สั่งพร้อมรับมือ เที่ยวบินเพิ่มหลังโควิด

กรุงเทพฯ 27 ก.ค.- “ศักดิ์สยาม” สั่ง กพท.-ทอท.เตรียมพร้อมรับมือผู้โดยสารเดินทางเข้าออกไทยเพิ่มขึ้น หลังโควิด-19 ซา ป้องกันปัญหาเที่ยวบินป่วนเหมือนยุโรป-สหรัฐอเมริกา พร้อมมีมติขยายมาตรการบรรเทาผลกระทบสายการบินจาก COVID-19 ต่อไปอีกในไตรมาส 3 คาดการณ์ปี 2566 มีผู้โดยสารต่างชาติเดินทางเข้าไทยกว่า 19 ล้านคน


นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการ กระทรวงคมนาคม ในฐานะประธานกรรมการการบินพลเรือน(กบร.) เปิดเผยว่า ได้สั่งการให้ สำนักงานการบินพลเรือนแห่งประเทศไทย(กพท.) ประสานผู้ประกอบการสายการบินทุกราย ท่าอากาศยานทุกแห่ง บริษัท วิทยุการบินแห่งประเทศไทย จำกัด รวมทั้งผู้ประกอบการอื่นที่เกี่ยวข้อง เตรียมความพร้อมเต็มที่ทุกมิติเพื่อรองรับปริมาณเที่ยวบินและผู้โดยสารที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง หลังพบระบบการขนส่งทางอากาศในยุโรปและสหรัฐอเมริกาโกลาหลหนักจากการเตรียมรับมือความต้องการเดินทางที่พุ่งสูงขึ้นอย่างรวดเร็วหลังโควิดคลี่คลายลง ซึ่งการเตรียมพร้อมเพื่อไม่ให้เกิดปัญหาดังกล่าวขึ้นในระบบการบินของประเทศไทย โดยเฉพาะในช่วงที่จะมีเที่ยวบินและผู้โดยสารเพิ่มขึ้นเป็นจำนวนมากในช่วงฤดูกาลท่องเที่ยวที่กำลังจะมาถึงในอีกไม่กี่เดือนนี้

“จากกรณีสนามบินทั่วยุโรปรวมทั้งในสหรัฐอเมริกาเกิดความโกลาหลอย่างหนักในช่วงนี้ โดยมีผู้โดยสารและสัมภาระตกค้างจากการยกเลิกเที่ยวบินและมีเที่ยวบินล่าช้าจํานวนมากตั้งแต่เดือนเมษายน 65 เป็นต้นมา โดยในยุโรปมีการยกเลิกเที่ยวบินไปแล้วเกือบแสนเที่ยวบิน ส่วนในสหรัฐอเมริกาก็มีการยกเลิกเที่ยวบินไปไม่น้อยกว่า 20,000 เที่ยวบินในช่วง 2 – 3 เดือนที่ผ่านมา นับตั้งแต่สถานการณ์โควิดคลี่คลายลง ทําให้มีปริมาณนักท่องเที่ยวและผู้โดยสารเพิ่มขึ้นมาก ในขณะที่ทั้งยุโรปและอเมริกาประสบปัญหาเนื่องจากขาดแคลนบุคลากรทางการบิน ซึ่งส่วนหนึ่งเกิดจากการปรับลดพนักงานไปเป็นจำนวนมาก นอกจากนั้น ในหลายประเทศยังมีการนัดหยุดงานของบุคลากรในอุตสาหกรรมการบิน ทําให้มีคนทํางานไม่เพียงพอ” นายศักดิ์สยามกล่าว


