เครื่องบันทึกวิดีโอในห้องนักบินเป็นประเด็นหลังแอร์อินเดียตก

ซีแอตเทิล 15 ก.ค. – เหตุเครื่องบินแอร์ อินเดีย ตกเมื่อเดือนที่แล้วได้จุดประเด็นถกเถียงที่ดำเนินมานานหลายทศวรรษในอุตสาหกรรมการบินอีกครั้ง เกี่ยวกับการติดตั้งกล้องวิดีโอเพื่อติดตามตรวจสอบการกระทำของนักบินในห้องนักบิน เพื่อเสริมข้อมูลจากเครื่องบันทึกเสียงในห้องนักบินและเครื่องบันทึกข้อมูลการบินที่เจ้าหน้าที่สอบสวนอุบัติเหตุใช้อยู่ในปัจจุบัน วิลลี่ วอลช์ ผู้บริหารสมาคมขนส่งทางอากาศระหว่างประเทศ หรือ ไออาตา (IATA) ซึ่งเคยเป็นอดีตนักบินสายการบิน กล่าววันนี้ที่ประเทศสิงคโปร์ว่า มีเหตุผลที่หนักแน่นในการติดตั้งกล้องวิดีโอในห้องนักบินของเครื่องบินโดยสาร เพื่อตรวจสอบการกระทำของนักบิน และเสริมข้อมูลจากเครื่องบันทึกเสียงและข้อมูลการบินที่นักสอบสวนอุบัติเหตุใช้อยู่แล้ว ผู้เชี่ยวชาญด้านการบินกล่าวว่า รายงานเบื้องต้นจากสำนักงานสอบสวนอุบัติเหตุเครื่องบินของอินเดีย ทำให้เกิดคำถามว่า นักบินคนหนึ่งของเที่ยวบิน 171 ได้ตัดเชื้อเพลิงเครื่องยนต์ของเครื่องบินโบอิ้ง 787 เพียงไม่กี่วินาทีหลังเครื่องขึ้นหรือไม่ ซึ่งการปิดสวิตช์เชื้อเพลิงที่ว่านี้นำไปสู่สถานการณ์ที่ไม่สามารถแก้ไขได้ เหตุเครื่องบินแอร์อินเดียตกในเมืองอาห์เมดาบัด ประเทศอินเดียดังกล่าว คร่าชีวิตผู้โดยสาร 241 คน จากทั้งหมด 242 คนบนเครื่องบิน รวมถึงผู้คนบนพื้นดินอีก 19 คน วอลซ์ กล่าวว่า จากข้อมูลที่ได้ทราบเพียงเล็กน้อยในขณะนี้ เป็นไปได้สูงว่าการบันทึกวิดีโอเพิ่มเติมจากการบันทึกเสียง จะช่วยเหลือนักสอบสวนได้อย่างมากในการดำเนินการสอบสวนเกี่ยวกับประเด็นสุขภาพจิต ผู้สนับสนุนการติดตั้งกล้องวิดีโอในห้องนักบินกล่าวว่า ภาพวิดีโอสามารถเติมเต็มช่องว่างที่เครื่องบันทึกเสียงและข้อมูลไม่สามารถให้ได้ ขณะที่ฝ่ายคัดค้านกล่าวว่าข้อกังวลเกี่ยวกับความเป็นส่วนตัวและการนำไปใช้ในทางที่ผิดนั้นมีน้ำหนักมากกว่าสิ่งที่พวกเขาโต้แย้งว่าเป็นประโยชน์เพียงเล็กน้อยต่อการสอบสวน รายงานฉบับสุดท้ายของสำนักงานความปลอดภัยการขนส่งของออสเตรเลียที่เผยแพร่ 18 วันหลังจากเหตุเครื่องบินแอร์ อินเดีย ตกระบุว่า ภาพคลิปวิดีโอถือว่า “ประเมินค่าไม่ได้” […]

