6 เดือนแรกของปี 65 ธอส. ปล่อยสินเชื่อใหม่ 1.35 แสนล้านบาท

กทม. 22 ก.ค. – ธอส. เผยผลการดำเนินงาน 6 เดือนแรกของปี 2565 ปล่อยสินเชื่อใหม่ถึง 134,998 ล้านบาท เพิ่มขึ้นถึง 27.08% จากช่วงเดียวกันของปี 2564 ดันยอดสินเชื่อคงค้างรวม 1,526,414 ล้านบาท พร้อมประกาศตรึงดอกเบี้ยเงินกู้ให้นานที่สุด


ธนาคารอาคารสงเคราะห์ เผยผลการดำเนินงานในช่วง 6 เดือนแรกของปี 2565 ปล่อยสินเชื่อใหม่ทำให้คนไทยได้มีบ้านจำนวนถึง 134,998 ล้านบาท เพิ่มขึ้นถึง 27.08% จากช่วงเดียวกันของปี 2564 ดันยอดสินเชื่อคงค้างรวม 1,526,414 ล้านบาท สินทรัพย์รวม 1,581,652 ล้านบาท มีหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (NPL) 4.41% ของยอดสินเชื่อรวม ตั้งสำรองเผื่อหนี้สงสัยจะสูญเพื่อความมั่นคงและเตรียมพร้อมรับผลกระทบจาก COVID-19 จำนวน 121,066 ล้านบาท คิดเป็นสัดส่วนต่อ NPL ที่ระดับ 180.02% คาดสิ้นปีสินเชื่อใหม่ปล่อยได้ไม่น้อยกว่า 2.8 แสนล้านบาท มุ่งสู่ Digital Bank เต็มรูปแบบ ชูเทคโนโลยี-นวัตกรรมผลิตภัณฑ์ และบริการทางด้านสินเชื่อ เงินฝาก และสลากออมทรัพย์ ขึ้นบนอากาศ เพื่อเพิ่มความสะดวกให้แก่ลูกค้าประชาชนเข้าถึงบริการของธนาคาร พร้อมประกาศตรึงอัตราดอกเบี้ยให้นานที่สุด เพื่อให้ลูกค้ามีเวลาปรับตัวรับกับอัตราดอกเบี้ยที่มีแนวโน้มสูงขึ้นในอนาคต

นายฉัตรชัย ศิริไล กรรมการผู้จัดการ ธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธอส.) เปิดเผยถึงผลการดำเนินงาน ณ ไตรมาสที่ 2 ของปี 2565 ว่า หลังจากที่ภาครัฐได้ผ่อนคลายมาตรการควบคุมการแพร่ระบาดของ COVID-19 ส่งผลให้กิจกรรมทางเศรษฐกิจ รายได้ของประชาชนปรับตัวเข้าสู่ภาวะปกติมากขึ้น ซึ่งมีส่วนสำคัญให้ประชาชนที่มีการปรับตัวจากผลกระทบด้านรายได้ตัดสินใจซื้อที่อยู่อาศัยก่อนที่อัตราดอกเบี้ยจะปรับเพิ่มขึ้นในอนาคต ทำให้ ณ วันที่ 30 มิถุนายน 2565 ธนาคารสามารถปล่อยสินเชื่อใหม่ได้จำนวน 134,998 ล้านบาท 106,067 บัญชี เพิ่มขึ้น 27.08% จากช่วงเดียวกันของปี 2564 คิดเป็น 59.62% ของเป้าหมายปล่อยสินเชื่อใหม่ปี 2565 ที่ 226,423 ล้านบาท แบ่งเป็นสินเชื่อที่มีวงเงินกู้ไม่เกิน 2.5 ล้านบาท สำหรับกลุ่มผู้มีรายได้น้อยและปานกลางจำนวน 58,448 ราย ส่งผลให้ ณ สิ้นไตรมาสที่ 2 ของปี 2565 เทียบกับ ณ สิ้นปี 2564ธนาคารมียอดสินเชื่อคงค้างรวมทั้งสิ้น 1,526,414 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 4.65% มีสินทรัพย์รวม 1,581,652 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 5.00% เงินฝากรวม 1,345,830 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 5.57% หนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (NPL) จำนวน 67,251 ล้านบาท คิดเป็น 4.41% ของยอดสินเชื่อรวม เพิ่มขึ้นจากสิ้นปี 2564 ที่มี NPL อยู่ที่ 4.00% ของสินเชื่อรวม ซึ่งธนาคารได้มีการตั้งสำรองเผื่อหนี้สงสัยจะสูญที่ 121,066 ล้านบาท คิดเป็นสัดส่วนต่อ NPL สูงถึง 180.02% สะท้อนความมั่นคงและพร้อมรองรับผลกระทบจาก COVID-19 ในอนาคต โดยมีกำไรสุทธิ 6,069 ล้านบาท และมีอัตราส่วนเงินกองทุนต่อสินทรัพย์เสี่ยง (BIS Ratio) ยังอยู่ที่ระดับแข็งแกร่งที่ 14.73% สูงกว่าอัตราเงินกองทุนขั้นต่ำที่ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) กำหนด


