“เฉลิมชัย” เผยวัคซีนโรคลัมปี สกินของไทยเริ่มใช้ได้ พ.ค. นี้

กรุงเทพฯ 24 มี.ค.- รมว.เกษตรฯ ระบุ วัคซีนป้องกันโรคลัมปี สกินที่ผลิตโดยกรมปศุสัตว์ผ่านการทดลองประสิทธิผลในฟาร์มแล้ว พบว่า สามารถกระตุ้นภูมิคุ้มกันได้ดีเทียบเท่ากับวัคซีนจากต่างประเทศ เร่งขยายการผลิตในระดับกึ่งอุตสาหกรรมเพื่อให้เกษตรกรเข้าถึงในราคาถูก คาดจะเริ่มใช้ได้ในเดือนพฤษภาคมนี้


นายเฉลิมชัย ศรีอ่อน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์กล่าวว่า กรมปศุสัตว์รายงานผลการทดสอบประสิทธิผลของวัคซีนป้องกันโรคลัมปี สกินในโค-กระบือที่สำนักเทคโนโลยีชีวภัณฑ์สัตว์และสถาบันสุขภาพสัตว์แห่งชาติร่วมกันพัฒนา โดยเป็นการทดลองในพื้นที่จริง (field trial) เมื่อเดือนธันวาคม 2564 ที่ผ่านมา ซึ่งฟาร์มโชคชัยอำเภอปากช่อง จังหวัดนครราชสีมาให้ความร่วมมือในการทดสอบ ปรากฏว่า วัคซีนที่ผลิตโดยกรมปศุสัตว์ มีผลการกระตุ้นภูมิคุ้มกันอยู่ในเกณฑ์ดีเทียบเท่ากับวัคซีนที่ผลิตในต่างประเทศ 

ทั้งนี้สั่งการเพิ่มเติมให้กรมปศุสัตว์เร่งขยายกำลังการผลิตวัคซีนจากระดับห้องปฏิบัติการ (Lab scale) สู่ระดับกึ่งอุตสาหกรรม (pilot scale) ด้วยเทคโนโลยีการผลิตในขวดเพาะเลี้ยงเซลล์ ซึ่งเป็นเทคโนโลยีดั้งเดิมของการผลิตวัคซีนโรคปากและเท้าเปื่อยซึ่งสำนักเทคโนโลยีชีวภัณฑ์สัตว์มีองค์ความรู้และมีบุคลากรที่ชำนาญสามารถรองรับปริมาณการผลิตวัคซีน 50,000-100,000 โด๊สต่อเดือน โดยตลอดกระบวนการผลิตใช้ระยะเวลาประมาณ 2 เดือนเศษ ดังนั้นจึงคาดว่า จะผลิตวัคซีนชุดแรกแล้วเสร็จช่วงประมาณกลางเดือนพฤษภาคม 2565 ในราคาต้นทุนโด๊สละ 9 บาท ซึ่งเป็นการลดค่าใช้จ่ายในการป้องกันโรคให้แก่เกษตรกร ในช่วงปีแรก (มิ.ย. 2565 – พ.ค. 2566) สามารถผลิตวัคซีนได้ มีมูลค่า 6 ล้านบาท หากต้องนำเข้าจากต่างประเทศต้องใช้งบประมาณถึง 27 ล้านบาทซึ่งจะช่วยประหยัดงบประมาณแผ่นดินได้มากถึง 21 ล้านบาทและเป็นการสร้างความมั่นคงทางวัคซีนของไทยอีกด้วย