พายุรุนแรงถล่มนครนิวยอร์กในสหรัฐ คร่า 2 ชีวิต

นิวยอร์ก 15 ก.ค. – เหตุน้ำท่วมฉับพลันในรัฐนิวเจอร์ซีย์ของสหรัฐ ทำให้มีผู้เสียชีวิต 2 ราย ขณะที่พายุรุนแรงพัดถล่มเขตนครนิวยอร์กตั้งแต่คืนวันจันทร์ต่อเนื่องถึงวันอังคาร ส่งผลให้รถยนต์จมน้ำ และสถานีรถไฟใต้ดินถูกน้ำท่วม ฝนที่ตกหนักมากทำให้การเดินทางในวงกว้างทั่วทั้งสนามบิน ทางหลวง และระบบรถไฟ ในรัฐนิวเจอร์ซีย์ ต้องหยุดชะงัก คลิปวิดีโอแสดงให้เห็นน้ำท่วมในสถานีรถไฟใต้ดินหลายแห่งเมื่อคืนวันจันทร์ รวมถึงน้ำที่พุ่งขึ้นมาเหมือนน้ำพุในสถานีทางฝั่งตะวันตกของแมนฮัตตัน เจ้าหน้าที่ระบุว่า ระบบรถไฟใต้ดินไม่สามารถรับมือกับน้ำฝนที่ตกลงมาเป็นปริมาณมากในช่วงเวลาอันสั้นได้ ฟิล เมอร์ฟี ผู้ว่าการรัฐนิวเจอร์ซีย์ ประกาศภาวะฉุกเฉิน และกล่าวว่ามีผู้เสียชีวิต 2 ราย ในเมืองเพลนฟิลด์ เมื่อรถของพวกเขาถูกน้ำพัดพาไป โดยพบศพในรถที่จมอยู่ใต้น้ำ เมอร์ฟี กล่าวด้วยว่า บางพื้นที่ได้รับฝนกว่า 150 มิลลิเมตร ในเวลาไม่ถึง 2 ชั่วโมงครึ่ง และดูเหมือนว่าบางแห่งประสบเหตุน้ำท่วมเป็นครั้งแรก เขาโทษการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศว่าเป็นสาเหตุของการเพิ่มขึ้นของความถี่และความรุนแรงของเหตุการณ์สภาพอากาศสุดขั้ว.-813.-สำนักข่าวไทย

กองทัพสหรัฐเตรียมถอนทหารออกจากแอลเอ

ลอสแอนเจลิส 16 ก.ค. – กระทรวงกลาโหมสหรัฐ หรือ เพนตากอน แถลงในวันอังคารว่า นายพีท เฮกเซธ รัฐมนตรีกลาโหม สั่งถอนกำลังทหารของกองกำลังพิทักษ์มาตุภูมิ หรือ “เนชันแนลการ์ด” (National Guard) ครึ่งหนึ่ง จากจำนวนทั้งหมด 4,000 นาย ที่ถูกส่งไปยังนครลอสแอนเจลิส เพื่อปกป้องทรัพย์สินและบุคลากรของรัฐบาลกลาง ในช่วงที่มีการประท้วงหลายครั้งเมื่อเดือนที่แล้ว โฆษกกระทรวงกลาโหม กล่าวว่า การตัดสินใจถอนกำลังทหารครั้งนี้มีขึ้นเนื่องจากพิจารณาแล้วเห็นว่าภารกิจประสบความสำเร็จเรียบร้อยแล้ว ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ สั่งให้กองกำลังพิทักษ์มาตุภูมิประจำรัฐแคลิฟอร์เนีย เข้าประจำการในนครลอสแอนเจลิส เมื่อเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา โดยไม่ฟังการคัดค้านจากนายกาวิน นิวซัม ผู้ว่าการรัฐแคลิฟอร์เนีย จากพรรคเดโมแครต เป้าหมายของการส่งทหารครั้งนี้เพื่อปราบปรามการประท้วงที่เกิดจากการบุกตรวจค้นสถานประกอบการของเจ้าหน้าที่สำนักงานตรวจคนเข้าเมืองและบังคับใช้กฎหมายศุลกากร หรือ ไอซ์ (ICE) นอกจากนี้เขายังได้ส่งนาวิกโยธินประมาณ 700 นาย เข้าพื้นที่ด้วย แม้จะมีการฟ้องร้องทางกฎหมาย แต่ศาลอุทธรณ์ของสหรัฐก็อนุญาตให้นายทรัมป์ยังคงควบคุมกองกำลังพิทักษ์มาตุภูมิของแคลิฟอร์เนียได้ อย่างไรก็ตาม การตัดสินใจของเขาที่จะส่งกำลังทหารเข้าไปในนครลอสแอนเจลิส ได้จุดชนวนให้เกิดประเด็นการถกเถียงระดับชาติเกี่ยวกับการใช้กำลังทหารในดินแดนของสหรัฐ และเพิ่มความตึงเครียดทางการเมืองในนครลอสแอนเจลิส ที่เป็นเมืองที่มีประชากรมากเป็นอันดับ 2 ของประเทศ.-813.-สำนักข่าวไทย

