นายกฯ ปัดตอบรวมไทยสร้างชาติ รวมเรื่องนิรโทษกรรมไว้หรือไม่

รัฐสภา 3 ก.ค.-พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม กล่าวถึงความคืบหน้าเกี่ยวกับการเดินหน้าตามแผน “รวมไทยสร้างชาติ” ว่า ได้มีการพูดคุยทั้งหมดแล้ว ทั้งที่เป็นสมาคม และหน่วยงานต่าง ๆ ซึ่งวันนี้ต้องรวมใจคนทุกกลุ่มทุกฝ่าย มาร่วมกันสร้างชาติ หรือแม้กระทั้งในสภาฯ ก็ต้องรวมใจกัน เพราะหากจะคุยแต่เรื่องอุปสรรค ปัญหา และงบประมาณ อาจทำให้การดำเนินการด้านอื่น ๆ ต้องล่าช้า ทั้งนี้ นายกรัฐมนตรี ปฏิเสธให้ความเห็น ว่าการรวมไทยสร้างชาติจะมีประเด็นการเมือง โดยเฉพาะเรื่องการนิรโทษกรรมร่วมด้วยหรือไม่ โดยนายกรัฐมนตรี กล่าวเพียงว่า “จะนิรโทษใคร”.-สำนักข่าวไทย

นายกฯ ประเมินท่องเที่ยวช่วงวันหยุดเงินสะพัดหลายหมื่นล้าน

นายกรัฐมนนตรี เผย เร่งกระตุ้นเศรษฐกิจหลังงบฯ 64 ผ่านสภา เน้นการใช้จ่ายในประเทศ และเร่งการลงทุนภาครัฐ ประเมินการท่องเที่ยวช่วงวันหยุดยาวเงินสะพัดหลายหมื่นล้านบาท

วัดซ้ำรอบ 3 คนอุณหภูมิสูงเข้าสภาฯ ไม่เจอไข้

รัฐสภา 3 ก.ค.- สภาฯ ยอมรับพบคนอุณหภูมิสูงจริง แจงอาจเพราะสภาพอากาศร้อน วัดรอบ 2 ไม่เจอไข้ เรียกเชื่อมั่น พาเจ้าตัววัดรอบ 3 โชว์สื่อซ้ำอีก 2 ครั้ง  นพ.สุกิจ อัถโถปกรณ์ ที่ปรึกษาประธานสภาผู้แทนราษฎร กล่าวถึงกรณีเจ้าหน้าที่พบบุคคลที่อุณหภูมิสูง 37.6 องศาเซลเซียสเข้ามาในพื้นที่อาคารรัฐสภา ว่ารัฐสภาพบบุคคลที่มีอุณหภูมิเกินกำหนดจริง แต่ได้ตรวจซ้ำรอบที่สองแล้วพบว่าอุณหภูมิลดลงผ่านเกณฑ์  ซึ่งการที่อุณหภูมิสูงเกิน อาจเกิดจากสภาพอากาศภายนอกที่มีอุณหภูมิสูง ไม่ได้ปล่อยปละละเลยให้บุคคลที่มีอุณหภูมิสูงเข้ามาโดยไม่ได้ตรวจสอบ ผู้สื่อข้าวรายงานว่า นพ.สุกิจพร้อมทีมแพทย์ประจำรัฐสภา ได้นำบุคคลดังกล่าวมาวัดอุณหภูมิด้วยเครื่องเทอร์โมสแกนอีก 2 ครั้งต่อหน้าสื่อมวลชน พบว่าครั้งแรก อุณหภูมิ 36.4 องศาเซลเซียส และครั้งที่ 2 อุณหภูมิ 36.1 องศาเซลเซียส ซึ่งถือว่าผ่านเกณฑ์ และจากการสอบถามอาการ ยืนยันว่าบุคคลดังกล่าวไม่มีความสุ่มเสี่ยงที่จะติดเชื้อโควิด-19 หรือเกี่ยวข้องกับผู้ป่วยติดเชื้อ ซึ่งเรื่องนี้จะเป็นบทเรียนในการควบคุมมาตรการคัดกรองให้เข้มข้นมากขึ้น เพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อโควิด-19.-สำนักข่าวไทย  

เลขาสภาฯ ปัดให้หญิงอุณหภูมิสูง 37.6 เข้าสภาฯ

“สรศักดิ์ เพียรเวช” แจงสภาไม่ได้ให้ผู้หญิงที่อุณหภูมิสูง 37.6 เข้ามายังรัฐสภา เจ้าหน้าที่ตรวจวัดซ้ำ และสอบถามอาการอย่างละเอียด ยันการ์ดไม่ตก แต่รับไม่ได้ให้บุคคลสแกน QR Code แพลตฟอร์มรัฐสภาจริงใจ ปลอดภัยไร้โควิด ก่อนเข้าพื้นที่เหมือนช่วงแรก กำชับเจ้าหน้าที่ตรวจป้องกันโควิด-19 เข้ม

“อนุทิน” ย้ำยังไม่อนุญาตให้คนต่างชาติเข้ามารักษาตัวในไทย

รมว.สาธารณสุข เผยยังไม่พิจารณาให้คนต่างชาติเดินทางเข้ามารักษาตัวที่โรงพยาบาลในไทย ต้องรอผลการหารือกับ ศบค.อย่างรอบคอบ เพราะมีหลายประเทศโควิด-19 กลับมาระบาดรอบสอง ส่วนการผ่อนคลายกิจการ กิจกรรม เฟส 6 ต้องรอดูผลจากเฟส 5 ก่อน