นายศักดิ์สยาม กล่าวต่อว่า และจากนโยบายการผ่อนคลายเงื่อนไขในการเดินทางเข้าประเทศ ทำให้จำนวนผู้โดยสารทั้งในประเทศและระหว่างประเทศเริ่มฟื้นตัว แต่ผู้ประกอบการสายการบินยังคงได้รับผลกระทบ ส่งผลกระทบต่อต้นทุนการดำเนินงานของสายการบิน ดังนั้น เพื่อสนับสนุนการแบ่งเบาภาระค่าใช้จ่ายให้กับสายการบิน ให้สามารถฟื้นตัวจากผลกระทบจากสถานการณ์การแพร่ระบาดโควิด ที่ประชุม กบร. จึงมีมติให้ขยายมาตรการช่วยเหลือ สายการบินออกไปอีกในไตรมาสที่ 3/2565 พร้อมทั้งให้มีการทบทวนแผนแม่บทห้วงอากาศและการเดินอากาศแห่งชาติ รวมทั้งออก/ต่อใบอนุญาตผู้ประกอบกิจการการบินพลเรือน

สำหรับมาตรการช่วยเหลือผู้ประกอบการ สายการบิน ที่ประชุมมีมติให้ ทางบริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) (ทอท.) ขยายระยะเวลาปรับลดค่าบริการสนามบิน (Landing and Parking Charges) ลง 50% ทั้งเที่ยวบินภายในประเทศและเที่ยวบินระหว่างประเทศ และขยายเวลาการยกเว้นการจัดเก็บค่าบริการที่เก็บอากาศยาน (Parking Charge) ให้แก่สายการบินที่หยุดให้บริการชั่วคราว

ส่วนมาตรการทางการเงิน มีมติให้ กพท.ขยายระยะเวลาชำระหนี้ (Credit Terms) ค่าธรรมเนียมการเข้าหรือออกนอกประเทศ จาก 15 วันเป็น 90 วัน และยกเว้นเงินเพิ่ม (ค่าปรับ) ให้กับสายการบินที่นำส่งค่าธรรมเนียมการเข้าหรือออกประเทศล่าช้า ขณะที่ กรมท่าอากาศยาน (ทย.) ขยายระยะเวลาการปรับลดอัตราค่าเช่าสำหรับทุกกิจกรรมในอัตราค่าเช่า ไม่ต่ำกว่าที่กรมธนารักษ์กำหนด ตั้งแต่วันที่ 1 เมษายน – 31 ธันวาคม 2565


นายศักดิ์สยาม กล่าวต่อว่า สำหรับแนวโน้มของจำนวนผู้โดยสารต่างชาติที่จะเดินทางเข้ามายังประเทศไทย สถานการณ์การอ่อนค่าของเงินบาทจะเป็นปัจจัยส่งเสริมให้นักท่องเที่ยวต่างชาติเดินทางมาท่องเที่ยวในไทย มากยิ่งขึ้น เนื่องจากนักท่องเที่ยวสามารถแลกเปลี่ยนเงินดอลลาร์สหรัฐให้เป็นเงินบาทไทยในจำนวนที่มากขึ้น ในขณะเดียวกัน สถิติจากกองเศรษฐกิจการท่องเที่ยวและกีฬา กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา และประมาณการโดยธนาคารแห่งประเทศไทย ระบุว่า ช่วงตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม ถึง 20 พฤษภาคม 65 ที่ผ่านมา มีจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติที่เดินทางเข้ามายังประเทศไทยจำนวนทั้งหมด 1.08 ล้านคน ส่วนธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ได้คาดการณ์ว่าจะมีนักท่องเที่ยวต่างชาติในปี 65 เพิ่มขึ้นเป็นจำนวน 6 ล้านคน โดยในไตรมาสที่ 2 และ ไตรมาสที่ 3 จะมีการเพิ่มขึ้นในอัตราที่ชะลอตัวลง เนื่องจากเป็นฤดูกาล Low season ของการท่องเที่ยว แต่จะเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วในไตรมาสที่ 4 เนื่องจากเป็น High season และในปี 66 คาดการณ์ว่าจะมีจำนวนนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติเพิ่มขึ้นเป็น 19 ล้านคน