ถ้วยแชมป์ฟุตบอลสโมสรโลกตั้งในห้องทำงาน ‘ทรัมป์’ ถาวร

วอชิงตัน 16 ก.ค. – ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐ กล่าววานนี้ว่า ถ้วยแชมป์ฟุตบอลสโมสรโลก ที่ตั้งไว้ในห้องทำงานรูปไข่ในทำเนียบขาว กรุงวอชิงตัน จะต้องตั้งไว้อย่างถาวร ฟีฟ่าต้องมอบถ้วยแชมป์จำลองให้เชลซีที่เอาชนะปารีส แซงต์ แชร์กแมง คว้าแชมป์ไปได้ เมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา ประธานาธิบดีทรัมป์ และ จานนี่ อินฟานติโน ประธานสหพันธ์ฟุตบอลนานาชาติ หรือฟีฟ่า ได้เข้าชมรอบชิงชนะเลิศการแข่งขันฟุตบอลสโมสรโลก เมื่อวันอาทิตย์ ก่อนทั้งคู่จะร่วมมอบถ้วยแชมป์ให้กับ รีซ เจมส์ กัปตันทีมเชลซี ซึ่งเขาและเพื่อนร่วมทีมคนอื่นมีสีหน้าที่งุนงงตอนที่ทรัมป์เข้ามายืนอยู่หน้าสุดตรงกลางขณะรับถ้วย ไม่ได้หลบลงเวทีไป ถ้วยแชมป์สโมสรโลก เปิดตัวครั้งแรกที่ห้องทำงานรูปไข่ในทำเนียบขาว เมื่อเดือนมีนาคมที่ผ่านมา และถ้วยแชมป์ก็ถูกตั้งตกแต่งในห้องตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา ทรัมป์บอกกับนักข่าวไว้ว่าสอบถามทางฟีฟ่าไปว่าจะมารับถ้วยรางวัลกลับไปเมื่อใด ก่อนที่ประธานฟีฟ่าจะแจ้งมาว่าให้เขาเก็บถ้วยรางวัลนี้ไว้ที่ห้องทำงานรูปไข่ได้ตลอดไปเลย เพราะทางฟีฟ่ากำลังทำถ้วยรางวัลจำลองอันใหม่อยู่ ยังไม่ทราบแน่ชัดเรื่องความแตกต่างระหว่างถ้วยรางวัลทั้งสอง ทรัมป์ยังบอกว่า เขาสามารถออกคำสั่งฝ่ายบริหารเพื่อเปลี่ยนคำว่า “ซอคเกอร์” (Soccer) ซึ่งหมายถึงฟุตบอลในแบบอเมริกัน เป็น “ฟุตบอล” (Football) แบบที่ภาษาอังกฤษที่ทั่วโลกรู้จักได้ และกล่าวว่าผู้นำประเทศอื่นๆ ต่างเรียกสหรัฐว่าเป็นประเทศ ‘ที่ร้อนแรงที่สุดในโลก’ โดยอ้างถึงกิจกรรมทางเศรษฐกิจและจุดยืนทางการเมือง พร้อมกล่าวถึงการจัดฟุตบอลชิงแชมป์สโมสรโลกและฟุตบอลโลกในสหรัฐ ว่าเป็นเรื่องของความสามัคคี การที่ทุกคนมารวมตัวกัน […]

