“พล.อ.ประวิตร” ลุยช่วยชาวชัยนาทเปิดบ่อน้ำบาดาลยักษ์

ชัยนาท 21 ต.ค.- “พล.อ.ประวิตร” ลุยช่วยชาวบ้านชัยนาทเปิดบ่อน้ำบาดาลยักษ์ ให้มีน้ำกินน้ำใช้ตลอดปี ​วันนี้ (21 ตุลาคม 2563) เวลา 9.00 น. พลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี พร้อมนายวราวุธ ศิลปอาชา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม และนายจตุพร บุรุษพัฒน์ ปลัดกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เดินทางไปตรวจราชการเพื่อติดตามการปฏิบัติงานแก้ไขปัญหาน้ำอุปโภคบริโภคและน้ำเพื่อการเกษตร พร้อมส่งมอบโครงการพัฒนาน้ำบาดาลขนาดใหญ่ (Riverbank Filtration : RBF) แห่งแรกของประเทศไทย ซึ่งมีบ่อน้ำบาดาลขนาดเส้นผ่าศูนย์กลางใหญ่ที่สุดถึง 60 เซนติเมตร หรือ 24 นิ้ว สามารถสูบน้ำได้ 250 ลูกบาศก์เมตรต่อชั่วโมง หรือ 4,000 ลูกบาศก์เมตรต่อวัน ณ บ้านธัญญอุดม ตำบลหาดท่าเสา อำเภอเมือง จังหวัดชัยนาท โดยมีนายสมบูรณ์ ศิริเวช ผู้ว่าราชการจังหวัดชัยนาท และนายศักดิ์ดา วิเชียรศิลป์ อธิบดีกรมทรัพยากรน้ำบาดาล ข้าราชการและเจ้าหน้าที่ พร้อมด้วยประชาชนในพื้นที่ตำบลหาดท่าเสารอให้การต้อนรับ ​​พลเอกประวิตร […]

กำนัน-ผญบ.ศรีราชา​แสดงพลังปกป้องสถาบัน

ชลบุรี 20 ต.ค.- กำนัน​ ผู้ใหญ่บ้านอำเภอศรีราชา​ ยื่นหนังสือเปิดผนึกผ่านนายอำเภอศรีราชาไปยังผู้ว่าราชการจังหวัดชลบุรี​ เรื่องไม่เห็นด้วย​ ที่กลุ่มผู้ชุมนุมกลุ่มราษฎรบางคนก้าวล่วงสถาบันพระมหากษัตริย์อันเป็นที่รักของปวงชนชาวไทยในการชุมนุมอย่างเปิดเผย เมื่อเวลาประมาณ​ 14.00​ น.วันนี้​ (20 ต.ค.)​ นายชูกฤษณ์​ แตงอ่อน​ กำนันตำบลบึง​ อำเภอศรีราชา​ จังหวัดชลบุรี ตัวแทนกำนัน​ ผู้ใหญ่บ้านและประชาชนชาวอำเภอศรีราชา​ ได้รวมตัวกันกว่า​ 100 คนยื่นหนังสือถึงนายภัครธรณ์​ เทียนไชย​ ผู้ว่าราชการจังหวัดชลบุรี​ ผ่านทาง​ นายดงพล​ รุจิธรรมธัช​ นายอำเภอศรีราชา​ เป็นผู้รับมอบ​ ในกรณีที่กลุ่มราษฎรที่ชุมนุมประท้วงเรียกรองให้​ พลเอกประยุทธ์​ จันทร์โอชา​ นายกรัฐมนตรี ลาออกจากตำแหน่ง​ ที่กรุงเทพมหานครและมีมีม็อบดาวกระจายไปตามสถานที่ต่าง​ ๆ​ ทั่วประเทศซึ่งพบว่ามีผู้ชุมนุมบางคนกล่าวล่วงเกินสถาบันพระมหากษัตริย์​ และแสดงกิริยาไม่เหมาะสมต่อสถาบันพระมหากษัตริย์อันเป็นที่รักของปวงชนชาวไทย​ จึงขอแสดงเจตนารมณ์ว่ากลุ่มกำนัน​ ผู้ใหญ่บ้าน​ ยึดทั่นและเทิดทูนสถาบันพระมหากษัตริย์​ ไม่อยากให้ผู้ชุมนุมนำสถาบันพระมหากษัตริย์มายุ่งเกี่ยวกับการชุมนุมทางการเมืองในครั้งนี้ โดยเนื้อหามีใจความว่า “ถึงผู้ว่าราชการจังหวัดชลบุรี​ ผ่านทางนายอำเภอศรีราชา​ จ.ชลบุรี​ เนื่อ​งจากในห้วงสถานการณ์ที่ผ่านมาได้เกิดการชุมนุมขึ้นในหลายพื้นที่และผู้ชุมนุมมีการกล่างก้าวล่วงสถาบันพระมหากษัตริย์อย่างเปิดเผย​ ซึ่งทางชมรมกำนันผู้ใหญ่บ้านและประชาชนชาวศรีราชามีความกังวลใจในการแสดงออกเหล่านั้น​ เนื่องจากสถาบันพระมหากษัตริย์เป็นสถาบันที่อยู่คู่กับสังคมไทยมาอย่างช้านาน​ อีกทั้งยังเป็นที่ประจักษ์ชัดแจ้งถึงพระเกียรติคุณพระมหากรุณาธิคุณที่ได้ทรงปฏิบัติบำเพ็ญพระราชกรณีนกิจนานัปการและทรงอยู่เหนือเรื่องของการเมือง​ ดังนั้นทางชมรมกำนันผู้ใหญ่บ้านและประชาชนชาวศรีราชาจึงขอออกมาแสดงจุดยืนความจงรักภักดีต่อสถาบันพระมหากษัตริย์” จึงขอมอบหนังสือเปิดผนึกฉบับนี้มอบผ่านนายดงพล​ รุจิธรรมธัช​ นายอำเภอศรีราชา​ […]