ทั้งนี้ สำหรับกลุ่มผู้โดยสารชาวจีน ปัจจุบันรัฐบาลจีนเริ่มผ่อนคลายมาตรการการเดินทางระหว่างประเทศกับไทย แต่ยังคงอนุญาตให้เฉพาะการเดินทางที่จำเป็นในกลุ่มนักธุรกิจ นักเรียนและนักศึกษา โดยสำนักงานการบินพลเรือนแห่งสาธารณรัฐประชาชนจีน (CAAC) อนุญาตให้สายการบินของไทยและจีน ทำการบินแบบประจำรับขนส่งผู้โดยสารระหว่างไทยกับจีนฝ่ายละ 3 เที่ยวต่อสัปดาห์ ช่วงเดือนกรกฎาคม – ตุลาคม 2565 โดยจากจำนวนเที่ยวบินจะยังไม่ส่งผลมากต่อการเพิ่มปริมาณผู้โดยสารที่เดินทางเข้า-ออกประเทศไทย แต่ถือเป็นสัญญาณที่ดีสำหรับการเดินทางระหว่างประเทศกับกลุ่มตลาดใหญ่อย่างจีน และเป็นจุดเริ่มต้นให้ สายการบินของไทยได้เตรียมความพร้อมตามมาตรการสาธารณสุขของจีนด้วย หากสายการบินของไทยดำเนินการไปได้ด้วยดี ทางการจีนอาจเพิ่มจำนวนเที่ยวบินให้กับประเทศไทยต่อไป

นายศักดิ์สยาม กล่าวด้วยว่า กบร. ยังได้มีมติเห็นชอบการทบทวนแผนแม่บทห้วงอากาศและการเดินอากาศแห่งชาติ ซึ่งเป็นแผนหลักในการพัฒนาระบบห้วงอากาศและโครงสร้างพื้นฐานระบบการเดินอากาศของประเทศไทย ให้มีความสอดคล้องเหมาะสมกับสถานการณ์ในปัจจุบันมากยิ่งขึ้น โดยได้มีการปรับให้สอดคล้องกับยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี นอกจากนั้นยังได้มีมติเห็นชอบให้ออกใบอนุญาตประกอบกิจการการบินพลเรือนให้ผู้ประกอบการที่ยื่นคำขอจำนวน 2 ราย ได้แก่ บริษัทเอเซีย เอวิเอชั่น แอนด์ เทคโนโลยี จํากัด และบริษัทแอร์ อินเตอร์ ทรานสปอร์ต จำกัด รวมทั้งเห็นชอบให้ต่อใบอนุญาตฯ ให้ผู้ประกอบการจำนวน 4 ราย ประกอบด้วย บริษัทเอเชี่ยน แอโรสเปซ เซอร์วิส จํากัด บริษัทแอ๊ก โกลบอล จํากัด บริษัทวิทยุการบินแห่งประเทศไทย จํากัด และบริษัทเอ็มเจ็ท จํากัด ตามที่คณะกรรมการกลั่นกรองการออกใบอนุญาตประกอบกิจการการบินพลเรือนได้ตรวจสอบคุณสมบัติและพิจารณาให้ความเห็นชอบในเบื้องต้นมาแล้ว .-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