สหรัฐบรรลุข้อตกลงการค้ากับอินโดนีเซีย

วอชิงตัน 16 ก.ค. – สหรัฐบรรลุข้อตกลงการค้ากับอินโดนีเซียเรียบร้อยแล้วเมื่อวานนี้ โดยจะไม่ต้องจ่ายภาษีส่งออกไปอินโดนีเซียเลย ขณะที่อินโดนีเซียต้องจ่ายภาษีส่งออกสินค้าไปยังสหรัฐ ที่ร้อยละ 19 เพื่อลดยอดขาดดุลการค้ามหาศาลที่สหรัฐมีต่ออินโดนีเซีย ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐ ประกาศข้อตกลงการค้ากับอินโดนีเซียในวันอังคาร เป็นข้อตกลงล่าสุดที่มุ่งกระชับความสัมพันธ์ที่ดีขึ้นกับประเทศคู่ค้า และลดยอดขาดดุลการค้าจำนวนมหาศาลของสหรัฐ โดยทรัมป์ระบุว่า สหรัฐจะไม่จ่ายภาษีนำเข้า-ส่งออกไปยังอินโดนีเซีย เราจะเข้าถึงอินโดนีเซียอย่างเต็มที่ ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของข้อตกลงการค้าครั้งนี้ ขณะที่อินโดนีเซียจะจ่ายภาษีสินค้าส่งออกไปยังสหรัฐที่ร้อยละ 19 ด้านเจ้าหน้าที่อาวุโสของกระทรวงประสานงานด้านเศรษฐกิจของอินโดนีเซีย แจ้งกับรอยเตอร์ผ่านข้อความว่า กำลังเตรียมแถลงการณ์ร่วมระหว่างสหรัฐและอินโดนีเซีย ซึ่งจะอธิบายขนาดของภาษีศุลกากรสำหรับอินโดนีเซีย ซึ่งรวมถึงข้อตกลงด้านภาษีศุลกากร ข้อตกลงที่ไม่ใช่ภาษีศุลกากร และข้อตกลงทางการค้า โดยจะแจ้งให้สาธารณชนทราบในเร็วๆ นี้ ตัวเลขการค้าทั้งหมดของอินโดนีเซียกับสหรัฐ มีมูลค่าเกือบ 40,000 ล้านดอลลาร์ ในปี 2567 แม้จะไม่ติดอยู่ใน 15 อันดับแรก แต่ก็ยังคงเติบโตอย่างต่อเนื่อง การส่งออกของสหรัฐไปยังอินโดนีเซีย เพิ่มขึ้นร้อยละ 3.7 ในปีที่แล้ว ขณะที่การนำเข้าจากอินโดนีเซีย เพิ่มขึ้นร้อยละ 4.8 ทำให้สหรัฐขาดดุลการค้าเกือบ 18,000 ล้านดอลลาร์ สินค้านำเข้าจากอินโดนีเซียอันดับต้นๆ ของสหรัฐ ได้แก่ น้ำมันปาล์ม […]

