ททท.ขออย่าโยงผลกระทบท่องเที่ยวกับเหตุป่วน
“ยุทธศักดิ์ สุภสร” ผู้ว่าการ ททท. เผยสถานการณ์เหตุระเบิดป่วนหลายจังหวัดในภาคใต้ ยังไม่อยากให้โยงไปถึงเรื่องผลกระทบการท่องเที่ยว ต้องรอผลการตรวจสอบจากฝ่ายความมั่นคงว่าสาเหตุที่แท้จริงเกิดจากอะไร
“ยุทธศักดิ์ สุภสร” ผู้ว่าการ ททท. เผยสถานการณ์เหตุระเบิดป่วนหลายจังหวัดในภาคใต้ ยังไม่อยากให้โยงไปถึงเรื่องผลกระทบการท่องเที่ยว ต้องรอผลการตรวจสอบจากฝ่ายความมั่นคงว่าสาเหตุที่แท้จริงเกิดจากอะไร
พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร. เผยเหตุระเบิดในพื้นที่ 7 จังหวัด มีผู้เสียชีวิต 4 ราย บาดเจ็บ 32 ราย เชื่อว่าเกี่ยวข้องกับการลงมติรับร่างรัฐธรรมนูญ ซึ่งอาจมีกลุ่มเห็นต่างทำลายความน่าเชื่อถือเรื่องการท่องเที่ยวและภาพลักษณ์ของประเทศ ชิ้นส่วนระเบิดในที่เกิดเหตุหลายจุดมีลักษณะคล้ายกับระเบิดที่ใช้ก่อเหตุในภาคใต้ ซึ่งจากการสืบสวนเบื้องต้นมีบางจุดที่ทำให้เชื่อว่ามีความเชื่อมโยงกัน แต่ยังไม่ขอเปิดเผยรายละเอียด และลักษณะการก่อเหตุเชื่อว่าไม่เกี่ยวข้องกับการก่อการร้ายระหว่างประเทศ แต่เป็นเรื่องภายในประเทศ
“ดอน ปรมัตถ์วินัย” รมว.ต่างประเทศ เผยเหตุระเบิดที่เกิดขึ้นหลายจุดในพื้นที่ภาคใต้เป็นเหตุที่เกินความคาดหมาย ไม่คาดคิดว่าจะเกิดในช่วงที่มีงานสำคัญ ขณะนี้ยังไม่มีสถานทูตที่มีนักท่องเที่ยวได้รับบาดเจ็บ ติดต่อหรือประสานเพื่อขอข้อมูล หรือขอความช่วยเหลือ ซึ่งเจ้าหน้าที่ไทยพร้อมช่วยเหลือเต็มที่
พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร. เผยหลังประชุมวิดีโอคอนเฟอเรนซ์ ร่วมกับ ผบช.ภ.1-9 และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อติดตามสถานการณ์เหตุระเบิดและวางเพลิงในจังหวัดพื้นที่ภาคใต้ตอนบน เหตุระเบิดเกิดขึ้นตั้งแต่วันที่ 7 ส.ค.ที่ผ่านมา แต่เจ้าหน้าที่เก็บกู้ระเบิดได้ทันจึงไม่เกิดเหตุรุนแรง
“กฤษฎา บุญราช” ปลัดมหาดไทย ได้รับรายงานการก่อเหตุในพื้นที่ 7 จังหวัด 17 เหตุการณ์ แบ่งเป็นเหตุระเบิด 13 เหตุการณ์ และเพลิงไหม้อีก 4 เหตุการณ์ มีผู้เสียชีวิต 3 ราย บาดเจ็บกว่า 20 ราย โดยเฉพาะในพื้นที่ อ.หัวหิน จ.ประจวบคีรีขันธ์
พ.อ.วินธัย สุวารี โฆษก คสช. ระบุกรณีเหตุระเบิดในพื้นที่หลายจังหวัด ขอให้กระบวนการสืบสวนของเจ้าหน้าที่เดินตามระบบและกลไกที่เป็นทางการ ก่อนสรุปว่าใครเป็นผู้ลงมือกระทำ หรือใครอยู่เบื้องหลังต่อเหตุการณ์ครั้งนี้ มั่นใจเจ้าหน้าที่จะนำตัวผู้ก่อเหตุมาเข้าสู่กระบวนการทางกฎหมายได้
ที่ประชุมหน่วยงานด้านความมั่นคงให้ คสช.ควบคุมสถานการณ์ภาพรวม กำชับหน่วยงานความมั่นคง ติดตามสถานการณ์ใกล้ชิด และเพิ่มมาตรการคุมเข้มทุกพื้นที่ โดยเฉพาะภาคใต้ รวมถึงให้เร่งหาความเชื่อมโยงของสถานการณ์ เพื่อสืบหาตัวผู้กระทำผิดและผู้สนับสนุนมาลงโทษเร็วที่สุด
พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม เป็นประธานประชุมหน่วยงานด้านความมั่นคง ประเมินเหตุระเบิดและไฟไหม้หลายจุดในพื้นที่ภาคใต้เป็นฝีมือกลุ่มผู้ไม่หวังดี มุ่งทำลายภาพลักษณ์ ผลประโยชน์ประเทศ ด้วยการสร้างความตื่นตระหนก และลดทอนความเชื่อมั่นรัฐบาล
สำนักงานสถิติแห่งชาติจีน ระบุเศรษฐกิจจีน ซึ่งมีขนาดใหญ่เป็นอันดับ 2 ของโลก กำลังขยายตัวในระดับที่เริ่มทรงตัวแล้ว ขณะที่จีนพยายามสร้างความเชื่อมั่นแก่บริษัทและนักลงทุนว่าเศรษฐกิจประเทศเติบโตอย่างมั่นคง
“จำเริญ ทิพญพงศ์ธาดา” ผู้ว่าฯ ภูเก็ต สั่งการและกำชับให้นายอำเภอปรับแผนสนธิกำลังกับท้องถิ่นผู้นำชุมชนในพื้นที่เพิ่มมาตรการดูแลความปลอดภัยตั้งแต่จุด Check Point เข้าสู่เกาะภูเก็ต เอกซเรย์พื้นที่ตรวจค้นให้เข้มข้นมากขึ้น โดยเฉพาะในพื้นที่ที่มีผู้คนอยู่ร่วมกันจำนวนมาก
เจ้าหน้าที่ขอความร่วมมือจากประชาชนไม่ให้ตื่นตระหนกจากเหตุระเบิด และขอให้อยู่ในเคหสถาน รวมทั้งมีการประกาศปิดศูนย์การค้า แหล่งท่องเที่ยว ตลาดโต้รุ่ง และจุดเสี่ยงใน อ.หัวหิน จนกว่าสถานการณ์จะปกติ รวมทั้งอาจมีการยกเลิกการจัดกิจกรรมวันแม่ในค่ำคืนนี้
พญ.ประนอม คำเที่ยง รองปลัดสาธารณสุข เผยเบื้องต้นมีตัวเลขผู้ได้รับบาดเจ็บจากเหตุความไม่สงบเข้ารับการรักษา 35 ราย เสียชีวิต 4 ราย แบ่งเป็น จ.ตรัง เสียชีวิต 1 ราย บาดเจ็บ 7 ราย จ.ประจวบคีรีขันธ์ เสียชีวิต 2 ราย บาดเจ็บ 24 ราย จ.สุราษฎร์ธานี เสียชีวิต 1 ราย บาดเจ็บ 3 ราย จ.ภูเก็ต บาดเจ็บ 1 ราย ส่วน จ.นครศรีธรรมราช กระบี่ พังงา และระนอง ไม่มีผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บ