ส่งเสริมการเดินทางนักท่องเที่ยวตลาดระยะใกล้

กรุงเทพฯ 4 เม.ย.- สายการบินไทยแอร์เอเชีย ร่วมกับ ททท. ส่งเสริมการเดินทางของนักท่องเที่ยวตลาดระยะใกล้ เพื่อฟื้นบรรยากาศการท่องเที่ยว  เชื่อ “เปิดบินต่างประเทศมั่นใจ..เที่ยวไทยยั่งยืน”


นายธเนศวร์ เพชรสุวรรณ รองผู้ว่าการ ททท. ด้านตลาดเอเชียและแปซิฟิกใต้ร่วมกับนายสันติสุข คล่องใช้ยา ประธานเจ้าหน้าที่บริหารสายการบินไทยแอร์เอเชียแถลงข่าวการดำเนินงานร่วมกันในการส่งเสริมการเดินทางของนักท่องเที่ยวจากตลาด ระยะใกล้ ที่สอดคล้องกับแผนการบินภายในภูมิภาคของแอร์เอเชีย

นายธเนศวร์  กล่าวว่า การเดินทางท่องเที่ยวของตลาดต่างประเทศเข้าไทยปี 2565 มีแนวโน้ม  ดีขึ้นด้วยมีปัจจัยสนับสนุนทั้งเรื่องการกระจายวัคซีนที่เข้าถึงประชากรโลกมากขึ้น นโยบายการรับมือและการใช้ชีวิตอยู่ร่วมกับโควิดของชาติต่าง ๆ เพื่อให้ประเทศเดินหน้า กลุ่มประเทศในภูมิภาคคเอเชียและแปซิฟิกเริ่มผ่อนคลายมาตรการคุมเข้มในการเดินทางข้ามพรมแดน เพื่อให้สามารถเดินทางได้โดยสะดวก (ease of travelling)


ทั้งนี้ประเมินจำนวนและรายได้ตลาดต่างประเทศปี 2565 ตามคาดการณ์การฟื้นตัวของตลาดโลก หากสถานการณ์ฟื้นตัวดี นักท่องเที่ยวสามารถเดินทางระหว่างประเทศได้อย่างไม่มีเงื่อนไข รวมถึงเปิดการเดินทางในพื้นที่จังหวัดชายแดน ซึ่งปัจจุบันมีการเปิดรับแล้วทางจังหวัดหนองคาย อุดรธานี สงขลา และสตูล จึงคาดหวังว่านักท่องเที่ยวตลาดต่างประเทศที่เดินทางเข้าไทยโดยรวมในปีนี้ จะมีจำนวน 10 ล้านคน รายได้ 625,800 ล้านบาท โดยเป็นสัดส่วนของตลาดระยะใกล้ จากภูมิภาคอาเซียนประมาณ 1.1 ล้านคน  จากแปซิฟิกใต้ หรือ ประเทศออสเตรเลีย ประมาณ 200,000 คน และเอเชียใต้  จากอินเดียประมาณ  450,000 คน ที่คาดว่าจะเริ่มเดินทางได้ในเดือนเมษายน 2565 เป็นต้นไป

นอกจากนี้ จำนวนเที่ยวบิน (Flight Capacity) และจำนวนที่นั่ง (Seat Capacity) จากตลาดต่างประเทศเข้าไทยจะเป็นอีกปัจจัยสนับสนุนที่สำคัญ โดย ททท. ต้องขอขอบคุณไทยแอร์เอเชียที่เข้ามาช่วยเติมเต็มการเข้าถึงให้กับนักท่องเที่ยวสามารถเดินทางได้โดยสะดวกจากแต่ละจุดบิน “เป็นโอกาสดีในการกระตุ้นความสนใจการตัดสินใจของนักท่องเที่ยวสามารถวางแผนการเดินทางท่องเที่ยวได้ดียิ่งขึ้นด้วยและยังเป็นไปตามทิศทางการแข่งขันจากที่หลายประเทศได้อนุญาตให้เที่ยวบินพาณิชย์กลับมาให้บริการอีกครั้ง จึงคาดว่าจะเป็นสัญญาณการฟื้นตัวและเป็นช่วงเวลาที่เหมาะสมสำหรับการดำเนินงานขับเคลื่อนทางการตลาดในไตรมาส 3 ที่จะส่งผลด้านบวกต่ออุตสาหกรรมท่องเที่ยวในครึ่งปีหลังนี้“  นายธเนศวร์ กล่าว