นายสัตวแพทย์สรวิศ ธานีโต อธิบดีกรมปศุสัตว์กล่าวว่า สำนักเทคโนโลยีชีวภัณฑ์สัตว์และสถาบันสุขภาพสัตว์แห่งชาติซึ่งเป็นส่วนราชการภายในกรมปศุสัตว์ที่มีองค์ความรู้และมีบุคลากรที่มีความชำนาญในการผลิตวัคซีนร่วมกันศึกษาความเป็นไปได้ในการผลิตวัคซีนโรคลัมปี สกิน สำหรับใช้ป้องกันและควบคุมโรคกรณีฉุกเฉิน โดยเริ่มพัฒนาวัคซีนในระดับห้องปฏิบัติการ (Lab scale) มาตั้งแต่เดือนพฤษภาคม 2564 สถาบันสุขภาพสัตว์แห่งชาติสามารถแยกไวรัสจากตัวอย่างสัตว์ป่วยในประเทศมาเพาะเลี้ยงในห้องทดลองได้สำเร็จ แล้วส่งหัวเชื้อไวรัสต่อให้สำนักเทคโนโลยีชีวภัณฑ์สัตว์นำมาขยายปริมาณไวรัสในเซลล์เพาะเลี้ยง และผลิตเป็นแอนติเจนที่หมดฤทธิ์ในการก่อโรคจากนั้นได้ทดลองผลิตเป็นวัคซีน 2 สูตรได้แก่ วัคซีนเชื้อตายในรูปแบบชนิดน้ำและวัคซีนเชื้อตายชนิดน้ำมัน ผลการทดลองในสัตว์ตามวิธีมาตรฐานการผลิตวัคซีน แสดงให้เห็นว่า วัคซีนทั้ง 2 สูตรมีความปลอดภัยไม่ก่อให้เกิดอาการแพ้ในสัตว์ โดยวัคซีนชนิดน้ำมันให้ความคุ้มโรค 100% สูงกว่าชนิดน้ำที่ให้ความคุ้มโรค 80% นอกจากนี้วัคซีนชนิดน้ำมันยังให้ความคุ้มโรคต่อเนื่องจนถึงเดือนที่ 7 ซึ่งกรมปศุสัตว์จะทดลองความคุ้มโรคต่อไปอีกจนครบ 12 เดือน 

ขณะนี้กำลังขยายกำลังการผลิตวัคซีนจากระดับห้องปฏิบัติการ (Lab scale) สู่ระดับกึ่งอุตสาหกรรม (pilot scale) ตามข้อสั่งการของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์เพื่อให้เกษตรกรสามารถนำไปใช้ป้องกันโรคให้โค-กระบือโดยเร็ว นอกจากนี้กรมปศุสัตว์กำลังศึกษาความเป็นไปได้เพื่อขยายกำลังการผลิตวัคซีนโรคลัมปี สกิน เชื้อตาย ชนิดสื่อน้ำมัน โดยใช้เทคโนโลยี large scale roller หรือ Microcarrier ให้สามารถผลิตได้เดือนละ 5 แสน ถึงกว่า 1 ล้านโด๊ส ซึ่งจะทราบผลการศึกษาในช่วงกลางปี 2566 หากกำลังการผลิตเป็นไปตามเป้าหมายที่กำหนด จะสามารถผลิตวัคซีนได้เพียงพอต่อความต้องการใช้สำหรับการควบคุมและป้องกันภายในประเทศ รวมถึงสัตว์นำเข้าจากประเทศเพื่อนบ้าน อีกทั้งช่วยลดการนำเข้าวัคซีนจากต่างประเทศได้มากถึงปีละ 8 ล้านโด๊ส สามารถประหยัดงบประมาณถึง 360 ล้านบาท ตลอดจนสามารถส่งขายให้กับประเทศเพื่อนบ้านในอาเซียนได้อีกด้วย ที่สำคัญการฉีดวัคซีนอย่างทั่วถึงจะนำไปสู่การกำจัดโรคลัมปี สกิน ให้หมดไปจากประเทศไทยได้อย่างถาวรในอนาคต 

สำหรับโรคลัมปี สกิน ในโค-กระบือ (Lumpy Skin Disease) : LSD) ซึ่งเป็นโรคอุบัติใหม่ในไทย พบเป็นครั้งแรกที่อำเภอพนมไพร จังหวัดร้อยเอ็ด เมื่อวันที่ 29มีนาคม 2564 ซึ่งกรมปศุสัตว์ได้ร่วมกับทุกภาคส่วนได้แก่ ผู้ว่าราชการจังหวัดทุกจังหวัด องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น รวมถึงเกษตรกรและประชาชนดำเนินมาตรการควบคุมโรค 5 มาตรการสำคัญได้แก่ 


