DLT- ECONDRIVE ขับขี่ปลอดภัยอุ่นใจผู้ใช้ถนน

กรุงเทพฯ 30 เม.ย. – สมาคมผู้สื่อข่าวเศรษฐกิจ จับมือ กรมการขนส่งทางบก เปิดโครงการ “DLT- ECONDRIVE ขับขี่ปลอดภัยอุ่นใจผู้ใช้ถนน” โดยกรมขนส่งฯ เผย เตรียมเพิ่มทักษะ การคาดการณ์อุบัติเหตุ หรือ Hazard Perception ในการสอบใบอนุญาตขับขี่ เพื่อช่วยลดอุบัติเหตุทางถนนในปีนี้


นายจิรุตม์ วิศาลจิตร อธิบดีกรมการขนส่งทางบก (ขบ.) พร้อมด้วยนางสาวจิตวดี เพ็งมาก นายกสมาคมผู้สื่อข่าวเศรษฐกิจ ร่วมเป็นประธาน เปิดโครงการ โครงการ “DLT- ECONDRIVE ขับขี่ปลอดภัยอุ่นใจผู้ใช้ถนน” จัดขึ้น อาคาร 4 กรมการขนส่งทางบก  โดยมีผู้บริหาร กรมการขนส่งทางบกเข้าร่วม และมีผู้สื่อข่าว สมาชิกของสมาคมผู้สื่อข่าวเศรษฐกิจ เข้าร่วมโครงการรวม 34 คน 

นายจิรุตม์ กล่าวว่า ระบบออกใบอนุญาตขับรถ เป็นกระบวนการสำคัญที่กรมการขนส่งทางบกใช้คัดกรอง และสร้างคุณภาพของผู้ขับรถออกสู่สังคม เพื่อให้การใช้รถใช้ถนนร่วมกัน เกิดความปลอดภัย  และมีมาตรฐานเป็นที่ยอมรับทั้งในและต่างประเทศ  ซึ่งการคัดกรองนั้น ผู้ขับรถต้องมีสุขภาพแข็งแรง  ไม่มีโรคต้องห้าม มีสมรรถภาพร่างกายที่สมบูรณ์ และมีใบรับรองแพทย์มายืนยัน มีความรู้เพียงพอที่จะขับรถอย่างปลอดภัยโดยต้องเรียนรู้ภาคทฤษฎีเกี่ยวกับกฎหมายที่เกี่ยวข้อง เพื่อการขับรถอย่างปลอดภัย มีจิตสำนึกและมารยาท ความรู้เรื่องการจัดการเหตุฉุกเฉินและปฐมพยาบาล รวมทั้งต้องมีทักษะในการควบคุมยานพาหนะซึ่งเกิดจากการเรียนและฝึกฝนปฏิบัติ ซึ่งทั้งหมดรวมอยู่ในกระบวนการออกใบอนุญาตขับรถของกรมการขนส่งทางบก


โดยสำหรับในปี 2565 กรมการขนส่งทางบก จะมีการพัฒนา คือ สำคัญคือการนำเนื้อหาเรื่อง “การคาดการณ์อุบัติเหตุ (Hazard Perception)” เข้าสู่กระบวนการเรียนรู้และทดสอบสำหรับการขอรับใบอนุญาตขับรถ ทั้งนี้ เนื้อหาดังกล่าวเป็นการให้ความรู้ในการตัดสินใจ   และการควบคุมรถที่ถูกต้อง  เมื่อต้องเผชิญกับสถานการณ์ฉุกเฉินในกระแสจราจรที่มีรูปแบบแตกต่างกัน  และฝึกทักษะให้สามารถคิดวิเคราะห์และประเมินความเสี่ยงจากสิ่งต่างๆ บนถนนได้ดียิ่งขึ้น สามารถตัดสินใจหลีกเลี่ยงได้ก่อนเกิดอุบัติเหตุขึ้น ซึ่งกรมการขนส่งทางบกได้จัดทำขึ้นจากการวิเคราะห์ความเสี่ยงในการเกิดอุบัติเหตุบนถนนในสถานการณ์ต่างๆ ตามบริบทของประเทศไทย โดยจะทยอยนำเนื้อหาดังกล่าว  ประกอบในกระบวนการอบรมและทดสอบใบอนุญาตขับรถในปี 2565 นี้ โดยมีเป้าหมายเพื่อให้ผู้ขับขี่ทั้งจักรยานยนต์และรถยนต์มีความสามารถในการรับรู้ เท่าทันต่อความเสี่ยงในการเกิดอุบัติเหตุบนถนนได้ ก่อนที่จะได้รับใบอนุญาตขับรถไปใช้รถจริงบนถนน ซึ่งการการเพิ่มทักษะใหม่ในการสอบใบขับขี่นี้ จะเป็นจุดเปลี่ยน สำคัญในการพัฒนามาตรฐานใบอนุญาตขับรถ