เก๋งซิ่งแหกโค้งชนเสาเหล็ก ไฟลุกไหม้คลอกคนขับดับสลด

ลพบุรี 6 มิ.ย. – เก๋งหรูซิ่งเสียงดังลั่น หมุนโชว์กลางสี่แยก ก่อนแหกโค้งชนเสาเหล็กป้ายข้างทางไฟลุกไหม้เสียหายทั้งคัน คลอกคนขับดับสลด เมื่อเวลา 03.30 น.ที่ผ่านมา ร.ต.ท.ชาตรี ทรัพย์นิยมพงศ์ ร้อยเวรสอบสวน สภ.เมืองลพบุรี รับแจ้งรถเก๋งชนเสาข้างถนน ไฟลุกไหม้ทั้งคัน บนถนนทางเข้าบ้านหนองน้ำทิพย์ หมู่ 7 ต.เขาพระงาม อ.เมืองลพบุรี พร้อมแจ้งรถน้ำดับเพลิงป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยเทศบาลตำบลเขาพระงาม รุดไปดับไฟ และเจ้าหน้าที่กู้ภัยมูลนิธิร่วมกตัญญู ร่วมตรวจสอบ จุดเกิดเหตุพบไฟกำลังลุกไหม้โหมทั่วไปทั้งคันรถ สังเกตดูเบื้องต้นคนขับติดอยู่ที่เบาะนั่งสภาพหมดสติ เจ้าหน้าที่เร่งระดมฉีดน้ำใช้เวลาประมาณ 15 นาที เพลิงสงบ จากการตรวจสอบด้านซ้ายรถชนอัดอยู่กับเสาเหล็กป้ายบอกทาง สภาพเหลือแต่ซาก เบื้องต้นพบเป็นรถเก๋งยี่ห้อยี่ห้อบีเอ็มดับเบิลยู ไม่ทราบสี-ทะเบียน ถูกไฟไหม้ เหลืออยู่ครึ่งป้าย ภายในรถพบร่างชายถูกไฟไหม้เกรียม ยังไม่ทราบชื่อว่าเป็นใครมาจากไหน สอบถามนางเล็ก ผู้เห็นเหตุการณ์ เล่าว่า ก่อนเกิดเหตุตนเองนั่งเฝ้าเครื่องสูบน้ำใกล้จุดเกิดเหตุ ได้ยินเสียงรถเก๋งคันดังกล่าวขับซิ่งมาจากแยกเขาพระงาม มุ่งหน้าไปทางโคกสำโรง เสียงท่ออย่างดังลั่น พอมาถึงสามแยกบ้านหนองน้ำทิพย์ ได้หมุนโชว์กลางแยก 1 รอบ จากนั้นขับไปยูเทิร์นกลับมาอีกรอบ เลี้ยวเข้าทางแยกหนองน้ำทิพย์ได้ประมาณ 300 เมตร […]

ตำรวจเร่งตามหาเจ้าของเงิน 12 ล้าน วางทิ้งข้างถังขยะ

นนทบุรี 6 มิ.ย. – ตำรวจเร่งตามหาเจ้าของเงินสด 12 ล้าน ในกล่องพลาสติก วางทิ้งข้างถังขยะคอนโดฯ ย่านเมืองทองธานี จากกรณีพลเมืองดีพบธนบัตรไทยจำนวนมาก ถูกซุกซ่อนอยู่ภายในกล่องพลาสติก บริเวณคอนโดฯ ย่านเมืองทองธานี จ.นนทบุรี เจ้าหน้าที่ตรวจสอบพบเอกสารเกี่ยวกับหนังสือรับรองการหักภาษี ณ ที่จ่ายและซองจดหมาย ปรากฏชื่อบุคคลและหน่วยงานรัฐในเอกสาร จึงได้ยึดธนบัตรดังกล่าวมาที่ สภ.ปากเกร็ด เพื่อพิสูจน์ว่าเป็นเงินอะไร ได้มาถูกต้องหรือไม่ และใครเป็นเจ้าของที่แท้จริง เบื้องต้นพบเป็นเงินสดจำนวน 12 ล้านบาท และเมื่อเจ้าหน้าที่นำสายรัดของธนบัตรดังกล่าวไปตรวจสอบ พบว่ามีการจ่ายเงินออกมาจำนวนดังกล่าวตั้งแต่ปี 2563    พลเมืองดีเล่าว่า เวลาประมาณ 20.00 น. ของเมื่อวานนี้ (5 มิ.ย.) ตนและเพื่อนเดินไปลิฟต์ที่ชั้น 4 ซึ่งข้างลิฟต์เป็นที่ทิ้งขยะ เห็นกล่องสภาพดีวางอยู่ ก็จะเก็บไปใช้ ซึ่งกล่องถูกเปิดแง้มเอาไว้และมีเสื้อผ้าวางทับด้านบน จึงเปิดดูพบเงินสดฉบับละ 1,000 บาท เป็นมัดๆ จำนวนมาก จึงโทรแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจเข้ามาตรวจสอบ ความคืบหน้าในการติดตามหาตัวคนที่นำกล่องเงินมาทิ้ง ตำรวจสืบสวน สภ.ปากเกร็ด ได้ลงพื้นที่ไล่ตรวจสอบกล้องวงจรปิดบริเวณจุดที่พบเพื่อหาเบาะแสคนที่นำกล่องพลาสติกมาทิ้ง เบื้องต้นยังไม่พบผู้ต้องสงสัย นอกจากนี้ยังได้พยายามติดต่อกับ นายทวีวัฒน์ […]

