เกาหลีเหนือเริ่มรื้อถอนลำโพงโฆษณาชวนเชื่อตามแนวชายแดน

โซล 9 ส.ค. – กองทัพเกาหลีใต้แถลงวันเสาร์ว่า ตรวจพบการเคลื่อนไหวของกองทัพเกาหลีเหนือที่กำลังรื้อถอนลำโพงโฆษณาชวนเชื่อบางส่วนที่หันเข้าหาฝั่งเกาหลีใต้ตามแนวชายแดน หลังจากที่เกาหลีใต้ได้ดำเนินการในลักษณะเดียวกันไปแล้วก่อนหน้านี้ ครั้งนี้ถือเป็นครั้งแรกที่รัฐบาลเกาหลีใต้ได้ออกแถลงการณ์ลักษณะเช่นนี้ นับตั้งแต่ที่ประธานาธิบดีอี แจ มย็อง เข้ารับตำแหน่งผู้นำคนใหม่ของเกาหลีใต้เมื่อสองเดือนที่แล้ว และฝ่ายเกาหลีใต้เริ่มรื้อถอนลำโพงของตนเอง กองทัพเกาหลีใต้ระบุว่าจำเป็นต้องมีการยืนยันเพิ่มเติมว่าการรื้อถอนดังกล่าวกำลังเกิดขึ้นในทุกพื้นที่หรือไม่ พร้อมเสริมว่าจะเฝ้าติดตามกิจกรรมที่เกี่ยวข้องต่อไป รัฐบาลสายเสรีนิยมของประธานาธิบดีอี ซึ่งเข้ามาแทนที่รัฐบาลสายอนุรักษ์นิยม ต้องการลดความตึงเครียดกับเกาหลีเหนือและได้สั่งยุติการออกอากาศโฆษณาชวนเชื่อที่วิพากษ์วิจารณ์ระบอบการปกครองของเกาหลีเหนือทันทีหลังจากที่นายอีเข้ารับตำแหน่งประธานาธิบดี เมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา ทางการเกาหลีใต้เริ่มดำเนินการถอดลำโพงที่ใช้กระจายเสียงโฆษณาชวนเชื่อต่อต้านเกาหลีเหนือตามแนวชายแดน เพื่อหาทางฟื้นฟูการเจรจาที่ชะงักงันระหว่างสองประเทศที่เป็๋นปรปักษ์กันมายาวนาน สำหรับเกาหลีทั้งสองฝ่ายยังคงถือว่าอยู่ในภาวะสงครามในทางเทคนิค เนื่องจากสงครามเกาหลีปี 1950-1953 สิ้นสุดลงด้วยการสงบศึก และความสัมพันธ์ระหว่างสองฝ่ายย่ำแย่ลงในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา การกระจายเสียงโฆษณาชวนเชื่อข้ามพรมแดนผ่านลำโพงถูกนำมาใช้โดยทั้งสองฝ่ายมาโดยตลอด ตามความสัมพันธ์ระหว่างเกาหลีใต้และเกาหลีเหนือที่ขึ้นๆ ลงๆ มานานหลายปี.-813.-สำนักข่าวไทย

