รมว. อว. ไม่ห้ามชุมนุม แต่ห้ามมีการละเมิดสถาบันพระมหากษัตริย์

อว. 14 ส.ค.63 – รมว. อว. หารืออธิการมหาวิทยาลัยทั่วประเทศ ย้ำให้นักศึกษาจัดกิจกรรมชุมนุม แสดงออกทางการเมืองภายในมหาวิทยาลัยได้ แต่ห้ามพาดพิงสถาบันพระมหากษัตริย์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัย และนวัตกรรม หรือ อว. ประชุมหารือแนวทางการทำงานร่วมกับอธิการบดีมหาวิทยาลัยในสังกัดทั่วประเทศ และคณะที่ประชุมอธิการบดีแห่งประเทศไทย หรือ ทปอ. ที่ สำนักปลัดกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัย และนวัตกรรม  ดร.เอนก เหล่าธรรมทัศน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัย และนวัตกรรม กล่าวว่า กรณีที่นักศึกษาสถาบันการศึกษาหลายแห่ง มีเจตจำนงค์ต้องการแสดงออกทางการเมือง ในส่วนที่กระทรวง อว. ได้กำชับให้มหาวิทยาลัยในสังกัดทุกแห่ง เปิดกว้างให้นักศึกษาสามารถแสดงพลัง แสดงออกหรือปราศรัยทางการเมืองได้ตามปกติ ตามความเหมาะสม ไม่มีการสั่งห้ามหรือปิดกั้นแต่อย่างใด เพียงแต่ต้องอยู่ในกรอบกติกาตามกฎหมายที่ให้ไว้สามารถแสดงความเห็นทางการเมือง ซึ่งหลายความเห็นเป็นแนวทางที่ดีที่รัฐบาลพร้อมรับฟังนำไปแก้ไขให้เกิดประโยชน์ได้ แต่ที่เน้นย้ำในการชุมนุมหรือเรียกร้องต่างๆ ห้ามก้าวล่วง จาบจ้วง ล่วงละเมิด ถึงสถาบันพระมหากษัตริย์เป็นเด็ดขาด เนื่องจากเป็นสถาบันหลักของประเทศ เป็นเสาหลักความมั่นคงของบ้านเมือง เป็นที่เคารพรักของประชาชนทั่วประเทศ อีกทั้งยังมีความผิดตามกฎหมายรัฐธรรมนูญอีกด้วย ซึ่งในสถานการณ์จริงในการชุมนุมอาจห้ามไม่ได้ทั้งหมด แต่คนที่ระบุถึงจะต้องรับผิดชอบตัวเอง ส่วนในการดูแลผู้ชุมนุมแต่ละสถาบันนั้น จะอนุญาตให้สิทธิเฉพาะนักศึกษา และบุคลากรของแต่ละสถาบันเข้าร่วมเท่านั้น ไม่สามารถให้บุคคลอื่นที่ไม่ใช่คนของสถาบันการศึกษาเข้าร่วมชุมนุม เพื่อความเป็นระเบียบ และปลอดภัยในการคัดกรองการเข้าสถานที่ อีกทั้งการจัดการชุมนุมจะต้องมีมาตรการความปลอดภัยด้านสุขภาพตามมาตรการศบค. ตรวจคัดกรองอุณหภูมิร่างกายก่อนเข้าพื้นที่ ตรวจอาวุธ และตรวจบัตรประจำตัวของนิสิตนักศึกษา และบุคลากรก่อนจึงจะได้รับอนุญาตเข้าชุมนุมทางการเมืองในแต่ละสถาบัน ยืนยันว่าจะไม่มีการทำให้การชุมนุมจบโดยเร็ว หรือสลายการชุมนุม จะเปิดโอกาสอย่างเต็มที่หากทั้งหมดอยู่ในกติกาที่กฎหมายให้ไว้ ซึ่งนายกรัฐมนตรี ได้กำชับง่าให้มองนักศึกษาเป็นลูกหลาน เป็นพลังสำคัญในการพัฒนาประเทศ ในข้อเรียกร้องต่าง ๆ สามารถแลกแปลี่ยนความเห็นกันได้ ในสิ่งที่สามารถทำได้ หรือเกิดประโยชน์ รัฐบาลก็พร้อมจะผลักดันสานต่อ .-สำนักข่าวไทย