ทั้งนี้ การที่ธนาคารยังคงปล่อยสินเชื่อใหม่ได้อย่างต่อเนื่อง เป็นเพราะได้รับปัจจัยสนับสนุนจากนโยบายรัฐบาลจากการผ่อนคลายมาตรการสินเชื่อที่อยู่อาศัย (LTV) ของธนาคารแห่งประเทศไทย การลดค่าธรรมเนียมการโอนและจดจำนองเหลือประเภทละ 0.01% สำหรับการซื้อที่อยู่อาศัยใหม่ราคาไม่เกิน 3 ล้านบาท ราคาอสังหาริมทรัพย์ที่ปรับตัวลดลงจากการแข่งขันของผู้ประกอบอสังหาริมทรัพย์ทำให้มีการจัดโปรโมชั่นส่งเสริมการขายอย่างต่อเนื่อง ประกอบกับผลิตภัณฑ์สินเชื่ออัตราดอกเบี้ยต่ำของธนาคาร ทำให้กลุ่มลูกค้าที่มีการปรับตัวจากผลกระทบด้านรายได้ จาก COVID-19 ตัดสินใจซื้อที่อยู่อาศัยเร็วขึ้น โดยสินเชื่อปล่อยใหม่ที่มีลูกค้าเลือกใช้บริการสูงสุดได้แก่ โครงการบ้าน ธอส. เพื่อคุณ อัตราดอกเบี้ยปีแรกเพียง 3.15% ต่อปี มียอดอนุมัติสะสมสูงถึง 34,658 ล้านบาท ส่วนโครงการบ้านล้านหลัง ระยะที่ 2 ของรัฐบาล อัตราดอกเบี้ยต่ำคงที่เพียง 1.99% ต่อปี นานถึง 4 ปีแรก ล่าสุด ณ วันที่ 18 กรกฎาคม 2565 มีผู้ลงทะเบียนเข้าร่วมโครงการแล้ว 99,760 ราย ยื่นขอสินเชื่อแล้ว 20,311 ราย วงเงินสินเชื่อ 18,358 ล้านบาท และได้รับอนุมัติสินเชื่อแล้ว 18,707 ราย วงเงินสินเชื่อ 16,322 ล้านบาท

ขณะที่ด้านดูแลลูกค้าที่ได้รับผลกระทบด้านรายได้จาก COVID-19 ปัจจุบัน ธอส. ยังขยายระยะเวลาความช่วยเหลือ ผ่านมาตรการปรับปรุงโครงสร้างหนี้อย่างยั่งยืน ปี 2565 ด้วยการแบ่งเบาภาระให้กับลูกค้า ทั้งการลดอัตราดอกเบี้ยและเลือกแบ่งจ่ายเงินงวดผ่อนชำระ เพื่อลดเงินงวดให้กับลูกค้า และมุ่งรักษาบ้านให้ยังเป็นของลูกค้าได้ต่อไป โดย ณ วันที่ 12 กรกฎาคม 2565 มีลูกค้าอยู่ระหว่างใช้มาตรการช่วยเหลือรวมทั้งสิ้น 72,496 บัญชี วงเงินต้นคงเหลือ 74,176 ล้านบาท ซึ่งในจำนวนนี้พบว่ามีลูกค้าที่ชำระเงินงวดได้ตามเงื่อนไขของมาตรการหรือชำระบางส่วนคิดเป็นสัดส่วนสูงถึง 96%

