fbpx

EXIM BANK ชูโซเชียลมีเดียสร้างผู้ส่งออกป้ายแดง

28 มิ.ย. – EXIM BANK ชูโซเชียลมีเดียสร้างผู้ส่งออกป้ายแดง พร้อมปั้นผู้ส่งออกมืออาชีพสร้างแบรนด์ไทยติดตลาดโลกยุค Next Normal


โลกกำลังเผชิญกับสึนามิเทคโนโลยีในทุกระดับทั้งกายภาพและชีวภาพ ปัจจุบันเทคโนโลยีดิจิทัลได้เข้ามามีบทบาทในการเปลี่ยนแปลงทุกอย่าง ไม่ว่าจะเป็นพฤติกรรมผู้บริโภค การสื่อสาร วิธีการทำงาน ผนวกกับการแพร่ระบาดของโรคอุบัติใหม่อย่างโควิด-19 จึงยิ่งเป็นตัวเร่งให้ภาคธุรกิจต้องนำเอาเทคโนโลยีเข้ามาใช้อย่างเร่งด่วน

ผู้บริโภคในยุค Next Normal ได้ย้ายจากออฟไลน์มาอยู่ในโลกออนไลน์ ผู้คนใช้โซเชียลมีเดียเพื่อแชร์ สำรวจ และเชื่อมต่อกับสิ่งต่าง ๆ รอบตัวในชุมชน ทำให้นักการตลาดต้องปรับเปลี่ยนกลยุทธ์ใหม่ ซึ่งเรียกว่า “ลูกค้าอยู่ที่ไหน เราจะอยู่ที่นั่น” เพื่อที่จะเข้าถึงลูกค้าบนแพลตฟอร์มที่ผู้คนใช้งานบ่อยที่สุด องค์กรต่าง ๆ ต้องใช้โซเชียลมีเดียในการประชาสัมพันธ์และขยายธุรกิจ เพิ่มเติมจากช่องทางเดิม ๆ


การเลือกแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียที่ใช่เป็นหัวใจสำคัญที่จะทำให้การสื่อสารพุ่งตรงสู่เป้าหมายได้ตรงจุด ทำให้สามารถทุ่มเทความสนใจและทรัพยากรให้เกิดประโยชน์แก่องค์กรได้อย่างสูงสุด

ธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าแห่งประเทศไทย (EXIM BANK) ได้นำกลยุทธ์ “ลูกค้าอยู่ที่ไหน เราจะอยู่ที่นั่น” มาใช้เช่นกัน โดยได้ใช้แพลตฟอร์มเฟซบุ๊กเป็นช่องทางหลักในการสื่อสารข้อมูลข่าวสารที่เป็นประโยชน์ให้กับลูกค้าและประชาชนทั่วไป นับว่าเป็นช่องทางที่มีประสิทธิภาพไม่ได้สร้างแค่เพียงภาพลักษณ์ขององค์กร แต่ได้สร้างผู้ส่งออกป้ายแดงให้เกิดขึ้นในระบบเศรษฐกิจอีกด้วย

มีน้อยคนที่รู้ว่าสตาร์ทอัพผู้ผลิตและจำหน่ายอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์สำหรับ Internet of Things อุปกรณ์สำหรับใช้กับคอมพิวเตอร์ และเครื่องใช้ไฟฟ้าแบรนด์ไทยชื่อดังอย่าง “Anitech” นั้นได้รับการสนับสนุนเริ่มต้นจาก EXIM BANK ผ่านมาทางโซเชียลมีเดีย


