โฆษก ทบ.ยันไทยไม่ได้มีเจตนาหรือแรงจูงใจโจมตีกัมพูชา

24 ก.ค. – โฆษกกองทัพบก แถลงสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา ยืนยันไทยไม่ได้มีเจตนาหรือแรงจูงใจใดๆ ต้องโจมตีฝ่ายกัมพูชาเลย เพราะไม่ได้ประโยชน์อะไร และไม่มีเหตุผลต้องทำเช่นนั้น ถ้าไม่เป็นไปด้วยความจำเป็นจริงตามแนวทางที่ถูกบีบบังคับอันเนื่องมาจากสถานการณ์ที่เกิดขึ้น กองทัพบกยืนยันไทยไม่มีเจตนาหรือแรงจูงใจใดๆ ที่จะต้องไปโจมตีกัมพูชาเลย ไม่ได้ประโยชน์อะไรจากเรื่องนี้ และไม่มีเหตุผลที่เราจะทำเช่นนั้น ถ้าไม่เป็นไปด้วยความจำเป็นจริงตามแนวทางที่ถูกบีบบังคับอันเนื่องมาจากสถานการณ์ที่เกิดขึ้น กองทัพบกดำเนินการภายใต้ความชอบธรรมตามกฎหมายระหว่างประเทศที่สามารถใช้กำลังได้ ซึ่งเป็นไปตามกฎบัตรสหประชาชาติ ข้อ 51 โดยสามารถใช้กำลังป้องกันตัวเองจากการถูกโจมตีด้วยอาวุธก่อน จากฝ่ายกัมพูชา ในลักษณะเพื่อป้องกันตัวเอง โดยจะทำลายเฉพาะเป้าหมายทางทหาร (military objective) เท่านั้น เหตุของการปฏิบัติการทางทหารต่อกันในครั้งนี้มีเหตุมาจากผู้นำฝ่ายกัมพูชา อาจต้องให้ระดับฝ่ายบริหารของกัมพูชาและไทยได้เจรจากัน ร่วมกับทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้อง ในการหาแนวทางสันติวิธี เริ่มจากการแก้ที่ต้นเหตุทั้งทางตรงและทางอ้อม มั่นใจว่าประชาชนทั้งสองประเทศไม่มีเหตุผลที่จะต้องมาขัดแย้งกัน หรือสมควรต้องมาได้รับผลกระทบใดๆ จากเหตุการณ์โดยไม่จำเป็น.-313-สำนักข่าวไทย

กรมสุขภาพจิตเตือนประชาชนติดตามข่าวสารอย่างมีสติ

24 ก.ค. – กรมสุขภาพจิตเตือนประชาชน “ติดตามข่าวสารอย่างมีสติ” แนะเลือกแหล่งข้อมูลน่าเชื่อถือ หมั่นสังเกตสุขภาพใจตนเองและคนรอบข้าง จากสถานการณ์ความไม่สงบที่ชายแดน ส่งผลให้ประชาชนเกิดความสนใจและยังติดตามข่าวสารอย่างต่อเนื่อง รวมถึงสร้างความวิตกแก่ประชาชนที่อยู่อาศัยในพื้นที่ กรมสุขภาพจิตเร่งติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด พร้อมเดินหน้าลงพื้นที่ตามนโยบายรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ในการดูแลจิตใจประชาชน โดยขอความร่วมมือประชาชนติดตามข่าวสารจากสถานการณ์ต่างๆ อย่างมีสติ และไม่ตื่นตระหนก พร้อมแนะนำให้เลือกแหล่งข้อมูลจากหน่วยงานราชการหรือสื่อที่น่าเชื่อถือ เพื่อป้องกันความเครียด วิตกกังวล และผลกระทบต่อสุขภาพจิต นายแพทย์ กิตติศักดิ์ อักษรวงศ์ อธิบดีกรมสุขภาพจิต กล่าวว่า สถานการณ์ข่าวสารเหตุการณ์ความไม่สงบ หรือสถานการณ์รุนแรงดังกล่าว มีผลต่อสังคมที่กระทบจิตใจอย่างมาก ประชาชนควรมีสติในการรับข่าวสาร และพิจารณาข้อมูลอย่างรอบด้าน ทั้งนี้ ขอให้ติดตามข่าวสารสถานการณ์จากเพจกองทัพบก แหล่งข่าวที่น่าเชื่อถือ หรือหน่วยงานด้านความมั่นคง เป็นหลัก โดยงดเว้นการเผยแพร่ข้อมูลที่อาจสร้างความสับสนภายในประเทศ เพื่อป้องกันความตื่นตระหนกและการกระจายข่าวลวงในสังคม การรับข่าวสารตลอดเวลาโดยไม่กรอง อาจส่งผลให้เกิดความเครียด สับสน วิตกกังวล หรือหมดหวังได้โดยไม่รู้ตัว พร้อมกันนี้ขอแนะนำให้ประชาชนสังเกตอารมณ์และพฤติกรรมของตนเอง หากรู้สึกเครียด นอนไม่หลับ หงุดหงิดง่าย หรือมีอารมณ์เศร้า ควรพักจากการติดตามข่าว และหากอาการไม่ดีขึ้นภายใน 1-2 สัปดาห์ ควรปรึกษาผู้เชี่ยวชาญด้านสุขภาพจิต นายแพทย์ กิตติศักดิ์ อธิบดีกรมสุขภาพจิต […]