นายสันติสุข เปิดเผยว่า ตั้งแต่เดือนเมษายนนี้ไทยแอร์เอเชียได้ทยอยเปิดเส้นทางบินระหว่างประเทศต่อเนื่องครอบคลุมตลาดอาเซียนเเละเอเชียใต้ 7 ประเทศ ได้เเก่ เวียดนาม กัมพูชา มาเลเซีย อินโดนีเซีย สิงคโปร์ มัลดีฟส์ เเละอินเดีย รวม 18 เส้นทาง โดยมีเป้าหมายสำคัญในการดึงนักท่องเที่ยวคุณภาพเดินทางเข้าประเทศไทยขับเคลื่อนเศรษฐกิจการท่องเที่ยวเเละธุรกิจเกี่ยวเนื่องหลังได้รับผลกระทบจากสถานการณ์โควิด-19 ยาวนานตลอด 2 ปี  โดยที่ผ่านมาสายการบินได้ทำงานร่วมกับ ททท. อย่างใกล้ชิดมาโดยตลอดพร้อมกำหนดเเผนกลยุทธ์ที่เเตกต่างกันตามศักยภาพแต่ละตลาดเพื่อให้ตรงโจทย์มากที่สุดโดยยังคงมาตรฐานด้านสุขอนามัยในการเดินทางที่เข้มข้น


“เชื่อมั่นว่าไม่มีอะไรทดแทนการเดินทางท่องเที่ยวได้ ซึ่งประเทศไทยถือเป็นหนึ่งปลายทางยอดนิยมที่ทุกคนรอกลับมาเดินทางท่องเที่ยวหลังสถานการณ์โควิด-19 มากที่สุด เมื่อมีนโยบายเปิดประเทศระหว่างกันถือเป็นจุดเริ่มต้นที่ดี ไทยแอร์เอเชียจึงเดินหน้าเต็มที่ในการเป็นผู้เชื่อมโยงนักท่องเที่ยวต่างชาติเข้าไทย และโจทย์สำคัญคือการเชื่อมต่อกับเครือข่ายเที่ยวบินภายในประเทศที่เรามีอยู่เพื่อกระจายนักท่องเที่ยวให้เกิดการกระจายรายได้ช่วยฟื้นเศรษฐกิจประเทศในภาพรวมร่วมกัน” นายสันติสุขกล่าว”

สำหรับแผนดำเนินงาน ของ ททท. โดยสำนักงาน ททท. ในพื้นที่ของภูมิภาคอาเซียน เอเชียใต้และแปซิฟิกใต้เตรียมส่งเสริมการตลาดลักษณะ Joint Promotion ในรูปแบบวิธีการต่าง ๆ เช่น

ตลาดสิงคโปร์ เตรียมกิจกรรมเสนอขายกับแอร์เอเชีย ในแคมเปญ Rediscover Thailand เส้นทางสิงคโปร์-ดอนเมือง และสิงคโปร์-ภูเก็ต เริ่มวันที่ 11-24 เมษายน 2565 เน้นกลุ่ม Millennials และ Young Couple เดินทางจริงเดือนพฤษภาคม-กรกฎาคม 2565 คาดว่าจะขายได้ 3,000 ที่นั่ง

