แนะธุรกิจไทยเตรียมรับมือเศรษฐกิจขาลง

กรุงเทพฯ 5 ก.ค.- แนะธุรกิจไทย เตรียมรับมือเศรษฐกิจขาลง เผย 3 ฉากทัศน์ที่อาจเกิดขึ้น ทั้ง “ซอฟต์แลนดิ้ง” “StagFlation” และสงครามโลก พร้อมรับราคาน้ำมันพุ่ง-เงินเฟ้อสูง-จีดีพีติดลบ ด้าน “ไออาร์พีซี” ปรับตราสินค้า Polimaxx พร้อมรับมือการเปลี่ยนแปลงเมกะเทรนด์พลังงาน


ในงานเสวนาออนไลน์ “POLIMAXX เจาะอนาคต เศรษฐกิจไทย” ที่ POLIMAXX หรือกลุ่มผลิตภัณฑ์ปิโตรเคมี จากบริษัทไออาร์พีซี จำกัด (มหาชน) จัดขึ้น นายปิติ ตัณฑเกษม ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ทีเอ็มบีธนชาต เปิดเผยในหัวข้อ “Global and Domestic Economic Outlook 2022” ระบุว่า การพยากรณ์อนาคตทางเศรษฐกิจเป็นเรื่องยาก แต่หากอยากทำนายอนาคต ให้มองย้อนหลังกลับไปจะพบว่าประวัติศาสตร์เศรษฐกิจโลก วนเวียนอยู่กับความโลภและความกลัว วนไปวนมา โดยมีอัตราดอกเบี้ย ราคาน้ำมัน และค่าเงิน เป็นปัจจัยหลัก

ปัจจุบันแม้สถานการณ์โควิดจะเริ่มคลี่คลาย แต่โลกยังต้องเผชิญกับเรื่องของ Geopolitical Risk หรือความเสี่ยงด้านภูมิรัฐศาสตร์ ราคาน้ำมัน และเงินเฟ้อ จึงอยากให้มองประวัติศาสตร์ย้อนหลังไป 500 ปี เพื่อเตรียมหาทางรับมือ โดยจะพบว่าฉากทัศน์ทางเศรษฐกิจที่เคยเกิดขึ้น มี 3 รูปแบบ รูปแบบที่ 1 กรณีเลวร้ายสุดครั้งเกิดสงครามโลกครั้งที่ 2 ช่วงปี 1939-1945 ราคาน้ำมันจากที่ราคา 0.65 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรล เคยปรับตัวสูงขึ้นถึง 1.22 ดอลลาร์สหรัฐ หรือเพิ่มขึ้น 72% เงินเฟ้อที่ระดับ 1.8% ปรับขึ้นเป็น 10.9% ขณะที่จีดีพีสหรัฐ จากที่โต 6.9% กลายเป็นติดลบ -1.0 %


รูปแบบที่ 2 เกิดภาวะเศรษฐกิจถดถอยจากการจับคู่กันทำสงคราม ช่วงปี 1970-1979 ราคาน้ำมัน จาก 3 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล กลายเป็น 12 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล หรือเพิ่มขึ้น 400% เงินเฟ้อจากที่ระดับ 2.4% เพิ่มสูงขึ้นเป็น 6.2 % ขณะที่จีดีพี แม้จะโตได้ 2.3% แต่ลดลงจากระดับ 4.7% ส่วนรูปแบบที่ 3 คือหากเกิดซอฟต์แลนดิ้ง ราคาน้ำมัน จาก 75 ดอลลาร์สหรัฐ พุ่งแตะ 130 ดอลลาร์สหรัฐ หรือเพิ่มขึ้น 74% เงินเฟ้อจากระดับ 2.2% เพิ่มขึ้นเป็น 3.2% ขณะที่จีดีพี ลดลงจาก 3% เหลือ 2%

