หอการค้าไทยผลักดันรัฐปลดล๊อคการค้าชายแดนด่านไทย-กัมพูชา

กรุงเทพฯ 9 มิ.ย.-ประธานกรรมการหอการค้าไทยและสภาหอการค้าแห่งประเทศไทยระบุอยากให้รัฐปลดล๊อคการค้าชายแดนด่านไทย-กัมพูชาเพื่ออำนวยความสถดวกทางด้านการค้าของทั้ง 2 ฝ่ายได้รวดเร็วยิ่งขึ้น พร้อมนำเสนอแนทางแก้ไขไว้ 3 หัวข้อใหญ่


นายสนั่น อังอุบลกุล ประธานกรรมการหอการค้าไทยและสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า หอการค้าไทยได้นำคณะเยี่ยมเยือนหอการค้าจังหวัดบุรีรัมย์ เพื่อรับฟังปัญหาและแนวทางการผลักดันเศรษฐกิจในพื้นที่ พร้อมกันนี้ ได้มีโอกาสเข้าเยี่ยมคารวะนายธัชกร หัตถาธยากูล ผู้ว่าราชการจังหวัดบุรีรัมย์ เพื่อประสานความร่วมมือ เชื่อมต่อการทำงานระหว่างภาครัฐและเอกชน ตามแนวทาง Connect the dots โดยมี นายสวาท ธีระรัตนนุกูลชัย รองประธานกรรมการหอการค้าไทย และประธานคณะกรรมการพัฒนาเศรษฐกิจพื้นที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และคณะกรรมการ

หอการค้าไทยร่วมด้วย ดร.ณัชอิสร์ ศรีสุขพรชัย ประธานหอการค้าจังหวัดบุรีรัมย์ ได้นำเสนอประเด็นที่สำคัญเพื่อขอให้หอการค้าไทยช่วยสนับสนุนและผลักดันต่อหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ดังนี้ การเร่งรัดการตัดถนนวงแหวนรอบนอก อำเภอนางรอง อำเภอประโคนชัย รองรับความเจริญเติบโตของเศรษฐกิจการค้าชายแดน และการเดินทางที่สะดวกปลอดภัย การขอให้ภาครัฐส่งเสริมให้เกษตรกรผู้เลี้ยงสุกรเพื่อเพิ่มจำนวนสุกรเข้าสู่ระบบ รวมถึงส่งเสริมและสนับสนุนให้เกษตรกรปลูกข้าวโพดซึ่งเป็นพืชอาหารสัตว์หลังฤดูทำนา เพื่อเพิ่มปริมาณ Supply วัตถุดิบผลิตอาหารสัตว์ และทดแทนการนำเข้าจากต่างประเทศ ตลอดจนการส่งเสริมเกษตรกรผู้เลี้ยงโคเนื้อสายพันธุชั้นดีในจังหวัดบุรีรัมย์ โดยผู้ประกอบการในพื้นที่ได้เสนอให้ภาครัฐสนับสนุนเงินกู้อัตราดอกเบี้ยพิเศษและสนับสนุนองค์ความรู้ให้กับกลุ่มเกษตรกรผู้เลี้ยงโคเนื้อ เพื่อให้เกิดการยกระดับคุณภาพโคเนื้อสู่มาตรการสากล ซึ่งหอการค้าไทยจะนำไปผลักดันกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องต่อไป


นอกจากนี้ ยังได้ร่วมกับนายอนุพงศ์ สุขสมนิตย์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดบุรีรัมย์ นายสุรงค์ บูลกุล รองประธานกรรมการหอการค้าไทย และประธานคณะกรรมการกลุ่มค้าชายแดนและข้ามแดน

จัดการประชุมแลกเปลี่ยนความคิดเห็น เพื่อสร้างโอกาสทางการค้าชายแดนไทยและกัมพูชาร่วมกับนักธุรกิจและผู้ประกอบการในพื้นที่จังหวัดบุรีรัมย์ สุรินทร์ และศรีสะเกษ ภายใต้แนวทาง Trade & Travel ของหอการค้าไทย โดยมีผู้เข้าร่วมประกอบด้วย ศุลกากรช่องจอม ศุลกากรช่องสะงำ พาณิชย์จังหวัดบุรีรัมย์ สำนักงานทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมจังหวัดบุรีรัมย์ แขวงทางหลวงสุรินทร์ กองกำลังสุรนารี และผู้ประกอบการค้าชายแดนในพื้นที่ ซึ่งมีข้อเสนอเพื่อผลักดันการค้าชายแดนที่เปรียบเสมือนเส้นเลือดฝอยในการผลักดันการค้าระหว่างประเทศของไทย โดยมี 3 ประเด็นสำคัญ ดังนี้