อธิบดี พช.ลงพื้นที่สกลนครเยี่ยมชมเฮือนนางคราม

สกลนคร 20 ต.ค.- อธิบดี พช. ลงพื้นที่เยี่ยมชม “เฮือนนางคราม” แหล่งอนุรักษ์ภูมิปัญญาท้องถิ่นสกลนครเพื่อพัฒนาคุณภาพชีวิต ส่งเสริมเศรษฐกิจฐานราก วันที่ 20 ตุลาคม 2563 เวลา 09.00 น. นายสุทธิพงษ์ จุลเจริญ อธิบดีกรมการพัฒนาชุมชน กระทรวงมหาดไทย พร้อมด้วย ดร.วันดี กุญชรยาคง จุลเจริญ ประธานสภาสตรีแห่งชาติ ในพระบรมราชินูปถัมภ์และประธานชมรมแม่บ้านพัฒนาชุมชน นายสุรศักดิ์ อักษรกุล ผอ.สำนักเสริมสร้างภูมิปัญญาท้องถิ่นและวิสาหกิจชุมชน พช. ลงพื้นที่เยี่ยมชมเฮือนนางคราม อำเภอเมือง จังหวัดสกลนคร และลงมือมัดย้อมผ้าครามด้วยตนเอง โดยมีนายเสกสรร ชนาวิโชติ ประธานหอการค้าจังหวัดสกลนครและผู้จัดการบริษัท ประชารัฐรักสามัคคีสกลนคร จำกัด นางละมุน เร่งสมบูรณ์ กรรมการอาวุโสหอการค้าจังหวัดสกลนคร นายจิรศักดิ์ สีหามาตย์ พัฒนาการจังหวัดสกลนคร และ นางฐิติมา บุญต่าย เจ้าของบ้าน “เฮือนนางคราม” ให้การต้อนรับ “เฮือนนางคราม” เป็นแหล่งผ้าย้อมคราม OTOP 5 […]

เขื่อนลำพระเพลิงไม่มีน้ำล้นสปิลเวย์แล้ว

นครราชสีมา 20 ต.ค.- นายอำเภอปักธงชัย เผยตัวเมืองน้ำท่วมเต็มพื้นที่ บางจุดสูง 1.50 เมตร จมน้ำทั้ง 14 ตำบล รอดแค่ 2 ตำบล ประเมินล่าสุดระดับน้ำเริ่มทรงตัว เขื่อนลำพระเพลิงน้ำไม่ล้นสปิลเวย์แล้ว หากไม่มีฝนซ้ำพร้อมเร่งระบายทันที แต่ที่ลุ่มต่ำคงต้องใช้เวลานาน นายบัลลังก์ ไวย์ศิริ นายอำเภอปักธงชัย จ.นครราชสีมา เปิดเผยภายหลังประชุมร่วมกับนายวิเชียร จันทรโณทัย ผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา ช่วงสายวันนี้ (20 ต.ค.) ที่สำนักงานเทศบาลเมืองเมืองปักว่า ปริมาณน้ำจากลำพระเพลิงและลำน้ำสาขาได้ไหลเข้าท่วมพื้นที่เขตเศรษฐกิจเมืองปักธงชัย ซึ่งเป็นพื้นที่ชั้นในของตัวเมืองตั้งแต่เมื่อคืนที่ผ่านมาและเพิ่มระดับขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยน้ำได้ไหลเข้าท่วมที่ว่าการอำเภอ ตลาดปักธงชัย ร้านค้า ร้านผ้าไหมที่อยู่ในพื้นที่ดังกล่าวน้ำท่วมประมาณ 45 -50 ซม. โรงเรียนหลายแห่งปิดการเรียนการสอน โดยรวมของอำเภอปักธงชัยขณะนี้น้ำเอ่อเข้าท่วมแล้ว 14 ตำบล 1 เทศบาลเมือง 1 เทศบาลตำบล จากทั้งหมด 16 ตำบล มีเพียง ต.ภูหลวง และ ต.ธงชัยเหนือ ยังไม่มีสถานการณ์น้ำท่วม บางจุดน้ำยังท่วมสูง […]

