ทั่วไทย

อ่างทอง 13 พ.ย.- ผงะ! คนขับแบ็คโฮขุดคลองที่อ่างทอง เจอศพสาวผมยาวลอยขึ้นอืด รีบแจ้งตำรวจพิสูจน์ เบื้องต้นมีรอยกระสุนทะลุขมับ แต่ไม่พบหลักฐานแสดงบุคคล เมื่อเวลา 12.30 น. วันนี้ (13 พ.ย.) ร.ต.อ.สมชัย  ภูลิลิตร รองสารวัตร (สอบสวน) สภ.โพธิ์ทอง จ.อ่างทอง รับแจ้งเหตุพบศพในคลองสายโพธิ์ทอง-วัดสามประชุม หมู่ 2 ต.บางระกำ อ.โพธิ์ทอง จึงประสานแพทย์และหน่วยกู้ภัยร่วมตรวจสอบสภาพศพเริ่มอืด เบื้องต้นพบว่าเป็นหญิง ผมยาว อายุประมาณ 40 ปี มีรอยกระสุนที่ขมับซ้ายทะลุขวา คาดว่าเสียชีวิตมาไม่ต่ำกว่า 3 วัน ชายวัย 58 ปี คนขับรถแบ็คโฮให้การว่า ขณะขุดลอกคลองสังเกตเห็นบางสิ่งลอยอยู่ คิดว่าเป็นถุงขยะจึงไม่ได้เอะใจ กระทั่งขุดไปเรื่อย ๆ จึงพบว่าเป็นร่างคน และรีบโทรแจ้งเจ้าหน้าที่ ร.ต.อ.สมชัย กล่าวว่า จากการสอบถามชาวบ้านละแวกดังกล่าวไม่มีใครรู้จักหรือเห็นหน้าผู้เสียชีวิตมาก่อน และการตรวจค้นหาหลักฐานก็ไม่พบในตัวผู้เสียชีวิต มีเพียงแหวนทองสวมติดนิ้ว และไม่น่าจะเป็นการฆ่าชิงทรัพย์ เจ้าหน้าที่ได้นำศพส่งชันสูตรยังโรงพยาบาลธรรมศาสตร์เฉลิมพระเกียรติ เพื่อผ่าพิสูจน์หาสาเหตุการเสียชีวิตให้ชัดเจน.-สำนักข่าวไทย

ผู้ว่าฯ กาฬสินธุ์ กำชับเจ้าหน้าที่เร่งหาตัวโจรย่องขโมยข้าวเปลือกชาวบ้าน คาดเป็นวัยรุ่นในพื้นที่

ประจวบคีรีขันธ์ 13 พ.ย.- อช.แก่งกระจานเร่งเก็บพืชผลถูกกองทิ้งริมถนนหนองพลับ-ป่าละอู หวั่นสัตว์ป่าหากินทางธรรมชาติเปลี่ยนพฤติกรรม ส่วนช้างป่าสู้กันเมื่อ 2 วันก่อน พบงาหักตกอยู่แจ้งตำรวจลงบันทึกเป็นหลักฐานแล้ว เก็บรักษาไว้ที่อุทยานฯ นายมานะ เพิ่มพูล หัวหน้าอุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน จ.เพชรบุรี พร้อมเจ้าหน้าที่หน่วยพิทักษ์อุทยานเขาหุบเต่า (กจ.7 ) ออกตรวจพื้นที่กรณีมีขบวนรถที่จะเดินทางไปทอดกฐินผ่านถนนสายหนองพลับ-ป่าละอู  กม.ที่ 21 มุ่งหน้า ต.ห้วยสัตว์ใหญ่ อ.หัวหิน จ.ประจวบคีรีขันธ์ ต้องหยุดจอด เนื่องจากพบช้างป่า 2 ตัว ใช้หัวดันกันไปมาประมาณ 20 นาที เมื่อวันที่ 11 พฤศจิกายนที่ผ่านมา ล่าสุดงาช้างหักอยู่ในพื้นที่ จึงนำไปลงบันทึกประจำวันกับพนักงานสอบสวน สภ.บ้านหนองพลับ อ.หัวหิน ก่อนนำไปเก็บรักษาไว้ที่อุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน นายมานะ กล่าวว่า สาเหตุที่ช้างสู้กันอาจเป็นช่วงฤดูที่ช้างรวมกลุ่มฝูงและตกมัน บางตัวไม่สามารถเข้ากลุ่มได้ ทำให้ประลองกำลังกันเพื่อชิงเป็นเจ้าของพื้นที่ ทั้งพื้นที่หากินที่อยู่อาศัยและโขลงช้าง นอกจากนี้ ยังพบผักผลไม้ถูกนำมากองไว้สองข้างทาง น่าจะเหลือจากการจำหน่ายแล้วนำทิ้งไว้เพื่อให้สัตว์ป่า การทำเช่นนี้ไม่ถูกต้องเพราะทำให้พฤติกรรมสัตว์เปลี่ยนไปในการหากินตามธรรมชาติ และออกมาหากินนอกเขต หรือริมถนน ส่งผลให้สัตว์มีความเสี่ยงอาจถูกรถชนตายหรือบาดเจ็บ พร้อมกันนี้ขอฝากเตือนการเดินทางในระยะนี้เป็นช่วงปลายฝนต้นหนาว ซึ่งช่วงเช้ามืดมีหมอกหนาจัด ขอให้การขับขี่ชะลอความเร็ว […]