นายกฯเดินเครื่อง 5G วางแนวทางใช้ประโยชน์ขับเคลื่อนทุกภาคส่วน

กรุงเทพฯ 14 ส.ค.  ประชุมกก.5G นัดแรกนายกนั่งหัวโต๊ะ เคาะแผนใช้ประโยชน์ใช้ 5G หนุนเศรษฐกิจ การประชุมดประชุมคณะกรรมการขับเคลื่อน 5G แห่งชาติ โดยมีพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เป็นประธานการประชุม ครั้งที่ 1/2563  ที่ประชุมได้กำหนดกำหนดเป้าหมายและแนวทางการขับเคลื่อนต่อยอด 5G ของประเทศไทยในทุกภาคส่วนให้ชัดเจนมากยิ่งขึ้น โดยมีมติเห็นชอบ (ร่าง) แผนปฏิบัติการว่าด้วยการส่งเสริมการใช้ประโยชน์ 5G ของประเทศไทยระยะที่ 1 , โครงการนำร่องการใช้ประโยชน์ 5G ของประเทศไทยในระยะสั้น ในการส่งเสริมเกษตรดิจิทัลและการส่งเสริมโรงพยาบาลอัจฉริยะด้วยเทคโนโลยี 5Gและเห็นชอบ มาตรการส่งเสริมและเพิ่มประสิทธิภาพการประยุกต์ใช้เทคโนโลยี 5G ในภาคอุตสาหกรรม ภายหลังการประชุม นายพุทธิพงษ์ ปุณณกันต์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอีเอส) กล่าวว่า การประชุมในครั้งนี้ เป็นครั้งแรกของประเทศไทยที่ได้กำหนดแนวทางการส่งเสริมการใช้ประโยชน์ 5G อย่างเป็นรูปธรรม ผ่าน (ร่าง) แผนปฏิบัติการว่าด้วยการส่งเสริมการใช้ประโยชน์ 5G ของประเทศไทย ระยะที่ 1 เพื่อมุ่งสู่การปฏิบัติ ทั้งในด้านของโครงสร้างพื้นฐาน ด้านเศรษฐกิจ ด้านสังคม และด้านการพัฒนาระบบนิเวศของ 5G เพื่อให้ประเทศไทยสามารถใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยี 5G เพื่อขับเคลื่อนเศรษฐกิจและสังคมของประเทศไทยได้อย่างทั่วถึง เท่าเทียม และเต็มประสิทธิภาพ  นอกจากนี้ กระทรวงดีอีเอสจะดำเนินการส่งเสริมเศรษฐกิจด้วยการนำร่องเกษตรดิจิทัลด้วยเทคโนโลยี 5G ณ พื้นที่โครงการพัฒนาดอยตุง (พื้นที่ทรงงาน) อันเนื่องมาจากพระราชดำริ ศูนย์ฝึกอบรมผาหมี โดยเป็นความร่วมมือกับมูลนิธิแม่ฟ้าหลวง ในพระบรมราชูปถัมภ์ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง อย่างไรก็ตาม นายกฯได้เน้นย้ำให้ดำเนินโครงการพร้อมกันทั้งประเทศ โดยเฉพาะเรื่องการเกษตรให้ทำในภาคอื่นพร้อมกันด้วย ภาคใต้สนับสนุนเรื่องยาง ปาล์ม ภาคอีสาน เรื่อง เกษตรแปลงใหม่ และข้าว ภาคกลาง เรื่องสวนผลไม้ เป็นต้น เพื่อให้เทคโนโลยี5G ขับเคลื่อนไปพร้อมกัน ไม่ให้เกิดความล่าช้า การพัฒนา5G ต้องทั่วถึงและเท่าเทียมทั้งประเทศ  นายพุทธิพงษ์ กล่าวว่า ที่ประชุมได้ตั้งคณะทำงานเพื่อกำหนดมาตรการส่งเสริมการลงทุน สำหรับกระตุ้นนักลงทุนทั้งในประเทศและต่างประเทศหันมาลงทุนในไทยแทนประเทศสิงคโปร์ โจทย์คือ จะทำอย่างไรในการดึงนักลงทุนที่สิงคโปร์กลับมาประเทศไทย สำหรับคณะทำงานดังกล่าว ประกอบด้วย กระทรวงดีอีเอส , กระทรวงการคลัง,สำนักงานคณะกรรมการกิจการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และ กิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.),สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (บีโอไอ) ,สภาหอการค้าแห่งประเทศไทย, สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย,สภาดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคมแห่งประเทศไทย นอกจากนี้ยังได้มอบหมายให้แต่ละกระทรวง เช่น กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ,กระทรวงคมนาคม,กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา(ททท.) รวมถึงสภาต่างไปที่เป็นตัวแทนภาคเอกชน ไปสรุปความต้องการการใช้งาน5G ว่ามีอะไรบ้าง เพื่อให้ขับเคลื่อนถูกวัตถุประสงค์ที่ต้องการ  จากนี้ไปกระทรวงดีอีเอสจะเร่งหาข้อสรุปก่อนมีการนัดประชุมใหญ่  ด้านนางวรรณพร เทพหัสดิน ณ อยุธยา เลขาธิการคณะกรรมการดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สดช.) ในฐานะฝ่ายเลขานุการของคณะกรรมการขับเคลื่อน 5G แห่งชาติ กล่าวเสริมว่า ในขณะนี้โอเปอร์เรเตอร์ต่าง ๆ ได้เริ่มดำเนินการติดตั้งโครงข่าย 5G แล้วในหลายพื้นที่ ซึ่งในระยะแรก จะเร่งดำเนินการในพื้นที่เป้าหมาย เช่น พื้นที่ในเขตส่งเสริมเศรษฐกิจพิเศษพื้นที่เมืองศูนย์กลางทางเศรษฐกิจ และรวมถึงพื้นที่นำร่องการใช้ประโยชน์ของเทคโนโลยี 5G และคาดว่าจะขยายไปสู่ประชาชนทั่วประเทศภายในปี 2570 โดยในส่วนของโครงการนำร่องการใช้ประโยชน์ 5G นั้น สดช. ร่วมกับ สำนักงาน กสทช. ได้คัดเลือกพื้นที่นำร่องที่เหมาะสม โดยคาดหวังว่าจะสามารถช่วยเหลือประชาชนได้ในวงกว้าง เกิดการถ่ายทอดองค์ความรู้ในพื้นที่ ลดปัญหาความยากจน สร้างความเท่าเทียม เพิ่มรายได้ และสร้างอาชีพอย่างยั่งยืน นอกจากนี้ การนำร่องโครงการเกษตรดิจิทัลด้วยเทคโนโลยี 5G จะเป็นการทดสอบทดลองการใช้คลื่น 5G และประโยชน์ที่จะได้รับว่าเป็นไปตามความคาดหวังหรือไม่ ทั้งนี้ คณะกรรมการขับเคลื่อน 5G แห่งชาติ นั้น จะเป็นกลไกสำคัญในการขับเคลื่อนเทคโนโลยี 5G ของประเทศไทยในทุกภาคส่วน และพร้อมเดินหน้าเพื่อผลักดันการพัฒนาเทคโนโลยี 5G ให้บรรลุตามทิศทางการพัฒนาที่ได้กำหนดไว้ต่อไป-สำนักข่าวไทย.

แอดไวซ์ชะลอเข้าตลท.ชี้โควิด-19ยังดันตลาดค้าไอทีออนไลน์โต

กรุงเทพฯ 14 ส.ค. แอดไวซ์ชี้โควิด-19 ดันตลาดค้าไอทีออนไลน์โต ประกาศรักษาตลาดออนไลน์ พร้อมเจาะตลาดองค์กรเพิ่ม ย้ำเข้าตลท.ทำธุรกิจแนวกว้างเตรียมลงทุนเพิ่มรับการเติบโต นายจักรกฤช  วัชระศักดิ์ศิลป์ รองประธานเจ้าหน้าที่บริหารสายงานผลิตภัณฑ์ การขายและการตลาด บริษัท แอดไวซ์ ไอที อินฟินิท จำกัด กล่าวว่า สถานการณ์โควิด-19 ทำให้พฤติกรรมผู้บริโภคเปลี่ยนแม้ว่าร้านแอดไวท์กว่าร้อยละ90 ไม่ได้อยู่บนห้างสรรพสินค้าทำให้เปิดขายได้ตามปกติยอดขายทั้งออฟไลน์และออนไลน์ยังคงเติบโตต่อเนื่อง การทำงานที่บ้านทำให้ตลาดออนไลน์เติบโตมากขึ้นกว่าที่คาดการณ์ไว้ สำหรับสถานการณ์ตลาดไอทีในช่วงครึ่งปีหลังยังเป็นเรื่องที่ตอบยาก บริษัทวิจัยบางแห่งมองว่าตลาดไอทีจะโตลดลง ส่วนตัวมาอว่าคงต้องรอดูไตรมาสสามจะเห็นภาพที่ชัดเจต เมื่อเกิดผลกระทบจากโควิด-19 หลายองค์กรให้พนักงานทำงานที่บ้าน นักเรียนต้องเรียนที่บ้าน ทำให้ความต้องการอุปกรณ์ไอทีเพิ่มสูงขึ้น อย่างไรก็ดีเมื่อสถานการณ์อยู่ในการควบคุมทำให้ความต้องการชะลอตัวลง ดังนั้นในภาพรวมของตลาดทั้งปีจึงต้องรอดูว่าสุดท้ายแล้วตลาดไอทีจะเป็นอย่างไร   นายจักรกฤช กล่าวอีกว่า สำหรับแผนการเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย นายจักรกฤช กล่าวว่า การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ทำให้ผู้ตรวจสอบบัญชีและบริษัทที่ปรึกษาจากต่างประเทศไม่สามารถเดินทางมาตรวจสอบบัญชีและดำเนินการเตรียมตัวเข้าจดทะเบียนได้จึงทำให้ต้องชะลอแผนการเข้าจดทะเบียนในตลท.ออกไปจากแผนเดิมจะเข้าจดทะเบียนในเดือนพฤศจิกายน 2563 เป็นประมาณไตรมาสที่สองของปี 2564 แอดไวซ์ขอย้ำว่าต้องการเข้าระดมทุนในตลท.เพื่อทำธุรกิจในแนวกว้าง โดยแอดไวซ์มีแผนที่จะลงทุนเพิ่มอยู่แล้วแต่ยังไม่สามารถเปิดเผยได้ในเวลานี้ สิ่งที่แอดไวซ์มองคือการเป็นมาร์เก็ตเพลสสำหรับธุรกิจเอสเอ็มอีซึ่งการจะดำเนินการให้เป็นไปตามเป้าหมายคงต้องมีการลงทุนเพิ่มอีกจำนวนมากเพื่อใหแข่งขันกันมาร์เก็ตเพลสรายใหญ๋จากต่างประเทศ โดยการลงทุนจะทำในแนวกว้างรวมถึงการลงทุนเพื่อขยายจุดให้บริการหลังการขายเพื่อรองรับการเติบโตในอนาคตด้วย  “แอดไวซ์ได้วางยุทธศาสตร์และเป้าหมายในปี 2020 ที่โฟกัสธุรกิจออนไลน์อยู่แล้ว จะเห็นได้ว่าจุดเริ่มต้นออนไลน์ของแอดไวซ์ในช่วง 2 ปีแรกที่ผ่านมาจะออนอยู่ในเว็บไซต์ของแอดไวซ์เป็นหลักไม่ได้ไปทำใน อี-มาร์เก็ตเพลสที่ใด เนื่องจากเรามีเฟรนไชส์ในต่างจังหวัดด้วย ซึ่งแอดไวซ์ต้องวางกลยุทธ์ที่จะผลักดันฐานตลาดกลุ่มนี้ให้เติบโตควบคู่กันไปด้วย จากสถานการณ์การเปลี่ยนแปลงและพฤติกรรมของผู้บริโภคทำให้แอดไวซ์ต้องกำหนดตำแหน่งของกลุ่มลูกค้าให้ชัดเจน โจทย์สำคัญที่ทีมแอดไวซ์มีการวางยุทธศาสตร์โดยได้ร่วมกับมาเก็ตเพลส คือ Shopee, Lazada, SCG และ JD Central เป็นที่เรียบร้อยแล้ว  อีกทั้งยังมองว่าในช่วงวิกฤตดังกล่าวทำให้พฤติกรรมผู้บริโภคเปลี่ยนแปลงไป  นอกจากนี้สิ่งที่จะทำเพิ่มคือการไปทำตลาดองค์กรธุรกิจ โดยเริ่มสร้างทีมและพัฒนาหน้าเว็บเพื่อรองรับการเติบโตในตลาดองค์กรธุรกิจ โดยแอดไวซ์จะเน้นโซลูชั่นในตลาดการศึกษา โรงเเรียน มหาวิทยาลัย ฯลฯ  […]