พิชเยนทร์ หงษ์ภักดี ประธานเจ้าหน้าที่บริหารบริษัท สมาร์ท ไอดี กรุ๊ป กล่าวว่า “ผมจำได้ว่าตอนที่ผมเริ่มอยากจะเปิดโรงงานขยายตลาดไปต่างประเทศ ผมกำลังคิดว่าจะหาแหล่งเงินทุนที่ไหนดี ช่วงนั้นก็หาข้อมูลเยอะ วันหนึ่งได้เปิด Facebook ขึ้นมา แล้วเจอ Feed ที่เป็น EXIM BANK ก็เห็นว่าเป็นธนาคารที่ให้การสนับสนุนการส่งออกจึงคิดว่าเป็นไปได้ไหมที่เราจะไปเป็นลูกค้า จึงได้ลองส่งข้อความไปทาง Messenger สอบถามข้อมูล ทางธนาคารก็ติดต่อกลับมาและส่งเจ้าหน้าที่มาดูแลอย่างดี เข้ามาช่วยสนับสนุนทำให้เราสามารถที่จะขยายตลาดในต่างประเทศได้ โดยบริการแรกที่ผมใช้บริการกับ EXIM BANK คือบริการรับประกันการส่งออก”

คุณพิชเยนทร์ ย้อนอดีตสมัยที่เริ่มก่อตั้งบริษัทให้ฟังว่า ในช่วงที่เรียนอยู่ที่ฝรั่งเศสได้ร่วมกับเพื่อนทำธุรกิจพัฒนา chipset ที่ใส่อยู่ในเครื่องเล่นเกมอย่าง X-BoX และ Playstation พอเรียนจบกลับไทยก็อยากทำธุรกิจที่เกี่ยวกับอิเล็กทรอนิกส์และเทคโนโลยีต่อ จึงเริ่มรับจ้างผลิตแบบ Origianl Equipment Manufacturer (OEM) คือ ผู้รับจ้างผลิตสินค้าให้กับบริษัทที่จะไปขายในแบรนด์ของตัวเอง โดยผลิตให้กับ Global brand ต่าง ๆ แต่เมื่ออยู่ใน Supply Chain แล้ว เจ้าของแบรนด์มีการลดต้นทุนตลอดเวลา ทำให้ลำบาก และเห็นว่าการยืมจมูกคนอื่นหายใจเป็นความเสี่ยงทางธุรกิจและไม่ยั่งยืน จึงหันมาพัฒนาแบรนด์ของตัวเองและขยายตลาดไปยังประเทศเพื่อนบ้าน ซึ่งแน่นอนว่าการเติบโตของ SMEs จะต้องได้รับการสนับสนุนจากสถาบันการเงินด้วย ตอนที่เริ่มส่งออกเรากลัวเรื่องความเสี่ยงมาก ได้ EXIM BANK มาช่วยตรงนี้ก็ทำให้เราลดความกังวลว่าส่งออกแล้วไม่ได้รับเงินค่าสินค้าจากผู้ซื้อในต่างประเทศ

“บริการประกันการส่งออกตอบโจทย์ธุรกิจของเราอย่างมาก เพราะช่วงขยายตลาดต่างประเทศมากนั้น เราไม่สามารถให้เครดิตเทอมกับคู่ค้าของเราได้เต็มที่นัก ขณะที่ลูกค้าของเราเองก็ไม่สามารถที่จะจ่ายเงินเราได้ ณ วันที่สินค้าเราส่งไปถึง บริการประกันการส่งออกที่ช่วยคุ้มครองความเสี่ยงจากการไม่ได้รับชำระเงินช่วยให้เรากล้าเสนอเทอมการชำระเงินที่ผ่อนปรน และค้าขายกับใครก็ได้ในต่างประเทศ โดยไม่ต้องกังวลกับความเสี่ยง”

นอกจากนี้ในการเข้าไปรับดำเนินโครงการของภาครัฐ EXIM BANK ก็ช่วยจัดการเรื่องของ Bank Guarantee ให้ในเวลาที่รวดเร็วมาก ๆ ทำให้เราสามารถที่จะลงนามสัญญาได้รับโครงการจัดซื้อจัดจ้างภาครัฐได้ภายในเวลาที่รวดเร็วและมีประสิทธิภาพ เรียกได้ว่าเป็นความประทับใจในบริการที่ได้รับจาก EXIM BANK มาโดยตลอด ทีมงานไปจนถึงผู้บริหารให้ความสำคัญกับการดูแลลูกค้าเป็นอย่างดี” คุณพิชเยนทร์ กล่าว