ทั้งนี้สำหรับประเทศไทย หากสถานการณ์ปัจจุบันพัฒนาเป็นแบบซอฟต์แลนดดิ้ง เศรษฐกิจจะชะลอตัวไปอีก 1-2 ปี จีดีพี จากที่เคยติดลบ 6.2% ในปี 2020 จากสถานการณ์โควิด จะค่อยๆ โตขึ้น ปีนี้อาจได้เห็นจีดีพี 2.8% และหากอาจเป็น 3.4% ในปี 2023 ส่วนเงินเฟ้อปีนี้อยู่ที่ 6.7% และลดลงเหลือ 2.5% ในปีหน้า แต่หากเกิด StagFlation เศรษฐกิจจะชะลอตัวยาวนาน 3-5 ปี จีดีพีปี 2023 จะเหลือแค่ 1.4% และเหลือ 1.0% ในปี 2023 ส่วนเงินเฟ้อปีนี้จะอยู่ที่ 7.5% และลดลงเหลือ 5% ในปีหน้า แต่หากเกิดสงครามโลก เศรษฐกิจจะถดถอยเป็นเวลามากกว่า 5 ปี จีดีพีจะปักหัวลง เหลือ -1% ในปี 2022 และ -8% ในปี 2023 ส่วนเงินเฟ้อจะพุ่งเป็น 7.5% ในปีนี้ และ10% ในปีหน้า

ดังนั้น จึงอยากฝากให้ผู้ประกอบการของไทยให้เตรียมพร้อมรับมือกับทุกสถานการณ์ที่อาจเกิดขึ้น ทั้ง 3 ฉากทัศน์ โดยให้เน้นที่การพัฒนาประสิทธิภาพและประสิทธิผลขององค์กร, การมีแผนการลงทุนที่สามารถแบ่งโครงการและส่งมอบเป็นช่วงๆ , การบริหารหนี้ และสินค้าคงเหลือต้องไม่เยอะ , การใช้ข้อมูลทางเทคโนโลยีมาพัฒนากระบวนการภายใน สุดท้ายคือการวิจัยและพัฒนา ทั้งนี้เชื่อว่าจากนี้ไปหากธุรกิจยังสามารถเอาตัวรอดได้ จะกลับมาแข็งแกร่งอย่างแน่นอน


ด้าน จิรายุส ทรัพย์ศรีโสภา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บิทคัพ แคปปิตอล กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ กล่าวในหัวข้อ Blockchain and Future Era โดยระบุว่า ขณะนี้หลายประเทศทั่วโลกกำลังให้ความสำหรับกับเรื่องของอัตราเงินเฟ้อที่ปรับตัวสูงขึ้นในรอบ 40 ปี เช่น สหรัฐ มีอัตราเงินเฟ้อ อยู่ที่ราว 8% เยอรมัน อยู่ที่ราว 9% ส่วนไทย แม้ว่าอัตราเงินเฟ้อจะต่ำกว่า สหรัฐ และเยอรมัน แต่ก็สูงสุดในเป็นประวัติการณ์ ซึ่งอัตราเงินเฟ้อที่อยู่ในระดับสูงดังกล่าวจะส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจถดถอยในระยะสั้น 6-18 เดือน ดังนั้น ภาคธุรกิจจะต้องวางแผนรับมือในระยะสั้น ด้วยการอย่าใช้จ่ายที่ไม่จำเป็น ส่วนในระยะยาว จะต้องเน้นการเพิ่มประสิทธิภาพการผลิต ด้วยการลงทุนและศึกษาเรื่องของเทคโนโลยีใหม่ๆ ส่วนภาคประชาชน ในระยะสั้นก็จำเป็นต้องประหยัดรายจ่ายที่ไม่จำเป็นเพื่อรับมือกับอัตราเงินเฟ้อที่อยู่ในระดับสูง

