
ชัวร์ก่อนแชร์ : ขยี้ตาบ่อย เสี่ยงตาบอด จริงหรือ ?
บนสื่อสังคมออนไลน์มีการแชร์ข่าวชายชาวต่างชาติเกือบตาบอด เพราะขยี้ตาบ่อยตั้งแต่เด็ก ทำให้ต้องพบจักษุแพทย์ และต้องผ่าตัดเปลี่ยนกระจกตา จริงหรือ ? 🎯 ตรวจสอบข้อเท็จจริงและคำแนะนำจากผู้เชี่ยวชาญ ศาสตราจารย์วุฒิคุณ นพ.ศักดิ์ชัย วงศกิตติรักษ์ ประธานวิชาการ ราชวิทยาลัยจักษุแพทย์แห่งประเทศไทย เป็นไปได้… เพราะดวงตาเป็นอวัยวะที่มีความบอบบาง โดยเฉพาะอย่างยิ่งบริเวณกระจกตาดำ ที่มองเห็นเป็นตาดำ มีลักษณะเฉพาะที่มีความบอบบาง และสำคัญกับการทำงานของดวงตามาก เพราะฉะนั้นการที่ถูกกระทำหรือถูกขยี้อย่างรุนแรงและต่อเนื่อง นอกจากจะทำให้เกิดการถลอกหรือเกิดบาดแผลบริเวณกระจกตาดำ ในระยะยาวยังทำให้ความแข็งแรงของบริเวณกระจกตาดำเสียไป เกิดภาวะที่ทางการแพทย์เรียกว่า “กระจกตาย้วย” ทางการแพทย์เรียกว่าโรคเคอราโทโคนัส (Keratoconus) เป็นโรคที่พบได้บ่อยในคนไทย ลักษณะของโรคกระจกตาย้วย ภาวะกระจกตาย้วยเกิดจากการสูญเสียความแข็งแรงของบริเวณกระจกตาดำ ทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงรูปร่างของกระจกตา มีลักษณะย้วยลงมามากกว่าปกติ เรียกโรคนี้ว่า “กระจกตาย้วย” สำหรับกลุ่มคนที่มีความเสี่ยง “กระจกตาย้วย” ได้แก่ 1. คนที่ขยี้ตาบ่อย ๆ ความแข็งแรงของกระจกตาเสียไป ทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงรูปร่างของกระจกตา อาจเป็นคนที่กระจกตาอักเสบ หรือเป็นภูมิแพ้บริเวณเยื่อบุตา ก็ทำให้เกิดอาการคันและมีพฤติกรรมขยี้ตารุนแรงเป็นประจำ 2. กลุ่มคนที่มีความผิดปกติของยีน (ดาวน์ซินโดรม : Down syndrome) หรือกลุ่มคนอื่น ๆ ที่มีความเสี่ยงเสียความแข็งแรงของกระจกตาดำ ร่วมกับการขยี้ตาก็อาจจะทำให้เกิดภาวะกระจกตาย้วยได้ สังเกตอาการอย่างไรว่ามีภาวะกระจกตาย้วย […]