ทั้งนี้ ช่องทางที่ EXIM BANK ใช้ติดต่อสื่อสารกับผู้ประกอบการและประชาชนทั่วไปที่สนใจที่จะทำการค้าระหว่างประเทศหรือปรึกษาปัญหาธุรกิจมีหลากหลาย ช่องทางโซเชียลมีเดีย ได้แก่ Facebook ทางแฟนเพจ “EXIM Bank of Thailand” และแฟนเพจ “ดร.รักษ์ วรกิจโภคาทร DR.Rak Vorrakitpokatorn” และทางเว็บไซต์ https://www.exim.go.th ซึ่งจะมีช่องทาง Chat ระหว่าง EXIM BANK กับลูกค้าและประชาชนที่สนใจ เพื่อให้คำปรึกษาแนะนำและบริการอย่างทันท่วงที

ดร.รักษ์ วรกิจโภคาทร กรรมการผู้จัดการ EXIM BANK กล่าวว่า EXIM BANK ให้ความสำคัญกับเสียงของลูกค้าทุกรายที่ส่งข้อความเข้ามาถาม โดยไม่ได้เน้นในเรื่องของการขาย แต่ต้องการให้เป็นช่องทางสร้างความสัมพันธ์ขั้นพื้นฐานที่ดีระหว่างผู้คนกับธนาคาร ไม่จำเป็นว่าคุณจะต้องเป็นผู้ส่งออกหรือเป็นลูกค้า แต่เป็นประชาชนทั่วไปที่มีความสนใจจะทำธุรกิจ ต้องการข้อมูลข่าวสารแล้วไม่รู้จะถามใคร ก็สามารถสอบถามข้อมูลความรู้เข้ามาได้ และธนาคารก็ยินดีให้บริการ ซึ่งการใช้โซเชียลมีเดียในการสื่อสารสร้างประสบการณ์ที่ดีให้กับผู้ใช้บริการโดยเฉพาะผู้ประกอบการ SMEs ที่เริ่มต้นทำธุรกิจอาจจะกังวล กลัว และไม่รู้ว่าจะทำอย่างไร

“คุณพิชเยนทร์ หงษ์ภักดี บริษัท สมาร์ท ไอดี กรุ๊ป เป็นตัวอย่างของ SMEs ที่เริ่มต้นแล้วไม่รู้จะคุยกับใคร จะเริ่มตรงไหน ก็ใช้ช่องทางโซเชียลมีเดียเข้ามาคุยกับธนาคาร อยากให้ผู้ประกอบการที่เริ่มต้นใหม่อย่ากลัวที่จะถาม อย่ากลัวที่จะติดต่อมาแล้วจะไม่ได้รับความสนใจ EXIM BANK ให้ความสำคัญกับทุกคน หากกลัวไม่ได้รับความสะดวกจะติดต่อมาที่แฟนเพจของ ดร.รักษ์ โดยตรงก็ได้” กรรมการผู้จัดการ EXIM BANK กล่าว

ดร.รักษ์กล่าวว่า ธนาคารได้พยายามเพิ่มช่องทางการติดต่อของลูกค้ากับธนาคารให้หลากหลายและมีมากขึ้น โดยนำเอาความกังวลของ SMEs มาปรับการให้บริการ โดยได้จัดตั้ง “EXIM Contact Center โทร 0 2169 9999” ให้เป็น “ศูนย์บริการครบวงจรเพื่ออำนวยความสะดวกด้านการค้าระหว่างประเทศให้แก่ SMEs (One Stop Trading Facilitator for SMEs)” โดยเจ้าหน้าที่มีประสบการณ์จะให้คำปรึกษาแนะนำในเรื่องธุรกิจและการเงิน ตลอดจนประสานงานและอำนวยความสะดวกให้กับลูกค้าแบบครบวงจรในจุดเดียว ซึ่งที่ผ่านมาได้รับการตอบรับเป็นอย่างดี