ดีอีเอาแจงปิดกันสื่อโซเชียลเฉพาะที่ขัดกฎหมายยันไม่กระทบภาพรวม

กรุงเทพฯ 20 ต.ค. ดีอีเอส ยืนยันปิดเฉพาะโซเชียลทำผิดกฎหมาย เชื่อไม่กระทบผู้ใช้ออนไลน์ในภาพรวม นายภุชพงค์ โนดไธสง รองปลัดกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอีเอส) กล่าวภายหลังการ แถลงข่าวร่วมกับกองอำนวยการร่วมแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉินที่มีความร้ายแรง (กอร.ฉ.) วันนี้ (20 ต.ค.) ว่า จากการที่ดีอีเอส ตั้งศูนย์เฝ้าระวังติดตามสถานการณ์การชุมนุม และได้ประสานกับหน่วยงานความมั่นคง เพื่อตรวจสอบการกระทำความผิดตาม พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ฯ และประสานงานการตรวจพบการกระทำความผิดที่เกี่ยวกับ พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ และดำเนินการร้องขอคำสั่งศาลในการระงับหรือลบข้อมูลผิดกฎหมายนั้น ล่าสุดแม้มีการตรวจพบข้อความที่มีการละเมิดกฎหมายกว่า 3 แสนเรื่อง แต่ในแง่การแจ้งความดำเนินคดีกับผู้กระทำผิดในช่วง 2 วันที่ผ่านมามีเพียง 58 ราย  ในจำนวนดังกล่าว ประกอบด้วย การกระทำเข้าข่ายผิดกฎหมายตาม พ.ร.บ.คอมพ์ฯ มาตรา 14 จำนวน 24 ราย โดยเป็นการนำเข้าข้อความเป็นเท็จ หลอกลวง สร้างผลกระทบต่อประเทศในวงกว้าง และยุยุงปลุกปั่น เป็นต้น ที่เหลือเป็นการละเมิดพ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ 32 ราย และอื่นๆ 2 ราย ซึ่งกระจายเผยแพร่อยู่ในหลากหลายแพลตฟอร์มโซเชียล “ขอให้ความมั่นใจกับประชาชนและผู้ใช้งานออนไลน์/โซเชียลว่า ในการดำเนินการตามกฎหมายนั้น เราจะดูเท่าที่จำเป็นจริงๆ เพื่อไม่ให้เกิดผลกระทบในวงกว้าง และกระทบคนส่วนใหญ่ที่มีการใช้ช่องทางเหล่านี้ในกิจกรรมที่เป็นประโยชน์ หรือการทำธุรกิจ ในการขอความร่วมมือแพลตฟอร์มเพื่อระงับ/ปิดกั้นการเข้าถึง เรามุ่งดำเนินการเฉพาะกับเฉพาะรายการโพสต์/ยูอาร์แอลที่มีข้อความผิดกฎหมาย ไม่ใช่การขอคำสั่งศาลเพื่อปิดแพลตฟอร์มทั้งระบบ แต่จะเป็นบางรายการที่มีความผิดชัดแจ้ง ดังนั้นผู้ที่ไม่ได้ใช้แพลตฟอร์มเหล่านี้ทำเรื่องผิดกฎหมาย ไม่ต้องกังวลใจ” นายภุชพงค์กล่าว รองปลัดดีอีเอส กล่าวอีกว่า ล่าสุดในจำนวน 58 รายที่เข้าสู่ขั้นตอนทางกฎหมายมีการปิดกั้นไปบางส่วนแล้ว ขณะที่ ความคืบหน้าของการระงับการเผยแพร่ของสื่อที่เข้าข่ายฝ่าฝืน พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ ตามที่ พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผบ.ตร ในฐานะหัวหน้าผู้รับผิดชอบแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉินที่มีความร้ายแรง มีคำสั่งตามพ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ ให้ดีอีเอส ดำเนินการตรวจสอบและระงับการเผยแพร่ของสื่อที่เข้าข่ายฝ่าฝืนพ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ นั้น ทางดีอีเอสได้ตรวจสอบ ประมวลโดยฝ่ายกฎหมาย เสนอศาลปิดแพลตฟอร์มออนไลน์ของสื่อ 4 องค์กร ได้แก่ วอยซ์ทีวี ประชาไท  The Reporters และ The Standard  วันนี้ (20 ต.ค. 63) ศาลมีคำสั่งปิดทุกแพลตฟอร์มออนไลน์ของวอยซ์ทีวี แล้ว ส่วนอีก 3 สื่อยังอยู่ในกระบวนการพิจารณา ส่วนกรณีแอปพลิเคชั่นเทเลแกรม (Telegram) จากการที่ศูนย์เฝ้าระวังฯ ของดีอีเอส ตรวจพบการใช้แอปดังกล่าวในการนัดหมาย เชิญชวนชุมนุม ซึ่งเข้าข่ายฝ่าฝืน ข้อกำหนดออกตามความใน มาตรา 9 ประกอบมาตรา 11 แห่งพระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ. 2548 จึงแจ้งเรื่องไปยัง พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ในฐานะหัวหน้าผู้รับผิดชอบในการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉินที่มีความร้ายแรง เพื่อรับทราบและพิจารณาข้อมูลดังกล่าว หลังจากนั้น ฐานะหัวหน้าผู้รับผิดชอบในการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉินฯ ได้มีคำสั่งที่ 11/2563 เรื่อง ระงับการทำให้แพร่หลายหรือลบข้อมูลคอมพิวเตอร์ออกจากระบบคอมพิวเตอร์ที่มีลักษณะ โดยให้สำนักงาน กสทช. และดีอีเอส ดำเนินการเพื่อให้ระงับการทำให้แพร่หลายหรือลบข้อมูลคอมพิวเตอร์นั้น ออกจากระบบคอมพิวเตอร์ (เทเลแกรม) นายภุชพงค์ กล่าวย้ำว่า การที่ กอร.ฉ. มีคำสั่งดังกล่าว ไม่ได้มุ่งเป้าไปที่การปิดระบบหรือการเข้าถึงแอปเทเลแกรมทั้งหมด ในส่วนผู้ใช้งานทั่วไป ยังคงสามารถใช้งานได้ปกติ แต่จะดำเนินการตามกฎหมายเฉพาะกลุ่มสนทนา หรือกลุ่มผู้ใช้งาน ที่ใข้แอปนี้เพื่อเชิญชวนหรือนัดหมายการชุมนุม ซึ่งเข้าข่ายฝ่าฝืน พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ “ขอเรียนว่ากระทรวงฯ ได้ดำเนินการตามหน้าที่อย่างเคร่งครัด ตามขั้นตอนตามกฎหมาย และมีการขอความเห็นชอบต่อศาลมาโดยตลอด ไม่มีการทำเกินอำนาจหน้าที่ หรือเลือกปฏิบัติ โดยเคารพสิทธิการเข้าถึงสื่อทุกประเภทของประชาชนโดยเสรี ภายใต้บทบัญญัติของกฎหมายอย่างเคร่งครัด” นายภุชพงค์กล่าว-สำนักข่าวไทย.