ยูเครนระบุจะไม่ยอมยกดินแดนให้ผู้รุกราน

เคียฟ 8 ส.ค. – ประธานาธิบดีโวโลดีมีร์ เซเลนสกี ของยูเครน แสดงจุดยืนอย่างแข็งกร้าวว่าชาวยูเครนจะไม่ยอมยกดินแดนของตนให้แก่ผู้รุกราน และได้เตือนถึงผลลัพธ์ของการเจรจาสันติภาพระหว่างสหรัฐกับรัสเซีย ที่ไม่มีการมีส่วนร่วมของยูเครน นายเซเลนสกีกล่าวถึงการเตรียมการประชุมระหว่างประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐ และประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ของรัสเซีย ที่รัฐอะแลสกา ในวันที่ 15 สิงหาคมนี้ ว่านายทรัมป์ประกาศเตรียมการสำหรับการประชุมกับนายปูติน ที่รัฐอะแลสกา ซึ่งอยู่ห่างไกลจากจุดเกิดสงครามที่กำลังลุกลามบนแผ่นดินของยูเครนอย่างมาก และสงครามนี้ไม่สามารถยุติได้หากไม่มียูเครเข้าร่วมในการเจรจาด้วย นายเซเลนสกีเน้นย้ำว่ายูเครนจะไม่ยอมให้รัสเซียได้รางวัลจากสิ่งที่ได้กระทำลงไป และได้อ้างอิงถึงรัฐธรรมนูญของยูเครนที่ยืนยันถึงอธิปไตยเหนือดินแดน ประชาชนชาวยูเครนสมควรได้รับสันติภาพ แต่พันธมิตรทุกฝ่ายต้องเข้าใจว่าสันติภาพที่มีศักดิ์ศรีคืออะไร คำตอบสำหรับคำถามเรื่องดินแดนของยูเครนมีอยู่แล้วในรัฐธรรมนูญของยูเครน ไม่มีใครจะเบี่ยงเบนจากหลักการนี้ได้ และจะไม่มีใครสามารถทำได้ ชาวยูเครนจะไม่มอบดินแดนของตนให้แก่ผู้รุกราน เขายังกล่าวเสริมว่าสงครามนี้จะต้องถูกยุติลงโดยรัสเซีย ซึ่งเป็นผู้เริ่มต้นสงครามและเป็นผู้ทำให้ความขัดแย้งยืดเยื้อออกไป แม้จะแสดงความพร้อมที่จะทำงานร่วมกับประธานาธิบดีทรัมป์และประเทศพันธมิตรเพื่อสันติภาพที่ยั่งยืน แต่นายเซเลนสกีได้ย้ำเตือนว่าการตัดสินใจใดๆ ที่ขัดต่อยูเครนหรือทำโดยที่ยูเครนไม่มีส่วนร่วม จะไม่มีวันประสบความสำเร็จ.-813.-สำนักข่าวไทย

แคลิฟอร์เนียจัดประกวด ‘สุนัขที่น่าเกลียดที่สุดในโลก’

แคลิฟอร์เนีย 8 ส.ค. – การประกวดสุนัขที่น่าเกลียดที่สุดในโลก (World’s Ugliest Dog) กลับมาจัดขึ้นอีกครั้งที่รัฐแคลิฟอร์เนีย ของสหรัฐในวันวันศุกร์ โดยดึงดูดผู้คนหลายร้อยคนให้มาชมสุนัขที่มีหน้าตาที่ไม่ค่อยจะะน่ารักเท่าไหร่นัก การประกวดที่จัดขึ้นเป็นประจำทุกปีในปีนี้จัดขึ้นที่งาน “โซโนมา เคาน์ตี แฟร์” (Sonoma County Fair) ในเมือง “ซานตา โรซา” (Santa Rosa) รัฐแคลิฟอร์เนีย มีจุดประสงค์เพื่อส่งเสริมศูนย์พักพิงสัตว์และสนับสนุนการรับอุปการะสุนัขทุกเพศทุกวัยและทุกรูปลักษณ์ แม้แต่สุนัขที่อายุมากที่สุดและมีหน้าตาแปลกประหลาดที่สุด ผู้ที่ได้รางวัลในปีนี้ ได้แก่ ป๊อปปี้ (Poppy) สุนัขพันธุ์ไชนีส เครสเต็ด (Chinese Crested) อายุ 6 ปี จากกรุงทบิลิซี ประเทศจอร์เจีย และ จินนี่ ลู (Jinny Lu) สุนัขพันธุ์ปั๊ก (Pug) แต่ผู้ที่ได้รับตำแหน่ง “สุนัขที่น่าเกลียดที่สุดในโลก” ประจำปี 2025 คือน้องหมาชื่อ เพทูเนีย (Petunia) ซึ่งรายงานข่าวไม่ได้แจ้งสายพันธุ์แต่อย่างใด นอกจากนี้ […]

