fbpx

เอ็กซิมแบงก์เปิดสาขาในเวียดนาม

โฮจิมินห์ 10 มิ.ย.-EXIM BANK เปิดสำนักงานผู้แทนแห่งที่ 4 ในนครโฮจิมินห์ รับนโยบายกระทรวงการคลังหนุนทุนไทยรุกตลาด BCG ใน CLMV


นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เป็นประธานในพิธีเปิดสำนักงานผู้แทนธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าแห่งประเทศไทย (EXIM BANK) ในนครโฮจิมินห์ สาธารณรัฐสังคมนิยมเวียดนาม ผ่านระบบออนไลน์ โดยมีนายนิกรเดช พลางกูร เอกอัครราชทูต ณ กรุงฮานอย นางสาววีรกา มุทิตาภรณ์ กงสุลใหญ่ ณ นครโฮจิมินห์ ดร.พสุ โลหารชุน ประธานกรรมการ EXIM BANK และ ดร.รักษ์ วรกิจโภคาทร กรรมการผู้จัดการ EXIM BANK เข้าร่วมในพิธีเปิดสำนักงานผู้แทน EXIM BANK ในนครโฮจิมินห์ พร้อมด้วยกรรมการธนาคาร ผู้แทนหน่วยงานภาครัฐและภาคเอกชนของไทยและเวียดนาม ลูกค้า ผู้ประกอบการ และสื่อมวลชน ร่วมเป็นสักขีพยาน ณ โรงแรมอินเตอร์คอนติเนนตัล ไซง่อน นครโฮจิมินห์ เวียดนาม เมื่อวันที่ 10 มิถุนายน 2565

ทั้งนี้รัฐบาลโดยกระทรวงการคลังให้ความสำคัญกับการแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจและสังคมให้ฟื้นตัวอย่างยั่งยืน หลังจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 คลี่คลายลง รวมถึงการส่งเสริมการใช้โมเดลเศรษฐกิจชีวภาพ เศรษฐกิจหมุนเวียน และเศรษฐกิจสีเขียว (Bio-Circular-Green Economy: BCG Economy) แก้ปัญหาเศรษฐกิจ สังคม และสิ่งแวดล้อม ก่อให้เกิดการจ้างงานที่มีคุณค่า การเติบโตทางเศรษฐกิจ และความร่วมมือเพื่อการพัฒนาที่ยั่งยืนตามเป้าหมายการพัฒนาอย่างยั่งยืนขององค์การสหประชาชาติ เพื่อช่วยให้ทุกภาคส่วนก้าวพ้นปัญหาและอุปสรรคต่าง ๆ ควบคู่กับการเข้าถึงโอกาสใหม่ ๆ ของโลกยุค Next Normal


นายอาคม กล่าวว่า ในด้านการพัฒนาอย่างยั่งยืน เวียดนามเป็นประเทศสมาชิกอาเซียนที่มียุทธศาสตร์ชัดเจนในการส่งเสริมการใช้พลังงานหมุนเวียนเพื่อสร้างความมั่นคงด้านพลังงาน ลดการพึ่งพาเชื้อเพลิงฟอสซิลในการผลิตไฟฟ้าเพื่อลดมลพิษทางสิ่งแวดล้อมด้วยการผ่อนคลายกฎระเบียบ และการให้สิทธิประโยชน์ด้านการลงทุนโดยเฉพาะมาตรการทางภาษี เพื่อดึงดูดการลงทุนโดยตรงจากต่างประเทศ สอดรับกับศักยภาพของผู้ประกอบการไทยในการเข้าไปลงทุนพัฒนาพลังงานหมุนเวียนในเวียดนามโดยการสนับสนุนของสถาบันการเงินเฉพาะกิจอย่าง EXIM BANK ในการทำงานเชิงรุกเพื่อสนับสนุนทุนไทยให้เข้าไปสยายปีกในต่างประเทศมากขึ้น โดยใช้ความรู้ความเชี่ยวชาญของ EXIM BANK พัฒนานวัตกรรมทางการเงินเพื่อสนับสนุนธุรกิจ BCG ในเวียดนามเพิ่มมากขึ้น