เจ้าหน้าที่ไทยและมาเลเซียสนธิกำลังงมหาศพนายมูหะหมัด ซายูตี บินนาวี อายุ 38 ปี ชาวมาเลเซีย ที่กระโดดแม่น้ำสุไหงโก-ลก จ.นราธิวาส หลบหนีการจับกุมของเจ้าหน้าที่ชุดปราบปรามยาเสพติด

รถพ่วงชน จยย.กลางแยกปากท่อ จ.ราชบุรี ลากไปไกล 100 เมตร มีผู้เสียชีวิต 2 ราย

หนุ่มเทคนิคช่างยนต์ ปี 2 ขับรถจักรยานยนต์ไปเรียน ระหว่างทางโรคลมชักกำเริบเฉียบพลัน จนรถพุ่งข้ามเลนชนร้านโชห่วย ชาวบ้านและกู้ชีพเข้าช่วยเหลือ

ที่จังหวัดชลบุรี เกิดเหตุยายวัย 65 ปี ถูกประตูรั้วเหล็กล้มทับ ส่วนสาเหตุคาดว่าผู้บาดเจ็บพยายามเลื่อนประตู เนื่องจากเกรงว่าจะล้มทับสุนัข แต่สุดท้ายล้มทับตัวเองบาดเจ็บ

เชียงใหม่ 13 พ.ย.- รอง ผอ.สนามบินเชียงใหม่ รับมือโคมลอย-โคมควันปล่อยเทศกาลยี่เป็ง เพิ่มความถี่ตรวจตรารันเวย์ เผยปีที่แล้วพบซากโคมน้อยลงจากผลรณรงค์เข้มข้น ขณะที่สายการบินปรับเปลี่ยนเวลาบินแล้ว 148 เที่ยวบิน เชื่อไม่กระทบท่องเที่ยว แจ้งประชาชนรู้ล่วงหน้า เรืออากาศโทธนันท์รัฐ ประเสริฐศรี รองผู้อำนวยการท่าอากาศยานเชียงใหม่ บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) เปิดเผยถึงการปล่อยโคมลอยในช่วงเทศกาลยี่เป็งหรือลอยกระทงว่า ปีนี้ท่าอากาศยานเชียงใหม่เตรียมมาตรการรับมือไว้แล้ว โดยจะเพิ่มรอบตรวจทางวิ่งทางขับให้ถี่ขึ้น จากเดิมวันละ 4 ครั้ง เป็น 10 ครั้ง และเพิ่มรอบการตรวจลานจอดอากาศยานจากเดิมวันละ 6 ครั้ง เป็น 10 ครั้ง เพื่อจัดเก็บซากโคมที่อาจถูกกระแสลมพัดเข้ามาตกในเขตการบิน  รวมทั้งจัดเจ้าหน้าที่เฝ้าเก็บโคมลอยและโคมควันทันที เมื่อได้รับแจ้งจากหอบังคับการบินหรือนักบิน อย่างไรก็ตาม จากการที่ทุกฝ่ายได้ร่วมกันรณรงค์อย่างต่อเนื่องในการปล่อยโคมลอยและโคมควัน พบว่าสถิติโคมลอยที่พัดเข้ามาตกในเขตการบินมีจำนวนลดลง โดยปี 2560 พบจำนวน 108 ลูก เมื่อเทียบกับสถิติที่พบมากสุดในปี 2556 จำนวน 1,425 ลูก เรืออากาศโทธนันท์รัฐ กล่าวด้วยว่า ลองกระทงปีนี้ช่วงวันที่ 21-23 […]

ประจวบคีรีขันธ์ 13 พ.ย.- คืนสู่ปกติ! อุทยานฯ กุยบุรี ประจวบคีรีขันธ์ เปิดท่องเที่ยวจุดชมวิวแล้ว ชมช้างป่าและสัตว์ป่าตามธรรมชาติ หลังประกาศปิดช่วงฝนถล่มหนัก น้ำป่าหลากท่วมเส้นทาง  นายทัศเนศวร์ เพ็ชรคง หัวหน้าอุทยานแห่งชาติกุยบุรี จ.ประจวบคีรีขันธ์ เปิดเผยว่า หลังจากประกาศปิดการท่องเที่ยวชมสัตว์ป่าชั่วคราวบริเวณจุดชมวิวห้วยลึก – ป่ายาง ตั้งแต่วันที่ 9 พ.ย.เป็นต้นมา เนื่องจากเส้นทางได้รับผลกระทบจากฝนตกต่อเนื่องในพื้นที่อุทยานฯ  ซึ่งมีเส้นทางที่ต้องผ่านลำห้วย 4 จุด และมีน้ำป่าไหลหลากระดับน้ำสูง 70 เซนติเมตร รถยนต์ไม่สามารถผ่านได้ แต่ล่าสุดระดับน้ำทั้ง 4 จุด ลดลงกลับสู่ภาวะปกติ จึงเปิดการท่องเที่ยวให้ประชาชนเข้าชมช้างป่าและสัตว์ป่าที่ออกมาหากินตามธรรมชาติในผืนป่าที่สวยงามช่วงปลายฝนต้นหนาว.-สำนักข่าวไทย