“จากแนวโน้มอัตราดอกเบี้ยที่หลายฝ่ายคาดการณ์ว่าคณะกรรมการนโยบายการเงิน(กนง.) มีโอกาสจะปรับขึ้นดอกเบี้ยนโยบายในช่วงปลายปี 2565 เช่นเดียวกับธนาคารกลางหลายประเทศที่ปรับขึ้นตามธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ไปแล้ว ทำให้ประชาชนเร่งตัดสินใจซื้อที่อยู่อาศัย ในช่วงที่อัตราดอกเบี้ยยังอยู่ในระดับต่ำ จึงมั่นใจว่า ณ สิ้นปี 2565 ธนาคารจะสามารถปล่อยสินเชื่อใหม่ได้สูงกว่า 280,000 ล้านบาท ขณะเดียวกันในฐานะสถาบันการเงินของรัฐ ธอส. พร้อมตรึงอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ของธนาคารไว้ให้ได้นานที่สุด เพื่อช่วยให้ลูกค้ามีเวลาในการปรับตัวและไม่ต้องรับภาระด้านค่าครองชีพ แต่พร้อมที่จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเงินฝากตามตลาดเพื่อป้องกันการไหลออกของเงินฝากและให้มีเงินทุนเพียงพอต่อการปล่อยสินเชื่อให้กับประชาชนที่ต้องการมีบ้าน และด้วยต้นทุนทางการเงินที่สูงขึ้น ทำให้คาดว่าธนาคารจะได้รับผลกระทบในปี 2565 ไม่น้อยกว่า 2 พันล้านบาท”นายฉัตรชัยกล่าว


นอกจากนี้ ในช่วงครึ่งปีหลัง ธอส. เตรียมนำเทคโนโลยีดิจิทัลใหม่ ๆ มายกระดับการให้บริการลูกค้าตามเป้าหมาย สู่การเป็น Digital Bank เต็มรูปแบบ (Fully Digitized) อาทิ การจัดตั้งศูนย์บริการดิจิทัล (DSC) เพื่อรองรับลูกค้าที่ต้องการเข้าถึงบริการทางด้านสินเชื่อและเงินฝากผ่านช่องทาง Digital Channel เป็นการเฉพาะ อาทิ Mobile Application GHB ALL รวมถึงสื่อ Social Media ต่าง ๆ ของธนาคาร โดยมีพนักงานสินเชื่อ Virtual Branch ทำหน้าที่ติดต่อลูกค้าเพื่อรองรับการให้บริการได้ทันทีโดยไม่ต้องมีสาขา โครงการจัดเก็บ Electronic File แทนเอกสารสิทธิ์ต้นฉบับ (ไม่เก็บโฉนด) โดยธนาคารจะจัดเก็บในรูปแบบไฟล์อิเล็กทรอนิกส์แทนการจัดเก็บโฉนดตัวจริง ทำให้ลูกค้าจะได้รับโฉนดฉบับจริงกลับบ้านในวันทำนิติกรรมได้ทันที ซึ่งปัจจุบันเริ่มให้บริการกับลูกค้ากลุ่มสวัสดิการแล้วและจะขยายสู่ลูกค้ากลุ่มกู้ใหม่ได้ทั้งหมดภายในไตรมาสที่ 3 โครงการลงนามสัญญาอิเล็กทรอนิกส์ (e-Contract) การทำสัญญาเงินกู้ระหว่างธนาคารกับลูกค้าในรูปแบบอีเล็กทรอนิกส์ โดยเริ่มให้บริการลูกค้าแล้วตั้งแต่วันที่ 14 มิถุนายน 2565 โดยหลังลงนามสัญญาลูกค้าจะได้รับเอกสารสัญญาเงินกู้รูปแบบอิเล็กทรอนิกส์ผ่าน Email