“มาริษ” แจง UN ไทยถูกกัมพูชาเปิดฉากยิงก่อน

ทำเนียบฯ 24 ก.ค. – “มาริษ” รมว.ต่างประเทศ ประชุมอยู่ที่สหประชาชาติ ระบุจะใช้เวลาชี้แจงความเข้าใจสมาชิก UN ว่าไทยถูกเปิดฉากยิงก่อน และถูกละเมิดอธิปไตย พร้อมทั้งกัมพูชาละเมิดหลักการ มุ่งโจมตีพื้นที่ของพลเรือนและโรงพยาบาลของไทย นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี และคณะกรรมการ ศบ.ทก. เปิดเผยว่า เมื่อวันจันทร์ที่ 21 กรกฎาคม 2568 นายมาริษ เสงี่ยมพงษ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ได้นำคณะผู้แทนไทยเข้าร่วมการประชุมเวทีหารือทางการเมืองระดับสูงว่าด้วยการพัฒนาที่ยั่งยืน ประจำปี ค.ศ. 2025 (High-Level Political Forum on Sustainable Development 2025 : HLPF2025) ณ สำนักงานใหญ่สหประชาชาติ (UN) นครนิวยอร์ก โดยการประชุม HLPF2025 เป็นเวทีสำคัญประจำปีของ UN ที่มุ่งติดตามและเร่งรัดการดำเนินการตามวาระการพัฒนาที่ยั่งยืน ค.ศ. 2030 และเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน ซึ่งถือเป็นโอกาสดีที่รัฐมนตรีต่างประเทศของไทยที่ขณะนี้ได้อยู่ในเวทีสหประชาชาติในห้วงที่เกิดความตึงเครียดระหว่างไทย-กัมพูชา นายจิรายุ กล่าวว่าวันนี้ เวลา […]

“ภูมิธรรม” มอบอำนาจกองทัพดูแลเหตุการณ์ชายแดน-รมว.กต.คุยยูเอ็นแล้ว

ทำเนียบฯ 24 ก.ค. – “ภูมิธรรม” เผยประชุมสภาความมั่นคง และ ครม.วาระพิเศษ แก้ไขสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา ยืนยันกัมพูชายั่วยุเปิดฉากยิงก่อน เป้าหมายไม่ชัดเจน ทำให้พลเรือนเสียชีวิต 10 ราย ทหาร 1 นาย มอบจังหวัดดูแลประชาชนอพยพห่างชายแดน 50 กิโลเมตร ยังไม่คุยกัมพูชา จนกว่าสถานการณ์จะยุติ ระบุไม่มีประกาศสงคราม แต่มอบอำนาจกองทัพตัดสินใจดูแลเหตุการณ์ ก่อนรายงานรัฐบาล แต่ย้ำต้องอยู่ภายใต้หลักกฎหมายระหว่างประเทศ ไม่จำเป็นดึงต่างประเทศเป็นตัวกลางเจรจา พร้อมเผย “มาริษ“ คุยยูเอ็นแล้ว ย้ำปฏิบัติการทางทหารจะยุติเร็วที่สุด นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ในฐานะรักษาราชการแทนนายกรัฐมนตรี เปิดเผยภายหลังการประชุมสภาความมั่นคงแห่งชาติ วาระพิเศษ ที่มีคณะรัฐมนตรี ตัวแทนเหล่าทัพ เข้าร่วมประชุมอย่างพร้อมเพรียง ว่าเนื่องจากเกิดเหตุการณ์ปะทะกันตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ขณะเดียวกันยังเป็นการประชุมคณะรัฐมนตรีนัดพิเศษไปด้วย โดยเชิญเลขาธิการคณะรัฐมนตรีเข้าร่วม ซึ่งเป็นไปตามกฎหมายที่สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาเสนอ ดังนั้น จึงเป็นการประชุมสภาความมั่นคงแห่งชาตินัดพิเศษ และคณะรัฐมนตรีนัดพิเศษด้วย เพราะหลายเรื่องจำเป็นต้องใช้มติคณะรัฐมนตรีในการดำเนินการ พร้อมระบุว่า สถานการณ์ที่เกิดขึ้นเป็นเหตุการณ์ปะทะกัน เท่าที่รับรายงานจากหน่วยทหารที่เกี่ยวข้อง ยืนยันว่ากัมพูชาได้ยิงเข้ามาและเปิดฉากใส่ทหารไทยก่อน จนนำไปสู่เหตุการณ์บานปลาย จนถึงเวลานี้มีการใช้อาวุธหนัก แต่สิ่งสำคัญคือการยิงของกัมพูชาใช้อาวุธหนัก […]