ด้าน ดร.รักษ์ วรกิจโภคาทร กรรมการผู้จัดการ EXIM BANK กล่าวว่า ท่ามกลางความไม่แน่นอนและความท้าทายในโลกยุค Next Normal ยังมีโอกาสทางธุรกิจจำนวนมากอยู่รายล้อม โดย EXIM BANK พร้อมรับความเสี่ยงและเข้าไปสนับสนุนผู้ประกอบการไทยทั้งด้านสินเชื่อและให้บริการประกันความเสี่ยงทางการค้าและการลงทุนระหว่างประเทศ ไม่ว่าจะเป็นความเสี่ยงด้านอัตราแลกเปลี่ยน ความเสี่ยงทางการค้า และความเสี่ยงทางการเมือง ให้กำเนิดอุตสาหกรรมใหม่สู่อนาคต รวมถึง BCG และสนับสนุนทุนไทยไปต่างประเทศมากขึ้น โอกาสนี้ EXIM BANK จึงพร้อมเปิดดำเนินงานสำนักงานผู้แทนในนครโฮจิมินห์อย่างเป็นทางการ เพื่อทำงานร่วมกับภาครัฐและภาคเอกชนภายใต้ทีมประเทศไทย และเป็นส่วนหนึ่งของการเสริมทีม EXIM BANK สู่บทบาท “ธนาคารเพื่อการพัฒนาแห่งประเทศไทย” ควบคู่กับการเป็น “ศูนย์บริการครบวงจรเพื่ออำนวยความสะดวกทางการค้าระหว่างประเทศให้แก่ SMEs” ด้วยภารกิจ “ซ่อม สร้าง เสริม และสานพลัง” เพื่อเป็นกลไกการพัฒนาร่วมกันระหว่างประเทศไทยและภูมิภาคอาเซียนอย่างยั่งยืน ท่ามกลางความท้าทายและการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นตลอดเวลาของโลกยุค Next Normal

กรรมการผู้จัดการ EXIM BANK กล่าวว่า เวียดนามเป็นหนึ่งในประเทศเป้าหมายของการจัดตั้งสำนักงานผู้แทน EXIM BANK โดย EXIM BANK ได้มีบทบาทสนับสนุนให้เกิดธุรกิจการค้าและการลงทุนของไทยในเวียดนามมาเป็นเวลานานกว่า 2 ทศวรรษ ทั้งนี้ มีโครงการลงทุนในเวียดนามภายใต้การสนับสนุนของ EXIM BANK ในหลากหลายธุรกิจ อาทิ โรงไฟฟ้าพลังงานสะอาด ปิโตรเคมี ห้างค้าส่งและค้าปลีก โดยในช่วงไตรมาสแรกปี 2565 EXIM BANK ได้ขยายสินเชื่อให้แก่ผู้ประกอบการในเวียดนามมากที่สุดในตลาด CLMV (กัมพูชา สปป.ลาว เมียนมา และเวียดนาม) โดยมียอดสินเชื่อคงค้างจำนวน 13,843 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 65.65% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน จากสินเชื่อคงค้างใน CLMV และ New Frontiers ทั้งหมด 51,554 ล้านบาท ทั้งนี้ เวียดนามเป็นคู่ค้าสำคัญอันดับ 2 ของไทยในอาเซียน การส่งออกของไทยไปเวียดนามเน้นการตอบสนองความต้องการวัตถุดิบและสินค้าขั้นกลางให้แก่ภาคอุตสาหกรรมของเวียดนาม สินค้าส่งออกสำคัญของไทยไปเวียดนาม ได้แก่ รถยนต์ อุปกรณ์ และส่วนประกอบ เม็ดพลาสติก เคมีภัณฑ์ เครื่องปรับอากาศและส่วนประกอบ และน้ำมันสำเร็จรูป ขณะที่การลงทุนของไทยในเวียดนามกระจายอยู่ในหลากหลายธุรกิจ อาทิ พลังงาน นิคมอุตสาหกรรม อุตสาหกรรมการผลิตและแปรรูป เกษตรและประมง ธนาคาร ก่อสร้าง ค้าส่ง ค้าปลีก โรงแรม ร้านอาหาร คลินิกเสริมความงาม ขนส่ง โลจิสติกส์ และธุรกิจโฆษณา โดยไทยเป็นนักลงทุนรายใหญ่อันดับ 8 ในเวียดนาม