สมาคมทีวีดิจิตอลจี้กสทช.ออกประกาศเรียงช่อง ขู่ทำหนังสือร้องนายกฯ

กรุงเทพฯ 14 ส.ค.  สมาคมทีวีดิจิตอล จี้ กสทช.เร่งออกประกาศเรียงช่องชี้หาก ศาลปกครองสูงสุดเห็นตามศาลปกครองกลางอุตสาหกรรมทีสีจะเสียหายหนัก  นายสุภาพ คลี่ขจาย นายกสมาคมโทรทัศน์ระบบดิจิตอล (ประเทศไทย) แถลงจุดยืนของอุตสาหกรรมหลังจากประเมินผลการประชุมย่อย (Focus group) ร่วมกับโครงข่ายทีวีดาวเทียมเคเบิลทีวีซึ่งกสทช. จัดขึ้นเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมาว่า กสทช. เสนอยกช่อง 1-10 ให้ทีวีดาวเทียมและเคเบิลทีวีจัดเรียงช่องเองอิสระทีวีดิจิตอลอยู่หมายเลข 11-36 ตามเดิม แต่ยังไม่มีข้อยุติเนื่องจากต่างฝ่ายต่างอ้างความเสียหายของตนบวกกับท่าทีของกสทช. ที่ยังไม่สามารถหาแนวทางการแก้ปัญหาได้ตามกรอบเวลาที่รับปากไว้จึงต้องประกาศจุดยืนและแนวทางการต่อสู้ในฐานะเป็นฝ่ายที่ได้รับผลกระทบจากปัญหานี้ทั้งหมด 4 ข้อ คือจุดยืนสำคัญข้อแรกในการต่อสู้ของทีวีดิจิตอลคือการเป็นสื่อหลักเพื่อประโยชน์สาธารณะเป็นหัวใจสำคัญในการสะท้อนบริบทของสังคมวัฒนธรรมเศรษฐกิจและเป็นหนึ่งในหัวใจสำคัญของการปฏิรูปสื่อตามนโยบายของรัฐที่มีบทบาทสำคัญต่อความมั่นคงของชาติเมื่อการเปลี่ยนผ่านของทีวีภาคพื้นดินไม่เป็นไปตามแผนงานการคงไว้ซึ่งประกาศ“ must carry” ปี 2555 และประกาศ “เรียงช่อง” ปี 2558 ให้โครงข่ายการรับชมอื่น ทั้งทีวีดาวเทียมและเคเบิลทีวีน้าช่องรายการของทีวีดิจิตอลไปออกอากาศตรงตามหมายเลขการประมูลถือเป็นความจำเป็นอย่างยิ่งในการชดเชย” และ“ ทดแทน” โครงข่ายภาคพื้นดินเพื่อไม่ให้เกิดความโกลาหลที่คนดูหาช่องไม่เจอซ้ำรอยในอดีตที่นับเป็นความเสียหายต่ออุตสาหกรรมเป็นอย่างมาก “ในการรับฟังความคิดเห็นสมาคมฯได้แสดงความคิดเห็นไปและถามพันเอกนที สุกลรัตน์ กรรมการ กสทช.ประธานในที่ประชุมครั้งนั้น ว่าจะออกประกาศฯ เมื่อใด ท่านแจ้งส่าประมาณหนึ่งสัปดาห์ ต่อมาบอร์ดกสทช.ฝั่งกิจการโทรทัศน์ได้ประชุมแต่องค์ประชุมไม่ครบ เนื่องจากบอร์ดบางส่วนเห็นว่าไม่ใช่เรื่องเร่งด่วน จึงไม่สามารถออกประกาศได้ เราคิดว่าคนที่เข้าใจสถานการณ์ของผู้ประกอบการดีที่สุด น่าจะเข้าใจอุตสาหกรรม แต่กลับเห็นว่าไม่ใช่เรื่องเร่งด่วน ถ้าศาลปกครองสูงสุดมีความเห็นตรงกับศาลปกครองกลางอุตสาหกรรมจะได้รับผลกระทบ เราเห็นว่าสิ่งที่เกิดขึ้นไม่ยุติธรรมกับผู้ประกอบการเมื่อต้องประมูลทีวีดิจิทัลด้วยมูลค่ารวมกันกว่า 50,000 ล้านบาท ปัจจุบันประชาชนดูทีวีดิจิทัลผอนกล่องรับสัญญาณเพียงร้อยละ20 นอกนั้นเป็นอุปกรณ์อื่น ขอเรียกร้องให้ กรรมการกสทช. ต้องเร่งประชุมเพื่อออกประกาศเรียงช่อง เรารู้ว่าการออกประกาศไม่ใช่เรื่องง่ายแต่ขอให้แสดงจุดยืนที่ชัดเจนว่ายืนอยู่เคียงข้างผูประกอบการ โดยกสทช. จะออกประกาศก่อนศาลปกครองฯมีคำวินิจฉัยหรือมีคำวินิจฉัยแล้วก็ได้ ถ้าถึงที่สุดเราอาจจะต้องฟ้องกสทช.ถ้าสิ่งที่กำลังทำเกิดความเสียหายกับอุตสาหกรรมถ้าจำเป็นต้องทำเราอาจจะต้องทำหนังสือถึงนายกรัฐมนตรี เพราะเราถือเป็นเรื่องวิกฤตของทีวีดิจิทัล  “ นายสุภาพกล่าว  นายสุภาพกล่าวว่า ความก้าวหน้าของเทคโนโลยีระบบดิจิตอลทำให้ไม่มีผู้เสียหายจากการเรียงช่องมี แต่ผู้แสวงประโยชน์จากการยกเลิก“ ประกาศเรียงช่อง” เนื่องจากปัจจุบันการใช้คลื่นความถี่ในโครงข่ายของ“ ทีวีดาวเทียม” และ“ เคเบิลทีวี” เป็นไปอย่างไม่ จำกัด และสามารถจัดรูปแบบการเรียงช่องเป็นหมวดหมู่เพื่อบริการผู้ชมที่เป็นสมาชิกตามความต้องการของผู้ประกอบการแต่ละรายซึ่งผู้ประกอบการโครงข่ายก็ยืนยันเองว่าปัจจุบันไม่มีปัญหาเรื่องการจัดลำดับและหมวดหมู่หมายเลขช่องกับสมาชิกตามความต้องการแต่ละพื้นที่แล้ว ทีวีดิจิตอลเป็นสื่อหลักของชาติการเรียงช่อง” ตามลำดับหมายเลขการประมูลให้ตรงกันทั้งประเทศในทุกโครงข่ายทุกช่องทางการรับชมเป็นความสำคัญอย่างยิ่งต่ออุตสาหกรรมเพราะเป็นเงื่อนไขหลักที่ผู้ประกอบการทุ่มเงินประมูลเพื่อสิทธิ์ในการเลือกหมายเลขช่องเพื่อง่ายต่อการเข้าถึงของผู้ชมและต้องใช้เม็ดเงินมหาศาลในการทำการตลาดเพื่อสื่อสารกับผู้ชมจนเกิดการจดจำซึ่งหากมีการเปลี่ยนแปลงย่อมเกิดความสับสนต่อผู้ชมจนหาช่องไม่เจอเกิดความเสียหายต่อการอุตสาหกรรมทั้งระบบอย่างประเมินค่าไม่ได้ จากกรณีพิพาทนี้หากมีการเปลี่ยนแปลงประกาศเรียงช่อง” ปี 2558 ไม่ว่ารูปแบบใดย่อมเกิดความเสียหายต่ออุตสาหกรรมทีวีดิจิตอลอย่างมากมายมหาศาลช่องที่ออกอากาศในหมายเลข 1-10 ในโครงข่ายทีวีดาวเทียมและเคเบิลทีวีตามข้อเสนอของกสทช. ย่อมเป็นคู่แข่งขันทางธุรกิจต่อทีวีดิจิตอล แต่มีต้นทุนต่ำกว่ามากไม่ต้องแบกภาระต้นทุนค่าใบอนุญาตส่งผลถึงคุณภาพการผลิตของทีวีดิจิตอลในอนาคตกระทบต่อความนิยมและเกิดการตัดราคาค่าโฆษณาหรือหากศาลยืนคำพิพากษาตามศาลชั้นต้นจะก่อให้เกิดสุญญากาศสำหรับผู้ประกอบการทีวีดิจิตอลทันทีลำดับช่องรายการไม่เป็นไปตามเดิมผู้ชมสับสนหาช่องเดิมไม่เจอเป็นโอกาสของเทคโนโลยีการรับชมใหม่ทางออนไลน์อย่าง OTT ที่เติบโตมาพร้อมเทคโนโลยี 5G จะเกิดความเสียหายมหาศาลเกินกว่าจะเยียวยาได้และอาจถึงจุดล่มสลายของทีวีดิจิตอลสื่อหลักของชาติ นายกสมาคมทีวีดิจิตอล กล่าวอีกว่า ประกาศเรียงช่องปี 2558” คือหัวใจสำคัญในการประมูลใบอนุญาตประกอบกิจการทีวีดิจิตอลและเป็นหัวใจในการเข้าถึงสื่อสาธารณะของผู้ชมทีวีหากต้องมีการเปลี่ยนแปลงประกาศเรียงซ่องปี 2558 ย่อมเกิดความเสียหายมหาศาลต่ออุตสาหกรรมซึ่งจะเป็นเหตุให้ผู้ประกอบการทีวีดิจิตอลยื่นฟ้องกสทช. ต่อศาลปกครองอีกครั้งอย่างแน่นอน นายเขมทัตต์ พลเดช กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท อสมท จำกัด (มหาชน) ในฐานะนายกสมาพันธ์สมาคมวิชาชีพวิทยุกระจายเสียงและวิทยุโทรทัศน์กล่าวว่า ฟรีทีวีเป็นบริการสาธารณะ ประชาชนเมื่อต้องการรับข้อมูลข่าวสารจะได้รับข้อมูลจากผู้ประกอบการทีวีดิจิทัล ถ้ามีการปรับเปลี่ยนหมายเลขช่องจะกระทบกับการรับข้อมูลข่าวสารจากรัฐบาล เมื่อประชาชนสับสนลูกค้าสับสน ประชาชนดูทีวีไม่ได้จะกระทบกับเม็ดเงินโฆษณาในอุตสาหกรรมทีวีดิจิทัลทั้งหมด-สำนักข่าวไทย.