น้ำมันรั่วลงทะเล

สั่งเจ้าท่าระงับเหตุน้ำมันดิบรั่วไหลจากเรือ Phoenix Jamnagar

ชลบุรี 6 มิ.ย.- “มนพร” สั่งการกรมเจ้าท่าตั้งศูนย์ประสานงานแก้ไขปัญหาและควบคุมสถานการณ์น้ำมันดิบรั่วไหลจากเรือ Phoenix Jamnagar บริเวณท่าเรือบริษัทไทยออยล์ จำกัด (มหาชน) ศรีราชา จังหวัดชลบุรี นางมนพร เจริญศรี รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม สั่งการให้ นายกริชเพชร ชัยช่วย อธิบดีกรมเจ้าท่า ดำเนินการจัดตั้งศูนย์ประสานงานป้องกันและขจัดมลพิษทางน้ำเนื่องจากน้ำมัน เพื่อ ระงับเหตุน้ำมันดิบรั่วไหลจากเรือ Phoenix Jamnagar ซึ่งเป็นเรือบรรทุกน้ำมันดิบสัญชาติสิงคโปร์ หมายเลข IMO 9828962 โดยเหตุเกิดบริเวณทุ่นรับน้ำมันกลางทะเล (SBM2) ของบริษัทไทยออยล์ จำกัด (มหาชน) ในเขตพื้นที่ศรีราชา จังหวัดชลบุรี เหตุการณ์เกิดขึ้นเมื่อเวลา 00.54 น. โดยมีสาเหตุมาจากท่อส่งน้ำมันที่ชำรุด ส่งผลให้น้ำมันดิบรั่วไหลลงสู่ทะเลในปริมาณประมาณ 20 คิว หรือราว 20 ตัน กรมเจ้าท่าได้ดำเนินการประเมินสถานการณ์โดยเร่งดำเนินการจัดตั้งศูนย์ประสานงานฯ ณ โรงกลั่นน้ำมันของบริษัทไทยออยล์ จังหวัดชลบุรี เพื่อเป็นศูนย์กลางในการควบคุมเหตุการณ์ ทั้งนี้กรมเจ้าท่าในฐานะเลขานุการศูนย์ประสานงาน ได้ประสานกองทัพเรือจัดตั้งศูนย์บัญชาการเหตุการณ์ในการขจัดคราบน้ำมัน จากการสำรวจพื้นที่ พบว่าลักษณะของคราบน้ำมันเป็นคราบสีดำหรือน้ำตาลบาง ๆ […]