ไลน์บีเคบุกสินเชื่อไมโครเจาะฐานลูกค้ารายย่อยชูบริการสินเชื่ออนุมัติไว

กรุงเทพฯ 20 ต.ค. ไลน์บีเค บุกไมโครไฟแนนซ์ ชูให้สินเชื่ออนุมัติเร็วตั้งเป้าผู้ใช้ปีแรกหลักล้าน นายธนา โพธิกำจร ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท กสิกรไลน์ จำกัด กล่าวว่า LINE BK คือการเชื่อมโลกโซเชียลและโลกดิจิทัลแบงกิ้งเข้าด้วยกัน LINE BK เป็นการสร้างประสบการณ์การเงินออนไลน์ให้สะดวกและรวดเร็ว บนความปลอดภัยในมาตรฐานระดับเดียวกับธนาคารกสิกรไทย LINE BK เกิดจากความร่วมมือของธนาคารกสิกรไทย (ลงทุนผ่าน บริษัท กสิกรวิชั่น จำกัด หรือเควิชั่น) และไลน์(ลงทุนผ่าน บริษัท ไลน์ไฟแนนเชียลเอเชีย)  “ความพร้อมของคนไทยในการใช้บริการธนาคารผ่าช่องทางออนไลน์มีมากอยู่แล้ว ประชากร 69 ล้านคน เข้าถึงโมบายอินเทอร์เน็ต 50 ล้านคน ใช้งานโมบายแบงค์กิ้ง 93 ล้านราย เราจึงเอาความแข็งแรงทางโซเชียล ของไลน์ และการเป็นธนาคารที่มีผู้ใช้บริการทางออนไลน์ ที่มีมูลค่าธุรกรรมในครึ่งปีแรกของปีนี้ที่ 1.7 พันล้านบาทของ เคแบงค์”  นายธนา กล่าวอีกว่า LINE BK เป็นบริการเต็มรูปแบบผ่านบริการและผลิตภัณฑ์ทางการเงินดังนี้บริการบัญชีเงินฝากครอบคลุมบริการโอนถอนจ่ายทำทุกอย่างได้บน LINE ไม่ต้องสลับแอปพลิเคชันไม่ต้องจำเลขบัญชีทั้งการโอนเงินได้ในแชทพร้อมการแจ้งเตือนยอดเงินเข้า-ออกเช็คยอดได้เรียลไทม์และฟีเจอร์อื่น ๆ เช่นการส่งสลิปแบบพิเศษพร้อมลายคาแรคเตอร์จาก LINE ได้ทันที, บริการขอเรียกเก็บเงินและการหารค่าใช้จ่ายกับเพื่อนใน LINE รวมไปถึงการถอนเงินสดไม่ต้องใช้บัตรได้ที่ตู้เอทีเอ็มของธนาคารกสิกรไทยทั่วประเทศบริการบัญชีเงินออมดอกพิเศษบัญชีเงินฝากดอกเบี้ยพิเศษสูงสุดถึงร้อยละ 1.5 ต่อปีโดยมีบราวน์โคนีและแซลลีมาเป็นผู้ช่วยในการเก็บเงินทำให้การเก็บเงินเป็นประสบการณ์ใหม่ไม่ใช่เรื่องน่าเบื่ออีกต่อไปสามารถกำหนดระยะเวลาออมเงินได้เองทั้งแบบระยะสั้น 6 เดือนหรือระยะยาว 12 เดือนบริการบัตรเดบิต บัตรเดบิตวีซ่า LINE BK ให้เงินคืนร้อยละ 0.5 เมื่อซื้อของออนไลน์ 100 บาทขึ้นไปโดยมีบัตรให้เลือกถึง 3 ประเภทเหมาะกับทุกไลฟ์สไตล์ทั้งบัตรเดบิต (Debit Card) ที่มาพร้อมลายคาแรคเตอร์น่ารักสดใสจาก LINE ทั้งบราวน์โคนีและแซลลีบัตรเดบิตออนไลน์ (Online Debit Card) ที่สามารถสมัครและใช้งานได้ทันทีบนแอปพลิเคชัน LINE และบัตรเดบิตคู่วงเงินที่สามารถแจ้งเตือนอัตโนมัติเมื่อยอดเงินในบัญชีไม่เพียงพอพร้อมให้ดึงเงินจากวงเงินให้ยืมมาใช้จ่ายต่อได้ทันทีไม่มีสะดุดบริการวงเงินให้ยืม บริการสินเชื่อส่วนบุคคลแบบดิจิทัลผู้ใช้บริการสามารถขอวงเงินสินเชื่อได้ด้วยตัวเองทุกที่ทุกเวลาอนุมัติไวเบิกเงินเข้าบัญชีได้ทันทีโดยผู้มีรายได้ขั้นต่ำแค่ 7,000 บาท จะสามารถขอสินเชื่อได้ช่วยปลดล็อคข้อ จำกัด ให้กับผู้ที่ไม่มีรายได้ประจำและไม่มีสลิปเงินเดือนเช่นฟรีแลนซ์และผู้ที่ทำธุรกิจส่วนตัวขนาดเล็ก นายธนา กล่าวว่า อีกจุดเด่นของ LINE BK คือการตอบสนองความต้องการในการเข้าถึงแหล่งเงินกู้ยืมที่มากขึ้นการให้บริการวงเงินให้ยืมจะเป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่จะฉีกกรอบการกู้ยืมเงินในรูปแบบเดิม เมื่อเปรียบเทียบกับการกู้ยืมเงินแบบทั่วไป LINE BK จะมีขั้นตอนการประเมินความเสี่ยงของการอนุมัติสินเชื่อที่แตกต่างโดยใช้รูปแบบเฉพาะที่จะนำข้อมูลทางการเงินและโซเชียลมีเดียมาวิเคราะห์ร่วมกันทั้งนี้ LINE BK มีการปกป้องข้อมูลส่วนบุคคลในทุก ๆ ส่วนโดย LINE BK จะไม่สามารถเข้าถึงเนื้อหาของการสื่อสารของลูกค้าและจะไม่นำมาใช้เป็นส่วนหนึ่งของข้อมูลอย่างเด็ดขาดในด้านการรักษาความปลอดภัยให้กับลูกค้า LINE BK มีขั้นตอนการรักษาความปลอดภัยและความเป็นส่วนตัวของข้อมูลผู้ใช้อย่างเป็นระบบโดยมีการป้องกันและรักษาความปลอดภัยแบบหลายชั้นรวมถึงการเข้ารหัสความปลอดภัยของโครงสร้างระบบเครือข่ายและบริการ (Network and Application Encryption) และการปกป้องข้อมูลด้วยการเข้ารหัสฐานข้อมูลในรูปแบบเฉพาะ (Database Encryption) เพื่อให้ผู้ใช้บริการ LINE BK มั่นใจได้ว่าจะได้รับการดูแลด้วยมาตรการรักษาความปลอดภัยขั้นสูงสุด” LINE BK จะยังคงเดินหน้าพัฒนาบริการใหม่ ๆ เพื่อเติมเต็มไลฟ์สไตล์การเงินในชีวิตประจำวันที่สะดวกและปลอดภัยให้คนไทยเข้าถึงแหล่งเงินง่ายขึ้นและมีความเข้าใจในการเงินส่วนบุคคลมากขึ้นโดยตั้งเป้าหมายให้ LINE BK ขึ้นเป็น 1 ใน 5 บริษัท ชั้นนำด้านธุรกิจการให้บริการสินเชื่อภายในระยะเวลา 5 ปีพร้อมทั้งขยายบริการไปสู่บริการด้านการลงทุนและประกันในอนาคตอีกด้วย -สำนักข่าวไทย.

น้ำมูลแนวโน้มขึ้นสูง อุบลฯ เตือนริมฝั่งรับมือ

อุบลราชธานี 20 ต.ค.- อุบลฯ เตือนชุมชนริมฝั่งทั้ง 9 อำเภอ รวมทั้งเรือนแพ กลุ่มเลี้ยงปลาในกระชัง เตรียมรับมือแม่น้ำมูลมีแนวโน้มปรับตัวสูงขึ้นจากน้ำเหนือไหลมาสมทบในช่วง 1-2 วันนี้ นายวิรุจ วิชัยบุญ รองผู้ว่าราชการจังหวัดอุบลราชธานี มีหนังสือถึงหัวหน้าส่วนราชการทั้ง 9 อำเภอ ที่มีแม่น้ำมูลไหลผ่านตั้งแต่อำเภอเมือง อำเภอวารินชำราบ ถึงอำเภอโขงเจียมที่ไหลไปรวมกับแม่น้ำโขง เพื่อแจ้งเตือนประชาชนริมฝั่งและเกษตรกรเลี้ยงปลาในกระชัง รวมถึงเรือนแพอาหาร ขนสิ่งของขึ้นที่สูง เพราะแม่น้ำมูลมีแนวโน้มจะปรับตัวขึ้นใน 1-2 วันนี้ หลังจากสำนักงานชลประทานที่ 8 แจ้งว่าโครงการส่งน้ำและบำรุงรักษามูลล่างได้ปรับยกแขวนบานระบายน้ำเขื่อนราษีไศล จ.ศรีสะเกษ ทั้ง 7 บาน เพื่อลดระดับน้ำท่วมบริเวณหน้าเขื่อน และรองรับน้ำที่ไหลมาจากจังหวัดนครราชสีมา ทำให้มีน้ำไหลออกจากเขื่อนราษีไศลลงสู่แม่น้ำมูลตอนล่าง 704 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที หรือวันละกว่า 1 ล้านลูกบาศก์เมตร ส่งผลให้แม่น้ำมูลในเขตอำเภอราษีไศลวันนี้ ปรับตัวสูงขึ้น 1.75 เมตร และจะทำให้แม่น้ำมูลจังหวัดอุบลราชธานี จะปรับตัวสูงขึ้นจากมวลน้ำนี้ด้วย สำหรับแม่น้ำมูลที่สถานีวัดน้ำ M7 สะพานเสรีประชาธิปไตย เพิ่มขึ้นจากเมื่อวาน 6 เซนติเมตร ทำให้มีน้ำสูง […]