“พีระพันธุ์” สั่งตั้งศูนย์ฉุกเฉินด้านพลังงาน รับเหตุตึงเครียดไทย-กัมพูชา

กรุงเทพฯ 24 ก.ค. – “พีระพันธุ์” สั่งตั้งศูนย์ฉุกเฉินด้านพลังงาน รับมือเหตุตึงเครียดไทย-กัมพูชา ย้ำ “น้ำมัน-ไฟฟ้า” ต้องไม่ขาดแคลน แต่เพื่อความปลอดภัย สั่งการให้สถานีบริการน้ำมันที่อยู่ใกล้จุดปะทะบริเวณชายแดน งดให้บริการชั่วคราว นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน เปิดเผยว่า ได้เรียกประชุมด่วนผู้บริหารระดับสูงในสังกัดกระทรวงพลังงาน เพื่อเตรียมรับมือกับผลกระทบจากสถานการณ์ฉุกเฉินบริเวณแนวชายแดนไทย-กัมพูชา และหาแนวทางบรรเทาความเดือดร้อนด้านพลังงานให้แก่ประชาชนในพื้นที่ โดยมอบหมายให้มีการแต่งตั้ง “ศูนย์บริหารสถานการณ์ฉุกเฉินด้านพลังงาน” เพื่อติดตามสถานการณ์และสั่งการหน่วยงานและเจ้าหน้าที่ในสังกัดกระทรวงพลังงานและในการกํากับของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน รวมทั้งประสานงานกับหน่วยงานอื่นที่เกี่ยวข้อง เพื่อป้องกันและแก้ไขสถานการณ์ต่าง ๆ ด้านพลังงาน อันอาจเกิดขึ้นจากการกระทำของราชอาณาจักรกัมพูชา ซึ่งส่งผลหรืออาจส่งผลต่อประชาชนในจังหวัดอุบลราชธานี ศรีสะเกษ สุรินทร์ บุรีรัมย์ และจังหวัดอื่นที่ได้รับผลกระทบ จนกว่าสถานการณ์จะยุติลง นายพีระพันธุ์ กล่าวว่า กระทรวงพลังงานให้ความสำคัญอย่างยิ่งต่อการบรรเทาความเดือดร้อนของพี่น้องประชาชนในพื้นที่ และการดูแลความมั่นคงเพียงพอด้านพลังงาน ทั้งในส่วนของน้ำมันและไฟฟ้า โดยได้สั่งการให้สถานีบริการน้ำมันที่อยู่ใกล้จุดปะทะบริเวณชายแดน งดให้บริการชั่วคราว เพื่อความปลอดภัยของเจ้าหน้าที่และประชาชน ขณะเดียวกันได้สั่งการให้สถานีบริการน้ำมันในเขตอำเภอและจังหวัดใกล้เคียงที่อยู่นอกพื้นที่เสี่ยงเปิดบริการตามปกติอย่างต่อเนื่อง เพื่อรองรับความจำเป็นในการเดินทางและภารกิจฉุกเฉินของภาครัฐ อาทิ รถพยาบาล รถดับเพลิง รถตำรวจ ทหาร รวมถึงภารกิจด้านความมั่นคง ซึ่งต้องสามารถเข้าถึงเชื้อเพลิงได้ตลอด 24 ชั่วโมง ในส่วนของระบบไฟฟ้า ได้มอบหมายให้การไฟฟ้าฝ่ายผลิตเป็นหลักในการประสานการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค […]