ญี่ปุ่นรำลึก 80 ปี เหตุการณ์ทิ้งระเบิดปรมาณูที่นางาซากิ

นางาซากิ 9 ส.ค. – ญี่ปุ่นจัดพิธีรำลึกครบรอบ 80 ปี เหตุการณ์ที่ถูกโจมตีด้วยระเบิดปรมาณู ที่เมืองนางาซากิ โดยนายกรัฐมนตรีชิเงรุ อิชิบะ ของญี่ปุ่น ได้ย้ำความมุ่งมั่นของประเทศญี่ปุ่นที่จะสร้างโลกที่ปราศจากอาวุธนิวเคลียร์ นายอิชิบะ กล่าวต่อแขกรับเชิญที่ในเข้าร่วมพิธีรำลึกเหตุการณ์ที่จัดขึ้นที่สวนอนุสรณ์สันติภาพเมืองนางาซากิว่า ในฐานะที่ญี่ปุ่นเป็นประเทศเดียวที่เคยประสบภัยจากการทิ้งระเบิดปรมาณูในสงคราม ญี่ปุ่นมีหน้าที่ที่จะต้องยึดมั่นใน หลักการ 3 ข้อปลอดอาวุธนิวเคลียร์ และเป็นผู้นำความพยายามในระดับนานาชาติ เพื่อสร้างโลกที่ปราศจากสงครามหรืออาวุธนิวเคลียร์ สำหรับหลักการ 3 ข้อปลอดนิวเคลียร์ (Three Non-Nuclear Principles) เป็นกฎเกณฑ์ที่ระบุว่าญี่ปุ่นจะไม่ครอบครอง ไม่ผลิตและไม่อนุญาตให้มีการนำอาวุธนิวเคลียร์เข้ามาในประเทศ พื้นที่ส่วนใหญ่ของเมืองนางาซากิถูกทำลายราบเป็นหน้ากลองเมื่อวันที่ 9 สิงหาคม 1945 หลังจากที่สหรัฐทิ้งระเบิดพลูโตเนียม-239 หนัก 4,500 กิโลกรัม ซึ่งมีชื่อเรียกขานว่า “แฟตแมน” ลงที่เมืองนี้ ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตทันทีประมาณ 27,000 คน จากประชากรที่คาดว่ามีอยู่ 200,000 คน ตัวแทนจาก 95 ประเทศและดินแดน รวมถึงมหาอำนาจนิวเคลียร์อย่างสหรัฐ และอิสราเอล ซึ่งไม่ยืนยันหรือปฏิเสธว่าครอบครองอาวุธนิวเคลียร์ ได้เข้าร่วมพิธีประจำปีในโอกาสครบรอบที่สำคัญนี้.-813.-สำนักข่าวไทย

น้ำท่วม-ดินถล่มในกานซู่ ตาย-สูญหายหลายสิบคน

ปักกิ่ง 9 ส.ค. – มณฑลกานซู่ของจีน กำลังเผชิญกับสถานการณ์น้ำท่วมฉับพลันและดินถล่ม ทำให้มีผู้เสียชีวิตและสูญหายหลายสิบคน ฝนที่ตกลงมาอย่างหนักทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลันและดินถล่มในเขตหยูจงของมณฑลกานซู่ ทางภาคตะวันตกเฉียงเหนือของจีน ล่าสุดมีผู้เสียชีวิตแล้วอย่างน้อย 10 คน และมีผู้สูญหายอีก 33 คน ประธานาธิบดีสี จิ้นผิง สั่งการให้ระดมกำลังเจ้าหน้าที่เร่งค้นหาผู้สูญหายเป็นการด่วน เพื่อลดความสูญเสีย และให้การช่วยเหลืออพยพผู้ประสบภัยราว 4,000 คน ที่ยังติดค้างอยู่ในพื้นที่ออกไปยังที่ปลอดภัย ขณะเดียวกันทางการท้องถิ่นมณฑลกานซู่กำลังเร่งซ่อมแซมสาธารณูปโภคและบริการสาธารณะต่างๆ ที่ได้รับความเสียหาย มีรายงานเกิดดินถล่มปิดทับเส้นทางหลายจุดเป็นอุปสรรคสำหรับทีมกู้ภัยที่จะเข้าไปในพื้นที่ สื่อของทางการจีนรายงานว่า ตั้งแต่ช่วงเย็นวันพฤหัสบดีจนถึงเที่ยงวันศุกร์ มีปริมาณฝนมากถึง 220 มิลลิเมตร ส่งผลกระทบต่อพื้นที่ในเขตหยูจง และพื้นที่อื่นๆ ในเมืองหลานโจว ซึ่งเป็นเมืองเอกของมณฑลกานซู่ เหตุการณ์น้ำท่วมและดินถล่มเกิดขึ้นใน 4 เมืองของเขตหยูจง รัฐบาลได้อนุมัติงบกลาง 100 ล้านหยวน หรือราว 450 ล้านบาท เพื่อให้การช่วยเหลือแก่ทางการท้องถิ่น.-815.-สำนักข่าวไทย

