รวบ 2 สาวแสบหลอกเซียนพระชื่อดัง ตบทรัพย์ 100 ล้าน

กรุงเทพฯ 12 ก.ย. – ตำรวจรวบตัว 2 สาวแสบ หลอกเซียนพระชื่อดัง วัย 81 ปี ตีสนิทหลอกว่าสามารถรักษาโรคที่เจ็บป่วยได้ ก่อนจะตบทรัพย์ พระเครื่อง และรถหรู มูลค่าเกือบ 100 ล้านบาท


เหตุการณ์นี้สืบเนื่องจาก เมื่อวันที่ 2 กันยายน ที่ผ่านมา ครอบครัวของเซียนพระเครื่องชื่อดัง วัย 81 ปี ซึ่งป่วยเป็นโรคพาร์กินสัน ได้เข้ามาขอความช่วยเหลือจากเจ้าหน้าที่ตำรวจกองกำกับการสวัสดิภาพเด็กและสตรี ว่าเซียนพระถูกล่อลวงให้ไปรักษาโรคพาร์กินสันโดยการฉีดยาเข้าสู่ร่างกาย และถูกตบทรัพย์ มูลค่ารวมกว่า 100 ล้านบาท

ตำรวจสืบสวนจนพบว่า ผู้ก่อเหตุ คือ น.ส.เอ และ น.ส.บี (นามสมมุติ) ใช้วิธีการเข้าไปตีสนิทกับเซียนพระโดยอ้างว่าสามารถรักษาโรคพาร์กินสันได้ จากนั้นได้พาเซียนพระออกจากบ้านไปพักในโรงแรมแห่งหนึ่งแถวชานเมืองกรุงเทพฯ และได้ฉีดยาเข้าสู่ร่างกาย 1 เข็ม ซึ่งไม่ทราบว่าเป็นตัวยาชนิดใด พร้อมเรียกเก็บเงิน จำนวน 50,000 บาท แต่ผู้เสียหายไม่ได้นำเงินติดตัวมา


น.ส.เอ และ น.ส.บี จึงล่อลวงให้ผู้เสียหายนำพระเครื่องที่พกติดตัวไปขาย และยังมีการเรียกเงินกับครอบครัวเป็นเงินค่ารักษาจำนวน 300,000 บาท โดยผู้ก่อเหตุได้ยึดรถยนต์โตโยต้า อัลพาร์ด และพระเครื่อง อาทิ สมเด็จวัดระฆังพิมพ์ใหญ่ เหรียญหลวงปู่เอี่ยมวัดหนัง พระกริ่งปวเรศ เหรียญหลวงพ่อกลั่น วัดพระญาติฯ และพระเครื่องอื่นๆ มูลค่าเกือบ 100 ล้านบาท ไว้เป็นหลักประกัน

ต่อมา ตำรวจได้เข้าช่วยเหลือผู้เสียหาย พร้อมติดตามทรัพย์สินคืนกลับมาได้ทั้งหมด ส่วนผู้ก่อเหตุนั้น เบื้องต้นยังให้การปฏิเสธ ซึ่งตำรวจ บอกว่า จากการตรวจสอบทั้ง น.ส.เอ และ น.ส.บี ไม่มีใบประกอบวิชาชีพและไม่ได้เป็นแพทย์หรือพยาบาล ตามที่กล่าวอ้างแต่อย่างใด ทั้งคู่มักจะแฝงตัวในคาเฟ่ ในร้านอาหารที่มีผู้สูงอายุรวมตัวกัน เช่น ร้านคาราโอเกะบนห้างดิโอลด์สยาม ร้านกาแฟย่านถนนราชดำเนิน เมื่อพบเป้าหมายที่มีฐานะ จะทำทีเข้าไปตีสนิท ชักชวนหลอกล่อเหยื่อตามรูปแบบแตกต่างกันไป อย่างรายนี้ ก็จะอ้างว่ารักษาโรคต่างๆ ได้ ซึ่ง 1 ใน 2 ผู้ก่อเหตุ ยังมีหมายจับของศาลอาญามีนบุรีด้วย ส่วนการดำเนินคดี ตอนนี้อยู่ระหว่างรอผลตรวจสารพิษในร่างกายของผู้เสียหาย เพื่อนำมาประกอบสำนวน ก่อนแจ้งข้อหาต่อไป

