fbpx

“เฉลิมชัย” เผยวัคซีนโรคลัมปี สกินของไทยเริ่มใช้ได้ พ.ค. นี้

กรุงเทพฯ 24 มี.ค.- รมว.เกษตรฯ ระบุ วัคซีนป้องกันโรคลัมปี สกินที่ผลิตโดยกรมปศุสัตว์ผ่านการทดลองประสิทธิผลในฟาร์มแล้ว พบว่า สามารถกระตุ้นภูมิคุ้มกันได้ดีเทียบเท่ากับวัคซีนจากต่างประเทศ เร่งขยายการผลิตในระดับกึ่งอุตสาหกรรมเพื่อให้เกษตรกรเข้าถึงในราคาถูก คาดจะเริ่มใช้ได้ในเดือนพฤษภาคมนี้


นายเฉลิมชัย ศรีอ่อน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์กล่าวว่า กรมปศุสัตว์รายงานผลการทดสอบประสิทธิผลของวัคซีนป้องกันโรคลัมปี สกินในโค-กระบือที่สำนักเทคโนโลยีชีวภัณฑ์สัตว์และสถาบันสุขภาพสัตว์แห่งชาติร่วมกันพัฒนา โดยเป็นการทดลองในพื้นที่จริง (field trial) เมื่อเดือนธันวาคม 2564 ที่ผ่านมา ซึ่งฟาร์มโชคชัยอำเภอปากช่อง จังหวัดนครราชสีมาให้ความร่วมมือในการทดสอบ ปรากฏว่า วัคซีนที่ผลิตโดยกรมปศุสัตว์ มีผลการกระตุ้นภูมิคุ้มกันอยู่ในเกณฑ์ดีเทียบเท่ากับวัคซีนที่ผลิตในต่างประเทศ 

ทั้งนี้สั่งการเพิ่มเติมให้กรมปศุสัตว์เร่งขยายกำลังการผลิตวัคซีนจากระดับห้องปฏิบัติการ (Lab scale) สู่ระดับกึ่งอุตสาหกรรม (pilot scale) ด้วยเทคโนโลยีการผลิตในขวดเพาะเลี้ยงเซลล์ ซึ่งเป็นเทคโนโลยีดั้งเดิมของการผลิตวัคซีนโรคปากและเท้าเปื่อยซึ่งสำนักเทคโนโลยีชีวภัณฑ์สัตว์มีองค์ความรู้และมีบุคลากรที่ชำนาญสามารถรองรับปริมาณการผลิตวัคซีน 50,000-100,000 โด๊สต่อเดือน โดยตลอดกระบวนการผลิตใช้ระยะเวลาประมาณ 2 เดือนเศษ ดังนั้นจึงคาดว่า จะผลิตวัคซีนชุดแรกแล้วเสร็จช่วงประมาณกลางเดือนพฤษภาคม 2565 ในราคาต้นทุนโด๊สละ 9 บาท ซึ่งเป็นการลดค่าใช้จ่ายในการป้องกันโรคให้แก่เกษตรกร ในช่วงปีแรก (มิ.ย. 2565 – พ.ค. 2566) สามารถผลิตวัคซีนได้ มีมูลค่า 6 ล้านบาท หากต้องนำเข้าจากต่างประเทศต้องใช้งบประมาณถึง 27 ล้านบาทซึ่งจะช่วยประหยัดงบประมาณแผ่นดินได้มากถึง 21 ล้านบาทและเป็นการสร้างความมั่นคงทางวัคซีนของไทยอีกด้วย