แท็กซี่ไร้คนขับตกหลุมลึกในจีน-ผู้โดยสารปลอดภัย

ปักกิ่ง 9 ส.ค. – แท็กซี่ไร้คนขับ “อพอลโล โก” (Apollo Go) ของบริษัท “ไป่ตู้” (Baidu) เกิดตกลงไปในหลุมลึก แต่โชคดีที่ผู้โดยสารในรถไม่ได้รับบาดเจ็บ และสามารถปีนขึ้นมาจากหลุมได้ เหตุการณ์แท็กซี่ไร้คนขับหรือโรโบแท็กซี่แท็กซี่ตกลงไปในหลุมหลึกเกิดขึ้นในเขตเทศบาลนครฉงชิ่ง ทางภาคตะวันตกเฉียงใต้ของจีนเมื่อวันพุธที่ผ่านมา รถแท็กซี่ไร้คนขับหน้าตาทันสมัยลงไปนอนตะแคงอยู่ก้นหลุมที่ขุดไว้สำหรับงานก่อสร้าง หนังสือพิมพ์ท้องถิ่นรายงานว่าผู้โดยสารหญิงที่อยู่ในรถไม่ได้รับอันตราย ชาวบ้านที่เห็นเหตุการณ์นำเอาบันไดมาพาดกับปากหลุมเพื่อให้เธอปีนขึ้นมา ภาพเหตุการณ์นี้ถูกแชร์ลงในสื่อโซเชียล ทำให้เกิดเสียงวิพากษ์วิจารณ์ในวงกว้างเกี่ยวกับความปลอดภัยของโรโบแท็กซี่ อพอลโล โก ซึ่งเป็นบริการแท็กซี่ไร้คนขับของบริษัทไป่ตู้ เจ้าของร้านค้าในพื้นที่รายหนึ่งบอกว่า สถานที่ก่อสร้างในบริเวณที่เกิดเหตุมีเครื่องกั้นและมีการติดป้ายเตือน แต่ยังไม่ทราบว่าแท็กซี่ไร้คนขับคันนี้ตกลงไปในหลุมได้อย่างไร ทางบริษัทไปตู้เองก็ยังไม่ได้ออกมาตอบคำถามของสื่อต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ไป่ตู้เป็นหนึ่งในผู้ให้บริการแท็กซี่ไร้คนขับรายใหญ่ของจีน ปัจจุบันมีบริการอยู่ในหลายเมืองใหญ่เช่นในกรุงปักกิ่ง อู่ฮั่น และฉงชิ่ง นอกจากนี้บริษัทยังเตรียมขยายบริการโรโบแท็กซี่ออกสู่ตลาดโลกอีกด้วย เมื่อไม่นานมานี้เพิ่งมีการลงนามความร่วมมือกับแพล็ตฟอร์มบริการแท็กซี่อย่าง อูเบอร์เทคโนโลยี และลิฟต์ ของสหรัฐ.-816.-สำนักข่าวไทย

‘ปูติน’ โทรหาผู้นำจีน อินเดีย และผู้นำต่างชาติก่อนจะพบ ‘ทรัมป์’

มอสโก 9 ส.ค. – ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ของรัสเซีย ได้สนทนาทางโทรศัพท์กับผู้นำจีน อินเดีย และอีกสามประเทศอดีตสหภาพโซเวียตในวันศุกร์ เพื่อสรุปข้อมูลเกี่ยวกับความคืบหน้าในการติดต่อกับสหรัฐเกี่ยวกับสงครามในยูเครน นายปูตินได้พบกับ นายสตีฟ วิทคอฟ ทูตพิเศษของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐที่กรุงมอสโกเมื่อวันพุธที่ผ่านมา หลังจากนั้นทำเนียบเครมลินยืนยันยว่าการประชุมสุดยอดระหว่างนายปูตินและนายทรัมป์จะจัดขึ้นในวันที่ 15 สิงหาคมนี้ ที่รัฐอะแลสกาของสหรัฐ นายทรัมป์ซึ่งกำลังผลักดันให้สงครามระหว่างรัสเซียกับยูเครนที่ยืดเยื้อมา 3 ปีครึ่งยุติลง ได้กำหนดเส้นตายที่สิ้นสุดในวันศุกร์ให้รัสเซียยอมรับข้อตกลงสันติภาพ มิฉะนั้นจะต้องเผชิญกับการคว่ำบาตรครั้งใหม่และประเทศที่ซื้อสินค้าส่งออกของรัสเซีย ซึ่งจีนและอินเดียเป็นผู้ซื้อน้ำมันรายใหญ่ที่สุดของรัสเซีย โทรทัศน์ซีซีทีวีของรัฐบาลจีนรายงานว่า ประธานาธิบดีสี จิ้นผิง แห่งจีน ได้กล่าวกับปูตินผ่านการสนทนาทางโทรศัพท์ว่า จีนรู้สึกยินดีที่เห็นรัสเซียและสหรัฐยังคงติดต่อกันและพัฒนาความสัมพันธ์เพื่อเดินหน้าแก้ไขวิกฤตยูเครนในทางการเมือง สำหรับจีนเป็นผู้สนับสนุนหลักของรัสเซียในการเผชิญหน้ากับชาติตะวันตก และเป็นคู่ค้ารายใหญ่ที่สุดของรัสเซีย นายปูตินมีกำหนดเยือนจีนในเดือนกันยายนนี้ เพื่อเข้าร่วมกิจกรรมฉลองครบรอบ 80 ปีการสิ้นสุดสงครามโลกครั้งที่สอง ทำเนียบเครมลินยังกล่าวว่า นายปูตินยังได้หารือเกี่ยวกับการพูดคุยกับนายวิทคอฟกับ นายกรัฐมนตรีนเรนทรา โมดี ของอินเดียด้วย โดยนายโมดีโพสต์ข้อความทางแอปพลิเคชั่นเอ็กซ์ว่า เขาได้พูดคุยอย่างละเอียดและดีมากกับนายปูติน และขอบคุณนายปูตินที่ได้แบ่งปันเรื่องราวความคืบหน้าล่าสุดเกี่ยวกับยูเครน ใน สัปดาห์นี้นายทรัมป์ได้ประกาศขึ้นภาษีสินค้าจากอินเดียเพิ่มอีกร้อยละ 25 เพื่อลงโทษนิวเดลีจากการซื้อน้ำมันรัสเซีย เมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา นายปูตินยังได้พูดคุยกับ ประธานาธิบดีไซริล รามาโฟซา […]