ดร.รักษ์ กล่าวว่า โอกาสใหม่ ๆ ของผู้ประกอบการไทยยังมีอยู่อีกมากในเวียดนาม เนื่องด้วยจำนวนประชากรเกือบ 100 ล้านคนและเศรษฐกิจที่มีแนวโน้มเติบโตสูงเกือบ 7% ต่อปีโดยเฉลี่ย แม้ในวิกฤตโควิด-19 ที่ผ่านมายังขยายตัวได้ที่ระดับเกือบ 3% ไทยและเวียดนามเป็นพันธมิตรทางการค้ามาช้านานและมีที่ตั้งอยู่ไม่ห่างกัน จึงเป็นจุดเริ่มต้นที่น่าสนใจของ SMEs ไทยในการส่งออก โดยเฉพาะการเจาะกลุ่มผู้บริโภคเวียดนามตามช่วงอายุ ซึ่งมีความต้องการที่หลากหลาย โดยผู้บริโภคชาวเวียดนามให้ความสำคัญกับการดูแลสุขภาพมากขึ้นเป็นลำดับ ประชากรวัยทำงานมีกำลังซื้อสูงขึ้นและชอบชอปปิงออนไลน์ ทำให้ตลาด E-Commerce โตถึง 35% ต่อปี ขณะเดียวกัน เวียดนามมีทรัพยากรธรรมชาติที่อุดมสมบูรณ์ รัฐบาลเวียดนามมีนโยบายส่งเสริมการค้าเสรีและการลงทุนจากต่างประเทศ ทำให้เวียดนามเป็นแหล่งลงทุนเป้าหมายสำคัญของนักลงทุนต่างชาติรวมทั้งไทย โดยมีนครโฮจิมินห์เป็นเมืองเศรษฐกิจที่สำคัญ เป็นศูนย์กลางธุรกิจการค้า บริการ การเงินการธนาคาร เทคโนโลยี อุตสาหกรรม และการท่องเที่ยว ศูนย์กลางการคมนาคม เป็นที่ตั้งของนิคมอุตสาหกรรมที่ทันสมัยและท่าเรือไซง่อนซึ่งมีขนาดใหญ่ที่สุดในเวียดนาม เศรษฐกิจของโฮจิมินห์มีขนาดใหญ่เป็นอันดับต้น ๆ ของประเทศ และขยายตัวสูงกว่าอัตราการขยายตัวทางเศรษฐกิจเฉลี่ยของทั้งประเทศ

ในโอกาสนี้ EXIM BANK ได้ลงนามในสัญญาสนับสนุนทางการเงินกับธนาคารเพื่อการลงทุนและพัฒนาแห่งประเทศเวียดนาม (The Joint Stock Commercial Bank for Investment and Development of Vietnam: BIDV) จำนวน 100 ล้านดอลลาร์สหรัฐ เพื่อให้ BIDV นำไปใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียน สนับสนุนการส่งออกสินค้าจากไทยไปเวียดนาม รวมทั้งแลกเปลี่ยนข้อมูลที่เป็นประโยชน์ต่อการเสริมสร้างโอกาสขยายการค้าและการลงทุนระหว่างไทยกับเวียดนาม และแลกเปลี่ยนประสบการณ์ในการดำเนินธุรกิจระหว่างผู้ประกอบการของทั้งสองประเทศ

“EXIM BANK เปิดสำนักงานผู้แทนครบ 4 แห่งใน CLMV สะท้อนถึงความสำคัญที่รัฐบาลไทยให้กับประเทศเพื่อนบ้านและอนุภูมิภาคลุ่มแม่น้ำโขง เพื่อจับมือก้าวผ่านความท้าทายจากการเปลี่ยนแปลงของโลกและสร้างโอกาสใหม่ ๆ เพื่อวางรากฐานการพัฒนาอย่างยั่งยืนในภูมิภาคไปด้วยกัน ในมิติเศรษฐกิจ เชื่อมโยงกับมิติสังคมและสิ่งแวดล้อม ช่วยเหลือและเยียวยาธุรกิจที่ประสบปัญหา สร้างอุตสาหกรรมใหม่สู่อนาคตและนักรบเศรษฐกิจป้ายแดง เสริมอาวุธให้แก่ผู้ประกอบการทุกขนาดธุรกิจ รวมถึงผู้ผลิตและผู้ส่งออกรายย่อย สานพลังการสร้างประเทศไทยและพันธมิตรให้มีภูมิคุ้มกัน เติบโตได้อย่างมั่นคงและยั่งยืนในระยะยาว” ดร.รักษ์กล่าว.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

รวบผู้ต้องสงสัยคดีฆ่าหั่นศพที่นนทบุรี นำตัวเข้าเซฟเฮาส์

รวบตัวชายไทย อายุประมาณ 35-40 ปี ต้องสงสัยคดีฆ่าหั่นศพ ภายในซอยจัดสรรสวิง 2 ถนนบ้านกล้วย-ไทรน้อย ต.พิมลราช อ.บางบัวทอง จ.นนทบุรี ตำรวจนำตัวเข้าเซฟเฮาส์ อยู่ระหว่างสอบสวนและรวบรวมพยานหลักฐาน