ด้านนายชวลิต ทิพพาวนิช ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ไออาร์พีซี จำกัด (มหาชน) ได้ย้ำถึงทิศทางใหม่ของธุรกิจปิโตรเคมี โดยระบุว่าปัจจุบันธุรกิจต้องเผชิญกับความท้าทายหลายปัจจัย ทั้งปัญหาสงครามการค้า ความขัดแย้งระหว่างรัสเซียกับยูเครน การแพร่ระบาดของโควิด-19 ที่ฉุดกำลังซื้อของผู้บริโภค ความผันผวนของราคาพลังงาน การเปลี่ยนแปลงทางเทคโนโลยี และปัญหาโลกร้อน สิ่งเหล่านี้ล้วนเป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้ผู้ประกอบการธุรกิจปิโตรเคมีต้องปรับตัว โดยไออาร์พีซี ได้ยกระดับผลิตภัณฑ์พอลิเมอร์ (Polymer) เป็นตราสินค้า (Brand) ใหม่ของ Polimaxx IRPC ให้สดใสและทันสมัยขึ้น แต่ยังคงรวบรวมผลิตภัณฑ์ภายใต้กลุ่มธุรกิจปิโตรเคมีทั้งหมดของบริษัทฯ ไว้ภายใต้ Brand ด้วยกัน เพื่อตอบสนองต่อความต้องการสินค้าของโลกในอนาคตที่กำลังจะเปลี่ยนแปลงไป เช่น เครื่องบิน ,ยานยนต์ไฟฟ้า(อีวี) สถานีชาร์จไฟฟ้า, ชิ้นส่วนประกอบให้กับแบตเตอรี่ และอุปกรณ์สำหรับติดตั้งโซลาร์ลอยน้ำ

นอกจากนี้ยังเข้าไปลงทุนผลิตอุปกรณ์ทางการแพทย์ เช่น การผลิตผ้า Melt Blown ซึ่งเป็นวัตถุดิบหลักสำหรับผ้าชั้นกรองหน้ากากอนามัย (PPE) หน้ากาก N95 และแผ่นกรองอากาศ รวมถึงผ้าสปันบอนด์ ที่ผลิตจากเม็ดพลาสติก PP (Polypropylene) ที่สามารถนำไปตัดเป็นชุด PPE รวมถึงการพิมพ์ 3 มิติ (3D Printing) ได้ร่วมกับมหาวิทยาลัยต่างประเทศทำการศึกษา การทำไหมย่อยสลายได้ที่ให้สำหรับลิ้นหัวใจ เรียกได้ว่า ทุกธุรกิจของไออาร์พีซี ได้ถูกออกแบบและปรับตัวให้สอดรับกับความต้องการของผู้บริโภคและเทรนด์ของธุรกิจที่จะเปลี่ยนแปลงไปในอนาคตไว้ครอบคลุมแล้ว.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ค้น 17 จุดกรุงเทพฯ-ลพบุรี คุมตัว “หลวงพ่ออลงกต-หมอบี”

26 ส.ค.- ตำรวจสอบสวนกลาง ปิดล้อมตรวจค้น 17 จุด “กรุงเทพฯ-ลพบุรี” บุกรวบ “หลวงพ่ออลงกต” หลังพฤติกรรมชัดทุจริตยักยอกเงินบริจาค ขณะที่ “หมอบี” โดนด้วย หิ้วตัวเค้นสอบ เมื่อเวลา 01.00 น.วันที่ 26 ส.ค. มีรายงานว่าทางตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) นำโดย พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก. สั่งการให้ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว พล.ต.ต.สุวัฒน์ แสงนุ่ม รองผบช.ก. พล.ต.ต. วิทยา ศรีประเสิรฐภาพ ผบก.ป.พล.ต.ต.ประสงค์ เฉลิมพันธ์ ผบก.ปปปพ.ต.อ.มนูญ แก้วก่ำ ผกก.1 บก.ป ปิดล้อมตรวจค้น 17 จุด ในพื้นที่กรุงเทพฯ-ลพบุรี เพื่อควบคุม หลวงพ่ออลงกต อดีตเจ้าอาวาสวัดพระบาทน้ำพุ จ.ลพบุรี และนายเสกสันน์ หรือหมอบี และพวก ตามหมายจับ ความผิด ม.147, 157 […]

ศาล รธน. สั่งเอาผิดเผยแพร่คลิป “นั่งลงลูก”