ส่วนที่มีกระแสข่าวว่า ผู้ก่อเหตุ 2 คนนี้ สนิทกับอดีตตำรวจชั้นผู้ใหญ่รายหนึ่ง โดยหลังการจับกุมมีตำรวจโทรมาขอเคลียร์เพื่อให้ปล่อยตัวนั้น ทางตำรวจยืนยันว่า คดีนี้ต้องดำเนินการไปตามกฎหมาย พร้อมฝากประชาสัมพันธ์ ใครที่เคยถูกหญิง 2 คนเข้ามาตีสนิท หลอกลวงลักษณะนี้ ให้เข้ามาแจ้งความได้ที่กองกำกับการสวัสดิภาพเด็กและสตรี เพราะเชื่อว่ายังมีเหยื่ออีกหลายราย .-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

จำคุกเอกราช

ศาลสั่งจำคุก 5 ปี 93 เดือน “เอกราช” สส.ภูมิใจไทย

ศาลจังหวัดขอนแก่น พิพากษาจำคุก 5 ปี 93 เดือน นายเอกราช ช่างเหลา สส.ขอนแก่น เขต 4 พรรคภูมิใจไทย พร้อมสั่งชดใช้เงินกว่า 405 ล้านบาท คดียักยอกเงินสหกรณ์ออมทรัพย์ครูขอนแก่น 1,275 ล้านบาท

ลูกนายกเบี้ยว

“อนุทิน” ลั่นต้องดำเนินคดี “ลูกชายนายกเบี้ยว”

“อนุทิน” ลั่นไม่มีใครใหญ่กว่าผม ต้องดำเนินคดี “ลูกชายนายกเบี้ยว” ฮึ่มเป็นลูกใครทำผิดกฎหมายก็โดน ถามใหญ่กว่าผมไหม ถ้าไม่ใช่ก็โดนหมด

สลด แม่คลอดลูกเสร็จ ไปเล่นสงกรานต์ต่อ ปล่อยเด็กตาย

สลด สาววัย 27 ปี คลอดลูกทิ้งไว้ข้างกระถางต้นไม้ แล้วไปเล่นน้ำสงกรานต์ต่อ นานกว่า 1 ชม. มีคนแจ้งกู้ภัย พยายามปั๊มหัวใจ แต่ช่วยเด็กไม่ทัน

ผู้ป่วยแจ้งกู้ภัยเข้ามาช่วย แต่บอกบ้านเลขที่ผิด สุดท้ายเสียชีวิต

สลด หญิงวัย 54 ปี หายใจไม่ออกโทรแจ้งกู้ภัยให้เข้ามาช่วยพาส่งโรงพยาบาล แต่ปรากฏว่าแจ้งบ้านเลขที่ผิด เจ้าหน้าที่หลงทาง สุดท้ายไปไม่ทัน เสียชีวิตอยู่ข้างแม่ที่เป็นผู้ป่วยติดเตียง พบทั้งบ้านมีกองขยะสูงเท่าหลังคา

ข่าวแนะนำ

“นายกเบี้ยว” พาลูกเข้ารับทราบข้อกล่าวหา-ตร.ยัน “พีช” เจตนาทำผิดอาญา

กรณี “พีช” ลูกนายกเบี้ยว ขับรถหรูปาดหน้าชนกระบะลุงป้า ตำรวจ สภ.ลำลูกกา ยืนยันพฤติการณ์ไม่ใช่แค่ขับรถประมาท แต่เจตนาทำผิดคดีอาญา และโดนแจ้งข้อหาขับรถไม่มีใบอนุญาต เนื่องจากใบขับขี่หมดอายุตั้งแต่ปี 64 ขณะที่ล่าสุด “นายกเบี้ยว” พาลูกชายเข้ารับทราบข้อกล่าวหาแล้ว

“ชัชชาติ” รับหลักฐานบางส่วนเสียหาย อาจตรวจสอบคุณภาพยาก

“ชัชชาติ” นำทีม กทม. พบ นายกฯ รายงานคืบหน้ากู้ซากอาคาร สตง. ถล่ม ย้ำ รัฐ-เอกชน ให้ความร่วมมือเป็นอย่างดี ไม่ขาดเหลือด้านใด เผย นายกฯ ติดตามเรื่องนี้ต่อเนื่อง พร้อมให้ความร่วมมือตำรวจเก็บหลักฐาน แนะ ไปหน้างานประสานเจ้าหน้าที่เก็บหลักฐานได้เลย ยอมรับ หลักฐานบางส่วนพังเสียหาย อาจตรวจสอบคุณภาพยาก

ปิดเขาล้อมจับมือปืนลำดับ 93 หนีคดี 10 ปี

ปฏิบัติการบุกขึ้นเขาปิดล้อม จับกุมมือปืนคนสำคัญ ลำดับ 93 ค่าหัว 1 แสนบาท ก่อเหตุอุกอาจหนีคดีมา 10 ปี แต่สุดท้ายไม่รอดมือตำรวจ