นักศึกษาเจอคอลเซ็นเตอร์ปั่นหัวถือมีดบุกโรงพัก

เชียงใหม่ 5 มิ.ย. – แก๊งคอลเซ็นเตอร์ หลอกนักศึกษาเชียงใหม่ สูญกว่า 2 ล้านบาท พ่อแม่เครียดหมดเนื้อหมดตัว บางรายถูกปั่นหัวให้ถือมีดบุกโรงพักเย้ยตำรวจ พบเฉพาะ สภ.ภูพิงค์ฯ มีเหยื่อโดนหลอกลักษณะนี้แล้วกว่า 300 ราย กล้องวงจรปิดบันทึกภาพนักศึกษาสาว ชั้นปีที่ 4 ขี่รถจักรยานยนต์มาจอดภายใน สภ.ภูพิงค์ราชนิเวศน์ อำเภอเมือง จังหวัดเชียงใหม่ จากนั้นเดินไปเข็นวีลแชร์ที่อยู่ตรงหัวมุมอาคาร แล้วก็เข็นไปเข็นมาอยู่อย่างนั้น ก่อนจะถือมีดไปที่บริเวณห้องรับแจ้งความ และอ้างว่า จะมาขอพบตำรวจนายหนึ่ง แต่ไม่มีชื่อนี้อยู่ที่โรงพัก จึงขอพบ พันตำรวจเอก มนัสชัย อินทร์เถื่อน ผู้กำกับ สภ.ภูพิงค์ราชนิเวศน์ เพราะไปฆ่าคนตายมา ขณะนั้น ตำรวจสืบสวนสังเกตเห็นว่า นักศึกษาสาวมีท่าทางหวาดระแวงใส่หูฟังเหมือนกับทำตามคำสั่งใครสักคนที่สั่งการจากปลายสาย ด้านตำรวจจึงชวนพูดคุยสอบถามสักพัก จนยอมวางมีดลง จากนั้น ตำรวจจึงขอให้ดึงหูฟังออก ปรากฏว่า นักศึกษาสาวกลับได้สติขึ้นมาว่า ชายที่สั่งการทางโทรศัพท์ไม่ใช่ตำรวจจริง เป็นแก๊งคอลเซ็นเตอร์ สั่งให้มาป่วนตำรวจ เนื่องจากไม่มีเงินโอนให้ เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 3 มิ.ย. ที่ผ่านมา ตำรวจจึงตรวจสอบพบว่า ในวันเดียวกัน […]

ข่าวแนะนำ

ระงับเดินทางเข้า-ออก จุดผ่านแดนถาวรบ้านแหลม-บ้านผักกาด ชั่วคราว

จันทบุรี 7 มิ.ย. – หน่วยเฉพาะกิจนาวิกโยธินจันทบุรี ออกหนังสือราชการ ระงับนักท่องเที่ยวไทย-กัมพูชา เดินทางผ่านเข้า-ออก จุดผ่านแดนถาวรบ้านแหลม – บ้านผักกาด ชั่วคราว ยกเว้นแรงงานกัมพูชาที่เข้ามาทำงานในไทย ผู้สื่อข่าว รายงานว่า นาวาเอกนพโรจน์ สิริปริยพงศ์ ผู้บังคับหน่วยเฉพาะกิจนาวิกโยธินจันทบุรี ลงนามในหนังสือราชการด่วนที่สุด แจ้งไปยังผู้กำกับการตรวจคนเข้าเมืองจังหวัดจันทบุรี เรื่อง ขอระงับนักท่องเที่ยวชาวไทย และชาวกัมพูชา เดินทางผ่านเข้า – ออก ณ จุดผ่านแดนถาวรฯ โดยอ้างอิงตามประกาศให้ใช้กฎอัยการศึก ในเขตพื้นที่จังหวัดจันทบุรี เฉพาะอำเภอขลุง อำเภอโป่งน้ำร้อน และอำเภอสอยดาว และตามมาตรา 5 แห่ง พระราชบัญญัติกฎอัยการศึก 2547 กำหนดให้เจ้าหน้าที่ฝ่ายทหาร มีอำนาจ เหนือเจ้าหน้าที่ฝ่ายพลเรือน เกี่ยวกับการยุทธ์ การระงับปราบปราม หรือการรักษาความสงบเรียบร้อย และ เจ้าหน้าที่ฝ่ายพลเรือนต้องปฏิบัติตามความต้องการของเจ้าหน้าที่ฝ่ายทหาร เนื่องจากปัจจุบันมีสถานการณ์อันเป็นภัยคุกคามจากประเทศกัมพูชา และอาจก่อให้เกิดความไม่ปลอดภัยต่อชีวิตและทรัพย์สินของประชาชนชาวไทย และประชาชนชาวกัมพูชา อาศัยอำนาจตามมาตรา 5 แห่งพระราชบัญญัติกฎอัยการศึก 2547 ขอให้ข้าราชการทุกกระทรวง ทบวง […]