ศาล รธน. 25 ส.ค.-ศาลรัฐธรรมนูญ สั่งเอาผิดเผยแพร่คลิป “นั่งลงลูก” ชี้บิดเบือน-ทำเสียหาย ศาลรัฐธรรมนูญได้ออกเอกสารข่าว ระบุว่า ตามที่ศาลรัฐธรรมนูญออกนั่งพิจารณาคดี เมื่อวันพฤหัสบดีที่ 21 สิงหาคม 2568 ไต่สวนพยานบุคคลที่ศาลรัฐธรรมนูญเรียกมาให้ถ้อยคำ จำนวน 2 ปาก ได้แก่ นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ผู้ถูกร้อง และนายฉัตรชัย บางขวด เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ เรื่อง ประธานวุฒิสภา ส่งคำร้องขอให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 170 วรรคสาม ประกอบมาตรา 82 ว่า ความเป็นรัฐมนตรีของนางสาวแพทองธาร นายกรัฐมนตรี สิ้นสุดลงเฉพาะตัวตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 170 วรรคหนึ่ง (4) ประกอบมาตรา 160 (4) และ (5) หรือไม่ เมื่อเสร็จสิ้นการไต่สวนแล้ว ศาลมีคำสั่งห้ามมิให้ผู้เข้าฟังการไต่สวนนำข้อมูลการไต่สวนไปเผยแพร่ และห้ามไม่ให้บิดเบือนข้อเท็จจริงหรือข้อกฎหมายในลักษณะที่สร้างความเข้าใจผิดต่อสาธารณชน อันเป็นคำสั่งศาลตาม พ.ร.ป.ว่าด้วยวิธีพิจารณาของศาลรัฐธรรมนูญ พ.ศ. 2561 […]

“แพทองธาร” รีโพสต์โต้คลิปบิดเบือน ยันศาลบอก “นั่งลงครับ”

กรุงเทพฯ 25 ส.ค.- “แพทองธาร” รีโพสต์สตอรี่ไอจี โต้ดรามาคลิปบิดเบือน ยันศาล รธน. บอก “นั่งลงครับ” นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม รีโพสต์สตอรี่ในอินสตราแกรมของสำนักข่าว VOICE TV ยืนยันไม่เป็นความจริง ต่อกระแสดรามาปล่อยคลิปเสียงตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ พูดว่า “นั่งลงลูก” ภายหลัง น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม กล่าวคําปฏิญาณ ในระหว่างที่ศาลรัฐธรรมนูญไต่สวนพยาน คดีคลิปสนทนากับ ฮุน เซน เมื่อวันที่ 21 สิงหาคมที่ผ่านมา ซึ่งในคลิปดังกล่าวมีข้อความระบุว่า ฟังชัดๆๆ ศาลบอกว่า “นั่งลงครับ” ไม่ใช่ “นั่งลงลูก” อย่างที่มีคนปั่น!! อย่ามั่ว อย่าบิดเบือนข่าว อย่างไรก็ตาม คาดว่าในช่วงเช้าวันนี้ (25 ส.ค.) นางสาวแพทองธาร จะดำเนินการเรื่องการส่งคำแถลงปิดคดีต่อศาลรัฐธรรมนูญ เนื่องจากศาลนัดยื่นคำแถลงปิดคดีภายในวันนี้ ก่อนจะนัดฟังคำวินิจฉัยในวันที่ 29 สิงหาคม เวลา 15.00 น.-316 -สำนักข่าวไทย

ปลัด มท. สั่งสอบด่วน ปมสแกนม่านตาแลกเหรียญ

ไอคอนสยาม 25 ส.ค.- ปลัด มท. เผยยังไม่ได้รับรายงานปมสแกนม่านตาแลกเหรียญ สั่งกรมการปกครองสอบด่วน นายอรรษิษฐ์ สัมพันธรัตน์ ปลัดกระทรวงมหาดไทย กล่าวถึงกรณีที่มีรายงานว่า มีกลุ่มบุคคลสแกนม่านตาประชาชนและชักชวนให้เข้าไปใช้แอปพลิเคชันเพื่อแลกกับเงินหรือเหรียญในระบบ ว่า ขณะนี้ยังไม่ได้รับรายงาน แต่หากเป็นการกระทำที่ไม่ถูกต้อง กระทรวงมหาดไทยจะสั่งการให้กรมการปกครองดำเนินการแก้ไขและจัดการอย่างถูกต้องทั่วประเทศอย่างไรก็ตาม หากประชาชนพบเห็นพฤติกรรมที่ไม่ถูกต้อง สามารถแจ้งเรื่องมายังกระทรวงมหาดไทย เพื่อให้ทุกจังหวัดดำเนินการตรวจสอบตามข้อเท็จจริง ส่วนกรณีที่มีรายงานว่ายังมีการดำเนินการในจังหวัดสุราษฎร์ธานี ปลัดกระทรวงมหาดไทยยืนยันว่าจะเร่งตรวจสอบทั้งที่สุราษฎร์ธานีและทุกจังหวัดที่ได้รับเรื่องร้องเรียน ทั้งนี้ การตรวจสอบจะพิจารณาว่าความผิดปกติเกิดจากเจ้าหน้าที่ของรัฐหรือบุคคลอื่น หากพบว่าเป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐ กระทรวงมหาดไทยจะดำเนินการตามระเบียบอย่างเคร่งครัด โดยย้ำให้ประชาชนมั่นใจว่า กระทรวงพร้อมตรวจสอบอย่างโปร่งใส.-319 -สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