OR ขอแสดงความเสียใจ กรณีเหตุการณ์บริเวณชายแดน

24 ก.ค. – OR ขอแสดงความเสียใจ กรณีเหตุการณ์บริเวณชายแดนไทย–กัมพูชา อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ จากเหตุการณ์ความรุนแรงบริเวณชายแดนไทย-กัมพูชา ในพื้นที่ อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ ที่ส่งผลให้สถานีบริการ พีทีที สเตชั่น ห้างหุ้นส่วนจำกัด พิชชา ปิโตรเลียม ต.บ้านผือ ได้รับความเสียหาย รวมทั้งมีผู้ได้รับบาดเจ็บและเสียชีวิต จากเหตุการณ์ดังกล่าวนั้น บริษัท ปตท. น้ำมันและการค้าปลีก จำกัด (มหาชน) หรือ OR ขอแสดงความเสียใจอย่างสุดซึ้งต่อการสูญเสียที่เกิดขึ้น และขอส่งกำลังใจให้แก่ผู้ที่ได้รับบาดเจ็บรวมถึงประชาชนในพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์ดังกล่าว OR ให้ความสำคัญสูงสุดกับความปลอดภัยของลูกค้า พนักงาน และชุมชนโดยรอบ และพร้อมปฏิบัติตามแนวทางตามมาตรการด้านความปลอดภัยที่ภาครัฐกำหนด เพื่อให้ความช่วยเหลือผู้ได้รับผลกระทบและติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด เพื่อการฟื้นฟูในลำดับต่อไป OR ขอเป็นกำลังใจให้ประชาชนในพื้นที่ในช่วงเวลาที่ยากลำบากนี้ และหวังเป็นอย่างยิ่งว่าสถานการณ์จะคลี่คลายโดยเร็ว. -517-สำนักข่าวไทย

หอการค้าไทยห่วงใยสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา

กรุงเทพฯ 24 ก.ค. – หอการค้าไทย ห่วงใยสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา เรียกร้องทุกฝ่ายดำเนินการรอบคอบ ยันไม่เคยมีนโยบายปิดกั้นการค้าชายแดน ดร.พจน์ อร่ามวัฒนานนท์ ประธานกรรมการหอการค้าไทยและสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย กล่าวว่า จากเหตุการณ์ความไม่สงบบริเวณชายแดนไทย–กัมพูชา เมื่อช่วงเช้าวันนี้ (24 ก.ค.68) ซึ่งส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตและได้รับบาดเจ็บจำนวนมาก ทั้งกำลังพลและประชาชน ตลอดจนส่งผลกระทบต่อความเชื่อมั่นทางเศรษฐกิจ และเกิดการหยุดชะงักของกิจกรรมทางการค้าและการลงทุนระหว่างสองประเทศอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ หอการค้าไทยและสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย ขอแสดงความห่วงใยอย่างยิ่งต่อสถานการณ์ดังกล่าว พร้อมขอเรียกร้องให้ทุกฝ่ายดำเนินการอย่างรอบคอบ เพื่อให้สถานการณ์คลี่คลายโดยเร็วที่สุด ทั้งนี้เพื่อรักษาเสถียรภาพ ความมั่นคง และความร่วมมือในระดับภูมิภาค ซึ่งเป็นประโยชน์ร่วมกันของทั้งสองประเทศ ในด้านการค้าการลงทุน หอการค้าไทยขอยืนยันว่า ที่ผ่านมา ฝ่ายไทยยังคงเปิดด่านการค้าอย่างต่อเนื่องและไม่เคยมีนโยบายปิดกั้นการค้าชายแดน อย่างไรก็ตาม มาตรการด้านความมั่นคงและสถานการณ์ความรุนแรงที่เกิดขึ้น ทำให้เกิดการชะลอตัวของกิจกรรมเศรษฐกิจ ซึ่งคาดว่าจะสามารถกลับมาฟื้นตัวหลังสถานการณ์กลับเข้าสู่ภาวะปกติ ท้ายที่สุด หอการค้าไทยขอส่งกำลังใจไปยังกำลังพลของกองทัพไทย และหน่วยงานด้านความมั่นคงทุกภาคส่วน ที่ปฏิบัติหน้าที่อย่างเข้มแข็งในการปกป้องอธิปไตยของชาติ และขอภาวนาให้ประชาชนทุกคนปลอดภัยจากสถานการณ์ที่เกิดขึ้นนี้.-516-สำนักข่าวไทย