มอบอำนาจ ผบ.กองกำลังบูรพา – สุรนารี คุมจุดผ่านแดนไทย–กัมพูชา

กองทัพบก 7 มิ.ย. – ทบ.ออกคำสั่งมอบอำนาจ ผบ.กองกำลังบูรพา และ ผบ.กองกำลังสุรนารี ควบคุมจุดผ่านแดนแนวชายแดนไทย–กัมพูชา ตามมติ สมช. พลตรี วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบก เปิดเผยว่า พลเอก พนา แคล้วปลอดทุกข์ ผู้บัญชาการทหารบก ได้ลงนามในคำสั่งกำหนดอำนาจให้ผู้บัญชาการกองกำลังบูรพา และผู้บัญชาการกองกำลังสุรนารี มีอำนาจในการควบคุมการเปิด–ปิดจุดผ่านแดนทุกประเภทตลอดแนวชายแดนไทย–กัมพูชา โดยสามารถพิจารณากำหนดมาตรการ หลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขที่จำเป็น ให้เหมาะสมกับสถานการณ์ตามลำดับขั้นความเข้มงวดในแต่ละพื้นที่ การดำเนินการดังกล่าวเป็นผลสืบเนื่องจากมติที่ประชุมสภาความมั่นคงแห่งชาติ เมื่อวันที่ 6 มิถุนายน 2568 ซึ่งมอบหมายให้กองทัพบกเป็นหน่วยหลักในการควบคุมการเปิด–ปิด จุดผ่านแดนทุกประเภท เพื่อรักษาความมั่นคงของชาติให้เหมาะสมกับสถานการณ์ และให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องถือปฏิบัติตามข้อกำหนดของกองทัพบกอย่างเคร่งครัด การออกมาตรการดังกล่าวสอดคล้องกับสถานการณ์ตลอดช่วงเวลาที่ผ่านมา ซึ่งฝ่ายกัมพูชารุกล้ำชายแดนไทยหลายครั้ง พร้อมแสดงท่าทียั่วยุอย่างเปิดเผย แม้ไทยจะใช้สันติวิธีและพยายามเจรจา แต่กัมพูชายังเสริมกำลังและจัดตั้งฐานทหารใกล้ชายแดน แสดงถึงความไม่ร่วมมือและเป็นภัยต่ออธิปไตยและความมั่นคงของไทย ทำให้ไทยจำเป็นต้องดำเนินมาตรการที่เหมาะสมเพื่อรักษาผลประโยชน์และความสงบเรียบร้อยของประชาชนตามแนวชายแดน สำหรับรายละเอียดทั้งหมดในคำสั่งดังกล่าวสามารถติดตามได้ผ่านช่องทางการสื่อสารทางการของกองทัพบกที่เว็บไซต์ www.rta.mi.th เพื่อให้ประชาชนได้รับข้อมูลที่ถูกต้องจากทางราชการ -313-สำนักข่าวไทย

ปปง. ร่วมสอบกรณีพบเงินต้องสงสัยถูกทิ้ง 12 ล้าน

7 มิ.ย.- ปปง. ร่วมตรวจสอบกรณีพบเงินสด 12 ล้าน วางทิ้งในกล่องข้างถังขยะคอนโดเมืองทองฯ ชี้ผู้อ้างเป็นเจ้าของเงินต้องชี้แจงรายละเอียดที่มาให้ได้ จากกรณีที่พลเมืองดี พบธนบัตรเงินสด 12 ล้านบาท ในกล่องพลาสติกสีเทา บริเวณคอนโดเมืองทองธานี อ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี พร้อมหนังสือรับรองการหักภาษี ณ ที่จ่าย และซองจดหมายเกี่ยวกับสำนักงาน กสทช. ซึ่งปรากฏชื่อในเอกสารดังกล่าว คือ นายทวีวัฒน์ และนายทวีวัฒน์ได้เข้าพบพนักงานสอบสวนแล้วระบุเป็นเจ้าของเงิน 12 ล้านดังกล่าว นายวิทยา นีติธรรม ผู้ช่วยเลขาธิการ ปปง. ในฐานะโฆษก ปปง. กล่าวถึงเหตุที่เกิดขึ้นว่า ขั้นตอนตามปกติหากพบเหตุสงสัย พนักงานสอบสวนอยู่ระหว่างรวบรวมพยานหลักฐาน ตรวจสอบข้อเท็จจริงทั้งหมด โดย ปปง. ได้ประสานการทำงานร่วมกับตำรวจอยู่แล้ว ซึ่งต้องสอบสวนคนที่อ้างว่าเป็นเจ้าของเงิน กับผู้เกี่ยวข้องทุกส่วน ทั้งธนาคาร และส่วนงานที่ผู้ที่อ้างเป็นเจ้าของเงินระบุถึง สุดท้ายเจ้าของต้องชี้แจงในรายละเอียดว่าเงินดังกล่าวได้มาอย่างไร ถ้าพนักงานสอบสวนรวบรวมว่า เกี่ยวข้องกับความผิดมูลฐานกฎหมายป้องกันและปราบปรามการฟอกเงินในข้อใด หรือทรัพย์ดังกล่าวอาจเกี่ยวกับการกระทำผิดตามกฎหมายฟอกเงินที่ปัจจุบันมี 28 มูลฐานความผิด การจะมีการประสานส่งเรื่องให้ ปปง. ตรวจสอบตามระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรี ขณะนี้ ปปง. […]