กั้นแนวถนนบ้านหนองจาน ตามประกาศเคอร์ฟิว

สระแก้ว 27 ส.ค. – มวลชนชาวไทยร่วมร้องเพลงชาติ ที่บ้านหนองจาน จ.สระแก้ว เมื่อเวลา 18.00 น. จากนั้นทหารขอความร่วมมือให้ออกนอกพื้นที่ ตามประกาศเคอร์ฟิว ก่อนนำลวดหนามและเครื่องกีดขวาง กั้นแนวขอบถนนศรีเพ็ญ ห้ามผู้ใดข้ามไป เพื่อความปลอดภัย. – สำนักข่าวไทย

ดินถล่มหมู่บ้าน อ.แม่แจ่ม ตาย 3 สูญหาย 6

เชียงใหม่ 27 ส.ค. – ฝนที่ตกหนักจากฤทธิ์ของพายุ “คาจิกิ” ทำให้เกิดดินถล่มในหมู่บ้านปางอุ๋ง ซึ่งอยู่บนดอยสูง อ.แม่แจ่ม จ.เชียงใหม่ มีผู้เสียชีวิตแล้ว 3 ราย บาดเจ็บ 15 ราย และยังสูญหายอีก 6 ราย สภาพหมู่บ้านเต็มไปด้วยดินโคลนที่ถล่มลงมาทับบ้านเรือนเสียหายนับร้อยหลัง. – สำนักข่าวไทย