ตลาดมาเลเซีย จากที่รัฐบาลมาเลเซียประกาศเปิดประเทศในวันที่ 1 เมษายน 2565 ทำให้คนมาเลเซียเริ่มอยากเดินทางท่องเที่ยว โดยสำนักงานกัวลาลัมเปอร์จะเร่งผลักดันการเดินทางของกลุ่ม Leisure เตรียมแคมเปญ Health & Wellness in Amazing Thailand ตั้งแต่เดือนพฤษภาคม-กรกฎาคม 2565รับส่วนลดพิเศษจาก Let’s Relax Spa เมื่อโชว์ Boarding Pass จากแอร์เอเชีย เป้าหมายการขาย 1,000 ที่นั่ง

รวมถึงการสนับสนุนประชาสัมพันธ์ 3 เส้นทางที่จะบินจากมาเลเซียเข้าไทย ได้แก่ ปีนัง / กัวลาลัมเปอร์และยะโฮร์บาห์รู เพื่อช่วยขยายการรับรู้ยิ่งขึ้น

ตลาดอินโดนีเซีย โดยสำนักงาน ททท. จาการ์ตา รอความชัดเจนในตารางบินเส้นทางจาการ์ตา-ดอนเมือง และบาหลี-ดอนเมือง

ตลาดกัมพูชา  นำเสนอแคมเปญ Endless Relaxing Fun in Thailand เปิดเส้นทางบินจากพนมเปญและเสียมราฐ ระยะเวลา 3 เดือนตั้งแต่เดือนพฤษภาคม-กรกฎาคม 2565 คาดว่าจะขายได้ 1,000 ที่นั่ง โดย ททท. สำนักงานโฮจิมินห์ (ดูแลตลาดเวียดนาม ลาว กัมพูชา)  จะรับผิดชอบเนื้อหาการสื่อสารเน้นไปยังกลุ่ม FIT, Millennial Family ที่สนใจด้าน health &wellness และ medical tourism เป็นหลัก ซึ่งจะมอบส่วนลดพิเศษค่าบัตรโดยสารเครื่องบินและค่าโรงแรมที่พักเมื่อจองแพ็คเกจผ่าน Air asia Super App

ตลาดเวียดนาม นำเสนอแคมเปญ Fly with The World’s Champion. Discover A Whole New Thailand แอร์เอเชียยังมีเส้นทางบินจากโฮจิมินห์ ฮานอย และดานัง ซึ่งเน้นไปยังกลุ่ม Family with Kids, และ FIT ในกลุ่ม Leisure ทั่วไปเสนอขายช่วงเดือนพฤษภาคม-สิงหาคม 2565 เป้าหมายการขาย 11,000 ที่นั่ง .-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

“พี สะเดิด” เปิดใจเป็นมะเร็งเต้านมนานเกือบ 20 ปี แพทย์ชี้พบได้น้อยมากในผู้ชาย

กรุงเทพฯ 13 ส.ค. – “พี สะเดิด” เจ้าของเพลงฮิต “จี่หอย” เผยเป็นมะเร็งเต้านมมานานเกือบ 20 ปี ตัดสินใจหยุดบุหรี่ หยุดเหล้า ทำให้ตัวเองแข็งแกร่งต่อสู้กับโรค จนค่ามะเร็งดีขึ้น แพทย์ชี้พบได้น้อยมากในผู้ชาย “พี สะเดิด” นักร้องลูกทุ่งชื่อดัง อายุ 46 ปี เปิดใจว่าป่วยเป็นมะเร็งเต้านม มาเกือบ 20 ปีแล้ว รักษาโรคนี้โดยที่ไม่บอกใครเลย เพราะกลัวครอบครัวเป็นห่วง ตอนแรกมีอาการเจ็บหน้าอก และพบว่าก้อนเนื้อมันขึ้นเรื่อยๆ ขนาดเท่าลูกมะนาว คิดว่าเป็นเพราะไม่ดูแลตัวเอง ทำงานหนัก กิน-นอนไม่เป็นเวลา แต่เพราะเป็นคนที่ตรวจสุขภาพตลอดทุก 6 เดือน พอเช็กดูเลยรู้ว่ามีเชื้อมะเร็งเต้านม หมอบอกว่าโอกาสน้อยที่จะเห็นผู้ชายเป็นมะเร็งเต้านม จะเป็นหนึ่งในล้าน หรือหนึ่งในสิบล้าน พี สะเดิด บอกว่าตอนแรกก็กลัว เลยตัดสินใจหันหน้าเข้าทางธรรม และปรับปรุงตัวเองควบคู่กันไป กินของที่มีประโยชน์ หยุดบุหรี่ หยุดเหล้า ทำให้ตัวเราแข็งแกร่งต่อสู้กับโรคมะเร็งของตัวเอง จนตอนนี้อยู่ทุกระยะค่ามะเร็งดีขึ้น ค่อยๆ ลดลงมา จนเหลือ 0 […]

