหมายเลข 191,1599 สายด่วน บก.จร.1197 ส่วนตำรวจทางหลวง หมายเลข 1193 ตลอด 24 ชม. -สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ผ่าไชน่า เรลเวย์ คว้า 3 โครงการรัฐในภูเก็ต

เหตุการณ์ตึก สตง.ถล่ม กลายเป็นปฐมบทในการปูพรมตรวจสอบบริษัท ไชน่า เรลเวย์ หลังพบเป็นผู้ชนะการประมูลโครงการก่อสร้างตึก สตง. และโครงการรัฐหลายแห่งทั่วประเทศ ล่าสุดที่ จ.ภูเก็ต ตรวจพบ 3 โครงการ และหนึ่งในนั้นกำลังมีปัญหาก่อสร้างที่ไม่ได้มาตรฐาน

มหาสงครามโลก

นักวิชาการชี้ “มหาสงครามโลกครั้งที่ 3” เกิดแน่ถ้าโลกยังตึงเครียด

นักวิชาการด้านความมั่นคงและการต่างประเทศระดับแนวหน้าของไทย มีความเห็นตรงกันว่า หากผู้นำชาติมหาอำนาจไม่เร่งลดระดับความตึงเครียดสถานการณ์โลก

กู้ภัยนานาชาติ เครือข่าย USAR ถอนกำลังแล้ว

กู้ภัยนานาชาติ เครือข่าย USAR ถอนกำลังแล้ว หลังอยู่ปฏิบัติภารกิจค้นหา-กู้ชีพ สนับสนุนกู้ภัยไทย เหตุตึก สตง.ถล่ม กว่า 1 สัปดาห์

ธรรมชาติใต้ดินเปลี่ยนไป หลังแผ่นดินไหว 1 สัปดาห์

แผ่นดินไหวที่เกิดขึ้นเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ส่งแรงสั่นสะเทือนในหลายพื้นที่ของภาคเหนือ แม้บนพื้นผิวดินจะไม่ได้สร้างความเสียหายมากนัก แต่พบความเปลี่ยนแปลงสภาพใต้ดินจนเกิดปรากฏการณ์ที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน ทั้งหลุมยุบขนาดใหญ่ น้ำพุร้อนที่เคยพุ่งจากใต้ดินหายไป แต่น้ำตกที่แห้งในหน้าแล้งกลับมีน้ำไหลออกมา ซึ่งนักธรณีวิทยายืนยันเป็นผลพวงจากแผ่นดินไหวครั้งนี้

ข่าวแนะนำ

“ไฮโซกำมะลอ” กระโดดชั้น 3 สน.โคกคราม

“ไฮโซเก๊” โลก 2 ใบ เครียดปีนตึก หลังถูก “คะน้า” ดาราสาว ออกมาแฉกลางรายการดัง จนตำรวจต้องเข้าเกลี้ยกล่อมพาไปโรงพัก แต่ยังวิ่งหนีการควบคุม กระโดดลงมาจากชั้น 3 สน.โครกคราม บาดเจ็บ

วันที่ 11 ปฏิบัติการกู้ซากตึก สตง. ถล่ม

วันที่ 11 ของปฏิบัติการกู้ซากตึก สตง. พังถล่ม เจ้าหน้าที่เดินหน้าใช้เครื่องจักรหนักเข้า เคลียร์ซากต่อเนื่อง โดยเฉพาะโซนบี และซี ที่คาดว่าเป็นจุดที่มีผู้ติดค้างอยู่จำนวนมาก

ชุดค้นหาลงโพรงโซน B, C ลึก 5-6 เมตร ได้กลิ่นแรง ไม่พบผู้สูญหาย

“กู้ภัย” เผยเจาะโพรงพื้นที่โซน B และ C ได้แล้ว พร้อมส่งชุดค้นหาลงโพรงไปตรวจสอบลึก 5-6 เมตร ยังไม่พบผู้สูญหายเพิ่ม แต่ได้กลิ่นแรง เร่งเดินหน้าเครื่องจักรหนักเคลียร์ซากต่อเนื่อง ยันจะช่วยเหลือจนกว่านำร่างสุดท้ายออกมาครบ