นอกจากนี้ ธนาคารยังอำนวยความสะดวกให้กับผู้ขายที่อยู่อาศัยหรือผู้ประกอบการอสังหาริมทรัพย์ที่ขายที่อยู่อาศัยให้กับลูกค้า ธอส. จะได้รับการโอนเงินกู้ค่าซื้อที่อยู่อาศัยเข้าบัญชีเงินฝากของผู้ขาย/ผู้ประกอบการอสังหาริมทรัพย์แทนการจัดทำแคชเชียร์เช็ค ทำให้ผู้ขายไม่ต้องเสียเวลาและขั้นตอนนำแคชเชียร์เช็คที่ได้รับจากผู้ซื้อไปขึ้นเงินเหมือนที่ผ่านมา ทั้งนี้ บริการใหม่ดังกล่าวจะเริ่มให้บริการอย่างเป็นทางการได้ภายในปี 2565 และพร้อมเดินหน้าจัดทำโครงการ GHB AI Virtual Agent เพื่อเสริมทัพความแข็งแกร่งและยกระดับการบริหารจัดการ Call Center ได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยนำเทคโนโลยี AI Voice Bot มาช่วยให้บริการเปรียบเสมือนผู้ช่วยบริการทางการเงินให้ลูกค้า ธอส. ซึ่ง AI จะช่วยรับสายตอบคำถามลูกค้าที่ติดต่อเข้ามาได้ทันทีโดยไม่ต้องรอสายนาน หรือโทรแจ้งเตือนบริการต่าง ๆ ที่เป็นประโยชน์กับลูกค้า เช่น ครบกำหนดมาตรการช่วยเหลือลูกค้าที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์ COVID-19 หรือโทรแจ้งการเปลี่ยนแปลงเงินงวดสินเชื่อบ้าน เป็นต้น

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ผบ.เรือนจำทักษิณป่วย ไม่ได้ส่งตรวจ รพ.ราชทัณฑ์ก่อน  

13 มิ.ย. – ศาลฎีกาฯ ใช้เวลา 1 ชั่วโมง ไต่สวนกรณีกรมราชทัณฑ์อนุญาตให้ “ทักษิณ” เข้ารักษาตัวชั้น 14 รพ.ตำรวจ นัดไต่สวนเพิ่มอีก 6 นัด เดือน ก.ค.68 ด้าน ผบ.เรือนจำพิเศษกรุงเทพ ยอมรับไม่ได้ส่งตรวจ รพ.ราชทัณฑ์ก่อน ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง ใช้เวลา 1 ชั่วโมง ไต่สวนคดีชั้น 14 ในเรื่องการบังคับคดีนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ล่าสุดการไต่สวนนัดแรกเสร็จสิ้นแล้ว โดยศาลได้สอบถาม นายมานพ ชมชื่น ผู้บัญชาการเรือนจำพิเศษกรุงเทพคนปัจจุบัน เกี่ยวกับกระบวนการในการส่งตัวนายทักษิณจากเรือนจำไปโรงพยาบาลตำรวจ ในคืนวันที่ 22 สิงหาคม ซึ่งนายทักษิณ มีอาการแน่นหน้าอก นอนไม่หลับ พยาบาลเวรตรวจอาการแล้ว ถึงโทรไปหาแพทย์ และมีความเห็นให้ส่งตัวไปที่โรงพยาบาลตำรวจ โดยไม่ได้เข้าไปที่โรงพยาบาลราชทัณฑ์ก่อน และอาการก็ตรงกลับใบส่งตัวที่แพทย์เขียนไว้ล่วงหน้า เพราะเป็นผู้ป่วยกรณีฉุกเฉิน แต่ก็ยอมรับว่าไม่ได้เข้าโรงพยาบาลราชทัณฑ์ก่อน จากนั้นศาลได้นัดไต่สวน 6 นัด ในเดือนกรกฎาคม 2568 และใน […]

เครื่องบินแอร์อินเดีย ตกใส่อาคารที่พักแพทย์ ตาย 241 รอดคนเดียว

นิวเดลี 13 มิ.ย. – เครื่องบินโดยสารของสายการบินแอร์อินเดีย พร้อมคนบนเครื่อง 242 คน ประสบอุบัติเหตุตกใส่อาคารในย่านชุมชนทางตะวันตกของประเทศ มีผู้เสียชีวิต 241 ราย รอดชีวิตปาฏิหาริย์เพียงคนเดียว ยังไม่มีการยืนยันว่ามีคนในอาคารบ้านเรือนเสียชีวิตเท่าไร เครื่องบินลำที่ประสบอุบัติเหตุเป็นเครื่องบินโบอิ้ง 787-8 ดรีมไลน์เนอร์ ของสายการบิน แอร์ อินเดีย เที่ยวบิน เอไอ171 (AI171) พร้อมคนบนเครื่อง 242 คน ประกอบด้วยผู้โดยสาร 230 คน และลูกเรือ 12 คน เพิ่งจะออกเดินทางจากท่าอากาศยานระหว่างประเทศเมืองอาห์เมดาบัด รัฐคุชราต ทางตะวันตกของอินเดียเมื่อเวลา 13.34 น. วานนี้ มุ่งหน้าไปยังท่าอากาศยานแกตวิค กรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษ คนบนเครื่องบินเป็นชาวอินเดีย 169 คน และมีพลเมืองอังกฤษ 53 คน โปรตุเกส 7 คน และแคนาดา 1 คน คลิปที่ผู้ใช้งานสื่อออนไลน์ในอินเดียส่งต่อกันแพร่หลาย เผยให้เห็นช่วงเวลาขณะที่เครื่องบินโดยสารลำนี้เครื่องบินค่อยๆ […]