“ชยพล” แฉ “กองทัพบก” ซื้ออุปกรณ์ฟิตเนสผู้ช่วยทูตทหารพนมเปญ

รัฐสภา 13 ส.ค.-“ชยพล” แฉ “กองทัพบก” ซื้ออุปกรณ์ฟิตเนสผู้ช่วยทูตทหารพนมเปญ ทั้งที่ตัดสัมพันธ์ทางการทูตกับกัมพูชาแล้ว ด้าน “อนุสรณ์” แจงยัน กมธ.ไม่ได้ตีเช็คเปล่า แต่ตรวจเช็กความพร้อมให้ทหาร การอภิปรายมาตรา 8 กระทรวงกลาโหม วงเงิน 9.51 หมื่นล้านบาท นายชยพล สท้อนดี สส.กทม. พรรคประชาชน (ปชน.) อภิปรายว่า ปีนี้ตัดงบกระทรวงกลาโหมยาก เมื่อถามหารายละเอียดจะมีคนพูดว่าปล่อยไปเถอะ ตอนนี้มีสถานการณ์ชายแดน ซึ่งตนเข้าใจถึงความจำเป็นที่ต้องใช้งบประมาณ เพราะเป็นห่วงทหารหน้างานเช่นกัน เลยต้องดูงบประมาณว่าใช้ถูกจุดหรือไม่ นายชยพล กล่าวต่อว่า ทั้งนี้ ตนเห็นงบเกี่ยวกับอุปกรณ์การแพทย์ คิดว่าเป็นอุปกรณ์ผ่าตัดแต่กลายเป็นว่าเป็นอุปกรณ์สำหรับม้า ตนหาอุปกรณ์ทางการแพทย์เพื่อดูว่าใส่ใจทหารมากแค่ไหน แต่กลับไม่พบอุปกรณ์สำหรับขันชะเนาะห้ามเลือดที่ใช้ได้ด้วยมือข้างเดียว มีแค่สายยางไส้ไก่ ถ้าอยู่คนเดียวจะทำอย่างไร อยากถามว่าเราใส่ใจบุคลากรของเราจริงหรือไม่ และที่ข้องใจคือเราตัดสัมพันธ์ทางการทูตกับกัมพูชา มีการเรียกทูตไทยประจำพนมเปญกลับ แต่ปรากฏว่ากองทัพบกสั่งอุปกรณ์ฟิตเนสไปเติมที่บ้านผู้ช่วยทูตทหารอยู่เลย จะมีใครได้อยู่ใช้หรือไม่ “นี่เป็นเหตุผลว่าแม้อยู่ในความขัดแย้งแต่ต้องตรวจสอบกองทัพอย่างเข้มข้น การที่รัฐบาลเซ็นเช็คเปล่าให้กองทัพโดยไม่ตรวจสอบ คือการทำให้กองทัพอ่อนแอ คนที่ชอบออกมาพูดเชียร์ทหารอยากให้คิดไว้ด้วยว่า หากรักชีวิตทหารจริง ก็อยากให้ฟังทหารชายแดนว่าเขาลำบากอย่างไร การทำงานของนายพลสะท้อนความต้องการคนเหล่านั้นจริงหรือไม่” ด้าน นายสรวุฒิ เนื่องจำนงค์ กมธ.เสียงข้างมากชี้แจงว่า […]