Hun Sen in vdo call

“ฮุน เซน” ยืนยันไม่หนีออกจากกัมพูชา

พนมเปญ 24 ก.ค.- นายฮุน เซน ประธานวุฒิสภากัมพูชา โพสต์เฟซบุ๊กยืนยันว่า ยังอยู่ในกัมพูชา หลังจากมีข่าวว่าเขาหนีออกนอกประเทศไปจีน นายฮุน เซน โพสต์เป็นภาษาเขมรในหน้าเฟซบุ๊กชื่อ Samdech Hun Sen of Cambodia ที่มีผู้ติดตาม 14 ล้านคน และไม่ได้ติดตามใคร เมื่อช่วงเย็นวันนี้ตามเวลาท้องถิ่น โดยอ้างว่า หนังสือพิมพ์ไทยฉบับหนึ่งรายงานว่า เขาเดินทางออกจากกัมพูชาไปจีน เขาขอยืนยันว่า ขณะนี้กำลังประชุมทางวิดีโอกับนายกรัฐมนตรี รัฐมนตรีกระทรวงกลาโหม ผู้บัญชาการทหารบก และผู้บัญชาการทหารในทุกระดับ เพื่อสู้รบกับไทย เขาไม่ได้วิ่งหนี ดังนั้นขอให้เพื่อนร่วมชาติอย่าได้กังวล นายฮุน เซนโพสต์ว่า เขามาประชุมเรื่องนี้ตั้งแต่แม่ทัพภาค 2 ของไทยประกาศจะปิดทางเข้าปราสาทตาเมือนธม พร้อมกับลงภาพตนเองขณะกำลังคุยโทรศัพท์และประชุมทางวิดีโอหลายภาพ.-814.-สำนักข่าวไทย

สมช.ประณามกัมพูชา ย้ำยังไม่ใช่ภาวะสงคราม

24 ก.ค. – สมช. ประณามการกระทำของกัมพูชา ใช้อาวุธหนักยิงเข้ามาฝั่งไทย โดยไม่มีเป้าหมายที่ชัดเจน ทำให้มีผู้เสียชีวิตและได้รับบาดเจ็บ พร้อมย้ำขณะนี้เป็นเพียงการปะทะกัน ยังไม่ใช่ภาวะสงคราม นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย รักษาราชการแทนนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า การประชุมสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) วันนี้เป็นนัดพิเศษ และเป็นการประชุม ครม.ด้วย โดยได้รับรายงานการปะทะที่ชายแดนไทย-กัมพูชา ว่าเป็นการยิงเข้ามาจากทางกัมพูชา และมีการใช้อาวุธหนักยิงเข้ามาในเขตแดนประเทศไทย โดยไม่มีเป้าหมายชัดเจน ทำให้มีผู้เสียชีวิตรวม 11 คน เป็นพลเรือน 10 คน ทหาร 1 นาย และบาดเจ็บ 28 คน จึงขอประณามการกระทำของกัมพูชาที่ใช้กำลังโดยไม่มีเป้าหมายที่ชัดเจน ขณะที่อาวุธหนักบางลูกยิงเข้ามาที่ปั๊มน้ำมัน ซึ่งห่างชายแดนเพียง 3 กิโลเมตร ถือเป็นการใช้กำลังโดยไม่ยึดกฎหมายระหว่างประเทศ ยืนยันไม่ใช่ภาวะสงคราม เป็นเพียงการปะทะกันเท่านั้น และย้ำว่าไทยใช้สันติวิธี ไม่ประสงค์ใช้ความรุนแรง แต่เป็นการยั่วยุ จึงต้องป้องกันตนเองและประเทศชาติ ซึ่งไทยไม่ยอมให้มีการละเมิดอธิปไตย ทั้งนี้ ได้เตรียมการป้องกันและปกป้องอธิปไตยอย่างเต็มที่ โดยใช้มาตรการต่างๆ และอำนาจทางการทหารอย่างเหมาะสม ซึ่งหากฉุกเฉินทหารสามารถปฏิบัติการได้ทันที โดยให้ยึดหลักกฎหมายระหว่างประเทศ […]