“พลายมะม่วง” ช้างป่าโผล่ย่านนิคมฯ โรจนะ ระยอง

เจ้าหน้าที่เฝ้าระวังและคอยต้อน “พลายมะม่วง” ช้างป่าไม่ให้เข้าใกล้ชุมชน ขณะเดินหาอาหารใกล้เขตนิคมฯ โรจนะ จ.ระยอง

ทีเอ็มเอ-ดีป้าชูธงดิจิทัลทรานส์ฟอร์มขับเคลื่อนเศรษฐกิจ

กรุงเทพฯ 20 ต.ค. ทีเอ็มเอ จับดีป้ายก “ดิจิทัล ทรานส์ฟอร์เมชัน” กลไกหลักขับเคลื่อนเศรษฐกิจดิจิทัลและสำรวจความพร้อมองค์กรไทย มอบรางวัล Thailand Digital Excellence Awards งานสัมมนาออนไลน์ “Digital Transformation Forum” และ “Thailand Digital Excellence Awards 2020” ที่มีตัวแทนจากหน่วยงานภาครัฐและเอกชนที่ขับเคลื่อนเทคโนโลยีท่านประธานพัฒนาประเทศเหมือนว่าแสดงความคิดเห็น นายณัฐพล นิมมานพัชรินทร์ ผู้อำนวยการ สำนักงานส่งเสริมเศรษฐกิจดิจิทัล หรือ ดีป้ากล่าวว่า ปัจจุบันอุตสาหกรรมดิจิทัลเติบโตขึ้นมากทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลง เศรษฐกิจไทยที่ดำเนินมาในโครงสร้างแบบเดิมได้ถูกDisrupt จากระบบดิจิทัล ส่งผลต่อห่วงโซ่อุปทาน ทำให้ผู้ผลิตเข้าถึงผู้บริโภคได้โดยไม่ผ่านคนกลาง การจะรับมือกับการเปลี่ยนแปลงนี้เราต้องพิจารณาสามเรื่อง คือ ต้องเร็ว  ต้องสร้างความแตกต่าง และใช้การบริหารต้นทุนเพื่อสร้างความสามารถในการแข่งขัน เพื่อไม่ให้โดน Disrupt ประเทศไทยจำเป็นต้องสร้างตัวเร่งภายในประเทศ วางโครงสร้างพื้นฐานระบบห่วงโซ่อุปทานให้เกิดขึ้นที่ประเทศไทย พัฒนาแพลตฟอร์มไทยเพื่ออุตสาหกรรมไทย นายปริญญ์ พานิชภักดิ์ ที่ปรึกษารองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ กล่าวว่า เทคโนโลยีทันสมัยได้ถาโถมเข้ามาอย่างไร้พรมแดน เช่น ปัญญาประดิษฐ์, IOT, Big Data และอื่น ๆ การเปลี่ยนผ่านเพื่อนำเทคโนโลยีทันสมัยเหล่านั้นมาใช้ เพื่อจะพัฒนาคุณภาพชีวิตและดำเนินธุรกิจให้ประสบความสำเร็จ ไม่ใช่เรื่องง่ายและต้องปรับกระบวนความคิด หรือ Mindset รวมทั้งปรับพฤติกรรมและวัฒนธรรมที่เคยชิน โดยอุปสรรคที่สำคัญต่อการเปลี่ยนถ่ายไปสู่เศรษฐกิจดิจิทัลขึ้นอยู่กับ 3 ปัจจัย คือ ก. กฎหมายที่บางทีเข้าใจยากซับซ้อนและบางทีอาจไม่เป็นธรรมต่อนักลงทุน ข. การแข่งขัน หากมีการแข่งขันที่ดีจะช่วยให้นวัตกรรมดี ๆ เกิดขึ้นได้ และ ค. ความคิด ควรเห็นวิกฤติเป็นโอกาส มองว่าการปรับสู่ดิจิทัลเป็นการลงทุนไม่ใช่ค่าใช้จ่าย นายอิษฎา หิรัญวิวัฒน์กุล Managing Director and Partner บริษัท บอสตัน คอนซัลติ้ง กรุ๊ป (ประเทศไทย) จำกัด(BCG) กล่าวว่า สามคำที่คนยังเข้าใจสับสน คือ   “Digitization เป็นการปรับการดำเนินงานจากที่เป็นระบบอนาล็อกสู่ระบบดิจิทัล แต่ยังนำไปประมวลผลไม่ได้ เช่น สแกนเอกสารเก็บในรูปแบบไฟล์พีดีเอฟ   Digitalization คือ การนำdigital และ เทคโนโลยีต่างๆ รวมถึงการวิเคราะห์ข้อมูล แล้วทำให้สามารถสร้างมูลค่าเพิ่มให้องค์กรได้ เช่น การนำข้อมูลต่างๆมาวิเคราะห์เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพกระบวนการผลิต   ส่วน Digital Transformation เป็นการนำระบบดิจิทัลเข้ามาตอบโจทย์กลยุทธทางธุรกิจ เพื่อให้ส่วนงานหลักและงานสนับสนุนขององค์กรเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ ช่วยสร้างระบบนิเวศน์ใหม่ โดยใช้เทคโนโลยีดิจิทัลผสานกับกระบวนการ แนวทางการทำงาน  รูปแบบขององค์กร  และวัฒนธรรมองค์กร ซึ่งจะนำไปสู่การสร้างโมเดลธุรกิจใหม่ขึ้นมา ผลลัพธ์ของการทำ digital transformation มีมากมายตั้งแต่การช่วยลดต้นทุน ทำให้นำสินค้าและบริการเข้าสู่ตลาดได้เร็วขึ้น ที่สำคัญคือจะช่วยเพิ่มพูนทั้งความพึงพอใจของลูกค้าและสร้างยอดขายให้องค์กรDAI หรือ Digital Acceleration Index เป็นตัวชี้วัดที่ทางBCGใช้เพื่อดูองค์กรนั้นๆว่าได้มีการทำ Digital Transformation ไปมากน้อยเพียงใด ตัวชี้วัดสามารถสรุปองค์กรออกมาได้เป็น 4 กลุ่มใหญ่ๆคือ Digital Starter, Digital Literate, Digital Performer และ Digital Leader. นางเอพริล ศรีวิกรม์ Country Manager, Google Cloud ประจำประเทศไทย ฟิลิปปินส์ และเวียดนาม กล่าวว่า พันธกิจหลักของกูเกิ้ล