1) การเร่งรัดเปิดจุดผ่อนปรนการค้าช่องสายตะกู อ.บ้านกรวด จ.บุรีรัมย์ และ ยกระดับให้เป็นจุดผ่านแดนถาวร เนื่องจากมีความสำคัญต่อยุทธศาสตร์การพัฒนาจังหวัดบุรีรัมย์และกลุ่มจังหวัดภาคอีสานตอนล่าง เพราะอยู่ห่างจากจังหวัดเสียมราฐ ประเทศกัมพูชา ประมาณ 185 ก.ม. ใช้เวลาเดินทาง 2 ชั่วโมง สามารถขนส่งสินค้าไป-กลับได้ภายใน 1 วัน ซึ่งจะช่วยประหยัดต้นทุนค่าขนส่งของผู้ประกอบการ


2) การผลักดันโครงการก่อสร้างด่านศุลกากรช่องจอม อ.กาบเชิง จ.สุรินทร์ แห่งใหม่ เนื่องจากด่านศุลกากรช่องจอมปัจจุบันมีพื้นที่เพียง 7 ไร่ แต่มีปริมาณรถบรรทุกผ่านเข้าออกด่านจำนวนมาก เฉลี่ย 200 คัน/วัน (ก่อนช่วงโควิด-19) ส่งผลให้มีรถติดสะสมอย่างมาก นอกจากนั้น สถานที่ปฏิบัติงานของหน่วยงานต่าง ๆ ยังแยกกันอยู่ และไม่รองรับการให้บริการแบบเบ็ดเสร็จ ณ จุดเดียว ตามแบบด่านสากล โดยขอให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องพิจารณาอนุญาตให้สามารถใช้พื้นที่ในการก่อสร้างด่านศุลกากรช่องจอมแห่งใหม่ เพื่อพัฒนาให้จุดผ่านแดนถาวรช่องจอมมีลักษณะเป็นด่านมาตรฐานสากล และสามารถอำนวยความสะดวกในการดำเนินงานอย่างมีประสิทธิภาพ

3) ผลักดันการพัฒนาทางหลวงหมายเลข 2201 ตอนแยกนาเจริญ-ช่องสะงำ เป็นโครงการขยายช่องทางจราจร จาก 2 ช่องเป็น 4 ช่องจราจร เริ่มจากสี่แยกนาเจริญไปยังด่านศุลกากรช่องสะงำ โดยหมวดทางหลวงภูสิงห์ เห็นชอบและดำเนินการสำรวจและออกแบบแล้ว ซึ่งจะช่วยให้การใช้เส้นทางมีความสะดวก รวดเร็ว และปลอดภัยมากยิ่งขึ้น รวมทั้งส่งเสริมและสนับสนุนการค้าการท่องเที่ยวบริเวณด่านชายแดนช่องสะงำ ส่งผลให้เศรษฐกิจในพื้นที่ชายแดนดีขึ้น

“การค้าชายแดนเป็นเรื่องสำคัญต่อเศรษฐกิจของประเทศเป็นอย่างมาก ดังนั้น รัฐบาลจำเป็นต้องเร่งหารือและรับฟังข้อคิดเห็นของทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้อง ทั้งภาครัฐ ภาคเอกชน และประชาชนในแต่ละพื้นที่เพื่อร่วมกันแก้ไขปัญหาดังกล่าวได้รวดเร็วและตรงจุด ซึ่งจะส่งผลดีต่อเศรษฐกิจของประเทศโดยเร็วต่อไป” คนายสนั่น กล่าว.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

Satellite images show wake of destruction of wildfires burning across California

เปิดปัจจัยที่ทำให้ไฟป่าแอลเอไหม้ลามหนัก

มีหลายปัจจัยที่ทำให้ไฟป่าในเทศมณฑลลอสแอนเจลิสหรือแอลเอ (LA) ในรัฐแคลิฟอร์เนียของสหรัฐไหม้ลามเป็นวงกว้างอย่างรวดเร็ว จนกลายเป็นวิกฤตไฟป่าครั้งร้ายแรงที่สุดครั้งหนึ่งของประเทศ