เอนก เหล่าธรรมทัศน์ เข้ากระทรวง อว. วันแรก

อว. 13 ส.ค. 63 – ดร.เอนก เหล่าธรรมทัศน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวง อว. เข้ากระทรวงเป็นวันแรก พร้อมชูวิทยาศาสตร์ วิจัย และนวัตกรรม เป็นเครือ่งมือขับเคลื่อนสังคมและประเทศ ส่วนม๊อบนักศึกษาไม่กังวล พร้อมรับฟังทุกความเห็น ดร.เอนก เหล่าธรรมทัศน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัย และนวัตกรรม หรือ อว. พร้อมคณะทำงาน และผู้บริหารระดับสูงกระทรวง อว. เข้าสักการะพระบรมรูปรัชกาลที่ 4 และสิ่งเคารพบูชาประจำกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัย และนวัตกรรม จากนั้นได้เดินทางเข้าห้องทำงานชั้นที่ 4 ตามเวลา 15.00น. พร้อมถ่ายรูปร่วมกับทีมงานฝ่ายการเมือง และผู้บริหารข้าราชการกระทรวง อว. ดร.เอนก เหล่าธรรมทัศน์ รัฐมนตรีกระทรวง อว. กล่าวว่า กระทรวง อว. มีศักยภาพสูงที่สามารถยกระดับสังคม ประเทศ และคุณภาพชีวิตของประชาชนได้ทุกระดับ ซึ่งเป้าหมายจะทำอย่างไรให้กระทรวงเป็นพลังของประเทศ ทั้งด้านการศึกษา วิจัย การพัฒนานวัตกรรม ที่ตอบโจทย์ในการพัฒนามิติต่าง […]