‘ทรัมป์’ ประกาศข้อตกลงสันติภาพอาเซอร์ไบจาน-อาร์เมเนีย

วอชิงตัน 9 ส.ค. – อาเซอร์ไบจานและอาร์เมเนีย ลงนามในข้อตกลงสันติภาพที่สหรัฐเป็นผู้ไกล่เกลี่ยในระหว่างการประชุมกับประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐที่ทำเนียบขาว ซึ่งข้อตกลงนี้จะช่วยส่งเสริมความสัมพันธ์ทางเศรษฐกิจทวิภาคีหลังจากความขัดแย้งที่ยาวนานหลายทศวรรษ ข้อตกลงสันติภาพระหว่างสองคู่ปรปักษ์ในภูมิภาคคอเคซัสใต้ครั้งนี้ ซึ่งหากสามารถคงอยู่ได้ระยะยาว จะถือเป็นความสำเร็จครั้งสำคัญของรัฐบาลทรัมป์ และอาจสร้างความไม่พอใจให้แก่รัสเซีย ซึ่งมองว่าภูมิภาคนี้อยู่ในขอบเขตอิทธิพลของตน นายทรัมป์กล่าวในพิธีลงนามข้อตกลงสันติภาพที่ทำเนียบขาวว่า เป็นเวลานานถึง 35 ปี ที่ทั้งสองประเทศนี้สู้รบกัน และตอนนี้พวกได้กลายเป็นเพื่อนกันแล้ว และจะเป็นเพื่อนกันไปอีกนาน ในพิธีนี้มีประธานาธิบดีอิลฮัม อะลีเยฟ ของอาเซอร์ไบจาน และนายกรัฐมนตรีนิโคล พาชินยัน ของอาร์เมเนีย นั่งขนาบข้างผู้นำสหรัฐ นายทรัมป์กล่าวว่าทั้งสองประเทศได้ให้คำมั่นว่าจะหยุดการสู้รบ เปิดความสัมพันธ์ทางการทูต และเคารพต่อบูรณภาพแห่งดินแดนของกันและกัน ข้อตกลงนี้ยังรวมถึงสิทธิ์ในการพัฒนาเฉพาะสำหรับสหรัฐในการใช้เส้นทางคมนาคมเชิงยุทธศาสตร์ผ่านภูมิภาคคอเคซัสใต้ ซึ่งทำเนียบขาวระบุว่าจะช่วยอำนวยความสะดวกในการส่งออกพลังงานและทรัพยากรอื่นๆ ได้มากขึ้น นายทรัมป์กล่าวด้วยว่าสหรัฐได้ลงนามในข้อตกลงแยกกับแต่ละประเทศเพื่อขยายความร่วมมือด้านพลังงาน การค้า และเทคโนโลยี รวมถึงปัญญาประดิษฐ์ ในขณะเดียวกัน ข้อจำกัดเกี่ยวกับความร่วมมือด้านกลาโหมระหว่างอาเซอร์ไบจานและสหรัฐก็ถูกยกเลิกด้วย อาร์เมเนียและอาเซอร์ไบจานมีความขัดแย้งกันมาตั้งแต่ปลายทศวรรษ 1980 เมื่อนาโกโน-คาราบัค ซึ่งเป็นภูมิภาคที่เป็นภูเขาของอาเซอร์ไบจานที่มีชาวอาร์เมเนียอาศัยอยู่เป็นส่วนใหญ่ ได้แยกตัวออกจากอาเซอร์ไบจานด้วยการสนับสนุนจากอาร์เมเนีย ต่อมาในปี 2023 อาเซอร์ไบจานได้กลับเข้าควบคุมภูมิภาคนี้ได้อีกครั้งอย่างสมบูรณ์ ส่งผลให้ชาวอาร์เมเนียเกือบทั้งหมด 100,000 คนในดินแดนแห่งนี้ต้องหนีไปยังอาร์เมเนีย ผู้นำทั้งสองต่างชื่นชมทรัมป์ที่ช่วยยุติความขัดแย้ง และกล่าวว่าจะเสนอชื่อเขาเข้ารับรางวัลโนเบลสาขาสันติภาพ นายทรัมป์ได้พยายามนำเสนอตัวเองในฐานะผู้สร้างสันติภาพระดับโลกในช่วงหลายเดือนแรกของการดำรงตำแหน่งสมัยที่สองของเขา ทำเนียบขาวให้เครดิตเขาในการเป็นคนกลางไกล่เกลี่ยข้อตกลงหยุดยิงระหว่างกัมพูชาและไทย […]

