กรุงเทพฯ 23 ก.ย. – หนุ่มไรเดอร์ร้องมูลนิธิเส้นด้าย หวั่นไม่ได้รับความเป็นธรรม หลังถูกคนขับรถเมล์ทำร้ายร่างกาย ทั้งสองฝ่ายตั้งโต๊ะเปิดใจเล่าความจริง ยังคาใจจบไม่สวย ด้าน ขสมก.-กรมการขนส่งทางบก สั่งพักใบอนุญาตคนขับรถเมล์ 1 เดือน ปรับสูงสุด
จากกรณีทะเลาะวิวาทกันบนท้องถนนจนถึงขั้นคนขับรถประจำทางลงไปทำร้ายร่างกายไรเดอร์ส่งอาหาร ตามที่มีคลิปภาพปรากฏในโลกโซเชียล เหตุเกิดบริเวณจุดกลับรถหน้าปั๊มน้ำมัน บนถนนกำแพงเพชร 2 มุ่งหน้าสวนจตุจักร เมื่อวันที่ 21 กันยานยนที่ผ่านมา ท่ามกลางสายตาประชาชน
ล่าสุดนายหนึ่ง ไรเดอร์ที่ถูกทำร้ายในคลิป เข้าร้องเรียนกับมูลนิธิเส้นด้าย หวั่นไม่ได้รับความเป็นธรรม ทางมูลนิธิเส้นด้ายจึงเชิญทั้งคนขับรถจักรยานยนต์และคนขับรถประจำทางสาย 3 มาพูดคุยเปิดใจต่อสื่อมวลชน
นายหนึ่ง เล่าว่า ก่อนเกิดเหตุขี่รถจักรยานยนต์มาบนถนนกำแพงเพชร โดยชะลอชิดซ้าย เพราะดูออเดอร์ลูกค้า เพื่อไปรับอาหารที่ย่านสวนจตุจักร ระหว่างนั้นได้ยินเสียงรถประจำทางบีบแตรไล่หลายครั้ง โดยฝ่ายคนขับรถประจำทางตะโกนต่อว่า แสดงท่าทางที่ไม่สุภาพ แล้วขับรถประจำทางเบียดรถจักรยานยนต์ของตนจนเสียหลักล้ม ก่อนจะลงมาทำร้ายตนเองตามที่ปรากฎในคลิป ซึ่งตนเองเห็นว่าคนขับรถเมล์พยายามจะขับรถชน เข้าข่ายความผิดข้อหาพยายามฆ่า มีจุดประสงค์ให้เกิดอันตรายถึงชีวิต จากนั้นไปเจรจาที่ สน.บางซื่อ และมีปากเสียงกันต่อ มีเรื่องกันอีกรอบ จนนายหนึ่งไปชกหน้าคนขับรถประจำทาง
นายหนึ่ง ยอมรับว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นนั้นเป็นบทเรียนราคาแพงสำหรับตนเอง อยากให้เป็นอุทาหรณ์ว่าอย่าใช้อารมณ์บนท้องถนน แต่ยังคาใจคู่กรณีไม่พูดความจริงทั้งหมด ไม่สามารถให้อภัยและยอมจับมือกับคนขับรถประจำทางได้ เพราะให้การกับตำรวจไม่ตรงกับการแถลงข่าวในวันนี้ จึงจะดำเนินคดีให้ถึงที่สุด
นายอภิสิทธิ์ คนขับรถประจำทางคู่กรณี เล่าว่า ก่อนเกิดเหตุขับรถออกจากสถานีกลางบางซื่อ ขณะจะเลี้ยวซ้ายออกมาก็มาพบคนขับรถจักรยานยนต์คู่กรณีขับแทรกซ้ายเข้ามา จึงบีบแตรเตือน และต่อว่าระหว่างทางก็มีการตะโกนด่าทอให้ของลับกัน จนต้องจอดรถลงไปมีปากเสียงกัน จากนั้นก็ขึ้นมาขับรถต่อ แต่ระหว่างทางคู่กรณียังตามตะโกนด่าไปตลอดทาง และขว้างของใส่รถ จึงตัดสินใจหักรถจอดจนเกิดการเฉี่ยวชน พอเห็นว่าคู่กรณีจะลุกขึ้นมาจึงลงมือทำร้ายก่อน ยืนยันไม่มีเจตนาจะหักรถชนคู่กรณี แต่ขอโทษและยอมรับผิดที่ใจเย็นไม่พอ ทำให้องค์กรเสื่อมเสียชื่อเสียงไปด้วย
ด้านนางสาวเพียร บวรสิทธิไพบูลย์ ผู้อำนวยการเขตการเดินรถที่ 8 เปิดเผยว่า ในส่วนขององค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ หรือ ขสมก. จะตั้งคณะกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้น เบื้องต้นสั่งพักใช้ใบอนุญาตขับขี่รถโดยสารเป็นเวลา 1 เดือน และกรมการขนส่งทางบกสั่งปรับ 1,000 บาท ฐานละเว้นการปฎิบัติหน้าที่พนักงานขับรถไม่คำนึงถึงความปลอดภัย จากนี้จะกำกับดูแลและอบรมพนักงานในสังกัดอย่างมีจิตสำนึกในการให้บริการมากขึ้น เพื่อไม่ให้เกิดเหตุการณ์เช่นนี้อีก
สำหรับบรรยากาศในการเจรจาพูดคุยกันทั้งสองฝ่ายไม่สามารถจับมือและตกลงกันได้ด้วยดี เนื่องจากยังมีบางประเด็นที่นายหนึ่ง คนขับรถจักรยานยนต์ยังคาใจ ขณะที่นายอภิสิทธิ์ได้ขอโทษอีกฝ่าย โดยตัวเองจะยกมือไหว้ญาติผู้ใหญ่ของอีกฝ่ายก่อนที่จะเดินทางกลับ
ขณะที่ทีมข่าวได้ไปสอบถามข้อมูลกับพันตำรวจโทอำนาจ นาควิจิตร พนักงานสอบสวน สน.บางซื่อ ที่ดูคดีนี้ว่าคนขับรถเมล์มีการให้ปากคำตั้งใจจะชนไรเดอร์ตามถูกกล่าวอ้างหรือไม่ ทางพันตำรวจโทอำนาจ เปิดเผยว่า ในการสอบปากคำคนขับรถเมล์ยืนยันไม่ได้มีเจตนาจะขับรถชนจักรยานยนต์ แต่ยอมรับมีปากเสียงกันจริง สาเหตุที่จอดรถเพราะต้องการเพียงจะหยุดรถเท่านั้น ซึ่งจากการสอบสวนและดูพฤติการณ์คนขับรถเมล์เข้าข่ายมีความผิด แต่ต้องรอผลตรวจร่างกายของคู่กรณีมาประกอบก่อนจึงจะแจ้งข้อกล่าวหา ส่วนคนขับไรเดอร์อาจมีความผิดทำร้ายร่างกายคู่กรณี เนื่องจากระหว่างสอบปากคำมีการชกต่อยคนขับรถเมล์ต่อหน้าเจ้าพนักงาน.-สำนักข่าวไทย