“ตัวอย่างเช่น กรณีรถบิ๊กไบค์ชน พญ.วราลัคน์ สุภวัตรจริยากุล หรือ “หมอกระต่าย” แพทย์ผู้ชำนาญการ ด้านจักษุวิทยา ภาควิชาจักษุวิทยา คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย เสียชีวิต  สะท้อนให้เห็นว่า  สถานการณ์กระแสจราจรในเมืองของไทย  จำเป็นต้องเพิ่มองค์ความรู้ เกี่ยวกับ โดยเฉพาะ “การคาดการณ์อุบัติเหตุ Hazard Perception เพื่อให้ผู้ขับรถตระหนักและเพิ่มทักษะ โดยในเคสนี้ หากผู้ขับมอเตอร์ไซค์ เมื่อขับรถมาเห็นทางม้าลายแล้วรถที่ด้านหน้าชะลอตัว ผู้ขับมอเตอร์ไซค์รายนี้ก็ต้องชะลอความเร็ว ไม่ใช่แซงขึ้นไป ลักษณะดังกล่าวเช่นนี้ ก็คือ การคาดการณ์อุบัติเหตุ “นายจิรุตม์กล่าว

ทั้งนี้ การสอบใบอนุญาตขับขี่ ยืนยันว่าจะมีการยกระดับตั้งแต่ต้นน้ำ เช่น การใช้ใบรับรองแพทย์ประกอบการขอใบขับขี่ ในอนาคตจะปรับเป็นใบรับรองแพทย์อิเล็กทรอนิกส์ ที่ผู้ตรวจความพร้อมของร่างกายก่อนสอบ จะมีการบันทึกข้อมูลเข้าระบบ “หมอพร้อม” เพื่อตรวจสอบข้อมูลย้อนหลัง ข้อมูลโรคประจำตัว รวมทั้งตรวจสอบข้อมูลของแพทย์ที่ออกใบรับรองด้วย


นอกจากนี้ ในอนาคตกรมการขนส่งทางบกจะร่วมกับสำนักงานตำรวจแห่งชาตินำระบบตัดแต้มของผู้ได้รับใบอนุญาตขับขี่มาใช้ โดยลักษณะการตัดแต้ม เช่น เมื่อผู้ได้รับใบขับขี่จะมีแต้มทั้งหมด 12 แต้ม และหากโดนตัดแต้มลดลงไปครึ่งหนึ่ง หรือเหลือ 6 แต้ม ก็จะต้องเข้าสู่กระบวนการอบรมใหม่ ซึ่งขณะนี้กรมการขนส่งทางบก อยู่ระหว่างการออกแบบหลักสูตรสำหรับการอบรมซ้ำ ผู้ที่ถูกตัดแต้มดังกล่าว ซึ่งทั้งใบรับรองแพทย์อิเล็กทรอนิกส์ และระบบการตัดแต้มร่วมกับ สตช. นี้ จะนำมาใช้ในปี 2565 นี้เช่นเดียวกัน

ส่วนข้อมูลในช่วงเกิดสถานการณ์การระบาดของไวรัสโควิด-19 กรมการขนส่งทางบก ยังได้ปรับปรุงระบบออกใบอนุญาตขับรถ  และต่อภาษี โดยนำระบบอิเลกทรอนิกส์ และออนไลน์มาใช้  เพื่อให้เกิดความคล่องตัว และป้องกันการแพร่ระบาดโควิด-19 ตามนโยบายของรัฐบาล โดยปัจจุบันพบว่า การเปิดอบรมต่ออายุใบอนุญาตขับรถได้แล้ว ผ่านระบบ DLT e-learning ผ่านเว็บไซต์ www.dlt-elearning.com ได้รับการตอบรับที่ดีจากผู้สอบใบอนุญาต โดยพบว่า ปัจจุบันมีผู้ใช้บริการอบรมผ่านระบบออนไลน์ สะสมแล้ว 6,224,337 คน โดยเป็น ผู้ใช้รถยนต์ส่วนบุคคลกว่า 5,027,858 คน หลังจากโครงการเปิดใช้งานมาตั้งแต่ปี 2563
 