‘ทรัมป์’-‘ปูติน’ จะพบกันที่อะแลสกาเพื่อเจรจาสันติภาพยูเครน

วอชิงตัน 9 ส.ค. – ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐกล่าวในวันศุกร์ว่า เขาจะพบกับประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ของรัสเซีย ในวันที่ 15 สิงหาคมนี้ ที่รัฐอะแลสกา ของสหรัฐเพื่อเจรจายุติสงครามในยูเครน นายทรัมป์ได้ประกาศข่าวที่หลายฝ่ายเฝ้ารอคอยนี้ผ่านโซเชียลมีเดีย หลังจากที่เขาเผยว่า คู่กรณี รวมถึงประธานาธิบดีโวโลดีมีร์ เซเลนสกี ของยูเครน ใกล้จะบรรลุข้อตกลงหยุดยิงที่อาจนำไปสู่การยุติความขัดแย้งที่ดำเนินมานานสามปีครึ่ง ซึ่งอาจกำหนดให้ยูเครนต้องยอมยกดินแดนบางส่วนที่สำคัญให้กับรัสเซีย ก่อนหน้านี้ในวันศุกร์ นายทรัมป์ได้กล่าวกับนักข่าวที่ทำเนียบขาว โดยบอกเป็นนัยว่าข้อตกลงดังกล่าวจะมีการแลกเปลี่ยนดินแดนบางส่วนเพื่อประโยชน์ของทั้งสองฝ่าย หลังจากนั้น ทางทำเนียบเครมลินของรัสเซียได้ยืนยันการประชุมสุดยอดดังกล่าวผ่านแถลงการณ์ออนไลน์ นายยูริ อูชาคอฟ ที่ปรึกษาของปูติน กล่าวว่า ผู้นำทั้งสองจะมุ่งเน้นการหารือทางเลือกในการบรรลุข้อยุติอย่างสันติในวิกฤตการณ์ยูเครนในระยะยาว ทางด้านประธานาธิบดีเซเลนสกี กล่าวสุนทรพจน์ประจำวันศุกร์ถึงประชาชน ระบุว่า มีความเป็นไปได้ที่จะบรรลุข้อตกลงหยุดยิงหากยังคงมีการกดดันรัสเซียอย่างเพียงพอ เขากล่าวว่าได้พูดคุยกับผู้นำประเทศต่าง ๆ มาแล้วกว่าสิบครั้ง และทีมงานของเขาก็ยังคงติดต่อกับสหรัฐอย่างต่อเนื่อง นายปูตินอ้างสิทธิ์ในสี่ภูมิภาคของยูเครน ได้แก่ ลูฮันสก์ โดเนตสก์ ซาโปริซเซีย และเคอร์ซอน รวมถึงคาบสมุทรไครเมียในทะเลดำที่เขาผนวกเข้าเป็นส่วนหนึ่งของรัสเซียตั้งแต่ปี 2014 อย่างไรก็ตาม กองกำลังของรัสเซียยังไม่ได้ควบคุมดินแดนทั้งหมดในสี่ภูมิภาคดังกล่าวอย่างสมบูรณ์ ก่อนหน้านี้ สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงานว่า เจ้าหน้าที่ของสหรัฐและรัสเซียกำลังทำงานเพื่อหาข้อตกลงที่จะรับรองการยึดครองดินแดนที่รัสเซียได้มาจากการรุกรานทางทหาร แต่เจ้าหน้าที่ทำเนียบขาวรายหนึ่งกล่าวว่า […]

