ค่าไฟฟ้าเอฟทีงวดใหม่ (ก.ย.-ธ.ค.65) ขึ้นอีก 68.66 สต.

กรุงเทพฯ 27 ก.ค.- บอร์ด กกพ.มีมติขึ้นค่าไฟฟ้าเอฟทีงวดใหม่ (ก.ย.-ธ.ค.65) อัตราต่ำสุดใน 4 ทางเลือก โดยขึ้นอีก 68.66 สตางค์ เป็นอัตราที่ 93.43 สตางค์ต่อหน่วย ทำให้ค่าไฟฟ้ารวมค่าไฟฐานเฉลี่ยจะอยู่ที่ประมาณ 4.72 บาทต่อหน่วย กรณีใช้ไฟฟ้า 1,000 หน่วย/เดือน ค่าไฟฟ้าจะขึ้น 15%


สำนักงานคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน (สำนักงาน กกพ.) แจ้งว่า จะมีการแถลงแถลงข่าว “การพิจารณาค่าเอฟที สำหรับเดือนกันยายน – ธันวาคม 2565” ในวันจันทร์ที่ 1 สิงหาคม 2565 หลังจาก คณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน (กกพ.) วันนี้ (27 ก.ค.) เห็นชอบขึ้นอัตราต่ำที่สุด จากที่จัดรับฟังความเห็น 4 อัตรา โดยเลือกอัตราเอฟทีใหม่ 93.43 สตางค์ต่อหน่วย ขึ้นจากงวดปัจจุบัน 68.66 สตางค์ต่อหน่วย โดยอัตรานี้ ก็จะเป็นการสะท้อนต้นทุนเชื้อเพลิงเท่านั้น ยังไม่มีการชำระหนี้ ค่าเชื้อเพลิง กฟผ. ที่ราว 83,010 ล้านบาทแต่อย่างใด ตามที่ กฟผ.ทำหนังสือถึง กกพ. ว่า จะรับภาระ โดยจะกู้เงินมาเสริมสภาพคล่องไปก่อน

สำหรับกรณี ค่าเอฟที 93.43 สตางค์ต่อหน่วย เมื่อรวมค่าไฟฟ้าฐานแล้ว ค่าไฟปรับเพิ่มขึ้นเป็น 4.72 บาทต่อหน่วย หรือเพิ่มขึ้นร้อยละ 17 และเอฟทีที่เพิ่มขึ้นจะมีผลกระทบต่อภาระต้นทุนค่าเชื้อเพลิงและค่าซื้อไฟฟ้าที่ กฟผ.จะต้องรับภาระต้นทุนการผลิตไฟฟ้าที่เพิ่มสูงขึ้นแทนผู้ใช้ไฟฟ้า และผลกระทบต่อผู้ใช้ไฟฟ้าบ้านอยู่อาศัย ในกรณีใช้ไฟฟ้า 100 หน่วยต่อเดือน ค่าไฟฟ้าเฉลี่ยจะเพิ่มขึ้นราว 19% ค่าไฟฟ้าเฉลี่ย 4.34 บาทต่อหน่วย จ่ายค่าไฟฟ้า 434.68 บาท กรณีใช้ไฟฟ้า 300 หน่วยต่อเดือน ค่าไฟฟ้าจะขึ้น 17% หรือเฉลี่ย 4.80 บาทต่อหน่วย จ่ายค่าไฟฟ้า ราว 1,439 บาท และกรณี 1,000 หน่วยต่อเดือน ค่าไฟฟ้าจะขึ้น 15% หรือค่าไฟฟ้าเฉลี่ย 5.17 บาทต่อหน่วย จ่ายค่าไฟราว 5,100 บาทต่อเดือน