“กรุงไทย” แจ้งปิดบริการสาขาในพื้นที่เสี่ยงเป็นการชั่วคราว

24 ก.ค. – ธนาคารกรุงไทยขอแจ้งปิดบริการสาขาในพื้นที่เสี่ยงเป็นการชั่วคราว ตั้งแต่วันที่ 24 กรกฎาคม 2568 เป็นต้นไป เนื่องจากสถานการณ์ความไม่สงบ บริเวณชายแดนไทย-กัมพูชา เพื่อความปลอดภัยของลูกค้า และประชาชน ประกอบด้วย 14 สาขา ดังนี้ ทั้งนี้ ลูกค้าสามารถใช้บริการได้ที่สาขาใกล้เคียง โดยค้นหาสาขาได้ที่ https://krungthai.com/th/contact-us/ktb-location หรือทำธุรกรรมผ่าน Krungthai NEXT หรือ ตู้ ATM ของธนาคารกรุงไทย .-515-สำนักข่าวไทย

U.S.Embassy's statement on fighting on the Thailand-Cambodia border with border

สถานทูตสหรัฐเตือนชาวอเมริกันที่อยู่ใกล้ชายแดนไทย-กัมพูชา

กรุงเทพฯ 24 ก.ค. – สถานทูตสหรัฐประจำประเทศไทยแจ้งเตือนพลเรือนอเมริกันที่อาศัยหรือเดินทางใกล้ชายแดนไทย-กัมพูชา ให้ปฏิบัติตามคำสั่งของหน่วยงานความมั่นคงของไทย หลังเกิดเหตุปะทะบริเวณชายแดนไทย-กัมพูชา เว็บไซต์สถานทูตสหรัฐและสถานกงสุลในประเทศไทย แจ้งเตือนด้วยหัวเรื่อง “การสู้รบชายแดนไทย-กัมพูชา” ว่า สถานทูตฯ ได้รับรายงานในวันนี้ (24 กรกฎาคม 2568) เรื่องการสู้รบ ซึ่งรวมถึงการยิงจรวดและยิงปืนใหญ่ ระหว่างกองกำลังกัมพูชากับไทย ตามแนวพรมแดน มีรายงานผู้บาดเจ็บและเสียชีวิต และรัฐบาลไทยได้สั่งให้อพยพประชาชนในบางพื้นที่ ดังนั้น ขอให้พลเรือนอเมริกันที่อาศัยหรือเดินทางใกล้ชายแดนไทย-กัมพูชา ปฏิบัติตามคำสั่งของหน่วยงานความมั่นคงของไทย และขอข้อมูลล่าสุดจากทางการท้องถิ่นของไทย.-814.-สำนักข่าวไทย

จรวด BM21 ตกใส่บ้านประชาชน อ.กันทรลักษ์ พังยับ ไม่มีผู้บาดเจ็บ

ศรีสะเกษ 24 ก.ค. – จรวด BM21 ตกใส่บ้านเรือนประชาชน หมู่ 5 ต.เมือง อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ พังเสียหายทั้งหลัง แต่ไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บ โชคดีอพยพทัน ขณะที่ฝ่ายปกครองสั่งกำนันและผู้ใหญ่บ้าน แจ้งเตือนประชาชนรีบอพยพออกจากพื้นที่ทันที เพื่อความปลอดภัย เมื่อเวลา 14.50 น. วันนี้ (24 ก.ค.) จรวด BM21 พุ่งตกใส่บ้านเรือนประชาชนพื้นที่หมู่ 5 ต.เมือง อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ สร้างความเสียหายรุนแรง บ้านพังเสียหายทั้งหลัง โดยบ้านที่ได้รับความเสียหายคือบ้านของนายนารี ผาแก้ว จากการสอบถามเบื้องต้น ลูกเขยของเจ้าของบ้าน เปิดเผยว่า ขณะเกิดเหตุไม่มีใครอยู่ในบ้าน เนื่องจากครอบครัวอพยพออกจากพื้นที่ไปก่อนแล้ว ในหมู่บ้านอพยพออกไปเกือบหมดแล้ว ถือว่าโชคดีที่ไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บหรือเสียชีวิต จุดเกิดเหตุอยู่ห่างจากปั๊ม ปตท. ที่เกิดเหตุไปก่อนหน้านี้ประมาณ 1.5 กิโลเมตร ขณะนี้ฝ่ายปกครองมีคำสั่ง “ด่วนที่สุด” ให้กำนันและผู้ใหญ่บ้าน ประกาศแจ้งเตือนประชาชนที่มีบ้านเรือนรอบพื้นที่หน่วยเฉพาะกิจฯ และ ตชด.224 ให้รีบอพยพออกจากพื้นที่ทันที เพื่อความปลอดภัย […]

1 58 59 60 61 62 64
...