แพทยสภายืนยันมติเดิม เอาผิดแพทย์ 3 ราย

กทม. 12 มิ.ย.- แพทยสภามีมติ 2 ใน 3 ยืนยันมติเดิม เอาผิดแพทย์ 3 ราย ปมส่งตัว “ทักษิณ” รักษาชั้น 14 รพ.ตร. ศ.นพ.ประสิทธิ์ วัฒนาภา อุปนายกแพทยสภา เปิดเผยหลังการประชุมการลงมติแพทยสภากว่า 5 ชม. ว่า กรณีที่มีการกล่าวโทษแพทย์ทัณฑสถานโรงพยาบาลราชทัณฑ์ และแพทย์โรงพยาบาลตำรวจ เกี่ยวกับการประพฤติผิดจริยธรรมแห่งวิชาชีพเวชกรรม การประชุมคณะกรรมการแพทยสภาครั้งที่ 6/2568 ประจำเดือนมิถุนายน คือวันนี้ มีวาระสำคัญคือการพิจารณาหนังสือยับยั้งมติลงโทษผู้ประกอบวิชาชีพเวชกรรมของคณะกรรมการแพทยสภาจากสภานายกพิเศษ วาระนี้มีคณะกรรมการแพทยสภาเข้าร่วมประชุมจำนวน 68 คน จากจำนวนแพทยสภาที่มีสิทธิ์ลงคะแนนทั้งสิ้น 69 คน ได้พิจารณาการยับยั้งมติแพทยสภาของสภานายกพิเศษ มีมติด้วยคะแนนเสียงเกินกว่า 2 ใน 3 ของคณะกรรมการฯ ที่มีสิทธิ์ลงคะแนนทั้งคณะ ซึ่งมีคะแนนโหวตมากกว่า 60 เสียง ยืนยันตามมติเดิมของคณะกรรมการแพทยสภาเมื่อวันที่ 8 พฤษภาคม 2568 กระบวนการต่อไปแพทยสภาจะออกคำสั่งบังคับตามมติและแจ้งให้ผู้ที่เกี่ยวข้องทราบ คาดว่าคำสั่งจะออกได้ในวันพรุ่งนี้ และจะมีผลการลงโทษหลังจากคำสั่งไปยังผู้ถูกร้องเรียน ทั้งนี้ […]