‘เอ็นวิเดีย’ จ่อกลับมาขายชิป H20 ให้จีนอีกครั้ง

ปักกิ่ง 16 ก.ค. – เอ็นวิเดีย (Nvidia) บริษัทเทคโนโลยีรายใหญ่ของสหรัฐ เตรียมกลับมาขายชิปประมวลผลปัญญาประดิษฐ์รุ่น “เอช ทเวนตี้” (H20) ให้กับจีนอีกครั้ง รัฐบาลสหรัฐยืนยันว่าจะอนุมัติใบอนุญาตส่งออกสำหรับผลิตภัณฑ์ดังกล่าว ซึ่งถือเป็นการเปลี่ยนแปลงนโยบายอย่างมีนัยสำคัญจากที่เคยประกาศห้ามการส่งออกชิปดังกล่าวไปยังจีนตั้งแต่ปี 2022 และขยายขอบเขตการควบคุมหลายครั้ง การประกาศเรื่องนี้ของเอ็นวิเดียเกิดขึ้นในช่วงเดียวกับที่ เจนเซน หวง ซีอีโอของเอ็นวิเดีย อยู่ระหว่างเดินทางเยือนจีน ขณะที่นักวิเคราะห์ชี้ เป็นการเปลี่ยนแปลงนโยบายที่สำคัญ ซึ่งเกิดขึ้นหลังจากความสัมพันธ์ระหว่างสหรัฐและจีนมีแนวโน้มดีขึ้น.-815.-สำนักข่าวไทย

ญี่ปุ่นถูกฝนถล่มหลังโซนร้อนนารีขึ้นฝั่ง

โตเกียว 16 ก.ค. – พายุโซนร้อนนารี (Nari) เคลื่อนขึ้นฝั่งบริเวณแหลมเอริโมะ เกาะฮอกไกโด ทางตอนเหนือสุดของญี่ปุ่น ช่วงเช้ามืดวันอังคารตามเวลาท้องถิ่น อิทธิพลของพายุทำให้เกิดฝนตกหนักในภูมิภาคโทไก และคันโต-โคชิน จนเกิดน้ำท่วมฉับพลันเส้นทางสัญจรหลายพื้นที่ ก่อนที่พายุลูกนี้จะลดความรุนแรงลงเป็นหย่อมความกดอากาศต่ำ ถือเป็นพายุโซนร้อนลูกแรกในรอบ 9 ปี ที่ขึ้นฝั่งของเกาะฮอกไกโดของญี่ปุ่น คาดว่าจะยังมีฝนตกหนักต่อเนื่องบริเวณฝั่งตะวันออกของญี่ปุ่น ทางฝั่งมหาสมุทรแปซิฟิก ไปจนถึงวันพฤหัสบดี พร้อมเตือนให้ระวังอันตรายจากดินโคลนถล่ม น้ำท่วมในพื้นที่ลุ่ม และแม่น้ำเอ่อล้น รวมทั้งอันตรายจากฟ้าผ่า ลมกระโชกแรง และพายุลูกเห็บ.-815.-สำนักข่าวไทย

‘เทสลา’ เปิดตัวในอินเดียอย่างเป็นทางการ

มุมไบ, 15 ก.ค. – “เทสลา” (Tesla) บริษัทรถยนต์ไฟฟ้าจากสหรัฐเปิดตัวอย่างเป็นทางการในตลาดอินเดียในวันนี้ โดยเปิดโชว์รูมแห่งแรกในเมืองมุมไบ ซึ่งเป็นศูนย์กลางทางการเงินของอินเดีย และเริ่มรับการสั่งซื้อผ่านทางออนไลน์ “เทสลา” ยังเปิดตัวรยนต์ไฟฟ้ารุ่น “เทสลา โมเดล วาย” (Tesla Model Y) ด้วยราคาจำหน่ายในอินเดียประมาณ 70,000 ดอลลาร์ หรือ 2,269,000 บาท ซึ่งถือเป็นราคาสูงที่สุดเมื่อเทียบกับตลาดสำคัญอื่นๆ โดยเปรียบเทียบกับราคาเริ่มต้นในประเทศอื่นๆ แล้วในสหรัฐราคาเริ่มต้นอยู่ที่ 44,990 ดอลลาร์ หรือประมาณ 1,458,000 บาท ในจีน ราคาเริ่มต้นอยู่ที่ 263,500 หยวน หรือประมาณ 1,190,000 บาท และ เยอรมนี ราคาเริ่มต้นอยู่ที่ 45,970 ยูโร หรือประมาณ 1,741,000 บาท ในขณะที่ “เทสลา” กำลังเผชิญกับการชะลอตัวของยอดขาย จึงได้วางเดิมพันกับโอกาสทางธุรกิจในอินเดีย ซึ่งเป็นประเทศที่อีลอน มัสก์ ซีอีโอของ “เทสลา” […]