คือการทำให้ทุกคนสามารถเข้าถึงข้อมูลเพื่อนำไปใช้พัฒนาธุรกิจ หรือใช้ในชีวิตประจำวันได้ตลอดเวลา เทคโนโลยีต่าง ๆ เช่น AI และ Machine Learning ถือเป็นหัวใจหลักของเรา  ข้อมูล หรือ Data คือสกุลเงินใหม่ในโลกแห่งการเปลี่ยนแปลงทางดิจิทัล แต่หลายองค์กรยังไม่ได้ตระหนักถึงพลังที่แท้จริงของ Big Data หากองค์กรธุรกิจสามารถพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ของตนให้มีความคิดที่เน้นข้อมูลเป็นศูนย์กลาง (Data-Centric) พวกเขาจะสามารถผลักดันองค์กรให้ก้าวกระโดดไปได้ในทุกมิติของธุรกิจ นายวรวัจน์ สุวคนธ์ รองผู้จัดการใหญ่ ผู้บริหารสูงสุด กลุ่มงาน SCB Academy ธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด (มหาชน)กล่าวว่า ”เรื่องหนึ่งที่ธนาคารให้ความสำคัญและดำเนินการมาโดยตลอด คือเรื่องการเตรียมความพร้อมของบุคลากรโดยได้มีการจัดตั้ง SCB Academy เพื่อดำเนินงานในเรื่อง Digital Transformation โดยนำเทคโนโลยีมาทดแทนการทำงานของคนในระดับหนึ่ง เช่น ระบบออโตเมชั่นและโรบอติกส์ เพื่อให้มีความคล่องตัวในการทำงานมากขึ้นและทันกับสถานการณ์ที่เปลี่ยนแปลงไป โดยลดขั้นตอน เวลา และต้นทุนในการทำงานด้วยการนำเทคโนโลยีเข้ามาใช้ซึ่งค่อนข้างมีผลกระทบกับพนักงาน ดังนั้นเป้าหมายหนึ่งในการนำเทคโนโลยีเข้ามาใช้งานของธนาคารจึงเป็นการ Re-Skill พนักงานให้มีทักษะที่พัฒนาสูงขึ้นพร้อมกับการดำเนินงานของธนาคาร โดยยังต้อง Up-Skill ทักษะใหม่ ๆ เพิ่มขึ้นเพื่อให้พร้อมกับความเปลี่ยนแปลงของเทคโนโลยีที่จะเกิดขึ้นในอนาคต” การทำสำรวจ Digital Transformation สมาคมการจัดการธุรกิจแห่งประเทศไทย (TMA) และสำนักงานส่งเสริมเศรษฐกิจดิจิทัล หรือ “ดีป้า” ร่วมกับ บอสตันคอนซัลติ้ง กรุ๊ป (BCG) ได้ทำการสำรวจการเปลี่ยนแปลงองค์กรในประเทศไทยสู่การเป็นองค์กรดิจิทัล โดยใช้เครื่องมือ Digital Acceleration Index (DAI) ของ BCG ซึ่งครอบคลุม 4 เรื่องหลัก คือ แผนกลยุทธ์ธุรกิจที่ขับเคลื่อนโดยดิจิทัล  การใช้ดิจิทัลในการทำงานหลักขององค์กร เช่น ฝ่ายการตลาด ฝ่ายปฏิบัติการ การพัฒนาการใช้ดิจิทัลหรือการมีดิจิทัลใหม่ๆ ในองค์กร และการใช้ดิจิทัลที่ส่งผลให้เกิดการเปลี่ยนแปลงหรือการขับเคลื่อนองค์กร ทั้งนี้ เพื่อช่วยให้เข้าใจสภาพการณ์ของ digital transformation ในประเทศไทย และศึกษาปัจจัยต่าง ๆ ที่องค์กรควรให้ความสำคัญเพื่อสามารถเปลี่ยนผ่านสู่องค์กรดิจิทัลได้สำเร็จ มีองค์กรชั้นนำที่เข้าร่วมโครงการจำนวน 60 แห่ง จาก 7 อุตสาหกรรมซึ่งข้อมูลถูกนำมาเปรียบเทียบกับองค์กรระดับโลก 2,000 กว่าแห่งทั่วโลก ใน 36 มิติ โดยพบว่าองค์กรที่เปลี่ยนผ่านให้เป็นองค์กรดิจิทัลได้ มีมูลค่าองค์กรเป็น 2.4 เท่า เทียบกับองค์กรที่ไม่ได้สร้างความเปลี่ยนแปลงด้านนี้ จากผลการสำรวจ แม้องค์กรส่วนใหญ่ยังอยู่ในช่วงต้นของการทำ digital transformation  แต่ก็กำลังใกล้จะข้ามขั้นไปสู่วุฒิภาวะทางดิจิทัล โดยองค์กรเหล่านี้มีความมุ่งมั่นที่เป็นองค์กรชั้นนำในด้านนี้ในอีก 3 ปีข้างหน้า เพื่อให้สามารถเปลี่ยนผ่านสำเร็จและได้ประโยชน์เต็มที่จากการนี้ องค์กรไทยจำเป็นต้องลงทุนสร้างบุคลากรที่มีความรู้ความสามารถด้านดิจิทัล ทำดาต้าแพลทฟอร์ม นำออโตเมชั่นมาใช้ในกระบวนการทำงาน และสร้างระบบนิเวศน์ด้านดิจิทัลขึ้นมาในองค์กร ทั้งนี้ พบว่าในทุกอุตสาหกรรมที่สำรวจ มีตัวอย่างขององค์กรที่สามารถผลักดันตนเองขึ้นมาจนใกล้สู่ระดับdigital leadership ได้แล้วเช่นกัน หากมองตามอุตสาหกรรม สถาบันการเงินเป็นกลุ่มที่มีความก้าวหน้าในเรื่องนี้มากที่สุด ซึ่งผลที่ออกมาสอดคล้องกับทุกภูมิภาคของโลก ส่วนธุรกิจเฮลธ์แคร์ตามมาเป็นที่สอง สอดคล้องกับตลาดเอเชียซึ่งในกรณีนี้ต่างไปจากทางอเมริกาหรือยุโรป  พิจารณาจากสิ่งที่เกิดขึ้นในอุตสาหกรรมต่าง ๆ ที่เป็นแรงผลักดันประกอบกับความมุ่งมั่นขององค์กรในประเทศไทย เราคงจะได้เห็น Bionic Company นั่นคือองค์กรที่สามารถผสานการทำงานของดิจิทัลเข้ากับการทำงานของทรัพยากรมนุษย์ได้อย่างยอดเยี่ยมทั้ง 4 ด้านอย่างสมบูรณ์ในอนาคต-สำนักข่าวไทย.