“ทีมสุดซอย” ลุยตรวจโรงงานรีไซเคิลทุนจีน

ฉะเชิงเทรา 12 มิ.ย. – “ทีมสุดซอย” ลุยตรวจโรงงานรีไซเคิลทุนจีน จ.ฉะเชิงเทรา พบกองขยะอิเล็กทรอนิกส์และชิ้นส่วนเครื่องยนต์นำเข้ากองเต็มพื้นที่ ฝ่าฝืนคำสั่งกรมโรงงานฯ น.ส.ฐิติภัสร์ โชติเดชาชัยนันต์ หัวหน้าทีมสุดซอย พร้อมเจ้าหน้าที่กรมโรงงานอุตสาหกรรม เจ้าหน้าที่อุตสาหกรรมจังหวัด และตำรวจสอบสวนกลาง เข้าตรวจสอบโรงงานรีไซเคิลใน อ.แปลงยาว จ.ฉะเชิงเทรา ซึ่งเป็นการขยายผลจากข้อมูลที่ผู้ใหญ่บ้าน ต.เขาหินซ้อน อ้างว่ามีบริษัทคัดแยกขยะอุตสาหกรรมในพื้นที่ให้นำดินไปแจกฟรี แต่กลับพบว่าเป็นขยะอุตสาหกรรม จากการตรวจสอบพบว่าบริษัทแห่งนี้จะรับขยะอิเล็กทรอนิกส์ เศษสายไฟ วัสดุแบตเตอรี่ มอเตอร์ และชิ้นส่วนเครื่องยนต์ที่นำเข้ามาจากต่างประเทศ ผ่านบริษัทแห่งหนึ่งที่ฮ่องกง โดยบริษัทดังกล่าวรับซื้อเศษขยะมาจากญี่ปุ่นอีกทอดหนึ่ง ก่อนส่งมาที่โรงงานรีไซเคิลในไทยให้คัดแยก แต่สำแดงเป็นโลหะผสม (Mixed metal) และมีการเสียภาษีต่อเที่ยวตามน้ำหนัก รวมแล้วประมาณ 33,000 บาท การคัดแยกขยะจะใช้แรงงานต่างด้าวคัดแยกเหล็ก อะลูมิเนียม ทองแดงออก โดยในส่วนของเหล็ก จะส่งโรงเหล็กในประเทศ สำหรับอะลูมิเนียมกับทองแดง จะส่งกลับไปฮ่องกง เพื่อขายต่อ โดยไม่ต้องเสียภาษี เนื่องจากเป็นเศษโลหะ อีกทั้งยังมีกองขยะที่ไม่สามารถนำไปแปรรูปใช้งานต่อได้จำนวนมากถูกทิ้งไว้ในประเทศ โรงงานดังกล่าวมีการขออนุญาตประกอบกิจการตั้งแต่ปี 2558 แต่ก่อนหน้านี้พบว่ามีการขยายโรงงานโดยไม่ได้รับอนุญาต การจัดเก็บวัสดุไม่ถูกต้องตามมาตรฐาน คือกองอยู่ลานโล่งด้านนอกอาคาร ปัญหาเรื่องมาตรฐานความปลอดภัยในการประกอบกิจการ และการปล่อยน้ำเสีย […]

ข่าวแนะนำ

ไทย-กัมพูชา ลงนามบันทึกการประชุม JBC ร่วมกัน

กัมพูชา 15 มิ.ย.- ไทย-กัมพูชา ลงนามบันทึกการประชุม JBC ร่วมกัน ซึ่งการหารือเป็นไปอย่างราบรื่นและฉันมิตร เป็นอีกก้าวสำคัญที่แสดงความคืบหน้าในการจัดทำหลักเขตแดนระหว่างไทย-กัมพูชา ประชุมครั้งต่อไปเดือน ก.ย.นี้ ฝ่ายไทยเป็นเจ้าภาพ เมื่อวันที่ 15 มิถุนายน 2568 เอกอัครราชทูตประศาสน์ ประศาสน์วินิจฉัย ประธานคณะกรรมาธิการเขตแดนร่วมไทย-กัมพูชา ฝ่ายไทย และนายฬำ เจีย รัฐมนตรีรับผิดชอบกิจการชายแดนและหัวหน้าสำนักงานเลขาธิการกิจการชายแดนแห่งชาติกัมพูชา ประธานร่วมฝ่ายกัมพูชา เป็นประธานร่วมในพิธีปิดการประชุมคณะกรรมาธิการเขตแดนร่วมไทย-กัมพูชา ครั้งที่ 6 (JBC) และลงนามบันทึกการประชุมร่วมกัน ที่กรุงพนมเปญ การหารือเป็นไปอย่างราบรื่นและฉันมิตร ทั้งสองฝ่ายกล่าวขอบคุณที่การประชุมสำเร็จลุล่วงด้วยดี โดยเน้นย้ำความสำคัญและประสิทธิภาพของ JBC ซึ่งเป็นกลไกทวิภาคีหลักในการเจรจาเขตแดนระหว่างสองประเทศ การประชุมครั้งนี้เป็นอีกก้าวสำคัญที่แสดงความคืบหน้าในการจัดทำหลักเขตแดนระหว่างไทยกับกัมพูชา ซึ่งมีความยาวทั้งหมดประมาณ 800 กิโลเมตร และมีส่วนช่วยลดความตึงเครียดบริเวณชายแดน ทั้งนี้ ทั้งสองฝ่ายยังมีภารกิจที่ต้องหารือและดำเนินการร่วมกันต่อไป โดยฝ่ายไทยจะเป็นเจ้าภาพจัดการประชุม JBC สมัยพิเศษครั้งต่อไปในเดือนกันยายนนี้ ปัจจุบัน ไทยกับกัมพูชามีกลไกความร่วมมือในประเด็นชายแดนร่วมกัน 3 ระดับหลัก ได้แก่ (1) JBC ซึ่งเป็นกลไกทวิภาคีที่สำคัญในการหารือกันทางเทคนิคและข้อกฎหมายระหว่างประเทศ (2) คณะกรรมการชายแดนทั่วไป […]