“สืบพงษ์” ขึ้นศาลสืบพยานนัดแรก กรณียื่นฟ้องรักษาการอธิบดี ม.รามฯ ข้อหาเบิกความเท็จ

ศาลอาญา 13 ส.ค. – ศาลนัดสืบพยาน “สืบพงษ์” ยื่นฟ้อง รักษาการ อธ.รามคำแหง พร้อมพวก ข้อหาเบิกความเท็จถูกยื่นถอดถอนเมื่อปี 65 ชี้ “ฮุนเซน” ทิ้งใบปริญญาลงโถส้วมเป็นการไม่ให้เกียรติมหาวิทยาลัย วอนยุติพฤติกรรมไม่เหมาะสม ที่ศาลอาญา ถนนรัชดาภิเษก ศาลนัดสืบพยานที่ นายสืบพงษ์ ปราบใหญ่ อดีตอธิการบดี ม.รามคำแหง เป็นโจทก์ยื่นฟ้อง นายวุฒิศักดิ์ ลาภเจริญทรัพย์ รักษาการอธิการบดี ม.รามคำแหง กับพวกรวม 2 คน ในความผิดฐาน “ฟ้องเท็จ / เบิกความเท็จ นายสืบพงษ์ เปิดเผยว่า ศาลนัดสืบพยานนัดแรกในคดีที่ตนได้ฟ้องผู้บริหารมหาวิทยาลัยรามคำแหงฟ้องตนที่ศาลแขวงพระนครเหนือโดยกล่าวหาตนว่ากระทำตนเป็นเจ้าพนักงานทั้ง ๆ ที่ไม่มีอำนาจ จากนั้นทางศาลได้ยกฟ้องคดีดังกล่าว ซึ่งได้ดำเนินคดีที่ศาลอาญาในข้อหาฟ้องเท็จและเบิกความเท็จ โดยวันนี้ตนเองเป็นพยานปากแรกที่ขึ้นเบิกความในวันนี้และจะมีพยานทั้งหมด 5 ปาก สืบพยานในวันนี้และวันที่ 14 ส.ค. ส่วนประเด็นที่ถูกถอดถอนอธิการบดีมหาวิทยาลัยรามคำแหงเมื่อปี 2565 นั้น มีการถอดถอนตนเองทั้งหมด 2 ครั้ง หลังจากที่ดำรงตำแหน่งอธิการบดีได้ […]