รู้ตัวคนไทยพลัดตกตึกสูงฝั่งปอยเปต พบไม่ได้ถูกจับโยนลงมา

รู้ตัวคนไทยพลัดตกตึกสูง 18 ชั้น ฝั่งปอยเปต ประเทศกัมพูชา เบื้องต้นพบไม่ได้ถูกจับโยนลงมา และอาคารดังกล่าวถูกระบุเป็นฐานบัญชาการของแก๊งคอลเซ็นเตอร์ โดยมีคนไทยถูกหลอกไปทำงานที่นี่จำนวนมาก

Palisades Fire

สหรัฐสั่งอพยพกว่าแสนคนหนีไฟป่า 6 จุดในแคลิฟอร์เนีย

ลอสแอนเจลิส 9 ม.ค.- สหรัฐสั่งอพยพประชาชนมากกว่า 100,000 คน เนื่องจากจำนวนไฟป่าที่โหมไหม้ในเทศมณฑลลอสแอนเจลิส รัฐแคลิฟอร์เนียเพิ่มขึ้นเป็นอย่างน้อย 6 จุดแล้ว เพราะกระแสลมแรงเทียบเท่าเฮอริเคนและสภาพอากาศแล้ง เจ้าหน้าที่เผยว่า ในจำนวนไฟป่าทั้ง 6 จุด มีอยู่ 4 จุดที่ยังไม่สามารถควบคุมได้เลย ไฟป่าจุดแรก คือ พาลิเซดส์ไฟร์ (Palisades Fire) เกิดขึ้นช่วงเช้าวันที่ 7 มกราคมตามเวลาท้องถิ่นใกล้แปซิฟิก พาลิเซดส์ ซึ่งเป็นย่านที่พักอาศัยทางตะวันตกเฉียงเหนือของเทศมณฑล ต้นเพลิงมาจากไฟไหม้พุ่มไม้ที่โหมไหม้จนเกินควบคุมเพราะกระแสลมแรง ต้องอพยพคนอย่างน้อย 30,000 คน ไฟป่าจุดที่ 2 คือ อีตันไฟร์ (Eton Fire) เกิดขึ้นในเย็นวันเดียวกันที่หุบเขาอีตันแคนยอน เผาไหม้พื้นที่ขยายวงกว้างมากพอ ๆ กับไฟป่าจุดแรก ไฟป่าจุดที่ 3 คือ เฮิร์ตส์ไฟร์ (Hurst Fire) เกิดขึ้นกลางดึกวันเดียวกันในย่านซิลมาร์ของนครลอสแอนเจลิส จากนั้นในเช้าวันที่ 8 มกราคมเกิดไฟป่าจุดที่ 4 คือ วูดลีไฟร์ […]

ข่าวแนะนำ

ทั่วไทยอากาศเย็นถึงหนาว อุณหภูมิลด 2 – 5 องศาฯ

กรมอุตุฯ เผยทั่วไทยอากาศเย็นถึงหนาว อุณหภูมิลด 2 – 5 องศาเซลเซียส “ยอดดอย-ยอดภู” หนาวจัด ส่วนภาคใต้มีฝนเพิ่มขึ้นและตกหนักบางแห่ง

จับนายอำเภอเหนือคลอง เรียกรับเงินผู้รับเหมา แลกจบงาน

ตำรวจแถลงผลปฏิบัติการ “ไม่จ่าย ไม่จบ” จับนายอำเภอเหนือคลอง จ.กระบี่ พร้อมเจ้าหน้าที่ปกครอง เรียกรับเงินใต้โต๊ะบริษัทรับเหมา 50,000 บาท แลกจบงาน

นายกฯ เผยไม่มีคนไทยบาดเจ็บหรือเสียชีวิตจากเหตุไฟป่าแอลเอ

นายกฯ เผย ไม่มีคนไทยได้รับบาดเจ็บหรือเสียชีวิต จากเหตุไฟป่าที่แอลเอ มีเพียงร้านอาหารไทยที่ได้รับความเสียหาย สั่ง กงสุลเปิดศูนย์ช่วยเหลือคนไทย