อย่างไรก็ตาม ทางกระทรวงพลังงาน มีนโยบายในการลดค่าไฟฟ้าต่อประชาชน โดยจะมีการนำเสนอของบประมารภาครัฐมาสนับสนุนต่อไป เช่น อาจจะใช้นโยบายเช่นเดียวกับปัจจุบัน คือ ผู้ใช้ไฟฟ้าไม่เกิน 300 หน่วยต่อเดือน ค่าไฟฟ้าเอฟทีจะเท่ากับงวดที่ผ่านๆ มา

ทั้งนี้ สำนักงาน กกพ. ได้เปิดรับฟังความคิดเห็น ค่าไฟฟ้าตามสูตรการปรับอัตราค่าไฟฟ้าโดยอัตโนมัติ (Ft) สำหรับงวดเดือนกันยายน-ธันวาคม 2565 (ระยะเวลารับฟัง 12 ก.ค.-25 ก.ค.65) โดยมี 4 อัตรา คือ 93.43 สตางค์ต่อหน่วย, 139.13 สตางค์ต่อหน่วย, 116.28 สตางค์ต่อหน่วย และ 236.97 สตางค์ต่อหน่วย โดยทั้ง 4 อัตรานี้ เมื่อรวมกับค่าไฟฟ้าฐานของประเทศที่ 3.78 บาทต่อหน่วยแล้ว ค่าไฟฟ้าเฉลี่ยของประเทศจะอยู่ที่ 4.72-6.12 บาทต่อหน่วย ซึ่งนับเป็นอัตราสูงสุดของประเทศ โดยทั้ง 4 อัตรานั้น หากประมาณการต้นทุนแท้จริงแล้ว อัตราค่าไฟฟ้าโดยอัตโนมัติ (Ft) ในช่วงเดือนกันยายน-ธันวาคม 2565 พุ่งสูงถึง 236.97 สตางค์ต่อหน่วย หรือเพิ่มขึ้น 212.20 สตางค์ต่อหน่วย โดยอัตรา 93.43 สตางค์ต่อหน่วย เป็นการสะท้อนต้นทุนที่แท้จริง ส่วนอีก 3 อัตรา เป็นการรวมชำระหนี้ กฟผ. ทั้งชำระทั้งหมดทันที และการชำระในช่วง 1-2 ปี .-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

หนุ่มพาลูก-เมียกลับจากฉลองวันเกิด รถยางระเบิดเสียหลักชนเสาไฟ ดับ 3 สาหัส 2

พ่อแม่ลูก 5 คน กลับจากฉลองวันเกิด รถกระบะยางระเบิดเสียหลักหมุนชนอัดเสาไฟฟ้า พ่อและแม่พร้อมลูกคนโตเสียชีวิตคาที่ ส่วนลูกคนกลางและคนเล็กอาการสาหัส

สุดโหด! ไล่แทงหนุ่มดับปมขัดแย้งยาเสพติด

วงจรปิดจับภาพชัด คนร้ายวิ่งข้ามถนนไล่แทงหนุ่มเสียชีวิต ชาวบ้านแตกตื่น ขณะที่ตำรวจรวบตัวทันควัน คาดปมขัดแย้งยาเสพติด

กยศ.เปิดทางปรับลดยอดหักเงินเดือน พ.ค.-มิ.ย.68

กยศ. เปิดทางปรับลดยอดหักเงินเดือน ช่วยเหลือชั่วคราว พ.ค.-มิ.ย.68 ให้นายจ้างลดยอดการหักเงินเดือน ทำสัญญาปรับโครงสร้างหนี้ เพื่อเริ่มผ่อนชำระใหม่เป็นรายเดือนในอัตราลดลง