ทบ.ยันไม่พบทหารกัมพูชาปิดทางขึ้นสามเหลี่ยมมรกต

กทม. 15 มิ.ย.-กองทัพบก ยืนยันไม่พบทหารกัมพูชาพร้อมอาวุธครบมือ ปิดทางขึ้นสามเหลี่ยมมรกต ขอฟังข่าวสารจากทางราชการเท่านั้น จากกรณีเพจแจ้งข่าวศรีสะเกษ เผยแพร่ข่าวทหารกัมพูชา พร้อมอาวุธครบมือ ปิดถนนทางขึ้นสามเหลี่ยมมรกต บริเวณช่องบก ห้ามไม่ให้ทหารไทยขึ้นไปซ่อมแซมถนน ขณะนี้อยู่ระหว่างการเจรจา เป็นครั้งที่ 2 เมื่อเวลา 12.45 น. ล่าสุด พล.ต.วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบก เปิดเผยว่า จากการตรวจสอบในพื้นที่ พบว่าไม่มีเหตุการณ์ดังกล่าว โดยขอให้ฟังข้อมูลข่าวสารจากทางราชการเป็นหลัก หรือสามารถสอบถามกองทัพบกได้เป็นกรณีไป พร้อมระบุว่า พื้นที่ดังกล่าวมีการทำถนนไว้ส่งกำลังบำรุง แต่อยู่ในเขตเราทั้งหมด ซึ่งทางกัมพูชาเข้าใจ.-313.-สำนักข่าวไทย

“อนุทิน”​ ยกคณะ สส.​-​ขรก.มหาดไทย​ เยือนอุดรฯ

อุดรธานี ​15 มิ.ย.​- “อนุทิน”​ โหมโรง​ ยกคณะ สส.​-​ขรก.มหาดไทย​ เยือนอุดรธานี​ เปิดตัว​ “อดิศักดิ์​” ไทยสร้างไทย บอก​ “นู๋หนู​-​ดู๋ดี๋”​ ซี้กัน​ อวยเป็น สส.คุณภาพ​ ภูมิใจไทย​ ภูมิใจแทน​ รอบหน้าขอชาวอุดรฯ​ เลือกเป็น สส.ภท.​ โอดแทนชาวบ้าน​ ซัด​ห่วย 3 ปี งบโยธาแค่​ 700 ล้าน​ บอกถ้าเลือกภูมิใจไทยซัดไปแล้ว​ 3,000 ล้าน​ เหน็บ​ถนน 4 เลน ใครทำให้กุดอย่าไปเลือก นายอนุทิน​ ชาญ​วี​รกูล​ รองนายก​รัฐมนตรี​และ​รัฐมนตรี​ว่าการ​กระทรวง​มหาดไทย​ พร้อมด้วยนายอรรษิษฐ์​ สัมพันธรัตน์​ ปลัดกระทรวงมหาดไทย​ และผู้บริหารระดับสูง​ ลงพื้นที่เทศบาลตำบลจำปี​ อำเภอศรีธาตุ​ จังหวัดอุดรธานี​ เพื่อพบปะประชาชน ที่โรงเรียนศรีธาตุพิทยาคม​ โดยมี​นายอดิศักดิ์ แก้วมุงคุณทรัพย์ สส.อุดรธานี​ พรรคไทยสร้างไทย​ ให้การต้อนรับ โดยนายอนุทิน​ ได้รับฟังการรายงานความคืบหน้าการ​แก้ไขปัญหา​ในพื้นที่ ก่อนจะขึ้นเวทีพร้อมกับ […]

จับตาประชุม JBC วันที่ 2 หลังกัมพูชายื่นศาลโลก

กัมพูชา 15 มิ.ย.-ผู้สื่อข่าวกัมพูชา รายงานการประชุม JBC ไทย-กัมพูชา วันที่ 2 เริ่มขึ้นแล้ว ที่กรุงพนมเปญ หลังวานนี้ยังไม่ได้ข้อสรุป โดยมีการประชุมวงเล็กก่อน จากนั้นอาจมีการแถลงร่วมกัน ต้องจับตาว่าวันนี้จะได้ข้อยุติหรือไม่ รวมถึงท่าทีของแต่ละฝ่าย หลังกัมพูชายื่นศาลโลก.-สำนักข่าวไทย