จีนเผย ‘จีดีพี’ ครึ่งปีแรก ขยายตัว 5.3%

ปักกิ่ง 15 ก.ค. — สำนักงานสถิติแห่งชาติจีนรายงานวันนี้ว่าผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ หรือ จีพีดี ของจีนเพิ่มขึ้นร้อยละ 5.3 เมื่อเทียบปีต่อปี สูงถึงราว 66.05 ล้านล้านหยวน (ราว 299 ล้านล้านบาท) ในช่วงเดือนมกราคม-มิถุนายน 2025 ขณะที่จีดีพีในช่วงเดือนเมษายน-มิถุนายน เพิ่มขึ้นร้อยละ 5.2 เมื่อเทียบปีต่อปี สำนักข่าวซินหัว รายงานว่า สำนักงานฯ ระบุว่าเมื่อเทียบรายไตรมาส เศรษฐกิจจีนในไตรมาสที่สองขยายตัวร้อยละ 1.1 โดยอุตสาหกรรมตติยภูมิขยายตัวร้อยละ 5.5 เมื่อเทียบปีต่อปี ในช่วงครึ่งปีแรก แซงหน้าการเพิ่มขึ้นร้อยละ 3.7 ในอุตสาหกรรมปฐมภูมิ และร้อยละ 5.3 ในอุตสาหกรรมทุติยภูมิ  เซิ่งไห ลอวิ้น รองหัวหน้าสำนักงานฯ แถลงว่าจีนได้เร่งดำเนินนโยบายเศรษฐกิจมหภาคเชิงรุกมากยิ่งขึ้นนับตั้งแต่ต้นปี 2025 ส่งผลให้เศรษฐกิจก้าวหน้าอย่างต่อเนื่องแม้เผชิญแรงกดดัน โดยตัวชี้วัดทางเศรษฐกิจที่สำคัญหลายตัวมีผลลัพธ์ดีกว่าที่คาดไว้ ผลผลิตภาคอุตสาหกรรมของจีนในครึ่งปีแรก เพิ่มขึ้นร้อยละ 6.4 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปี 2024 โดยภาคการผลิตอุปกรณ์และการผลิตเทคโนโลยีขั้นสูงมีอัตราการเติบโตอย่างรวดเร็ว ขณะที่ตลาดผู้บริโภครักษาแนวโน้มขาขึ้น โดยยอดค้าปลีกสินค้าอุปโภคบริโภคเพิ่มขึ้นร้อยละ 5 เมื่อเทียบปีต่อปี […]