ข่าวแนะนำ

“อัศนี” ประกาศชัยชนะนายกเล็กเชียงใหม่ หลังนับคะแนนผ่านไป 78%

เชียงใหม่ 11 พ.ค. – “อัศนี บูรณุปกรณ์” ผู้สมัครนายกเทศมนตรีนครเชียงใหม่ จากพรรคเพื่อไทย ประกาศชัยชนะ หลังนับคะแนนผ่านไปกว่า 78% ทิ้งห่างคู่แข่งจากพรรคประชาชน 4,000 คะแนน นายอัศนี บูรณุปกรณ์ ผู้สมัครนายกเทศมนตรีนครเชียงใหม่ จากพรรคเพื่อไทย พร้อมผู้สนับสนุน ต่างปรบมือแสดงความดีใจ หลังการนับคะแนนอย่างไม่เป็นทางการผ่านไปเกินร้อยละ 78 ได้คะแนนกว่า 17,000 คะแนน ทิ้งห่างนายธีรวุฒิ แก้วฟอง จากพรรคประชาชน กว่า 4,000 คะแนน พร้อมประกาศชัยชนะ โดยขอบคุณทุกคะแนนเสียง รวมทั้งพรรคเพื่อไทย และนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี เชื่อว่าชัยชนะครั้งนี้มาจากความใกล้ชิดประชาชนในพื้นที่ ยืนยันเก้าอี้นายกเทศมนตรีนครเชียงใหม่ ไม่ใช่เก้าอี้ที่สืบทอดของบ้านใหญ่บูรณุปกรณ์ แต่มาจากการทำงานใกล้ชิดประชาชนจนมีความเชื่อมั่น ยืนยันพร้อมเดินหน้านโยบายเร่งด่วนใน 100 วันแรก เร่งป้องกันปัญหาน้ำท่วม เพราะเข้าสู่ฤดูฝนแล้ว เมื่อถามว่า หนักใจกับการถูกร้องเรียนหลังเลือกตั้งหรือไม่ นายอัศนี ยืนยันว่า ทีมงานของตนมั่นใจว่าไม่ได้ทำผิดกฎหมายเลือกตั้ง และพร้อมจะดูแลพี่น้องประชาชนต่อไป.-713-สำนักข่าวไทย

เฮลั่น “ธัญญก้าวหน้า” ชนะยกทีม เลือกตั้งเทศบาลธัญบุรี

ปทุมธานี 11 พ.ค. – นับคะแนนเสร็จสิ้นแล้วอย่างไม่เป็นทางการ เลือกตั้งเทศบาลธัญบุรี จ.ปทุมธานี “นายกเบี้ยว” ประกาศลั่น “ธัญญก้าวหน้า” คว้าชัยชนะยกทีม “ยุพเยาว์” นั่งนายกเทศมนตรี ส่วน “ลูกพีช” ได้เป็น สท. -สำนักข่าวไทย