หนุ่มขี่จยย. พุ่งชนฝาคอนกรีต ตกบ่อร้อยสายไฟดับสลด

11 ส.ค.- หนุ่มวัย 26 ขี่รถจักรยานยนต์ฝ่าแนวกั้นพุ่งชนฝาคอนกรีต ร่างกระเด็นตกบ่อร้อยสายไฟใต้ดิน ลึก 10 เมตร จมน้ำดับสลด เมื่อเวลา 00.30 น.วันที่ 11 ส.ค.68 ร.ต.ท.เจนวิทย์ เหลือผล รองสารวัตร(สอบสวน) สน.ทุ่งสองห้อง รับแจ้งอุบัติเหตุรถจักรยานยนต์พุ่งตกบ่อร้อยสายไฟใต้ดิน ถนนแจ้งวัฒนะ ขาออก บริเวณหน้าศาลปกครอง แขวงทุ่งสองห้อง เขตหลักสี่ กทม. จึงรุดตรวจสอบพร้อมอาสาสมัครมูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง ที่เกิดเหตุใกล้สถานีรถไฟฟ้า ศูนย์ราชการเฉลิมพระเกียรติ เป็นถนน 5 เลน บริเวณช่องทางซ้าย 3 เลนปิดเป็นพื้นที่ก่อสร้างโครงการร้อยสายไฟใต้ดิน พบรถจักรยานยนต์สีครีม ทะเบียน กทม. ล้มคว่ำหน้ารถพังยับพุ่งชนเครื่องปั่นไฟฟ้า ใกล้บ่อมีความลึก 10 เมตร เจ้าหน้าที่จึงใช้อุปกรณ์โรยตัวลงไปตรวจสอบพบผู้ขับขี่จมน้ำเสียชีวิต นำร่างขึ้นมาทราบชื่อนายสันติสุข (สงวนนามสกุล) อายุ 26 ปี สวมเสื้อยืดคอกลม แขนสั้น นุ่งกางเกงกีฬาขาสั้นสีน้ำเงิน ตามร่างกายมีบาดแผล กระโหลกศีรษะแตก เจ้าหน้าที่จึงบันทึกรวบรวมที่เกิดเหตุไว้เป็นหลักฐาน สอบถามคนงานที่อยู่บริเวณจุดเกิดเหตุให้การว่า […]

ข่าวแนะนำ

พลทหารยิงชาวบ้านเจ็บ 2 ก่อนหนีเข้าป่า จบชีวิตตัวเอง

สุรินทร์ 15 ส.ค. – ตื่นตระหนก เหตุพลทหารที่ปฏิบัติภารกิจในพื้นที่ชายแดน อำเภอกาบเชิง จังหวัดสุรินทร์ ควงปืนอาวุธประจำกาย ออกมายิงชาวบ้าน มีผู้ได้รับบาดเจ็บ 2 ราย ก่อนจะหลบหนี และสุดท้ายปลิดชีพตนเอง ขณะนี้อยู่ระหว่างการสอบสวนหาสาเหตุ ติดตามได้จากรายงานของศูนย์ข่าวภาคตะวันออกเฉียงเหนือ.-สำนักข่าวไทย

ไล่ล่าโจรชิงทอง 123 บาท กลางห้างย่านบางบ่อ

สมุทรปราการ 15 ส.ค. – ผบก.ภ.จว.สมุทรปราการ เรียกประชุมตำรวจที่เกี่ยวข้อง แกะรอยหาเบาะแส ไล่ล่าโจรชิงทองห้างย่านบางบ่อ ยืนยันจำนวนทอง 123 บาท มูลค่ากว่า 6 ล้าน ขณะที่พนักงานยังผวาทุกครั้งที่เห็นคนใส่ชุดไรเดอร์เดินเข้าห้าง จากเหตุการณ์คนร้ายแต่งกายด้วยชุดไรเดอร์ สวมกางกางยีนขายาวสีดำ รองเท้าผ้าใบสีขาว เดินเท้าบุกเดี่ยวมาที่ร้านทอง แล้วชักอาวุธปืนพกแบบออโตเมติก สีบอร์นซ์ ขู่บังคับให้พนักงานขายทองซึ่งเป็นหญิง 3 คน หยิบทองรูปพรรณส่งให้คนร้าย แต่พนักงานขายทองไม่หยิบส่งให้ และหมอบลงกับพื้น คนร้ายจึงกระโดดข้ามตู้ทองด้านหน้าร้าน ไปเลื่อนกระจกตู้ทองด้านหลัง หยิบเอาทองคำรูปพรรณ มีสร้อยข้อมือ หนัก 5 บาท 5 เส้น น้ำหนัก 25 บาท น้ำหนัก 3 บาท 30 เส้น น้ำหนักรวม 90 บาท, หนัก 2 บาท 24 เส้น รวม 48 บาท […]