“มาริษ” แจงข้าหลวงใหญ่ UN ปมกัมพูชา

สวิตเซอร์แลนด์ 27 ส.ค.-“มาริษ” เผยคุยรองข้าหลวงใหญ่ UN ปมไทย-กัมพูชา สัญญาณบวก เข้าใจไทยไม่ทำผิดกติการะหว่างประเทศ ไม่เห็นด้วย “ฮุน เซน” อัดเสียงคุยนายกฯ และการใช้สงครามข่าวปลอม นายมาริษ เสงี่ยมพงษ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ เข้าพบหารือกับนางนาดา อัล-นาชิฟ (Nada Al-Nashif) รองข้าหลวงใหญ่เพื่อสิทธิมนุษยชนแห่งสหประชาชาติ เพื่อแสดงข้อมูลหลักฐานและชี้แจงข้อเท็จจริงต่อสถานการณ์ที่เกิดขึ้นระหว่างไทยกับกัมพูชา นายมาริษ เปิดเผยภายหลังการหารือว่า ได้เล่าให้รองข้าหลวงใหญ่ฯ ฟังถึงการละเมิดสิทธิมนุษยชนของกัมพูชาในหลายประเด็น ซึ่งรองข้าหลวงใหญ่ฯมีความเห็นที่สนับสนุนประเทศไทยในหลายเรื่อง และมีท่าทีที่เป็นห่วงประเทศไทยมาก ซึ่งตนได้ชี้แจงข้อเท็จจริง โดยเฉพาะการที่กัมพูชาใช้โซเชียลมีเดียโจมตีไทยมานานแล้ว มีการให้ข้อมูลว่าไทยลอกเลียนแบบวัดและประวัติศาสตร์ของกัมพูชา ซึ่งไทยพยายามแก้ไขปัญหานี้ด้วยความอดทนอดกลั้น และพยายามชี้แจงให้เห็นว่าเป็นประวัติศาสตร์ที่ก่อตั้งกันมาจากรากเหง้าทางวัฒนธรรมเดียวกัน ไทยต้องการแก้ไขปัญหาไม่ต้องการแสดงความร้าวฉานระหว่างชุมชนและ ประชาชนของทั้งสองประเทศ และเมื่อปัญหาคุกรุ่นมากขึ้นไทยก็พยายาม แก้ปัญหาด้วยการให้กัมพูชามาพูดคุยแบบทวิภาคี เป็นการอธิบายให้รองข้าหลวงใหญ่ฯ ได้เข้าใจว่าไทยปฏิบัติตามกติกา ยึดถือกฎบัตรสหประชาชาติและกฎหมายระหว่างประเทศ และพยายามหาทางให้กัมพูชามาพูดคุยกับไทย ซึ่งไทยกับกัมพูชามีข้อตกลง MOU43 ที่ทั้งสองประเทศจะต้องแก้ปัญหาร่วมกันอย่างสันติวิธี และด้วยความจริงใจ นับเป็นกลไกที่องค์การสหประชาชาติให้ความสำคัญ คือการเจรจาทวิภาคีโดยสันติและจริงใจ โดยไทยยึดมั่นมาโดยตลอด และเป็นเป้าหมายที่สำคัญของไทย นายมาริษ กล่าวว่าตนได้หยิบยกประเด็นที่สมเด็จฮุน เซน อัดเสียงพูดคุยกับนายกรัฐมนตรีของไทย และนำมาเผยแพร่ในที่สาธารณะ ซึ่งเป็นสิ่งที่ไม่ควรทำอย่างยิ่ง […]

“ทิดอลงกต-หมอบี” นอนคุก ศาลไม่ให้ประกันตัว

ศาลอาญาฯ 27 ส.ค. – “ทิดอลงกต-หมอบี” นอนคุก ศาลไม่ให้ประกันตัว เหตุคดีมีอัตราโทษสูง และมีทรัพย์สินมูลค่าความเสียหายสูง พนักงานสอบสวน กองกำกับการ 5 กองบังคับการป้องกันปราบปราม ยื่นคำร้องต่อศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง ขอฝากขังครั้งแรก พระราชวิสุทธิประชานาถ หรือนายอลงกต พูลมุข ผู้ต้องหาที่ 1 และนายเสกสันน์ ทรัพย์สืบสกุล ผู้ต้องหาที่ 2 ความผิดกล่าวหาผู้ต้องหาที่ 1 ฐานเป็นเจ้าพนักงานมีหน้าที่ซื้อ ทำ จัดการหรือรักษาทรัพย์ใด เบียดบังทรัพย์นั้นเป็นของตน หรือเป็นของผู้อื่นโดยทุจริต หรือโดยทุจริตยินยอมให้ผู้อื่นเอาทรัพย์นั้นเสีย, เป็นเจ้าพนักงานปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ เพื่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้หนึ่งผู้ใดหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าโดยทุจริต, ฟอกเงินและสมคบโดยการตกลงกันตั้งแต่สองคนขึ้นไปเพื่อกระทำความผิดฐานฟอกเงิน ความผิดกล่าวหาผู้ต้องหาที่ 2 ฐานเป็นผู้สนับสนุนการกระทำความผิดฐานเป็นเจ้าพนักงาน มีหน้าที่รักษาทรัพย์ใดฯ, เป็นผู้สนับสนุนเจ้าพนักงาน ปฏิบัติหรือละเว้นปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบฯ, ฟอกเงินและสมคบโดยการตกลงกันตั้งแต่สองคนขึ้นไปเพื่อกระทำความผิดฐานฟอกเงิน ซึ่งศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลางอนุญาตให้ฝากขัง 12 วัน ตั้งแต่วันที่ 27 ส.ค.- 7 ก.ย.นี้ โดยผู้ต้องหาที่ 1 ไม่ยื่นคำร้องขอปล่อยตัวชั่วคราวในชั้นนี้ ส่วนผู้ต้องหาที่ 2 […]