กกต.พอใจภาพรวมเลือกตั้งเทศบาลทั่วประเทศ

11 พ.ค. – กกต.พอใจภาพรวมการเลือกตั้งเทศบาลทั่วประเทศเป็นไปด้วยความเรียบร้อย หวังมีผู้มาใช้สิทธิตามเป้า 70% พร้อมกำชับ จนท.ขานคะแนนให้ชัด และเตรียมแผนเผชิญเหตุกรณีฝนตก-ไฟดับ นายอิทธิพร บุญประคอง ประธานกรรมการการเลือกตั้ง กล่าวถึงการลงพื้นที่ตรวจดูการใช้สิทธิของประชาชน ในการใช้สิทธิเลือกตั้งสมาชิกสภาเทศบาลและนายกเทศมนตรี พื้นที่เพชรบุรีและประจวบคีรีขันธ์ ภาพรวมเป็นไปด้วยความเรียบร้อย ขณะที่สถานการณ์ทั่วประเทศที่ได้รับรายงานพบบางจังหวัดมีข่าวซื้อเสียงได้จัดกำลังเจ้าหน้าที่ไปตรวจสอบ ไม่พบตามที่มีการแจ้ง และไม่น่าจะส่งผลกระทบให้ต้องเลือกตั้งใหม่ ประธาน กกต. เผยในการเลือกตั้งตรวจดูตามหน่วยเลือกตั้ง ได้กำชับกรรมการประจำหน่วยเลือกตั้งเรื่องการนับคะแนน เพื่อหลีกเลี่ยงการร้องเรียนว่าขานคะแนนไม่ชัด หรือไม่ได้ยิน แสงสว่างน้อย จึงขอให้ขานคะแนนช้าๆ ชัดๆ เพื่อไม่ให้ผู้สังเกตการณ์เกิดความสงสัย และหากมีฝนตกก็ต้องมีแผนเผชิญเหตุ โดยเฉพาะหากไฟฟ้าดับ ส่วนผู้ใช้สิทธิจะมากกว่าครั้งที่แล้ว โดยครั้งนี้ตังเป้าไว้ร้อยละ 70 เพราะดูจากการมาใช้สิทธิตลอดทั้งวันเป็นไปด้วยความคึกคัก แต่ในแต่ละจังหวัดจะไม่เท่ากัน ขณะที่การนับคะแนน หลังปิดการลงคะแนนเมื่อเวลา 17.00 น. ที่ผ่านมา กรรมการประจำหน่วยเลือกตั้ง โรงเรียนหัวหินวิทยาคม ซึ่งมี 6 หน่วยเลือกตั้ง เจ้าหน้าที่แจ้งหมดเวลาปิดการลงคะแนน และเริ่มการนับคะแนนทันที โดยเป็นการนับคะแนนนายกเทศมนตรี และมานับคะแนนสมาชิกสภาเทศบาล ท่ามกลางตัวแทนผู้สมัครมาเฝ้าสังเกตการณ์ สำหรับการเลือกตั้งเทศบาลมีจำนวน 2,463 แห่ง และหน่วยเลือกตั้งทั้งหมด […]

เร่งล่ามือฆ่าเผานั่งยาง 4 ศพ กลางสวนปาล์ม

ตรัง 11 พ.ค. – เร่งล่าคนร้ายโหดฆ่าเผานั่งยาง 4 ศพ กลางสวนปาล์มใน อ.สิเกา จ.ตรัง ล่าสุดตำรวจรู้ตัวผู้ก่อเหตุแล้ว วันนี้ (11 พ.ค. 68) เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.สิเกา จ.ตรัง เข้าตรวจสอบภายในสวนปาล์มน้ำมันแห่งหนึ่ง พื้นที่หมู่ 1 หลังได้รับแจ้งมีเหตุฆ่าเผานั่งยาง ที่เกิดเหตุเป็นสวนปาล์มน้ำมัน สภาพรกทึบ ห่างจากถนนสายตรัง-สิเกา ไปตามถนนลูกรังกว่า 5 กม. พบเศษยางรถยนต์นับสิบเส้น และพบชิ้นส่วนคล้ายเศษเนื้อและอวัยวะของมนุษย์ เจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐาน และหน่วยกู้ภัย เข้าเก็บชิ้นส่วน พบร่างมนุษย์ในกองเถ้าถ่าน 3 ร่าง จึงส่งชันสูตรหาร่องรอยหลักฐานที่เกี่ยวข้อง หลังเกิดเหตุ พล.ต.ต.ภัทรวิชญ์ คีตโมทนียกุล ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดตรัง พร้อมเจ้าหน้าที่กองปราบฯ เจ้าหน้าที่ สภ.สิเกา ฝ่ายสืบสวน และฝ่ายปกครอง ร่วมตรวจพื้นที่คลี่คลายคดีและเก็บพยานหลักฐาน โดยในที่เกิดเหตุเป็นร่องสวนปาล์มติดกับขนำร้างคอนกรีตมุงกระเบื้อง ซึ่งเจ้าของสวนสร้างเอาไว้ให้คนงานหลบแดด แต่ไม่มีผู้พักอาศัย พบร่องรอยกองเลือด ปลอกกระสุน แกลลอนน้ำมัน จึงเก็บรวบรวมไว้เป็นหลักฐาน จากนั้นเจ้าหน้าที่ได้เดินตรวจสอบบริเวณโดยรอบ […]