ด้านนางสาวจิตวดี  เพ็งมาก นายกสมาคมผู้สื่อข่าวเศรษฐกิจกล่าวว่า ปัจจุบันสมาคมฯ ซึ่งมีสมาชิกเป็นผู้ประกอบวิชาชีพสื่อสารมวลชน ด้านข่าวเศรษฐกิจ ได้เล็งเห็นถึงความจำเป็นในการเผยแพร่ความรู้ การปรับปรุง เพิ่มเนื้อหาการสอบใบอนุญาตขับขี่ โดยเฉพาะ “การคาดการณ์อุบัติเหตุ (Hazard Perception) ซึ่งถือเป็นสิ่งใหม่ ที่จำเป็นต้องสื่อสารทำความเข้าใจกับสังคม โดยเริ่มจากการทำความเข้าใจเผยแพร่ความรู้ต่อสมาชิกผู้สื่อข่าว และสำนักข่าว เพื่อรับไปเผยแพร่เป็นข่าวสาร ทำความเข้าใจกับภาคสังคม.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ค้น 17 จุดกรุงเทพฯ-ลพบุรี คุมตัว “หลวงพ่ออลงกต-หมอบี”

26 ส.ค.- ตำรวจสอบสวนกลาง ปิดล้อมตรวจค้น 17 จุด “กรุงเทพฯ-ลพบุรี” บุกรวบ “หลวงพ่ออลงกต” หลังพฤติกรรมชัดทุจริตยักยอกเงินบริจาค ขณะที่ “หมอบี” โดนด้วย หิ้วตัวเค้นสอบ เมื่อเวลา 01.00 น.วันที่ 26 ส.ค. มีรายงานว่าทางตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) นำโดย พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก. สั่งการให้ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว พล.ต.ต.สุวัฒน์ แสงนุ่ม รองผบช.ก. พล.ต.ต. วิทยา ศรีประเสิรฐภาพ ผบก.ป.พล.ต.ต.ประสงค์ เฉลิมพันธ์ ผบก.ปปปพ.ต.อ.มนูญ แก้วก่ำ ผกก.1 บก.ป ปิดล้อมตรวจค้น 17 จุด ในพื้นที่กรุงเทพฯ-ลพบุรี เพื่อควบคุม หลวงพ่ออลงกต อดีตเจ้าอาวาสวัดพระบาทน้ำพุ จ.ลพบุรี และนายเสกสันน์ หรือหมอบี และพวก ตามหมายจับ ความผิด ม.147, 157 […]

ศาล รธน. สั่งเอาผิดเผยแพร่คลิป “นั่งลงลูก”

ศาล รธน. 25 ส.ค.-ศาลรัฐธรรมนูญ สั่งเอาผิดเผยแพร่คลิป “นั่งลงลูก” ชี้บิดเบือน-ทำเสียหาย ศาลรัฐธรรมนูญได้ออกเอกสารข่าว ระบุว่า ตามที่ศาลรัฐธรรมนูญออกนั่งพิจารณาคดี เมื่อวันพฤหัสบดีที่ 21 สิงหาคม 2568 ไต่สวนพยานบุคคลที่ศาลรัฐธรรมนูญเรียกมาให้ถ้อยคำ จำนวน 2 ปาก ได้แก่ นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ผู้ถูกร้อง และนายฉัตรชัย บางขวด เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ เรื่อง ประธานวุฒิสภา ส่งคำร้องขอให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 170 วรรคสาม ประกอบมาตรา 82 ว่า ความเป็นรัฐมนตรีของนางสาวแพทองธาร นายกรัฐมนตรี สิ้นสุดลงเฉพาะตัวตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 170 วรรคหนึ่ง (4) ประกอบมาตรา 160 (4) และ (5) หรือไม่ เมื่อเสร็จสิ้นการไต่สวนแล้ว ศาลมีคำสั่งห้ามมิให้ผู้เข้าฟังการไต่สวนนำข้อมูลการไต่สวนไปเผยแพร่ และห้ามไม่ให้บิดเบือนข้อเท็จจริงหรือข้อกฎหมายในลักษณะที่สร้างความเข้าใจผิดต่อสาธารณชน อันเป็นคำสั่งศาลตาม พ.ร.ป.ว่าด้วยวิธีพิจารณาของศาลรัฐธรรมนูญ พ.ศ. 2561 […]

