นนทบุรี 23 พ.ค. – รมว. เกษตรฯ สั่งกรมชลประทานดำเนินการตามมาตรการรับมือฤดูฝน 67 ย้ำต้องบริหารจัดการสถานการณ์น้ำให้สอดคล้องกับทั้งภาวะฝนตกชุกและฝนทิ้งช่วงตามคาดการณ์ของกรมอุตุนิยมวิทยา ส่วนการแก้ปัญหาพนังแม่น้ำเจ้าพระยาบริเวณบางกรวยทรุด จะเริ่มทำทำนบกึ่งถาวรให้เสร็จใน 30 วันเพื่อป้องกันน้ำไหลเข้าที่อยู่อาศัยริมน้ำในฤดูฝนนี้ ร้อยเอกธรรมนัส พรหมเผ่า รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์กล่าวว่า สั่งการให้นายชูชาติ รักจิตร อธิบดีกรมชลประทานดำเนินการตามมาตรการรับมือฤดูฝน 2567 โดยเน้นย้ำให้บริหารจัดการน้ำให้สอดคล้องกับทั้งภาวะฝนตกชุกและฝนทิ้งช่วงตามที่กรมอุตุนิยมวิทยาคาดการณ์ว่า เมื่อเข้าสู่ฤดูฝน ทั้งปริมาณและการกระจายของฝนจะเพิ่มขึ้น แต่กลางเดือนมิถุนายนถึงกลางเดือนกรกฎาคมฝนจะทิ้งช่วง จากนั้นช่วงเดือนสิงหาคมและกันยายนฝนจะตกชุกหนาแน่น โดยอาจมีพายุหมุนเขตร้อนเคลื่อนตัวเข้าสู่ประเทศไทย 1 – 2 ลูก ประกอบกับในห้วงนั้นจะเข้าสู่ภาวะลานีญากำลังอ่อน ดังนั้นจะต้องบริหารจัดการน้ำให้เหมาะสมเพื่อลดผลกระทบต่อประชาชนทั้งจากน้ำท่วมและขาดแคลนน้ำ สิ่งที่เน้นย้ำคือ ให้เร่งเก็บกักน้ำเนื่องจากในฤดูร้อนที่ผ่านมา อุณหภูมิสูงมากส่งผลให้น้ำทั้งในอ่างเก็บน้ำและแหล่งน้ำธรรมชาติระเหยอย่างรวดเร็วและต่อเนื่อง การเก็บกักน้ำจะช่วยให้สถานการณ์น้ำต้นทุนปี 2567 ดีกว่าปีที่แล้ว ร้อยเอกธรรมนัสกล่าวถึงการแก้ปัญหาพนังคอนกรีตป้องกันตลิ่งริมแม่น้ำเจ้าพระยาบริเวณตำบลบางกรวย อำเภอบางกรวย จังหวัดนนทบุรีทรุดตัวว่า กรมชลประทานจะเข้าสร้างทำนบชั่วคราวในวันนี้ โดยกรมชลประทานขอความอนุเคราะห์กับเจ้าของที่ดินที่อยู่บริเวณใกล้เคียงเพื่อขอใช้ที่ดินในการจัดทำแนวทำนบกึ่งถาวรซึ่งคาดว่า จะแล้วเสร็จภายใน 30 วันเพื่อป้องกันไม่ให้น้ำไหลเข้าที่อยู่อาศัยในห้วงน้ำทะเลหนุนตลอดฤดูฝนนี้ พร้อมขอความร่วมมือผู้ใช้เรือไม่ใช้พนังคอนกรีตตลอดแนวในการผูกเรือเพื่อจอดเทียบ เนื่องจากอาจทำให้โครงสร้างของพนังคอนกรีตเกิดการชำรุดได้ กระทรวงเกษตรฯ จะตั้งคณะกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริงถึงสาเหตุที่พนังคอนกรีตดังกล่าวทรุดตัว จากนั้นจะจัดสร้างพนังป้องกันตลิ่งถาวรต่อไป กรมชลประทานรายงานสถานการณ์น้ำอ่างเก็บน้ำ โดยมีปริมาณน้ำรวม 41,206 ล้าน […]