มาเลเซียจะขอความชัดเจนจากเมียนมาเรื่องการเลือกตั้ง

กัวลาลัมเปอร์ 8 ส.ค. – นายโมฮาหมัด ฮาซัน รัฐมนตรีต่างประเทศมาเลเซีย จะนำคณะผู้แทนจาก 4 ชาติเดินทางไปยังเมียนมาในเดือนหน้า เพื่อขอรายละเอียดจากผู้นำรัฐบาลทหารเมียนมาเกี่ยวกับการเลือกตั้งที่กำลังจะมีขึ้นในปลายปีนี้ สำนักข่าวเบอร์นามา ของทางการมาเลเซียรายงานวันนี้ว่า นายโมฮาหมัดกล่าวว่า เขาต้องการที่จะมองเห็นภาพได้อย่างชัดเจนมากยิ่งขึ้นเกี่ยวกับการเลือกตั้งในเมียนมา เพื่อนำเสนอต่อผู้นำอาเซียนที่จะประชุมสุดยอดร่วมกันในเดือนตุลาคมนี้ เบอร์นามารายงานด้วยว่า นายโมฮาหมัดซึ่งจะเดินทางไปเมียนมาพร้อมกับรัฐมนตรีต่างประเทศของประเทศไทย ฟิลิปปินส์ และอินโดนีเซียในวันที่ 19 กันยายน ต้องการความชัดเจนว่าเมียนมาจะจัดการเลือกตั้งอย่างครอบคลุมหรือไม่ เมื่อเดือนที่แล้ว นายโมฮาหมัดกล่าวว่า อาเซียนเห็นพ้องว่าการเลือกตั้งในเมียนมาไม่ใช่เรื่องสำคัญเร่งด่วน และเรียกร้องให้รัฐบาลทหารยึดมั่นใน “ฉันทามติ 5 ข้อ” เพื่อสันติภาพของกลุ่มแทน เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว รัฐบาลทหารได้ยกเลิกภาวะฉุกเฉินทั่วประเทศและถ่ายโอนอำนาจให้แก่รัฐบาลที่นำโดยพลเรือนอย่างเป็นทางการก่อนการเลือกตั้ง แม้ว่าผู้นำรัฐบาลทหารจะยังคงเป็นผู้บริหารประเทศในตำแหน่งรักษาการในตำแหน่งประธานาธิบดีก็ตาม สื่อของรัฐบาลเมียนมารายงานว่า จะมีการประกาศกฎอัยการศึกและภาวะฉุกเฉินในกว่า 60 เมืองทั่ว 9 ภูมิภาคและรัฐ โดยจะมีการลงคะแนนเสียงเลือกตั้งในเดือนธันวาคมและมกราคม.-813.-สำนักข่าวไทย