นอกจากนี้ ยังใช้ช่องทางการออกบูทในงานมหกรรมการเงินต่าง ๆ อย่างเช่น งาน Money EXPO, Thailand Smart Money, Smart SME Expo โดยนำเจ้าหน้าที่ไปให้บริการพูดคุย แลกเปลี่ยนข้อมูล ตลอดจนให้คำปรึกษาทั้งด้านข้อมูลข่าวสารและบริการทางการเงินแก่ผู้ประกอบการและประชาชนทั่วไปที่สนใจจะเริ่มต้นหรือขยายธุรกิจส่งออก

ดร.รักษ์ กล่าวว่า ในด้านการเสริมสร้างผู้ประกอบการ SMEs จะใช้นโยบาย 3 เติมเพื่อเสริมแกร่งให้ผู้ประกอบการกลุ่มนี้ เติมความรู้ สร้างโอกาสให้ SMEs เข้าถึงกลุ่มผู้ซื้อทั่วโลก เริ่มตั้งแต่ Training บ่มเพาะความรู้ด้านการส่งออก กระบวนการและเอกสารที่เกี่ยวข้อง Assessment มีแบบประเมินความพร้อมด้านการส่งออกด้วยระบบประเมินความพร้อมผู้ส่งออก (Thailand Export Readiness Assessment and Knowledge Management : TERAK) เติมเงินทุน สนับสนุนด้านเงินทุนตลอดวงจรธุรกิจ เติมเครือข่าย จัดให้มีช่องทางสร้างโอกาสให้กับผู้ประกอบการไทยที่มีความพร้อมได้ร่วมกิจกรรมจับคู่ธุรกิจ (Business Matching) เพื่อจะได้รู้จักและเข้าถึงผู้ซื้อในต่างประเทศได้เร็วขึ้น

ดร.รักษ์ กล่าวทิ้งท้ายว่า การสร้างผู้ประกอบการ SMEs ให้เป็นนักรบเศรษฐกิจไทยต้องแก้ไข Pain Points โดยเฉพาะเรื่องความกลัวให้ได้ก่อน EXIM BANK จึงอาสาเป็นที่ปรึกษาทางธุรกิจโดยเปิดให้บริการในทุกช่องทาง รวมทั้งโซเชียลมีเดีย เพื่อให้ผู้ประกอบธุรกิจในทุกระดับสามารถเข้าถึงความรู้ เงินทุน และเครือข่ายที่จะเตรียมความพร้อมเป็นนักรบเศรษฐกิจไทยที่คว้าชัยชนะในตลาดการค้าโลกยุค Next Normal ได้อย่างประสบความสำเร็จและยั่งยืน . – สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

มหาวิทยาลัยแจงเหตุ นศ.สาวปี 3 แทงแฟน นศ.ปี 1 สาหัส

มหาวิทยาลัยออกแถลงการณ์ชี้แจงกรณีนักศึกษาหญิงทำร้ายนักศึกษาชาย ในหอพักจนบาดเจ็บสาหัส ด้านตำรวจยืนยันนักศึกษาหญิงที่ก่อเหตุมอบตัวแล้ว ยอมรับเป็นแฟนและทะเลาะกัน

รวบผู้ต้องสงสัยคดีฆ่าหั่นศพที่นนทบุรี นำตัวเข้าเซฟเฮาส์

รวบตัวชายไทย อายุประมาณ 35-40 ปี ต้องสงสัยคดีฆ่าหั่นศพ ภายในซอยจัดสรรสวิง 2 ถนนบ้านกล้วย-ไทรน้อย ต.พิมลราช อ.บางบัวทอง จ.นนทบุรี ตำรวจนำตัวเข้าเซฟเฮาส์ อยู่ระหว่างสอบสวนและรวบรวมพยานหลักฐาน