“แพทองธาร” รีโพสต์โต้คลิปบิดเบือน ยันศาลบอก “นั่งลงครับ”

กรุงเทพฯ 25 ส.ค.- “แพทองธาร” รีโพสต์สตอรี่ไอจี โต้ดรามาคลิปบิดเบือน ยันศาล รธน. บอก “นั่งลงครับ” นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม รีโพสต์สตอรี่ในอินสตราแกรมของสำนักข่าว VOICE TV ยืนยันไม่เป็นความจริง ต่อกระแสดรามาปล่อยคลิปเสียงตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ พูดว่า “นั่งลงลูก” ภายหลัง น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม กล่าวคําปฏิญาณ ในระหว่างที่ศาลรัฐธรรมนูญไต่สวนพยาน คดีคลิปสนทนากับ ฮุน เซน เมื่อวันที่ 21 สิงหาคมที่ผ่านมา ซึ่งในคลิปดังกล่าวมีข้อความระบุว่า ฟังชัดๆๆ ศาลบอกว่า “นั่งลงครับ” ไม่ใช่ “นั่งลงลูก” อย่างที่มีคนปั่น!! อย่ามั่ว อย่าบิดเบือนข่าว อย่างไรก็ตาม คาดว่าในช่วงเช้าวันนี้ (25 ส.ค.) นางสาวแพทองธาร จะดำเนินการเรื่องการส่งคำแถลงปิดคดีต่อศาลรัฐธรรมนูญ เนื่องจากศาลนัดยื่นคำแถลงปิดคดีภายในวันนี้ ก่อนจะนัดฟังคำวินิจฉัยในวันที่ 29 สิงหาคม เวลา 15.00 น.-316 -สำนักข่าวไทย

ปลัด มท. สั่งสอบด่วน ปมสแกนม่านตาแลกเหรียญ

ไอคอนสยาม 25 ส.ค.- ปลัด มท. เผยยังไม่ได้รับรายงานปมสแกนม่านตาแลกเหรียญ สั่งกรมการปกครองสอบด่วน นายอรรษิษฐ์ สัมพันธรัตน์ ปลัดกระทรวงมหาดไทย กล่าวถึงกรณีที่มีรายงานว่า มีกลุ่มบุคคลสแกนม่านตาประชาชนและชักชวนให้เข้าไปใช้แอปพลิเคชันเพื่อแลกกับเงินหรือเหรียญในระบบ ว่า ขณะนี้ยังไม่ได้รับรายงาน แต่หากเป็นการกระทำที่ไม่ถูกต้อง กระทรวงมหาดไทยจะสั่งการให้กรมการปกครองดำเนินการแก้ไขและจัดการอย่างถูกต้องทั่วประเทศอย่างไรก็ตาม หากประชาชนพบเห็นพฤติกรรมที่ไม่ถูกต้อง สามารถแจ้งเรื่องมายังกระทรวงมหาดไทย เพื่อให้ทุกจังหวัดดำเนินการตรวจสอบตามข้อเท็จจริง ส่วนกรณีที่มีรายงานว่ายังมีการดำเนินการในจังหวัดสุราษฎร์ธานี ปลัดกระทรวงมหาดไทยยืนยันว่าจะเร่งตรวจสอบทั้งที่สุราษฎร์ธานีและทุกจังหวัดที่ได้รับเรื่องร้องเรียน ทั้งนี้ การตรวจสอบจะพิจารณาว่าความผิดปกติเกิดจากเจ้าหน้าที่ของรัฐหรือบุคคลอื่น หากพบว่าเป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐ กระทรวงมหาดไทยจะดำเนินการตามระเบียบอย่างเคร่งครัด โดยย้ำให้ประชาชนมั่นใจว่า กระทรวงพร้อมตรวจสอบอย่างโปร่งใส.-319 -สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