9 ทันโลก : เมื่อกัมพูชาเสนอชื่อ “ทรัมป์” รับรางวัลโนเบล

8 ส.ค. – รางวัลโนเบล ปกติประกาศกันช่วงปลายปี แต่ตอนนี้กลายเป็นประเด็นข่าว เมื่อผู้นำกัมพูชาเสนอชื่อนายโดนัลด์ ทรัมป์ ให้รับรางวัล เรื่องนี้มีแง่มุมอย่างไร ติดตามจากรายงาน 9 ทันโลก ผู้นำกัมพูชาเสนอชื่อนายโดนัลด์ ทรัมป์ เพื่อรับรางวัลใหญ่อย่างโนเบลสาขาสันติภาพ มีนัยที่เหนือไปกว่าการส่งเสริมสันติภาพอย่างแน่นอน นอกจากจะยื่นไมตรีให้กับผู้นำมหาอำนาจแล้ว ผู้เชี่ยวชาญมองว่ารัฐบาลกัมพูชายังหวังผลการเมืองภายในด้วย จดหมายฉบับนี้ของนายฮุน มาเนต นายกรัฐมนตรีกัมพูชา เป็นการแสดงเจตจำนงอย่างเป็นทางการต่อคณะกรรมการโนเบลของนอร์เวย์ เสนอชื่อนายโดนัลด์ ทรัมป์ เข้าชิงรางวัลโนเบลสาขาสันติภาพ ผู้นำกัมพูชาแสดงความซาบซึ้งต่อบทบาทนายทรัมป์ ในการฟื้นฟูสันติภาพและเสถียรภาพบริเวณชายแดนระหว่างกัมพูชาและไทย รางวัลโนเบลสาขาสันติภาพ เป็นเกียรติยศสูงส่งที่มอบให้กับบุคคลและคณะบุคคลมาตั้งแต่ปี ค.ศ.1901 ในแต่ละปีรางวัลโนเบลยังเป็นตัวชี้วัดกระแสการเมือง จุดประกายคุณความดีเพื่อสันติภาพ และสะท้อนสถานการณ์การเมืองและสังคมโลกในเวลานั้น ตามกฎของคณะกรรมการโนเบล เปิดให้บุคคล รัฐบาล ฝ่ายนิติบัญญัติ หรือองค์กร เสนอชื่อบุคคลให้ได้รับการพิจารณารางวัลในแต่ละปีได้ แต่คณะกรรมการจะไม่เปิดเผย สำหรับแต่ละปีกระบวนการจะเริ่มตั้งแต่ปีก่อนหน้า ตั้งแต่เดือนกันยายน ที่เริ่มรวบรวมการเสนอชื่อ จนปิดรับในวันที่ 31 มกราคม พอถึงช่วงเดือนกุมภาพันธ์ถึงเมษายน จะจัดทำรายชื่อเพื่อเข้าสู่การพิจารณา ดังนั้น การเสนอชื่อนายทรัมป์ โดยนายฮุน มาเนต จึงไม่ทันสำหรับปีนี้ หลังจากนั้นจึงเข้าขั้นตอนการพิจารณา […]

‘ทรัมป์’ เรียกร้องซีอีโอ ‘อินเทล’ ลาออก

วอชิงตัน 8 ส.ค. – ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐ กล่าววานนี้เรียกร้องให้ ลิป-บู ตัน (Lip-Bu Tan) ซีอีโอคนใหม่ของบริษัทอินเทล (Intel) ลาออกจากตำแหน่งโดยทันที โดยอ้างเหตุผลว่าเขามี “ผลประโยชน์ทับซ้อนอย่างรุนแรง” เนื่องจากมีความเกี่ยวข้องกับบริษัทสัญชาติจีน นายทรัมป์โพสต์ข้อความบนแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดีย “ทรูธ โซเชียล” (Truth Social) ของเขาว่า ซีอีโอของอินเทลมีผลประโยชน์ทับซ้อนอย่างรุนแรงและต้องลาออกทันทีและไม่มีทางแก้อื่นสำหรับปัญหานี้ ในวันเดียวกันนี้ หุ้นของบริษัทอินเทลปิดตลาดลดลงร้อยละ 3 เมื่อเดือนเมษายนที่ผ่านมา สำนักข่าวรอยเตอร์ทำรายงานพิเศษที่เปิดเผยว่า นายตันได้ลงทุนในบริษัทผลิตชิป และบริษัทผลิตสินค้าเทคโนโลยีขั้นสูงของจีนหลายร้อยแห่งเป็นเงินอย่างน้อย 200 ล้านดอลลาร์ โดยบริษัทบางแห่งที่เขาลงทุ่นไปนั้นมีความเชื่อมโยงเกี่ยวข้องกับกองทัพจีน ความเห็นของทรัมป์เรื่องซีอีโอของอินเทลมีขึ้นหนึ่งวันหลังจากที่รอยเตอร์รายงานเป็นสำนักข่าวแรกว่า นายทอม คอตตอน วุฒิสมาชิกพรรครีพับลิกัน ได้ส่งจดหมายถึงประธานกรรมการบริหารของอินเทล เพื่อสอบถามเกี่ยวกับความสัมพันธ์ของนายตันกับบริษัทจีน รวมถึงคดีอาญาที่เกี่ยวข้องกับบริษัทเก่าของเขาอย่าง “เคเดนซ์ ดีไซน์” (Cadence Design) การเข้ามาแทรกแซงของนายทรัมป์ในครั้งนี้ถือเป็นกรณีที่หาได้ยากที่ประธานาธิบดีสหรัฐจะออกมาเรียกร้องให้ซีอีโอของบริษัทเอกชนลาออกต่อสาธารณะ และได้ทำให้เกิดการถกเถียงในหมู่นักลงทุน นายฟิล บลองกาโต ซีอีโอของ “ลาเดนเบิร์ก ทาลมานน์ แอสเซท แมเนจเมนท์” […]

1 9 10 11 12 13 5,529
...