ท่าฯอู่ตะเภาจับมือเอไอเอส พัฒนาสมาร์ทแอร์ พอร์ตด้วย 5G

อู่ตะเภา 13 ส.ค. การท่าอากาศยานอู่ตะเภา จะบมือเอไอเอส วางโครงสร้างพื้นฐานระบบสื่อสาร 5G – WiFi6 เล็งยกระดับสู่เป็นสมาร์ทแอร์พอร์ต  พลเรือโทกฤชพล เรียงเล็กจำนงค์ ผู้อำนวยการการท่าอากาศยานอู่ตะเภา กล่าวว่า โครงการพัฒนาสนามบินอู่ตะเภาและเมืองการบินภาคตะวันออกถือเป็นหนึ่งในโครงสร้างพื้นฐานหลักสำคัญของ EEC ที่รัฐบาลให้ความสำคัญและสนับสนุนให้มีการลงทุนในด้านต่างๆที่ครอบคลุมทุกมิติทั้งการให้บริการสนามบินเชิงพาณิชย์การพัฒนาอุตสาหกรรมต่อเนื่องด้านธุรกิจและอุตสาหกรรมการบินโดยมีวัตถุประสงค์เพื่อยกระดับสนามบินอู่ตะเภาเป็นสนามบินนานาชาติเชิงพาณิชย์หลักแห่งที่ 3 ของกรุงเทพมหานครทั้งนี้ตั้งแต่ปี 2561 การท่าอากาศยานอู่ตะเภาฯ จึงได้ร่วมมือกับ บริษัท แอดวานซ์ไวร์เลสเน็ทเวอร์คจำกัด บริษัท ในเครือของเอไอเอสนำเทคโนโลยีดิจิทัลเข้ามายกระดับการให้บริการและการบริหารอาคารผู้โดยสารหลังที่ 2 ให้มีความทันสมัยอาทิการพัฒนาแอปพลิเคชันสำหรับผู้โดยสารและระบบวิเคราะห์ภาพวิดีโอหรือ Video Analytics รวมทั้งพัฒนาระบบคอมพิวเตอร์และระบบสื่อสารต่างๆเพื่อขยายขีดความสามารถในการให้บริการภายในท่าอากาศยานแห่งนี้กระทั่งนำมาสู่การขยายความร่วมมือในครั้งนี้ที่นำเอา 5G Digital Infrastructure เข้ามาสนับสนุนการบริหารจัดการภายในสนามบินเพื่ออำนวยความสะดวกและมอบประสบการณ์ที่เป็นเลิศให้แก่ผู้ใช้บริการท่าอากาศยานรวมถึงเพิ่มขีดความสามารถด้านการรักษาความปลอดภัยและประสิทธิภาพการบริหารอาคารโดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงของการฟื้นฟูประเทศจากสถานการณ์โควิด -19 ซึ่งเชื่อว่าจะช่วยตอบสนองความต้องการของผู้โดยสารเชื่อมโยงและสนับสนุนการเดินทางการขนส่งทางอากาศเพื่อยกระดับสู่อาคารผู้โดยสารอัจฉริยะ ด้านนายสมชัย เลิศสุทธิวงค์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารเอไอเอส กล่าวว่า ความร่วมมือมีระยะเวลา 3 ปี โดยเริ่มจากการศึกษาร่วมกันและทำการพัฒนานำเทคโนโลยีมาใช้จริงโดยจะพิจารณาจากความเหมาะสม เราเชื่อว่าเมื่อสถานการณ์ปกติจะรองรับนักท่องเที่ยว นักลงทุน ที่เข้ามาในสนามบิน โดยหากมีการขยายเทอมินัลเพิ่มก็จะขยายความร่วมมือต่อไป โดยบริการดิจิทัลที่เอไอเอสนำเข้าไปเสริมศักยภาพให้ท่าอากาศยานนานาชาติอู่ตะเภาระยอง-พัทยาแล้วประกอบด้วย ระบบ Smart Video Analytics Solution เพื่อเสริมระบบบริหารจัดการอาคารผู้โดยสารด้วยเทคโนโลยีระบบวิเคราะห์และประมวลผลภาพวิดีโออัจฉริยะซึ่งประกอบด้วยข้อมูลจากเครือข่ายกล้องวงจรปิดทั่วอาคารและโปรแกรมวิเคราะห์ประมวลผลภาพปัญญาประดิษฐ์ประยุกต์ใช้เป็นระบบตรวจจับและรับรู้ใบหน้าบุคคลและสิ่งของ (Face and Object Recognition) ในพื้นที่อาคารสนามบินเพื่อเพิ่มระดับความปลอดภัยเช่นกรณีบุคคลหรือวัตถุต้องสงสัย (Unattended Object Detection) แจ้งเตือนกรณีมีวัตถุถูกวางทิ้งไว้เป็นเวลานานผิดปกติเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพด้านระบบรักษาความปลอดภัยและการบริหารจัดการท่าอากาศยานของกองทัพเรือไทย Play Store  แอปพลิเคชัน Thailand Smart Airport อำนวยความสะดวกให้ผู้โดยสารด้วยข้อมูลด้านบินและสนามบินหลากหลายในแอปพลิเคชันเดียว อาทิสถานะตารางการบินการแจ้งเตือนการเปลี่ยนแปลงเกี่ยวกับไฟล์ทเดินทางแผนที่บอกทางภายในสนามบินและรายละเอียดจุดบริการต่างๆในสนามบินด้วยเทคโนโลยี Augmented Reality-AR โดยนักท่องเที่ยวสามารถดาวน์โหลดแอปพลิเคชันดังกล่าวได้ทาง App Store และ were marre  การทำ Thermal Scan ที่จะช่วยตรวจวัดอุณหภูมินักท่องเที่ยวและเชื่อมต่อสู่ระบบบริหารจัดการด้านความปลอดภัยของสนามบินราคม ICE in TriuCI / unla การนำหุ่นยนต์ ROBOT FOR CARE (ROC) มาช่วยคัดกรองตรวจวัดอุณหภูมิดูแลสุขอนามัยนักท่องเที่ยวที่ใช้บริการสนามบินได้อย่างรวดเร็วมีความแม่นยำสูงลดการสัมผัสใกล้ชิดและป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัส COVID-19 สร้างและสร้างความตื่นตัวเรื่องการความเชื่อมั่นด้านสุขอนามัยให้กับผู้โดยสารและผู้เกี่ยวข้องทุกส่วน เครือข่าย 5G มีความรวดเร็วและมีความเสถียรสูงเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการให้บริการผู้โดยสารและประชาชนภายในสนามบินตลอดจนรองรับโซลูชั่นการให้บริการใหม่ ๆ ที่จะช่วยเพิ่มขีดความสามารถทางการแข่งขันของท่าอากาศยานนานาชาติอู่ตะเภาระยอง-พัทยาจ. ระยอง และบริการ Wif 6 มาตรฐาน WiFi ยุคใหม่ที่มีความเร็วสูงที่สุดพร้อมรองรับการใช้งานมือถือและดีไวซ์ได้จำนวนมากช่วยอำนวยความสะดวกให้แก่นักท่องเที่ยวในการเชื่อมต่อโลกออนไลน์ได้อย่างไร้รอยต่อและมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น-สำนักข่าวไทย.