“หลวงพ่ออลงกต” ยอมสึกแล้ว หลัง “บิ๊กเต่า” เข้าเจรจา

26 ส.ค. – “หลวงพ่ออลงกต” ยอมสึกเพื่อเข้าสู่ขั้นตอนการดำเนินคดีตามกฎหมาย หลัง “บิ๊กเต่า” ร่วมสอบปากคำคดียักยอกเงินบริจาควัดพระบาทน้ำพุ ภายหลัง พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รองผบช.ก. เข้าร่วมสอบปากคำ พระอลงกต อดีตเจ้าอาวาสวัดพระบาทน้ำพุ และ หมอบี ล่าสุด มีรายงานว่า หลวงพ่ออลงกต ยินยอมจะขอลาสิกขาจากเพศบรรพชิตแล้ว เพื่อนำเข้าสู่ขั้นตอนการดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป โดยอดีตพระอลงกต ถูกจับกุมเมื่อช่วงตี 1 ที่ผ่านมา ตามหมายจับศาลคดีทุจริตและประพฤติมิชอบ ในข้อหายักยอกเงินบริจาคของวัดพระบาทน้ำพุ เบียดบังทรัพย์นั้นเป็นของตน เป็นเจ้าพนักงานปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ และฟอกเงิน.-สำนักข่าวไทย

ครม.ให้กำลังใจนายกฯ ด้าน “แพทองธาร” หวังกลับมาทำงาน

ทำเนียบ 26 ส.ค.- ครม.ให้กำลังใจนายกฯ ขอ 29 ส.ค.นี้ ได้รับข่าวดี ด้าน “แพทองธาร” หวังได้กลับมาทำงาน ผู้สื่อข่าวรายงานบรรยากาศการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ในวันนี้ (26 ส.ค.) นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม เข้าร่วมประชุมผ่านระบบวิดีโอคอนเฟอเรนซ์เป็นครั้งแรก ซึ่ง น.ส.แพทองธาร ได้เข้าร่วมประชุมตั้งแต่ต้นจนจบ ด้วยสีหน้าสดใส โดยระหว่างการพิจารณาวาระสำคัญ เช่น การพิจารณารายชื่อนักศึกษาวิทยาลัยป้องกันราชอาณาจักร (วปอ.) รุ่น 69 ประจำปีการศึกษา 2569 ซึ่งนายกรัฐมนตรี ในฐานะที่เคยเรียนหลักสูตรการป้องกันราชอาณาจักร สำหรับผู้บริหารแห่งอนาคต (วปอ.บอ.) หรือ มินิ วปอ. ได้สอบถามและให้ความคิดเห็นในรายชื่อของนักศึกษาบางคน ทั้งนี้ ก่อนปิดการประชุม ครม. นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย รักษาราชการแทนนายกรัฐมนตรี ในฐานะประธานที่ประชุมฯ ได้เป็นตัวแทนรัฐมนตรีทุกคนกล่าวให้กำลังใจนายกรัฐมนตรี และขอให้วันที่ 29 ส.ค.นี้ ได้รับข่าวดี นอกจากนี้ ข้าราชการที่เข้าร่วมประชุม […]