ผู้ว่าการ ธปท.เตือน ครม. หวั่นดิจิทัลวอลเล็ตก่อหนี้จำนวนมาก

ทำเนียบฯ 24 เม.ย.- ผู้ว่าการ ธปท. ทำหนังสือถึง ครม. เตือนเดินหน้าดิจิทัลวอลเล็ต 10,000 บาท หวั่นก่อหนี้จำนวนมาก นายเศรษฐพุฒิ สุทธิวาทนฤพุฒิ ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ได้ทำหนังสือถึงสำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรี ลงวันที่ 22 เมษายน 2567 เพื่อเสนอความเห็นประกอบการพิจารณาในการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) วันที่ 23 เม.ย.2567 มองว่า โครงการเติมเงินดิจิทัลวอลเล็ต 10,000 บาท เป็นโครงการขนาดใหญ่ของประเทศ  ต้องใช้เงินจำนวนมาก อาจก่อให้เกิดภาระหนี้ผูกพันต่อรัฐบาลในอนาคตดังนี้ 1.ความจำเป็น โครงการเติมเงินดิจิทัลวอลเล็ต 10,000 บาท และผลกระทบต่อเสถียรภาพทางการคลังของประเทศ ควรดูแลครอบคลุมเฉพาะกลุ่มเป้าหมาย  เพื่อเป็นการแบ่งเบาภาระค่าครองชีพ ช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจอย่างมีประสิทธิผลคุ้มค่า และใช้งบประมาณลดลง  โดยเฉพาะกลุ่มเปราะบาง ยังไม่ฟื้นตัวเต็มที่ เช่น กลุ่มผู้มีรายได้น้อย หรือผู้ถือบัตรสวัสดิการฯ 15 ล้านคน ซึ่งดำเนินการได้ทันที และใช้งบประมาณเพียง 150,000 ล้านบาท และควรทำแบบแบ่งเป็นระยะ (phasing) เพื่อลดผลกระทบต่อเสถียรภาพการคลัง  […]

“สารวัตรแจ๊ะ” ยื่นฟ้องหมิ่น “ทนายรัชพล” กล่าวหาจับแพะติดคุกฟรีปีกว่า

“สารวัตรแจ๊ะ” พร้อมทนายความ ยื่นฟ้องหมิ่นประมาททนายดัง และฟ้องแพ่งเรียกค่าเสียหาย 5 ล้านบาท ยันไม่ได้นําตัวไปเซฟเฮาส์ ด้านทนายเผยพบหลักฐานทนายคู่กรณีบีบผู้เสียหายกลับคําให้การ แบ่งเงินคนละครึ่ง

ข่าวแนะนำ

ขอบคุณสมาคมธนาคารไทย ปรับลดดอกเบี้ย MRR

นายกฯ ขอบคุณสมาคมธนาคารไทย หั่นดอกเบี้ยลูกค้ารายย่อยชั้นดี (MRR) ลง 0.25% เป็นเวลา 6 เดือน เพื่อลดภาระดอกเบี้ยให้กลุ่มเปราะบาง ทั้งลูกค้าบุคคล และ SME

“บิ๊กโจ๊ก” ร้อง ตร.ขอความเป็นธรรม ปมโดนให้ออกจากราชการ

พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล บุกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ หอบหลักฐานยื่นคณะกรรมการพิทักษ์ระบบคุณธรรมตำรวจ ขอให้เพิกถอนคำสั่งให้ออกจากราชการ

เร่งตรวจสอบเหตุสารเคมีรั่วไหลโรงงานย่านพระราม 2

เจ้าหน้าที่เร่งตรวจสอบเหตุสารเคมีรั่วไหลในโรงงานย่านพระราม 2 ควันสีขาวลอยโขมง เบื้องต้นพบเป็นสารไทโอยูเรีย

อุตุฯ เผยไทยตอนบนร้อนจัด แนะเลี่ยงทำงานในที่โล่งแจ้งเป็นเวลานาน

กรมอุตุฯ เผยไทยตอนบนมีอากาศร้อนถึงร้อนจัด แนะหลีกเลี่ยงการทำงานหรือการประกอบกิจกรรมในที่โล่งแจ้งเป็นระยะเวลานาน ส่วนภาคใต้มีฝนฟ้าคะนองบางแห่ง กรุงเทพฯ-ปริมณฑล อากาศร้อนจัดบางแห่ง