กูเกิลจัดกิจกรรมเรียนออนไลน์ทุกที่ทั่วโลก

กรุงเทพฯ 13 ส.ค. กูเกิลจัดกิจกรรมการศึกษาในรูปแบบออนไลน์ทั่วโลกมุ่งสร้างการเรียนรู้จากทุกที่  “The Anywhere School 2020” สนับสนุนและอัปเดตอนาคตด้านการศึกษาจากผู้นำทางความคิด นางแจ็คกี้ หวาง ผู้จัดการประจำประเทศไทย กูเกิลประเทศไทย กล่าวว่า การศึกษาเป็นส่วนหนึ่งในพันธกิจหลักของกูเกิล ตามแนวคิด  “Leave No Thai Behind” เพื่อให้คนไทยได้รับประโยชน์สูงสุดจากเทคโนโลยีและการเข้าถึงการศึกษาที่มีคุณภาพนั้นยิ่งมีความสำคัญมากขึ้น โดยเฉพาะในช่วงที่มีการระบาดของโควิด-19 นับเป็นอุปสรรคครั้งใหญ่ที่สุดที่ส่งผลต่อระบบการศึกษาทั่วโลกจากที่เคยประสบมา   ในช่วงเดือนมีนาคมที่ผ่านมาที่การระบาดของโควิด-19 เพิ่มขึ้นสูงสุด องค์การยูเนสโกได้ประมาณการว่าร้อยละ 90 ของนักเรียนทั่วโลกต้องการเครื่องมือสำหรับการเรียนรู้ทางไกลเป็นหลัก ในขณะเดียวกันทั้งครูและอาจารย์ก็ต้องเผชิญความท้าทายในการสอนทางไกล ในส่วนของผู้ปกครองและเด็กก็ต้องปรับตัวกับผลกระทบของโควิด-19 ที่เกิดขึ้นนี้ในช่วงเวลาเพียงชั่วข้ามคืน และต้องหันมาใช้การเรียนการสอนทางไกลรวมทั้งต้องวางแผนล่วงหน้าเพื่อรับมือกับความไม่แน่นอน กูเกิลจัดกิจกรรมด้านการศึกษา “The Anywhere School 2020” ในรูปแบบออนไลน์พร้อมกันทั่วโลกขึ้นเป็นครั้งแรก เพื่อเป็นการส่งเสริมการศึกษาที่มีคุณภาพและอัปเดตอนาคตด้านการศึกษาจากผู้นำทางความคิดระดับโลก โดยแต่ละประเทศได้มาร่วมแชร์มุมมองเกี่ยวกับปัญหาที่ส่งผลกระทบต่อการศึกษาอันสืบเนื่องมาจากสถานการณ์ต่างๆ ในช่วงที่ผ่านมาแบบที่ไม่คาดคิดมาก่อน  ซึ่งงานนี้ได้เปิดโอกาสให้ผู้ที่อยู่ในแวดวงการศึกษาสามารถเข้ามาร่วมรับฟังได้แบบเรียลไทม์ฟรีเป็นระยะเวลา 24 ชั่วโมง ในวันที่ 12 สิงหาคม ที่ผ่านมา โดยมีการสรุปความคิดเห็น ความร่วมมือ และการส่งเสริมด้านการศึกษาจากผู้นำด้านความคิดจากประเทศไทยในประเด็นสำคัญดังนี้  นายอำนาจ วิชยานุวัติ เลขาธิการของสำนักงานคณะกรรม การการศึกษาขั้นพื้นฐาน (กพฐ.) กระทรวงศึกษาธิการ กล่าวว่ากพฐ. ทำหน้าที่ดูแลนักเรียนในระดับการศึกษาตั้งแต่ระดับปฐมวัยจนถึงระดับมัธยมศึกษาตอนปลายที่เป็นโรงเรียนของรัฐบาล  เราให้ความสำคัญในการเรียน การสอน รวมถึงข้อมูลและเครื่องมืออื่นๆ ที่เป็นสื่อการเรียนการสอนของครูที่สามารถทำผ่านระบบออนไลน์  การเรียนของเด็กจะใช้เวลาประมาณ 5 ชั่วโมงต่อวันเท่านั้นจากวันจันทร์ – วันศุกร์  นอกจากนั้นจะเห็นเด็กใช้เวลากับสื่อสังคมออนไลน์มากขึ้น เราจึงได้ร่วมมือกับ กูเกิลจัดทำโครงการ “Be Internet Awesome” เป็นสื่อที่ให้ความรู้กับเด็กเพื่อให้พวกเขาได้เข้าถึงอินเทอร์เน็ตอย่างมั่นใจ และจะช่วยป้องกันภัยออนไลน์ที่อาจจะแฝงมาจากสื่อและสิ่งอันไม่พึงปรารถนา และในช่วงที่ยังไม่สามารถเปิดภาคเรียนได้เราได้ทดลองเตรียมความพร้อมโดยการนำเครื่องมือจาก กูเกิลเข้ามาช่วยในการสื่อสารการเรียนการสอนในระบบออนไลน์มากขึ้น รวมทั้งทาง กพฐ. ได้สื่อสารและกำชับถึงผู้อำนวยการเขตพื้นที่การศึกษาและทุกโรงเรียนว่าต้องเรียนรู้เครื่องมือเทคโนโลยีและระบบดิจิทัลสื่อให้เป็นประโยชน์อย่างต่อเนื่อง นายชาตรี ประดุจชนม์ ผู้อำนวยการจากโรงเรียนวิทยาศาสตร์จุฬาภรณราชวิทยาลัย กล่าวว่า โรงเรียนของเรามีภารกิจจัดการศึกษาให้แก่เด็กที่มีความสามารถพิเศษทางด้านคณิตศาสตร์ วิทยาศาสตร์ และเทคโนโลยี ในระดับมัธยมศึกษาตอนต้น-มัธยมศึกษาตอนปลาย โดยมีเป้าหมายและอุดมการณ์ที่ตั้งไว้สูง รวมถึงต้องดูแลในลักษณะขอโรงเรียนประจำ ที่มีการดูแลเด็กนักเรียนตลอด 24 ชั่วโมง ในการเรียนการสอนจึงมีความจำเป็นต้องแสวงหาเทคโนโลยีและนวัตกรรมเพื่อมาช่วยเป็นเครื่องมือในการบริหารจัดการการศึกษาให้มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น  เมื่อต้นปีที่แล้วทางโรงเรียนได้ร่วมมือกับกูเกิลประเทศไทย โดยการนำ G Suite for Education  เข้ามาใช้เรื่องการเรียนการสอนเต็มรูปแบบ รวมทั้งนำมาใช้เพิ่มประสิทธิภาพในการทำงานเพื่อช่วยพัฒนาครูและบุคลากรอย่างต่อเนื่อง โดยครูของเราได้รับการเพิ่มพูนทักษะในการสร้างบทเรียนออนไลน์และนำไปสอนผ่าน Google Classroom  ในช่วงที่เกิดวิกฤตโควิด-19 ที่มีประกาศปิดโรงเรียนนั้น เราได้ร่วมมือกับโรงเรียนวิทยาศาสตร์จุฬาภรณราชวิทยาลัย ทั้ง 12 โรงเรียน โดยตกลงกันว่าจะสร้างบทเรียนออนไลน์และสอนผ่าน G Suite for Education โดยทำบทเรียนทุกรายวิชาและใช้สอนทุกระดับชั้น อีกทั้งได้ประชุมผู้ปกครองเพื่อชี้แจงการเรียนการสอนในระบบออนไลน์ ซึ่งก็ได้รับความร่วมมือจากผู้ปกครองทุกคนด้วยดี ผมประทับใจกับเครื่องมือของ Google โดยเฉพาะGoogle Calendar ที่ใช้ในการนัดหมายประชุมกับครูผู้สอนและบุคลากรของโรงเรียน และสามารถแนบไฟล์เอกสารต่างๆทำให้ลดการใช้กระดาษในการประชุมแต่ละครั้งได้เป็นจำนวนมหาศาล และยังมี Google Meet ที่เราใช้ในการบรรยายสดที่เหล่าคุณครูเองก็ไม่ได้จินตนาการมาก่อนว่าการเรียนการสอนออนไลน์ผ่านเทคโนโลยีนี้จะเป็นธรรมชาติได้ขนาดนี้ และวันนี้ถึงแม้ว่าทางโรงเรียนได้มีการเปิดเรียนที่โรงเรียนตามปกติแล้ว เราก็ไม่ได้หยุดการจัดการเรียนการสอนออนไลน์ ยังใช้คู่ขนานไปด้วยกันอย่างต่อเนื่อง เพื่อสร้างความพร้อมในการรองรับเหตุการณ์ที่ไม่คาดคิดที่อาจเกิดขึ้นในอนาคตได้อีก พลเอกเอกชัย ศรีวิลาศ ประธานมูลนิธิครูดีของแผ่นดิน กล่าวว่า ยุคนี้เป็นยุคดิจิทัล มีการใช้ระบบออนไลน์ทั้งด้านการบริหารการเรียนรู้ และการศึกษา ทำให้เกิดนวัตกรรมใหม่ในการเรียนการสอนที่ไม่จำเป็นต้องอยู่ในห้องเรียน ซึ่งระบบเรียนออนไลน์ช่วยเร่งให้เกิดความเร็วในการเรียนการสอน ผู้เรียนไม่จำเป็นต้องมีอายุเท่ากันทั้งหมด รวมทั้งมีช่อง Youtube ที่ทำคลิปสอนหนังสือ หรือโรงเรียนที่เปิดสอนออนไลน์ ครูสามารถส่งลิงก์ข้อมูลให้นักเรียนได้ศึกษาก่อนเข้าเรียนจริงได้อย่างสะดวกสบาย  ในปัจจุบัน เรายังต้องตระหนักถึงความปลอดภัยและการเข้าถึงข้อมูลที่ถูกต้องด้วยเช่นกัน ดังนั้นกูเกิลได้ร่วมมือกับมูลนิธิฯ และกระทรวงศึกษาธิการ จัดทำโครงการ “Be Internet Awesome” เพื่อให้เด็กอายุ 9-12 ปี และผู้ใหญ่ได้เรียนรู้ถึงสิ่งที่มาจากอินเทอร์เน็ตที่มีทั้งดีและไม่ดี อันไหนคือข้อมูลจริงหรือข้อมูลเท็จที่ต้องระมัดระวังตลอดเวลา โดยเฉพาะข้อมูลส่วนตัวของเราที่ต้องการเก็บเป็นความลับ เด็กๆ อาจจะไม่ทราบว่าสิ่งที่เห็นหรือเข้าใจในความถูกต้องหรือไม่ก็สามารถสอบถามผู้ใหญ่ได้ -สำนักข่าวไทย.