“อนุทิน” ย้ำไม่ย้ายกระทรวง ยึดข้อตกลงเดิม​ นายกฯ ให้ความมั่นใจแล้ว

สุวรรณภูมิ​ 7 มิ.ย.-“อนุทิน” ลั่นไม่มีอะไรต้องตกลงแล้ว ทุกอย่างจบตั้งแต่กินช็อกมินต์ หลังกระพือยึดเก้าอี้ มท.1 ชี้ “ภูมิใจไทย” ไม่ได้เดินไปขอร่วมรัฐบาล ย้ำชัดไม่ย้ายกระทรวงยึดข้อตกลงเดิม ระบุนายกฯ ก็ให้ความมั่นใจแล้ว ยอมรับกินข้าว รวมไทยสร้างชาติ แล้ว แต่คุยปมพลังงาน ยันไม่ต้องจับมือต่อรอง นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรี​ว่าการ​กระทรวงมหาดไทย ในฐานะหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย ให้สัมภาษณ์ กรณีกระแสข่าวการปรับคณะรัฐมนตรี (ครม.) ในส่วนของพรรคภูมิใจไทยโดยยืนยันว่ายังไม่มีการพูดคุยใดๆ ซึ่งเรื่องการปรับ ครม. หากมีการถามมายังพรรคภูมิใจไทย พรรคก็ยืนยันว่า ในส่วนของพรรคภูมิใจไทยไม่มีการปรับเปลี่ยนอะไร เพราะได้คุยในเบื้องต้นภายในพรรคแล้วว่ารัฐมนตรีทุกคนยังทำงานได้อย่างเต็มที่ กระทรวงที่กำกับดูแลในส่วนของพรรคภูมิใจไทย ก็ไม่มีการเปลี่ยนแปลงอะไร เมื่อถามว่า กระแสข่าวการเขย่าเก้าอี้แบบนี้แสดงให้เห็นว่ามีความต้องการกระทรวงมหาดไทยคืนใช่หรือไม่ นายอนุทิน กล่าวว่า ตนไม่มองว่าเรื่องนี้เป็นอย่างไร มันเขย่าไม่ได้ นี่เป็นรัฐบาลผสม และเป็นข้อตกลงที่เราหารือกันตั้งแต่เราตั้งรัฐบาลนายกฯ เศรษฐา ทวีสิน 2 ปีแล้ว และมายังรัฐบาล น.ส.แพทองธาร ชินวัตร รูปแบบนี้ก็ยังเหมือนเดิมไม่มีการเปลี่ยนแปลงอะไร ตรงนี้ไม่ใช่ว่าเป็นของใคร แต่เป็นข้อตกลงและเป็นรัฐบาลผสม ซึ่งทุกคนก็ทำงานอย่างเต็มที่ ที่มีข่าวบอกว่าคนนี้ทำงานดีหรือไม่ดี […]