หลายสายการบินตรวจสอบสวิตช์เชื้อเพลิงหลังเหตุแอร์อินเดียตก

นิวเดลี 14 ก.ค. – อินเดียสั่งการในวันจันทร์ให้สายการบินในประเทศตรวจสอบสวิตช์เชื้อเพลิงบนเครื่องบินโบอิ้งหลายรุ่น และเกาหลีใต้ก็ได้สั่งดำเนินการในลักษณะเดียวกันเมื่อวันอังคาร ท่ามกลางการตรวจสอบที่เข้มข้นขึ้นเกี่ยวกับกลไกล็อกสวิตช์เชื้อเพลิง ซึ่งเป็นจุดสำคัญในการสอบสวนสาเหตุเครื่องบินแอร์อินเดียตกที่คร่าชีวิตผู้คนจำนวนมาก สายการบินบางแห่งเปิดเผยกับรอยเตอร์ว่า ได้ทำการตรวจสอบสวิตช์ที่เกี่ยวข้องมาตั้งแต่ปี 2018 ตามคำแนะนำของสำนักงานบริหารการบินแห่งชาติสหรัฐ หรือ เอฟเอเอ ซึ่งรวมถึงสายการบินแควนตัส แอร์เวย์ส ของออสเตรเลีย และสายการบินเอเอ็นเอ ของญี่ปุ่น ขณะที่สายการบินอื่นๆ กล่าวว่าได้ทำการตรวจสอบเพิ่มเติมหรือเริ่มการตรวจสอบใหม่นับตั้งแต่มีการเผยแพร่รายงานเบื้องต้นเกี่ยวกับเหตุเครื่องบินแอร์อินเดียตก สายการบินสิงคโปร์แอร์ไลน์สเปิดเผยวันนี้ว่า การตรวจสอบเชิงป้องกันบนสวิตช์เชื้อเพลิงของเครื่่องบินโบอิ้งรุ่น 787 ซึ่งรวมถึงเครื่องบินที่ใช้โดยสายการบินสกู๊ต ซึ่งเป็นสายการบินราคาประหยัดในเครือ ยืนยันว่าทุกอย่างทำงานได้อย่างถูกต้อง กระทรวงคมนาคมของเกาหลีใต้กล่าววันนี้ว่า ได้สั่งการให้สายการบินภายในประเทศตรวจสอบสวิตช์ควบคุมเชื้อเพลิงตามคำแนะนำของเอฟเอเอเมื่อปี 2018 สายการบินโคเรียนแอร์ไลน์ ซึ่งเป็นสายการบินแห่งชาติของเกาหลีใต้กล่าวว่า ได้เริ่มตรวจสอบสวิตช์ควบคุมเชื้อเพลิงเชิงรุกแล้ว ส่วนสายการบินเจแปนแอร์ไลน์สระบุว่า กำลังดำเนินการตรวจสอบตามคำแนะนำเมื่อปี 2018 การเคลื่อนไหวเชิงป้องกันของอินเดีย เกาหลีใต้ และสายการบินบางแห่งในประเทศอื่นๆ เกิดขึ้น แม้ว่าผู้ผลิตเครื่องบินและสำนักงานบริหารการบินแห่งชาติสหรัฐจะแจ้งต่อสายการบินและหน่วยงานกำกับดูแลในช่วงไม่กี่วันที่ผ่านมาว่า กลไกล็อกสวิตช์เชื้อเพลิงบนเครื่องบินโบอิ้งนั้นปลอดภัย รายงานเบื้องต้นเกี่ยวกับเหตุเครื่องบินแอร์อินเดียตก ซึ่งมีผู้เสียชีวิต 260 คน พบว่า สวิตช์เชื้อเพลิงได้ถูกเปลี่ยนจากตำแหน่ง เปิดเป็นปิดหลังจากเครื่องบินเพิ่้งขึ้นได้ไม่นาน มีเสียงนักบินคนหนึ่งในเครื่องบันทึกเสียงห้องนักบินถามนักบินอีกคนว่า ทำไมเขาถึงปิดสวิตซ์เชื้อเพลิง แต่นักบินอีกคนตอบว่าเขาไม่ได้ปิดสวิตซ์แต่อย่างใด.-813.-สำนักข่าวไทย

อินโดนีเซียช่วยชีวิตผู้ประสบภัยเรือล่ม

จาการ์ตา 15 ก.ค. – เจ้าหน้าที่อินโดนีเซียเปิดเผยเมื่อวันนี้ว่า เจ้าหน้าที่หน่วยกู้ภัยค้นพบผู้สูญหาย 11 รายที่รอดชีวิตจากเหตุเรือล่มกลางทะเล พวกเขาเอาชีวิตรอดจากสภาพอากาศเลวร้ายด้วยการว่ายน้ำนานกว่า 6 ชั่วโมงไปยังเกาะที่ใกล้ที่สุด เจ้าหน้าที่กล่าวว่า เรือสองลำพร้อมด้วยเจ้าหน้าที่กู้ภัยหลายสิบคนออกค้นหาผู้สูญหาย หลังจากเรือที่บรรทุกผู้โดยสาร 18 คนได้พลิกคว่ำนอกชายฝั่งหมู่เกาะเมนตาไว ในจังหวัดสุมาตราตะวันตก เมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่กล่าวว่า ขณะเกิดเหตุมีฝนตกหนักมาก ผู้โดยสารบางส่วนสามารถว่ายน้ำและไปถึงเกาะที่ใกล้ที่สุดได้ ก่อนหน้านี้ มีผู้ได้รับการช่วยเหลือแล้ว 7 ราย ผู้โดยสารที่อยู่บนเรือ 10 คนเป็นเจ้าหน้าที่รัฐบาลท้องถิ่นที่กำลังเดินทางไปปฎิบัติภารกิจที่เมืองตูอาเปจัต ซึ่งเป็นจุดหมายปลายทางของเรือลำดังกล่าวที่ออกเดินทางจากเมืองซิกากับ เมืองเล็กๆ อีกแห่งในหมู่เกาะเมนตาไว หมู่เกาะเมนตาไวประกอบด้วยเกาะหลัก 4 เกาะ และเกาะเล็กๆ อีกจำนวนมาก.-813.-สำนักข่าวไทย