นายสัตวแพทย์สรวิศ ธานีโต อธิบดีกรมปศุสัตว์กล่าวว่า สำนักเทคโนโลยีชีวภัณฑ์สัตว์และสถาบันสุขภาพสัตว์แห่งชาติซึ่งเป็นส่วนราชการภายในกรมปศุสัตว์ที่มีองค์ความรู้และมีบุคลากรที่มีความชำนาญในการผลิตวัคซีนร่วมกันศึกษาความเป็นไปได้ในการผลิตวัคซีนโรคลัมปี สกิน สำหรับใช้ป้องกันและควบคุมโรคกรณีฉุกเฉิน โดยเริ่มพัฒนาวัคซีนในระดับห้องปฏิบัติการ (Lab scale) มาตั้งแต่เดือนพฤษภาคม 2564 สถาบันสุขภาพสัตว์แห่งชาติสามารถแยกไวรัสจากตัวอย่างสัตว์ป่วยในประเทศมาเพาะเลี้ยงในห้องทดลองได้สำเร็จ แล้วส่งหัวเชื้อไวรัสต่อให้สำนักเทคโนโลยีชีวภัณฑ์สัตว์นำมาขยายปริมาณไวรัสในเซลล์เพาะเลี้ยง และผลิตเป็นแอนติเจนที่หมดฤทธิ์ในการก่อโรคจากนั้นได้ทดลองผลิตเป็นวัคซีน 2 สูตรได้แก่ วัคซีนเชื้อตายในรูปแบบชนิดน้ำและวัคซีนเชื้อตายชนิดน้ำมัน ผลการทดลองในสัตว์ตามวิธีมาตรฐานการผลิตวัคซีน แสดงให้เห็นว่า วัคซีนทั้ง 2 สูตรมีความปลอดภัยไม่ก่อให้เกิดอาการแพ้ในสัตว์ โดยวัคซีนชนิดน้ำมันให้ความคุ้มโรค 100% สูงกว่าชนิดน้ำที่ให้ความคุ้มโรค 80% นอกจากนี้วัคซีนชนิดน้ำมันยังให้ความคุ้มโรคต่อเนื่องจนถึงเดือนที่ 7 ซึ่งกรมปศุสัตว์จะทดลองความคุ้มโรคต่อไปอีกจนครบ 12 เดือน 

ขณะนี้กำลังขยายกำลังการผลิตวัคซีนจากระดับห้องปฏิบัติการ (Lab scale) สู่ระดับกึ่งอุตสาหกรรม (pilot scale) ตามข้อสั่งการของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์เพื่อให้เกษตรกรสามารถนำไปใช้ป้องกันโรคให้โค-กระบือโดยเร็ว นอกจากนี้กรมปศุสัตว์กำลังศึกษาความเป็นไปได้เพื่อขยายกำลังการผลิตวัคซีนโรคลัมปี สกิน เชื้อตาย ชนิดสื่อน้ำมัน โดยใช้เทคโนโลยี large scale roller หรือ Microcarrier ให้สามารถผลิตได้เดือนละ 5 แสน ถึงกว่า 1 ล้านโด๊ส ซึ่งจะทราบผลการศึกษาในช่วงกลางปี 2566 หากกำลังการผลิตเป็นไปตามเป้าหมายที่กำหนด จะสามารถผลิตวัคซีนได้เพียงพอต่อความต้องการใช้สำหรับการควบคุมและป้องกันภายในประเทศ รวมถึงสัตว์นำเข้าจากประเทศเพื่อนบ้าน อีกทั้งช่วยลดการนำเข้าวัคซีนจากต่างประเทศได้มากถึงปีละ 8 ล้านโด๊ส สามารถประหยัดงบประมาณถึง 360 ล้านบาท ตลอดจนสามารถส่งขายให้กับประเทศเพื่อนบ้านในอาเซียนได้อีกด้วย ที่สำคัญการฉีดวัคซีนอย่างทั่วถึงจะนำไปสู่การกำจัดโรคลัมปี สกิน ให้หมดไปจากประเทศไทยได้อย่างถาวรในอนาคต 

สำหรับโรคลัมปี สกิน ในโค-กระบือ (Lumpy Skin Disease) : LSD) ซึ่งเป็นโรคอุบัติใหม่ในไทย พบเป็นครั้งแรกที่อำเภอพนมไพร จังหวัดร้อยเอ็ด เมื่อวันที่ 29มีนาคม 2564 ซึ่งกรมปศุสัตว์ได้ร่วมกับทุกภาคส่วนได้แก่ ผู้ว่าราชการจังหวัดทุกจังหวัด องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น รวมถึงเกษตรกรและประชาชนดำเนินมาตรการควบคุมโรค 5 มาตรการสำคัญได้แก่ 


1. ควบคุมการเคลื่อนย้าย 

2. เฝ้าระวังการเกิดโรคอย่างใกล้ชิด 

3. ป้องกันและควบคุมแมลงพาหะนำโรค 

4. รักษาสัตว์ป่วยตามอาการ 

5. การใช้วัคซีนควบคุมโรค 

ทั้งนี้วัคซีนที่ใช้ในการป้องกันโรคที่ผ่านมา จำเป็นต้องนำเข้าวัคซีนจากต่างประเทศ ซึ่งกรมปศุสัตว์ได้นำเข้า 5.3 ล้านโด๊ส ใช้งบประมาณสนับสนุนไปกว่า 160 ล้านบาท ส่วนภาคเอกชน สมาคม และกลุ่มเกษตรกรนำเข้ามาอีกประมาณ5 แสนโด๊ส มูลค่าประมาณ 22.5 ล้านบาทซึ่งรวมเป็นมูลค่ากว่า 180 ล้านบาท.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