น้ำผุดท่อ ท่วม รพ.อรัญประเทศ

สระแก้ว 19 ต.ค.- รพ.อรัญประเทศ เร่งวางกระสอบทรายป้องกันน้ำท่วมที่ผุดขึ้นตามท่อระบายน้ำ พร้อมสูบน้ำระบายออก “นพ.ราเชษฎ” ผอ.รพ.ระบุยังไม่กระทบกับการบริการทางการแพทย์ และรับมือได้ สถานการณ์น้ำท่วมในพื้นที่เขตเทศบาลเมืองอรัญประเทศ อ.อรัญประเทศ จ.สระแก้ว ล่าสุด (19 ต.ค.) ช่วงเวลา 20.00 น. เจ้าหน้าที่ทหารจิตอาสาและเจ้าหน้าที่โรงพยาบาลอรัญประเทศช่วยกันนำกระสอบทรายจำนวน 2 คันรถ วางแนวกั้นน้ำบริเวณด้านหลังโรงพยาบาล จำนวน 3 จุด เนื่องจากพื้นที่รอบนอกมีน้ำท่วมเป็นวงกว้างระดับน้ำเฉลี่ย 50-150 เซนติเมตร ส่งผลให้น้ำได้ผุดขึ้นตามท่อระบายน้ำของโรงพยาบาล ท่วมบริเวณทางเข้า-ออกด้านหลัง นพ.ราเชษฎ เชิงพนม ผู้อำนวยการโรงพยาบาลอรัญประเทศ กล่าวว่า แม้ระดับน้ำด้านนอกสูงกว่า แต่สถานการณ์ขณะนี้ยังไม่กระทบกับการให้บริการทางการแพทย์ และโรงพยาบาลรับมือได้ นอกจากได้วางกระสอบทรายกั้นน้ำแล้ว ยังตั้งเครื่องสูบน้ำหลายจุดรอบโรงพยาบาล เพื่อระบายน้ำออกอย่างต่อเนื่อง.-สำนักข่าวไทย

กสทช.แจงเพิ่งได้จดหมายดำเนินการเนื้อหาเพจผิดกฎหมายย้ำยึดกฎหมายเป็นหลัก

กรุงเทพฯ 19 ต.ค กสทช. แจงเพิ่งได้รับหนังสือจากกระทรวงดีอีเอส แจงหลักปฏิบัติการดำเนินการเกี่ยวกับเนื้อหาบนอินเทอร์เน็ตที่ผิด ชี้จะดำเนินการตาม กฎหมาย นายไตรรัตน์ วิริยะศิริกุล รักษาการแทนเลขาธิการคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (รักษาการแทน เลขาธิการ กสทช.) กล่าวว่า เมื่อช่วงเย็นของวันนี้ (19 ต.ค. 2563) สำนักงานกสทช. เพิ่งได้รับหนังสือจากกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (กระทรวง ดีอีเอส) เรื่อง ขอให้ดำเนินการระงับการกระทำให้แพร่หลายหรือลบข้อมูลคอมพิวเตอร์ สำนักงาน กสทช. ขอเรียนว่า หลักปฏิบัติโดยทั่วไปเกี่ยวกับการดำเนินการเกี่ยวเนื้อหาที่เผยแพร่บนอินเทอร์เน็ตว่า ตาม พ.ร.บ. ว่าด้วยการกระทำผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ. 2563 กระทรวงฯ เป็นผู้มีอำนาจในการชี้ว่าเนื้อหาใดที่ปรากฏอยู่บนอินเทอร์เน็ตผิดตาม พ.ร.บ. และจะประสานงานไปยังผู้ให้บริการอินเทอร์เน็ต (ISP) และผู้ให้บริการโครงข่าย (IIG) ในประเทศไทยให้ดำเนินการตามกฎหมาย และจะส่งเรื่องมาให้สำนักงาน กสทช. ช่วยกำชับไปยัง ISP และ IIG ให้ดำเนินการอย่างรวดเร็ว  สำหรับในกรณีนี้ หัวหน้าผู้รับผิดชอบในการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉินที่มีความผิดร้ายแรง ได้มีคำสั่งที่ 11/2563 เรื่องระงับการทำให้แพร่หลายหรือลบข้อมูลคอมพิวเตอร์ออกจากระบบคอมพิวเตอร์ที่มีลักษณะฝ่าฝืนข้อกำหนดออกตามความใน ม. 9 ประกอบ ม. 11 ตาม พ.ร.ก. การบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ. 2548 ให้สำนักงาน กสทช. และกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม ดำเนินการเพื่อระงับการทำให้แพร่หลายหรือลบข้อมูลคอมพิวเตอร์นั้นออกจากระบบคอมพิวเตอร์ ทางกระทรวงฯ จึงได้ขอความร่วมมือให้สำนักงาน กสทช. จะประสานไปยังผู้ให้บริการอินเทอร์เน็ตและผู้ให้บริการเครือข่ายมือถือทุกรายดำเนินการตามคำสั่งของหัวหน้าผู้รับผิดชอบในการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉินที่มีความผิดร้ายแรง ต่อไป-สำนักข่าวไทย.

บอร์ดดีอีเห็นชอบหลักการกฎหมายอวกาศ เตรียมชงเข้า ครม.