ทวิตเตอร์เพิ่มคุณสมบัติใหม่จำกัดคนตอบการสนทนา

กรุงเทพฯ 13 ส.ค. ทวิตเตอร์เปิดตัวฟีเจอร์ใหม่ ตั้งค่าจำกัดผู้ตอบทวีตบทสนทนา  ทวิตเตอร์ได้ทำการทดสอบการตั้งค่าบทสนทนารูปแบบใหม่เพื่อให้ผู้ใช้งานสามารถควบคุมบทสนทนาที่สร้างขึ้น โดยผู้ใช้งานทวิตเตอร์สามารถใช้การตั้งค่ารูปแบบใหม่นี้เพื่อจำกัดการตอบทวีตบทสนทนา ป้องกันข้อความตอบกลับที่ไม่ต้องการ เพื่อจะได้ไม่รบกวนบทสนทนาที่มีความสำคัญ วิธีตั้งค่าคือ ก่อนการทวีตข้อความ ให้เลือกว่าใครสามารถตอบกลับทวีตของคุณได้บ้าง 1)   ทุกคน (ซึ่งตัวเลือกนี้เป็นการตั้งค่าอัตโนมัติแบบมาตรฐาน) 2)   เฉพาะคนที่ติดตาม และ3)   เฉพาะคนที่เมนชั่น ทวีตที่มีการเลือกตั้งค่าแบบข้อ 2 และ ข้อ 3 จะติดป้ายเฉพาะและสำหรับคนที่ไม่สามารถตอบกลับได้จะเห็นสัญลักษณ์ตอบกลับเป็นสีเทา แต่ถึงแม้ไม่สามารถตอบกลับได้ ผู้ใช้งานทั่วไปยังสามารถอ่านทวีต รีทวีต โควททวีต แชร์ต่อ หรือกดไลค์ได้ทีมงานทวิตเตอร์ได้ทดสอบการตั้งค่านี้มาตั้งแต่เดือนพฤษภาคม โดยผู้ที่เลือกใช้การตั้งค่าเหล่านี้มักจะใช้ในการสัมภาษณ์การอภิปราย การแลกเปลี่ยนความคิดเห็น และการประกาศต่างๆ  ซึ่งทีมงานได้เรียนรู้จากการใช้งาน รวมทั้งผลตอบรับที่ได้จากการสัมภาษณ์ผู้ใช้งานและจากการทำแบบสำรวจ โดยการตั้งค่ารูปแบบใหม่นี้จะช่วยให้ผู้ใช้งานรู้สึกปลอดภัยมากขึ้นเวลาทวีตข้อความและสามารถเป็นผู้นำในการสนทนานั้นได้อย่างมีความหมายมากยิ่งขึ้น แต่ถึงแม้ว่าจะจำกัดการตอบกลับ แต่ก็ยังอนุญาตให้คนอื่น สามารถเห็นมุมมองที่แตกต่างของคุณได้ สามารถอ่านข้อมูลเพิ่มเติมจากความคิดเห็นอื่นๆของผู้ใช้งานได้ ทีมงานทวิตเตอร์ยังคงอัปเดตการตั้งค่าต่างๆ อย่างต่อเนื่องจากฟีดแบ็กที่ได้รับจากผู้ใช้งาน และในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้าทวิตเตอร์กำลังวางแผนที่จะเพิ่มตัวเลือกอื่นๆ ให้ผู้ใช้งานสามารถเชิญผู้ใช้งานคนอื่นๆ มาร่วมการสนทนาได้หลังจากทวีตข้อความไปแล้ว สามารถล้างการแจ้งเตือนได้เมื่อคุณได้รับเชิญให้เข้าร่วมการสนทนานั้นๆ  และเพิ่มวิธีที่จะทำให้เห็นการสนทนาได้ทั้งหมดอีกด้วย-สำนักข่าวไทย.

“พุทธิพงษ์” สั่งฟันโพสต์ไม่เหมาะสม

กรุงเทพฯ 12 ส.ค.-“พุทธิพงษ์” รมว.ดีอีเอส สั่งรวบรวมหลักฐานเอาผิด โพสต์ไม่เหมาะสม เหตุชุมนุมล่าสุด นายพุทธิพงษ์ ปุณณกันต์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอีเอส) ได้โพสต์ข้อความผ่านทางเพจเฟซบุ๊ก ระบุว่า จากเหตุการณ์ชุมนุมล่าสุดเมื่อวานนี้ ซึ่งมีโพสต์เนื้อหาไม่เหมาะสมกระทบต่อจิตใจประชาชนคนไทย ผมสั่งให้รวบรวมหลักฐานที่ผิดกฎหมาย ตั้งแต่วันที่ 10-11 ส.ค. 63 (เวลา 16.53 น.) มีโพสต์ที่ประชาชนแจ้งเข้ามา และตรวจสอบทางออนไลน์พบว่าเข้าข่ายความผิด รวบรวมได้ทั้งสิ้น 114 URLs แยกเป็นเฟซบุ๊ก 75 URLs ทวิตเตอร์ 28 URLs ยูทูป 11 URLs จะมีการรวบรวมหลักฐานทั้งหมดส่งศาลในวันพรุ่งนี้ (13ส.ค.) และเมื่อมีคำสั่งศาล จะส่งให้แพลตฟอร์มทั้ง 3 เจ้า ถ้าภายใน 15 วันไม่ปิดหรือลบ เราจะดำเนินคดีทันที และปรับแพลตฟอร์มด้วย อัตราโทษไม่เกิน 200,000 บาท และรายวันไม่เกิน 5,000บาท ต่อ URLs […]