รวบรอง ผอ.โรงเรียนดัง หน.แก๊งค้ายา พบข้าราชการเป็นลูกค้าเพียบ

รวบหัวหน้าแก๊งค้ายาเป็น “รอง ผอ.” โรงเรียนดังย่านปากเกร็ด พร้อมสมุน ขยายผลพบลูกค้าเป็นข้าราชการอีกจำนวนมาก

คนไทย-คนจีนขับรถไล่ชนกันหน้าคลับดังเมืองพัทยา คาดหึงหวงสาวที่มาด้วย

รถตู้ 3 คัน และรถฟอร์จูนเนอร์ 1 คัน ขับไล่ชนกันไปมา บริเวณหน้าคลับแห่งหนึ่งในเมืองพัทยา พบเป็นศึกระหว่างคนไทย 1 กลุ่ม และคนจีน 1 กลุ่ม สาเหตุคาดมาจากคนจีนหึงหวงแฟนสาวที่มาด้วย

ปัญหาต่างชาติในภูเก็ต ตอนที่ 3

ปัจจุบันการเข้ามาทำธุรกิจรถเช่าของต่างชาติที่ใช้คนไทยเป็นนอมินีในภูเก็ตมีจำนวนเพิ่มมากขึ้น เช่นเดียวกับจำนวนอุบัติเหตุที่เกิดจากการขับขี่รถของชาวต่างชาติในภูเก็ตก็มากขึ้นด้วย ปัญหานี้ถือเป็นเรื่องใหญ่ที่โยงใยไปถึงเรื่องของภาพลักษณ์ด้านความปลอดภัยทางการท่องเที่ยว ไม่เฉพาะแค่ภูเก็ต แต่เป็นของเมืองไทยด้วย

ศาลอาญาทุจริตฯ ยกฟ้อง คุณหญิงพรทิพย์ และพวก ในคดี GT200

ศาลอาญาทุจริตฯ ยกฟ้อง “คุณหญิงพรทิพย์” และพวกรวม 10 คน ในคดีจัดซื้อเครื่องตรวจวัตถุระเบิด GT200 ของสถาบันนิติวิทยาศาสตร์
ระบุไม่พบมีมูลความผิด ทุจริต มีการแสวงหาประโยชนแก่ตนเองและผู้อื่นโดยมิชอบ

ข่าวแนะนำ

ทองคำนิวไฮ พุ่งกระฉูด 550 บาท ทองรูปพรรณแตะ 39,000 บาท

ทองคำเปิดตลาดปรับขึ้นรวดเดียว 550 บาท ทองแท่งขายออก 38,500 บาท ทองรูปพรรณขายออก 39,000 บาท ทำสถิติสูงสุดเป็นประวัติการณ์ครั้งใหม่

รถไฟฟ้าสีเหลืองขัดข้องอีกแล้ว (29 มี.ค.)

รถไฟฟ้าสีเหลืองขัดข้องอีกแล้วช่วงสายวันนี้ (29 มี.ค.) ทำให้รถจากสถานีลาดพร้าว เดินทางไปถึงสถานีหัวหมาก ต้องสิ้นสุดที่สถานีศรีกรีฑา

เรียกปลัดคลังพบที่ทำเนียบฯ แต่เช้า

นายกฯ เรียกปลัดคลังพบที่ทำเนียบฯ แต่เช้า หารือเรื่องยกเว้นภาษี​นำเข้าสินค้า​จากตปท.ที่ต่ำกว่า​ 1,500 บาท ​ขณะที่ปลัดยันไม่ได้คุยเรื่องดิจิทัล วอลเล็ต แต่ให้เชื่อว่าชัดเจน 10 เม.ย.นี้แน่นอน

อุตุฯ เผยไทยตอนบนอากาศร้อนจัดบางพื้นที่

กรมอุตุฯ เผยไทยตอนบนอากาศร้อนจัดบางพื้นที่ ขอให้ประชาชนดูแลรักษาสุขภาพเนื่องจากสภาพอากาศร้อนถึงร้อนจัดในระยะนี้ ส่วนภาคอีสานตอนล่าง ภาคกลาง และภาคตะวันออก มีฝนฟ้าคะนองบางแห่ง