ผู้ว่าการ ธปท.เตือน ครม. หวั่นดิจิทัลวอลเล็ตก่อหนี้จำนวนมาก

ทำเนียบฯ 24 เม.ย.- ผู้ว่าการ ธปท. ทำหนังสือถึง ครม. เตือนเดินหน้าดิจิทัลวอลเล็ต 10,000 บาท หวั่นก่อหนี้จำนวนมาก นายเศรษฐพุฒิ สุทธิวาทนฤพุฒิ ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ได้ทำหนังสือถึงสำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรี ลงวันที่ 22 เมษายน 2567 เพื่อเสนอความเห็นประกอบการพิจารณาในการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) วันที่ 23 เม.ย.2567 มองว่า โครงการเติมเงินดิจิทัลวอลเล็ต 10,000 บาท เป็นโครงการขนาดใหญ่ของประเทศ  ต้องใช้เงินจำนวนมาก อาจก่อให้เกิดภาระหนี้ผูกพันต่อรัฐบาลในอนาคตดังนี้ 1.ความจำเป็น โครงการเติมเงินดิจิทัลวอลเล็ต 10,000 บาท และผลกระทบต่อเสถียรภาพทางการคลังของประเทศ ควรดูแลครอบคลุมเฉพาะกลุ่มเป้าหมาย  เพื่อเป็นการแบ่งเบาภาระค่าครองชีพ ช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจอย่างมีประสิทธิผลคุ้มค่า และใช้งบประมาณลดลง  โดยเฉพาะกลุ่มเปราะบาง ยังไม่ฟื้นตัวเต็มที่ เช่น กลุ่มผู้มีรายได้น้อย หรือผู้ถือบัตรสวัสดิการฯ 15 ล้านคน ซึ่งดำเนินการได้ทันที และใช้งบประมาณเพียง 150,000 ล้านบาท และควรทำแบบแบ่งเป็นระยะ (phasing) เพื่อลดผลกระทบต่อเสถียรภาพการคลัง  […]

ข่าวแนะนำ

คุมเพลิงไหม้ “วิน โพรเสส” ได้แล้ว 95%

เหตุไฟไหม้โรงงานเก็บขยะเคมีอันตราย วินโพรเสส อ.บ้านค่าย จ.ระยอง วันนี้ เจ้าหน้าที่ควบคุมเพลิงได้แล้ว 95% เหลือเพียงจุดความร้อนที่อยู่ใต้ซากกองเพลิง ซึ่งยังต้องใช้สาร F500 ฉีดลดความร้อน แต่ยังมีกลิ่นฉุนแอมโมเนีย ด้านกรมโรงงานอุตสาหกรรมเช็กกล้องวงจรปิดตรวจสอบว่าเป็นการวางเพลิงเพื่อทำลายหลักฐานเช่นเดียวกับเหตุที่เกิดขึ้นใน อ.ภาชี จ.พระนครศรีอยุธยา หรือไม่

นายกฯ แจงเรียก “สุชาติ-รัฐมนตรี” เข้าพบ แค่ตามงาน

นายกฯ อารมณ์ดี เดินลงตึกไทยฯ พบสื่อ แจงเรียก “สุชาติ-รมต.” มีชื่อหลุด ครม.เข้าพบแค่ตามงาน ย้ำปรับ ครม.เสร็จเมื่อไหร่เดี๋ยวก็รู้ ยันกินข่าวเที่ยงวานนี้ไม่มี ”ทักษิณ“

รวบ 2 ใน 4 อุ้มฆ่าหนุ่มไทใหญ่ทิ้งป่า อ.แม่ริม จ.เชียงใหม่

รวบแล้ว 2 ใน 4 ผู้ต้องหาอุ้มฆ่า “จ๋อมวัน” หนุ่มไทใหญ่ ก่อนนำศพไปทิ้งในป่าที่ จ.เชียงใหม่ ปมสังหารอ้างไม่พอใจถูกแซวเรื่องหญิงคนสนิท

ดวงอาทิตย์ตั้งฉาก กทม.ครั้งแรกของปี

วันนี้เป็นครั้งแรกของปีที่ดวงอาทิตย์จะโคจรมาอยู่ในตำแหน่งตั้งฉากกับพื้นที่ กทม. ส่งผลให้ดวงอาทิตย์เคลื่อนผ่านใกล้จุดเหนือศีรษะ หรือตั้งฉากกับพื้นที่บริเวณต่างๆ ของไทย 2 ครั้งต่อปี คือช่วงเดือน เม.ย.-พ.ค. และเดือน ก.ค.-ก.ย.