ฝ่ายค้านพุ่งเป้าประเด็นเศรษฐกิจ

วันที่ 3 ของการพิจารณาร่าง พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ 2564 ฝ่ายค้านพุ่งเป้าประเด็นเศรษฐกิจ แย้มมีข้อมูลเด็ด ก่อนจะลงรับหลักการวาระแรกหรือไม่ คืนนี้

เทวัญแจงรัฐจัดสรรงบประมาณเท่าเทียมไม่เน้นเฉพาะความมั่นคง

รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ยืนยันรัฐบาลจัดสรรงบประมาณเท่าเทียมทุกด้าน ให้ความสำคัญกับพุทธศาสนา จัดงบทั่วถึงดูแลจิตใจประชาชน ไม่ได้เน้นแต่ความมั่นคง

ศบค.ย้ำช่วงวันหยุดยาวต้องเที่ยวอย่างมีสติเพื่อความปลอดภัย

ศบค.ย้ำช่วงวันหยุดยาวต้องเที่ยวอย่างมีสติเพื่อความปลอดภัย ห่วงกลุ่มกิจการที่มีความเสี่ยงสูง ไม่อยากให้ต้องปิดกิจการอีก

โฆษก ศบค. ห่วงโรคประจำฤดูกาลกับเด็กช่วงเปิดเทอม

โฆษก ศบค. ห่วงโรคประจำฤดูกาลกับเด็กช่วงเปิดเทอม ขอผู้ปกครองฝึกเด็กสวมหน้ากากอนามัยป้องกันให้เคยชิน ยังตอบไม่ได้ว่าจะกลับมาเรียนตามปกติได้เมื่อไร

ไม่มีคนไทยได้รับผลกระทบจากเหตุเหมืองหยกถล่ม

กรุงเทพฯ 3 ก.ค.-โฆษกกต.เผยไม่มีคนไทยได้รับผลกระทบจากเหตุเหมืองหยกในรัฐคะฉิ่น เมียนมาถล่ม  นายเชิดเกียรติ อัตถากร อธิบดีกรมสารนิเทศและโฆษกกระทรวงการต่างประเทศ เปิดเผยกรณีเหมืองหยกในเมืองพะกาน รัฐคะฉิ่น ทางภาคเหนือของประเทศเมียนมาถล่ม วานนี้ (2 ก.ค.) หลังฝนตกหนัก เป็นเหตุให้คนงานเหมืองถูกฝังอยู่ใต้ดินโคลน และเสียชีวิตจำนวนมากกว่า 100 คน ว่า เบื้องต้นยังไม่มีรายงานว่าคนไทยได้รับผลกระทบ จากกรณีดังกล่าว.-สำนักข่าวไทย  

ตั้งคณะทำงานโครงการผลิตน้ำจืดจากน้ำทะเลพื้นที่ EEC

ทำเนียบรัฐบาล 3 ก.ค.-“พล.อ.ประวิตร” ประชุมอนุกรรมการขับเคลื่อนโครงการขนาดใหญ่ ฯ เร่งรัดสทนช.ตั้งคณะทำงานติดตามแผนพัฒนาแหล่งน้ำ 17 โครงการสำคัญ พร้อมตั้งคณะทำงานพัฒนาโครงการผลิตน้ำจืดจากน้ำทะเลพื้นที่ EEC ให้เกิดผลเป็นรูปธรรมโดยเร็ว พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ฝ่ายความมั่นคง เป็นประธานการประชุมคณะอนุกรรมการขับเคลื่อนโครงการขนาดใหญ่และโครงการสำคัญ ครั้งที่ 2/2563 โดยมีนายสมเกียรติ ประจำวงษ์ เลขาธิการสำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ (สทนช.) และผู้แทนจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าร่วมประชุม เพื่อรับทราบความก้าวหน้าการขับเคลื่อนโครงการขนาดใหญ่ และร่วมกันพิจารณาทบทวนเป้าหมายขับเคลื่อนโครงการสำคัญ รวมถึงปรับปรุงเร่งรัดแผนงานก่อสร้างภายใต้โครงการพัฒนาแหล่งน้ำและการจัดการทรัพยากรน้ำภาคตะวันออกรองรับเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (EEC) ก่อนให้คณะกรรมการทรัพยากรน้ำแห่งชาติ (กนช.) พิจารณาในวันที่ 22 กรกฎาคมนี้ พล.อ.ประวิตร กล่าวว่า ความต้องการใช้น้ำของทุกภาคส่วนมีปริมาณเพิ่มมากขึ้นในแต่ละปี เนื่องจากการขยายตัวทางด้านสังคมและเศรษฐกิจของประเทศ โดยเฉพาะเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (EEC) ในพื้นที่จังหวัดระยอง ชลบุรี และฉะเชิงเทรา ที่มีแผนพัฒนาพื้นที่เพื่อรองรับการเจริญเติบโตทุกด้าน ทำให้มีความเสี่ยงต่อการขาดแคลนน้ำอุปโภคบริโภคในอนาคต รัฐบาลได้มอบหมายให้สทนช.จัดทำแผนการพัฒนาแหล่งน้ำและการจัดการทรัพยากรน้ำในพื้นที่ดังกล่าว 38 โครงการ สามารถเพิ่มปริมาณน้ำต้นทุนได้ถึง 872 ล้านลูกบาศก์เมตร โดยได้รับจัดสรรงบประมาณขับเคลื่อนแล้ว 16 โครงการ  “เมื่อเสร็จตามแผนงานก่อสร้าง ปี 2565 […]

1 1,438 1,439 1,440 1,441 1,442 1,575
...