สวทช. ส่งเสริมนวัตกรรมเยาวชนไทยเพื่อสิ่งแวดล้อม

สุราษฎร์ธานี 11 ส.ค. 63 – สวทช. ส่งเสริมเยาวชนไทยพัฒนานวัตกรรมสร้างสรรค์เครื่องเก็บขยะในแหล่งน้ำแบบอัตโนมัติ และเครื่องกำจัดขยะให้เป็นปุ๋ย ช่วยลดขยะบกสู่ทะเล และลดปริมาณขยะชุมชนอย่างยั่งยืน ศูนย์นาโนเทคโนโลยีแห่งชาติ (นาโนเทค) สำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (สวทช.) สนับสนุนผลงานนวัตกรรมเพื่อสิ่งแวดล้อมของนักศึกษาพื้นที่ภาคใต้ เพื่อเป็นต้นแบบในการใช้แก้ปัญหาสิ่งแวดล้อมระดับชุมชน ซึ่ง จ. สุราษฎร์ธานี เป็นจังหวัดที่มีแม่น้ำตาปีสายสำคัญ และพื้นที่ติดทะเล ปัญหาขยะจากชุมชนสู่แหล่งน้ำ ไหลสู่ทะเลอาจสร้างผลกระทบต่อแหล่งน้ำ ทะเล แทรัพยากรสัตว์น้ำจำนวนมาก นักศึกษาจากวิทยาลัยเทคนิคสุราษฎร์ธานี โชว์ผลงานวัตกรรมเครื่องเก็บขยะในทะเลโดยใช้เทคโนโลยีนาโน หรือ Nano Ocean Bin มีลักษระคล้ายทุ่นลอยระดับผิวน้ำ ที่มีระบบเซ็นเซอร์ตรวจจับวัตถุหรือขยะในแหล่งน้ำระยะ 1-2 เมตร โดยใช้พลังงานมอเตอร์ในการดูดน้ำเพื่อดึงเศษขยะเข้ามาสู่ถังขยะทุ่น ผ่านสายพานที่พัฒนาขึ้นมาโดยเฉพาะด้วยเครื่องพิมพ์ 3 มิติ กวาดขยะเข้าเครื่องได้อย่างแม่นยำ ทั้งนี้นำนวัตกรรมนาโนเทคโนโลยี เคลือบผิวด้วยอนุภาคนาโนบนแผงโซล่าเซลล์และวัสดุ เพิ่มประสิทธิภาพในการป้องกันสนิมและให้การทำงานของระบบต่างๆสูงขึ้น เครื่องนี้สามารถเก็บขยะในแหล่งน้ำ ได้กว่า 50 กิโลกรัม เทื่อเต็มจะมีระบบการแจ้งเตือนเข้าสู่ระบบเพื่อให้เจ้าหน้าที่ไปเก็บ ขยะที่ได้สามารถนำมารีไซเคิลหมนุนเวียนใช้ประโยชน์ ลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม อีกผลงานของนักศึกษา ปวส. พัฒนาเครื่องกำจัดขยะเศษอาหารเป็นปุ๋ยอัตโนมัติ เป็นนวัตกรรมคล้ายถังขยะ ที่สามารถนำเศษพืชผักหรืออาหารในครัวเครือนมากำจัดได้ด้วยเครื่องนี้ […]

เขมทัตต์ฝากซีอีโอใหม่สานต่อพาองค์กรผ่านความเปลี่ยนแปลง

กรุงเทพฯ 11 ส.ค. เขมทัตต์ ฝากผู้บริหารใหม่ สานต่องาน ชี้ซีอีโอใหม่ต้องรอบรู้กฎหมาย การเงิน พร้อมย้ำเงินเยียวยาคืนคลื่น 2600 เมกกะเฮิรตซ์ เต้องข้าสู่ศาล วอนอย่าเอาหนังสือฉบับเดียวมาเป็นตัวตัดสิน นายเขมทัตต์ พลเดช กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บมจ.อสมท จำกัด (มหาชน) ให้สัมภาษณ์ในโอกาสจะพ้นจากการดำรงตำแหน่งว่า ช่วงที่เข้ามารับตำแหน่งเป็นช่วงหลังการเกิดขึ้นของทีวีดิจิทัลเป็นช่วงที่มีการเปลี่ยนแปลงและองค์กรกำลังเข้าสู่การขาดทุน อสมท ในเวลานั้นเป็นผู้ให้บริการทีวีดิจิทัล และผู้ให้บริการโครงข่ายการออกอากาศทีวีภาคพื้นดิน ขณะเดียวกันเกิดแพลตฟอร์มใหม่เกิดขึ้น เนื่องจากอสมท เป็นองค์กรสื่อที่มีสื่อทั้งวิทยุโทรทัศน์อยู่รวมกันจึงต้องมาจัดระบบกันใหม่ด้วยการเสนอปรับโครงสร้างธุรกิจเพื่อรองรับด้วยการปรับองค์กร อสมท ตระหนักว่าขณะนี้เม็ดเงินจากสัมปทานกำลังจะหมดไป ขณะที่การแข่งขันในอุตสาหกรรมสื่อมีการแข่งขันสูงมากขึ้น ต่อมามีมีเดียเกิดใหม่ทั้งโซเชียลมีเดีย และการมาของสื่อออนไลน์ สื่อสิ่งพิมพ์และสื่อโทรทัศน์เริ่มเข้าสู่สื่อออนไลน์มากขึ้น อสมท พยายามปรับโครงสร้างองค์กรรองรับ โดยหาบุคลากรที่มีความสามารถเข้ามาดูแล อสมท เปิดโอกาสคนในและให้คนนอกเข้ามาบริหารงานเกิดเป็นสำนักธุรกิจดิจิทัลแพลตฟอร์มและสำนักบริหารดิจิทัลแพลตฟอร์ม ฝ่ายหนึ่งทำหน้าที่พัฒนาเนื้อหาใหม่หาพันธมิตรเพิ่มในการทำสื่อดิจิทัล ฝ่ายหนึ่งนำเนื้อหาเดิมที่มีอยู่มาพัฒนาให้เกิดมูลค่าเพิ่ม  “การบริหารที่ผ่านมาขับเคลื่อนได้ค่อนช้าเพราะองค์กรเราใหญ่ ติดขัดองคาพยพหลายอย่าง เงินทุนเราไม่เพียงพอที่จะทำงานได้อย่างคล่องตัว แต่อสมท ได้เตรียมตัวปรับตัวให้มีความคล่องตัวมากขึ้น โดยกำลังจะเปิดตัวดิจิทัลแพลตฟอร์ใหม่ คิดว่ายังทำงานไม่ครบตามที่ตั้งใจ เวลาน้อยมาก ต้องแก้ปัญหาทั้งโครงสร้างภายใน การเปลี่ยนแปลงแนวคิด การหาพันธมิตร ช่วงที่เข้ามพันธมิตรที่เคยทำรายการให้เราหายไปหมด เอเจนซี่ก็ตามพันธมิตรเราไป ทำให้เราต้องควักเงินทำรายการ ทำคอนเทนท์ใหม่ […]

รมว.ดีอีเอส เร่งเครื่องจัด การเว็บผิดกฎหมาย

กรุงเทพฯ 11 ส.ค. พุทธิพงษ์ เร่งระบบรับเรื่องร้องเรียนสื่อออนไลน์ ให้เสร็จใน 48ชม. พร้อมบังคับใช้กฎหมายจริงจังกับผู้กระทำผิด นายพุทธิพงษ์ ปุณณกันต์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอีเอส) ได้โพสต์ข้อความผ่านทางเพจเฟซบุ๊ก ระบุว่า กระทรวงดิจิทัลฯ ได้เร่งรัดระบบรับเรื่องร้องเรียนสื่อออนไลน์ให้รวดเร็วยิ่งขึ้น ต้องตรวจสอบหลักฐานต่างๆ ให้เสร็จสิ้นภายใน 48 ชม. แล้วส่งให้ศาลอนุมัติคำสั่ง หลังจากนั้นรีบส่งให้ทาง บก.ปอท. และตำรวจที่เกี่ยวข้อง ไปตามจับผู้กระทำผิดโดยเร็ว ตลอดจนส่งต่อไปยังแพลตฟอร์มต่างประเทศ ให้ปิดเว็บหรือลบเนื้อหาที่ไม่เหมาะสม กระทรวงฯ บังคับใช้กฎหมายอย่างจริงจัง ตรวจสอบการดำเนินการตามคำสั่งศาล ตั้งแต่ เม.ย. – มิ.ย. 2563 (3 เดือนที่ผ่านมา) พบเว็บไซต์ที่มีเนื้อหาผิดกฎหมาย 1,500 ยูอาร์แอล แบ่งเป็นเฟซบุ๊ก 1,365 ยูอาร์แอล ระงับการเข้าถึงแล้วหรือปิดเพียง 236 ยูอาร์แอล และในขณะที่ยูทูปมี 135 ยูอาร์แอล ดำเนินการปิดทั้งหมด 135 ยูอาร์แอล โดยมีเนื้อหาผิดกฎหมายในเฟซบุ๊กที่ยังคงเปิดอยู่ 1,129 ยูอาร์แอล […]

1 35 36 37 38 39 51
...