จีนเตือนรับมือคลื่นความร้อนในหลายภูมิภาค

ปักกิ่ง 14 ก.ค. — ศูนย์อุตุนิยมวิทยาแห่งชาติจีนคาดการณ์ว่าคลื่นความร้อนระยะยาวจะส่งผลกระทบต่อหลายภูมิภาคทั่วจีนระหว่างวันที่ 14-22 กรกฎาคม ซึ่งบางพื้นที่อาจมีอุณหภูมิใกล้เคียงหรือสูงเกินสถิติสูงสุดที่ผ่านมา จาง โป๋ นักพยากรณ์อากาศประจำศูนย์ฯ เผยว่าภาคเหนือและพื้นที่ลุ่มแม่น้ำเหลือง-แม่น้ำหวยเหอจะเผชิญคลื่นความร้อนรุนแรงขึ้นตามการแผ่ขยายขึ้นเหนือของความกดอากาศสูงกึ่งเขตร้อน ทำให้หลายพื้นที่มีอุณหภูมิรายวันสูงสุดเกิน 37 องศาเซลเซียส และอากาศร้อนชื้นอย่างชัดเจนยิ่งขึ้น สำนักข่าวซินหัวรายงานว่าคลื่นความร้อนจะยังคงแผ่ขยายวงกว้างในช่วงไม่กี่วันข้างหน้า โดยความครอบคลุมและความรุนแรงมีแนวโน้มแตะระดับสูงสุดในวันที่ 15-16 กรกฎาคม ทำให้หลายมณฑลทั่วจีนประกาศและยกระดับการเตือนภัยอากาศร้อน สำนักอุตุนิยมวิทยามณฑลส่านซีทางตะวันตกเฉียงเหนือของจีนเผยว่าพื้นที่ส่วนใหญ่ของมณฑลส่านซีจะเผชิญคลื่นความร้อนระยะยาวที่กินวงกว้างระหว่างวันที่ 14-19 กรกฎาคม เพราะอิทธิพลจากความกดอากาศสูงภาคพื้นทวีป โดยที่ราบกวนจงจะมีอุณหภูมิสูงติดต่อกัน 6 วัน ซึ่งบางพื้นที่อาจสูงเกิน 40 องศาเซลเซียส และใกล้เคียงหรือทำลายสถิติเดิม ศูนย์อุตุนิยมวิทยามณฑลเหอหนานตอนกลางของจีนประกาศเตือนภัยอากาศร้อนจัด ระดับสีแดง เมื่อช่วงเที่ยงวันจันทร์ (14 กรกฎาคม) ซึ่งสูงขึ้นจากระดับสีส้มที่ประกาศก่อนหน้า โดยหลายเขตและอำเภอ อาทิ ซินเซียง เจียวจั้ว และเจิ้งโจว อาจมีอุณหภูมิสูงเกิน 40 องศาเซลเซียส ด้านศูนย์อุตุนิยมวิทยาเมืองเฉิงตู มณฑลซื่อชวน (เสฉวน) ทางตะวันตกเฉียงใต้ของจีน ประกาศเตือนภัยอากาศร้อน ระดับสีส้ม ตอน 10.00 น. […]

1 10 11 12 13 14 5,508
...