กรุงเทพฯ 12 ส.ค. – กรมบัญชีกลาง เตรียมร่วมกับคลังจังหวัด-แบงก์รัฐ เปิดรับลงทะเบียนบัตรสวัสดิการรอบใหม่ 5 กันยายน – 19 ตุลาคม 65 เพื่อใช้สิทธิผ่านบัตรประจำตัวประชาชนแบบสมาร์ทการ์ด
นางสาวกุลยา ตันติเตมิท อธิบดีกรมบัญชีกลาง เปิดเผยว่า หลังจากกระทรวงคลัง เตรียมเปิดลงทะเบียนเพื่อสวัสดิการแห่งรัฐ ปี 2565 ตั้งแต่วันที่ 5 กันยายน – 19 ตุลาคม 2565 ผ่านช่องทางเว็บไซต์ https://บัตรสวัสดิการแห่งรัฐ.mof.go.th หรือ http://welfare.mof.go.th อีกทั้ง ครม. ยังมอบหมายให้คณะผู้บริหารการคลังประจำจังหวัด (คบจ.) และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องบูรณาการ เป็นหน่วยงานรับลงทะเบียน ได้แก่ สำนักงานคลังจังหวัด 76 จังหวัด สำนักงานเขตกรุงเทพมหานคร 50 เขต ที่ว่าการอำเภอทุกอำเภอ สำนักงานเมืองพัทยา สาขาธนาคารออมสิน ธ.ก.ส. ธนาคารกรุงไทยทุกสาขา และตั้งหน่วยบริการ ณ จุดต่าง ๆ รวมทั้งสิ้นกว่า 8,000 แห่ง รองรับผู้ถือบัตรสวัสดิการฯ รายเดิม และรายใหม่ที่ต้องการเข้าร่วมโครงการต้องลงทะเบียนใหม่ทุกราย ช่วงเวลาในการเปิดรับลงทะเบียน หากตรงกับวันเสาร์ – วันอาทิตย์ หรือวันหยุดราชการ จะขึ้นอยู่กับการพิจารณาของหน่วยงานรับลงทะเบียนแต่ละแห่ง
โดยกระทรวงการคลังจะพิจารณาคุณสมบัติทั้งรายบุคคลและครอบครัวของผู้ลงทะเบียนตามเกณฑ์ที่กำหนด หากลงทะเบียนและได้รับสิทธิ จะต้องใช้สิทธิผ่านบัตรประจำตัวประชาชนแบบสมาร์ทการ์ด ทั้งนี้ บัตรสวัสดิการแห่งรัฐของผู้มีสิทธิปัจจุบันจะสามารถใช้สิทธิได้ถึงก่อนวันที่จะเริ่มใช้บัตรประจำตัวประชาชนในโครงการลงทะเบียนเพื่อสวัสดิการแห่งรัฐ ปี 2565 โดยกำหนดการสมัครเข้าร่วมโครงการกระทรวงการคลังจะประกาศให้ทราบต่อไป
“อธิบดีกรมบัญชีกลางกล่าวย้ำในตอนท้ายว่า กรมบัญชีกลางมีความมุ่งมั่นที่จะพัฒนา ปรับปรุงระบบงานของกรมบัญชีกลางในทุกมิติให้มีความทันสมัย สอดรับกับสถานการณ์ในปัจจุบัน ที่สำคัญยังต้องมีความโปร่งใส และตรวจสอบได้ อีกทั้งส่งเสริมการนำเทคโนโลยีดิจิทัลเข้ามามีบทบาทในงานด้านต่าง ๆ มากยิ่งขึ้น พร้อมเดินหน้าขับเคลื่อนภารกิจอย่างเต็มความภาคภูมิและสนับสนุนการดำเนินงานของรัฐบาลและกระทรวงการคลังอย่างเต็มประสิทธิภาพ ภายใต้กฎระเบียบที่เกี่ยวข้อง และวิสัยทัศน์ “กำกับดูแลและบริหารการใช้จ่ายเงินของแผ่นดินให้เกิดประโยชน์สูงสุด” #CGD_Regulator
กรมบัญชีกลาง ยังเร่งรัดติดตามการใช้จ่ายเงินงบประมาณปี 65 เบิกใช้จ่ายแล้ว 2.67 ล้านล้านบาท คิดเป็นร้อยละ 86.14 ของวงเงินงบประมาณ 3.1 ล้านล้านบาท แบ่งเป็น งบลงทุนใช้จ่ายแล้ว 459,180 ล้านบาท คิดเป็นร้อยละ 76.08 ของวงเงินงบประมาณ 603,510 ล้านบาท รายจ่ายประจำใช้จ่ายแล้ว 2.211 ล้านล้านบาท คิดเป็น ร้อยละ 88.57 ของวงเงินงบประมาณ 2.496 ล้านล้านบาท สำหรับงบเหลื่อมปีใช้จ่ายแล้ว 235,526 ล้านบาท คิดเป็น 98.74% ของวงเงินงบประมาณ 238,532 ล้านบาท .-สำนักข่าวไทย