ย้าย “ลุงพล” มาคุมขังต่อที่เรือนจำกลางนครพนม

15 ส.ค. – เจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์ ย้ายตัว “ลุงพล” จำเลยคดีน้องชมพู่ ไปควบคุมต่อที่เรือนจำกลางนครพนม ด้าน “ป้าแต๋น” ตามมาเยี่ยมให้กำลังใจสามี บอกเอาหัวใจมาฝาก ยืนยันลุงพลสู้ต่อถึงฎีกา หลังเมื่อวันที่ 13 สิงหาคมที่ผ่านมา ศาลอุทธรณ์ภาค 4 พิพากษาแก้เพิ่มโทษ นายไชย์พล วิภา หรือ “ลุงพล” จำเลยที่ 1 จาก 20 ปี เป็น 26 ปี และยกฟ้อง นางสมพร หลาบโพธิ์ หรือ “ป้าแต๋น” ในคดีฆ่า เด็กหญิงอรวรรณ หรือน้องชมพู่ อายุ 3 ขวบ หลังหายตัวจากบ้านพัก ขณะนั่งเล่นกับพี่สาวที่บ้าน กกกอก ต.กกตูม อ.ดงหลวง จ.มุกดาหาร เหตุเกิดช่วงเช้าวันที่ 11 พ.ค.2563 ต่อมาจำเลย ได้ยื่นหลักทรัพย์ขอปล่อยตัวชั่วคราว และวานนี้ ศาลฎีกาไม่อนุญาตให้ประกันตัว […]

สส.เพื่อไทย ให้กำลังใจ “แพทองธาร” ผ่านอุปสรรคกลับมารับใช้ประชาชน

รัฐสภา 15 ส.ค.-สส.เพื่อไทย ให้กำลังใจ “แพทองธาร” ผ่านอุปสรรคกลับมารับใช้ประชาชน ด้านเจ้าตัวยิ้มสู้-ยังเข้มแข็ง กำชับ สส.ทำงานสภาเต็มที่ ลงพื้นที่ดูแลประชาชนใกล้ชิด ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในการประชุมสภาผู้แทนราษฎร​ เพื่อพิจารณาร่างพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปี 2569 วาระที่สอง วันสุดท้าย ซึ่ง นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม ในฐานะหัวหน้าพรรคเพื่อไทย ได้เดินทางเข้ามาติดตามการประชุม ตลอด 3 วันที่ผ่านมา โดยในช่วงเช้า สส.พรรคเพื่อไทย โดยเฉพาะ สส.เขต ได้มีการเข้าพบหารือกับนางสาวแพทองธาร ในฐานะหัวหน้าพรรคเพื่อไทย เพื่อปรึกษาปัญหาในพื้นที่ รวมถึงเรื่องการผลักดันนโยบายต่างๆ ที่จะลงในพื้นที่ เนื่องจากในหลายจังหวัดมีโครงสร้างพื้นฐานพร้อมทุกด้าน แต่ยังขาดเรื่องการประชาสัมพันธ์ จึงอยากให้นางสาวแพทองธาร ในฐานะรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรมผลักดันเกี่ยวกับซอฟพาวเวอร์ และจัดกิจกรรมอีเวนท์ต่างๆเพื่อ ให้จังหวัดนั้นๆเป็นที่รู้จักมากขึ้น นอกจากนี้ บรรดา สส. ของพรรคยังได้ให้กำลังใจนางสาวแพทองธาร เนื่องจากกลัวว่า อาจมีความเครียดและกังวลเรื่องคดีความ พร้อมขอให้นายกฯสู้ๆ เข้มแข็ง ผ่านอุปสรรคไปได้และได้กลับมาทำงานเพื่อประชาชน ขณะที่นางสาวแพทองธาร ยังคงยิ้มแย้ม แสดงความเข้มแข็ง และขอให้ สส.ทุกคน เดินหน้าทำหน้าทำงานในสภาอย่างเข้มแข็งเช่นกัน […]