กรุงเทพฯ 19 ต.ค.- นายกฯ ไฟเขียวบอร์ดดีอีรับร่าง พ.ร.บ.กิจการอวกาศฯ รอเสนอเข้า ครม. พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการพัฒนาดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (บอร์ดดีอี) ครั้งที่ 4/2563 ณ ตึกภักดีบดินทร์ ทำเนียบรัฐบาล โดยได้พิจารณาให้ความเห็นชอบร่างพระราชบัญญัติกิจการอวกาศ พ.ศ. …. และเห็นชอบให้กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) โดยสำนักงานพัฒนาเทคโนโลยีอวกาศและภูมิสารสนเทศ (องค์การมหาชน) หรือจิสด้า ดำเนินการเพื่อเสนอคณะรัฐมนตรีพิจารณา และนำเสนอสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาโดยเร็วต่อไป พร้อมกันนี้ นายกรัฐมนตรีได้เน้นย้ำว่า ควบคู่ไปกับการผลักดันร่าง พ.ร.บ.ฉบับนี้ เพื่อให้สู่การพิจารณาของสภานิติบัญญัติโดยเร็ว เพื่อประโยชน์ของประเทศ อีกประเด็นสำคัญคือ ขอให้ทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องพิจารณารายละเอียดต่างๆ อย่างรอบคอบ เพื่อป้องกันปัญหาในอนาคต เพราะดาวเทียมใหม่ๆ ที่จะขึ้นสู่วงโคจรภายหลังมีการประกาศใช้กฎหมายฉบับนี้ ต้องไม่มีปัญหาอย่างที่เคยเกิดขึ้นกับสัญญาสัมปทานดาวเทียมก่อนหน้า พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะรองประธานบอร์ดดีอี กล่าวว่า ร่าง พ.ร.บ.กิจการอวกาศฯ ฉบับนี้มีความสำคัญ และจะสร้างประโยชน์ต่อการพัฒนาประเทศชาติ ตลอดจนช่วยส่งเสริมกิจการอวกาศทั้งภาครัฐและเอกชน ทั้งนี้ ประโยชน์ที่เกิดขึ้นจากร่างพระราชบัญญัติกิจการอวกาศ พ.ศ. …. ครอบคลุม 4 ด้าน ได้แก่ 1.ก่อให้เกิดนโยบายและแผนการบริหารจัดการด้านกิจการอวกาศอย่างเป็นรูปธรรม 2.เป็นการยกระดับกฎหมายเพื่อให้เกิดการกำกับ และส่งเสริมกิจการอวกาศทั้งภาครัฐและเอกชน 3.ทำให้มีกลไกสอดคล้องกับพันธกรณีของไทยภายใต้กฎหมายระหว่างประเทศด้านอวกาศ และ 4.มีกลไกการขับเคลื่อนนโยบายอวกาศ 2 รูปแบบ ได้แก่ (1) คณะกรรมการนโยบายอวกาศแห่งชาติ ทำหน้าที่กำหนดนโยบายกิจการอวกาศตามขอบเขตของพระราชบัญญัติ และ (2) สำนักงานกำกับกิจการอวกาศแห่งชาติ ทำหน้าที่ฝ่ายเลขานุการให้กับคณะกรรมการฯ และกำกับการดำเนินงานตามขอบเขตของนโยบาย ขณะที่นายกรัฐมนตรีกล่าวเพิ่มเติมว่า ช่วงที่ผ่านมารัฐบาลทำงานอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้ประเทศไทยและประชาชนทุกกลุ่มใช้ประโยชน์จากดิจิทัลได้อย่างสูงสุด มีการลงทุนวางโครงสร้างพื้นฐานดิจิทัล และจัดสร้างแพลตฟอร์มที่จะสนับสนุนเป้าหมายการมุ่งสู่รัฐบาลดิจิทัล เชื่อมโยงข้อมูลระหว่างหน่วยงานรัฐ รองรับการนำมาใช้ประโยชน์ในการจัดทำนโยบายเพื่อแก้ไขปัญหาในทุกมิติ ยกระดับคุณภาพชีวิตประชาชน ดังนั้น การบ้านต่อจากนี้ไปของหน่วยงานรัฐที่เกี่ยวข้อง ต้องรีบเร่ง “การสร้างความรับรู้” ความก้าวหน้าเหล่านี้ กระจายให้ประชาชนกลุ่มเป้าหมายรับทราบในวงกว้าง โดยเฉพาะกลุ่มที่ยังไม่ได้เข้าถึงการใช้ประโยชน์จากดิจิทัล เพื่อให้เข้ามาร่วมใช้ประโยชน์จากสิ่งที่รัฐจัดทำไว้ให้แล้ว “ผมขอฝากให้ช่วยกันในสถานการณ์ช่วงนี้ด้วยว่า อย่าให้ละเมิดกฎหมาย ถ้าละเมิดเรามีหน้าที่ต้องดำเนินการตามกฎหมาย แต่เราก็ให้ความสำคัญที่จะหลีกเลี่ยงการใช้กำลังโดยไม่จำเป็น เพราะมีกลุ่มเด็กถูกนำเข้ามาร่วมชุมนุมด้วย เราจึงต้องระมัดระวังให้ผู้ชุมนุมปลอดภัยด้วย ขอย้ำว่าเรามุ่งมั่นบริหารประเทศ เดินหน้าประเทศไปข้างหน้าท่ามกลางปัญหาต่างๆ ได้แก่ โควิด และภัยธรรมชาติที่เกิดขึ้นอยู่ตอนนี้ ที่ผ่านมาเราทำงานแก้ปัญหาทุกเรื่อง แต่มีคนเอาไปบิดเบือน” พลเอกประยุทธ์ กล่าว นายพุทธิพงษ์ ปุณณกันต์ รัฐมนตรีว่ากระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอีเอส) กล่าวว่า ได้รายงานต่อที่ประชุมถึงความคืบหน้าของการควบรวมกิจการ บมจ.ทีโอที และ บมจ.กสท โทรคมนาคม โดยตั้งเป้าหมายว่ากระบวนการควบรวมจะแล้วเสร็จสมบูรณ์เป็น บริษัท โทรคมนาคมแห่งชาติ (เอ็นที) ภายในเดือนกุมภาพันธ์ 2564 พร้อมรับข้อเสนอแนะของนายกรัฐมนตรี ที่จะให้ความสำคัญกับการสร้างความเชื่อมั่นให้กับบุคลากรของทั้งสององค์กรว่า การควบรวมดังกล่าวจะไม่ทำให้เสียประโยชน์ นอกจากนี้ ยังได้รายงานต่อที่ประชุมฯ เพื่อรับทราบการดำเนินงานที่สำคัญภายใต้นโยบายและแผนระดับชาติว่าด้วยการพัฒนาดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (พ.ศ.2561– 2580) ในด้านต่างๆ โดยหนึ่งในนั้นคือยุทธศาสตร์ที่ 5 การพัฒนากำลังคนดิจิทัล ที่จะสนับสนุนการขับเคลื่อนงานด้านอากาศยานไร้คนขับ หรือ UAV (Unmanned Aerial Vehicle) ในมิติต่างๆรวมถึงการส่งเสริมการใช้งานโดรน ที่ผ่านมา กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอีเอส) โดยสำนักงานส่งเสริมเศรษฐกิจดิจิทัล (ดีป้า) ได้ให้ทุนแก่เกษตรกร ในการประยุกต์ใช้อากาศยานไร้คนขับเพื่อการเกษตร โดยดำเนินการถ่ายทอดองค์ความรู้ และประยุกต์ใช้เทคโนโลยีอากาศยานไร้คนขับให้กับเกษตรกรในหลายพื้นที่ เพื่อนำไปสู่การพัฒนาบริการ เช่น บริการบินโดรนพ่นสารน้ำ และยาบำรุงพืช เป็นต้น ช่วยให้สามารถสร้างรายได้เพิ่มให้กับคนในชุมชนได้อีกช่องทางหนึ่ง รวมทั้งยังมีความร่วมมือกับสถาบันพัฒนาองค์กรชุมชน (องค์การมหาชน) กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) ส่งเสริมการใช้เทคโนโลยีดิจิทัลเพื่อการท่องเที่ยวและอนุรักษ์ทรัพยากรชายฝั่งทะเลเกาะลิบง “เนื่องจากโดรนเป็นอุปกรณ์ที่เข้าถึงพื้นที่ส่วนบุคคลได้โดยง่าย ในประเทศไทยจึงได้วางกฎและมาตรการในการใช้โดรน เพื่อไม่ให้กระทบสิทธิส่วนบุคคล และการรักษาความปลอดภัย” นายพุทธิพงษ์ กล่าว.-สำนักข่าวไทย

1 20 21 22 23 24 16,774
...