“ณัฐพล” สั่งแจ้งเอาผิดกัมพูชา ทำร้ายร่างกาย-รื้อลวดหนาม

ทำเนียบ 26 ส.ค.- “ณัฐพล” ฮึ่ม สั่งกองทัพ-ปชช.แจ้งความเอาผิดกัมพูชา ทำร้ายร่างกาย-รื้อรั้วลวดหนามที่บ้านหนองจาน ด้าน กต. ทำหนังสือประท้วง ย้ำ เป็นอธิปไตยของไทย เตรียมนำปัญหาทั้งหมดคุยวง GBC ก.ย.นี้ ย้ำหน่วยพื้นที่ยิงตอบโต้ได้ทันที ตามกฎการใช้กำลัง พลเอกณัฐพล นาคพาณิชย์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหม กล่าวถึงชาวกัมพูชาบุกรื้อรั้วลวดหนามและทำร้ายร่างกายเจ้าหน้าที่ของไทย บริเวณบ้านหนองจาน อำเภอโคกสูงจังหวัดสระแก้ว ว่า สาเหตุที่เกิดขึ้นผู้ว่าราชการจังหวัดสระแก้ว จะมาพบกับประชาชนที่บริเวณพื้นที่บ้านหนองจาน ทำให้เจ้าหน้าที่นำรั้วลวดหนามมาวางเพิ่มเติม เพราะกังวลว่าชาวกัมพูชาจะมารบกวน จึงทำให้ชาวกัมพูชาตั้งใจจะมารื้อในส่วนที่เป็นรั้วเพิ่มเติม ไม่ใช่ส่วนที่วางไว้ตั้งแต่เดิม จึงได้ให้คำแนะนำกับเจ้าหน้าที่ไปว่า เป็นการปักในพื้นที่ประเทศไทย จะมาทำอย่างนี้ไม่ได้เพราะผิดกฎหมาย และจะต้องมีการดำเนินการตามกฎหมายอาญา ซึ่งกองทัพภาคที่หนึ่งหรือกองกำลังบูรพาก็สามารถดำเนินการ แจ้งความข้อหาทำลายทรัพย์สินของทางราชการได้ ซึ่งตนเองได้ย้ำว่าจะต้องไม่มีภาพแบบเมื่อวานเกิดขึ้นอีก เพราะเป็นสิ่งที่ประชาชนรับไม่ได้ พลเอกณัฐพล ยอมรับว่าการนำชาวบ้านมากดดันทำให้เจ้าหน้าที่ทำงานลำบากมากขึ้น จึงมอบหมายให้ทำหนังสือประท้วงผ่านกระทรวงการต่างประเทศ เพราะเป็นพื้นที่อธิปไตยของไทย ที่ไม่สามารถมาทำเช่นนี้ได้ ส่วนการปฏิบัติการ จะใช้มาตรการเดียวกับการปราบปรามการชุมนุมหรือไม่ พลเอกณัฐพล กล่าวว่า การปฏิบัติการจะเป็นไปตามขั้นตอน ซึ่งขั้นแรกได้ใช้ เครื่องแอลแรท (LRAD) ไปแล้ว เราต้องเตรียมกำลังเพิ่มเติม โดยจะพิจารณาใช้กำลังตำรวจ เพราะหากใช้กำลังทหารจะรุนแรงเกินไป […]

คุมเข้มชายแดนบ้านหนองจาน-เตือนเลี่ยงพื้นที่เสี่ยง

สระแก้ว 26 ส.ค.- ฝ่ายความมั่นคงคุมเข้มชายแดนบ้านหนองจาน-เตือนเลี่ยงพื้นที่เสี่ยง ขณะที่โรงเรียนบ้านหนองจานประกาศปิด 2 วัน (26-27 ส.ค.) เพื่อความปลอดภัย สถานการณ์บริเวณบ้านหนองจาน อำเภอโคกสูง จังหวัดสระแก้ว ซึ่งอยู่ติดแนวชายแดนกัมพูชา และเกิดเหตุการณ์ตึงเครียดเมื่อวานนี้ ล่าสุดสถานการณ์เริ่มคลี่คลายลง ขณะที่โรงเรียนบ้านหนองจานได้ประกาศปิดเรียน 2 วัน ในวันที่ 26-27 สิงหาคมนี้ เพื่อความปลอดภัย ด้านฝ่ายความมั่นคงเข้าควบคุมสถานการณ์อย่างใกล้ชิด ดำเนินมาตรการรักษาความสงบเรียบร้อยและปฏิบัติการตามขั้นตอน เพื่อยืนยันการรักษาอธิปไตยของไทย และความปลอดภัยของประชาชน ขอความร่วมมือประชาชนงดเว้นการเดินทางเข้าไปยังพื้นที่เกิดเหตุในช่วงนี้ เพื่อป้องกันความเสี่ยง ขณะที่ทางฝั่งกัมพูชายังคงมีชาวบ้านนอนเฝ้าอยู่บริเวณรั้วตลอดทั้งคืน แต่ยังไม่มีการก่อความวุ่นวายใดๆ