1. ควบคุมการเคลื่อนย้าย 

2. เฝ้าระวังการเกิดโรคอย่างใกล้ชิด 

3. ป้องกันและควบคุมแมลงพาหะนำโรค 

4. รักษาสัตว์ป่วยตามอาการ 

5. การใช้วัคซีนควบคุมโรค 

ทั้งนี้วัคซีนที่ใช้ในการป้องกันโรคที่ผ่านมา จำเป็นต้องนำเข้าวัคซีนจากต่างประเทศ ซึ่งกรมปศุสัตว์ได้นำเข้า 5.3 ล้านโด๊ส ใช้งบประมาณสนับสนุนไปกว่า 160 ล้านบาท ส่วนภาคเอกชน สมาคม และกลุ่มเกษตรกรนำเข้ามาอีกประมาณ5 แสนโด๊ส มูลค่าประมาณ 22.5 ล้านบาทซึ่งรวมเป็นมูลค่ากว่า 180 ล้านบาท.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ผู้ว่าฯ สงขลา จัดคิวนายอำเภอรับ-ส่ง “เดชอิศม์” ทุกสัปดาห์

กทม. 18 ส.ค.-ผู้ว่าฯ สงขลา ทำหนังสือด่วน จัดคิวนายอำเภอ เวียนต้อนรับ-ส่ง “เดชอิศม์” สนามบินหาดใหญ่ ทุกสัปดาห์ นายโชตินรินทร์ เกิดสม ผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา ทำหนังสือด่วนที่สุด ที่ สข 0017.3/17839 เรื่อง ขอความอนุเคราะห์อำนวยความสะดวก นายเดชอิศม์ ขาวทอง รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย เรียน นายอำเภอเมืองสงขลา ด้วยจังหวัดสงขลาได้รับแจ้งว่า นายเดชอิศม์ ขาวทอง รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย มีกำหนดเดินทางมาราชการในพื้นที่จังหวัดสงขลา เพื่อตรวจราชการสำคัญตามนโยบายรัฐบาล และมีกำหนดเดินทางกลับไปปฏิบัติราชการ ณ กรุงเทพมหานคร ในวันที่ 18 สิงหาคม 2568 โดยสายการบินแอร์เอเชีย เที่ยวบินที่ FD 3103 เวลา 08.25-09.50 น. เพื่อเป็นการอำนวยความสะดวกแก่รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย จังหวัดสงขลาจึงขอให้ท่านดำเนินการ ดังนี้ 1. เชิญนายอำเภอเมืองสงขลา ร่วมส่งนายเดชอิศม์ ขาวทอง รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย ณ ห้องรับรอง ท่าอากาศยานหาดใหญ่ […]

ดราม่า “ไข่เจียวปู 4,000” ถึงหูพาณิชย์

กรุงเทพฯ​ 18 ส.ค.​-“จตุพร” สั่งกรมการค้าภายในตรวจสอบประเด็น​ดราม่า​ “ไข่​เจียวปู” ร้าน​ Michelin Guide สูงถึง​จานละ 4,000 บาท​ จาก​ที่​แจ้งราคาในเมนู​ 1,500​ บาท ย้ำ​ไม่ตรงปกไม่ได้ กรณี “พีชชี่” ยูทูบเบอร์ชื่อดัง โพสต์เล่าประสบการณ์สั่งไข่เจียวปูร้านดังราคาเมนู 1,500 บาท แต่ถูกเก็บจริง 4,000 บาท กำลังเป็นกระแสวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนักในโลกออนไลน์ ล่าสุด นายจตุพร บุรุษพัฒน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ระบุว่า จะมอบหมายให้กรมการค้าภายใน ลงพื้นที่ตรวจสอบข้อเท็จจริง ขณะนี้​ยังไม่ได้รับรายละเอียด​ แต่โดยหลักการแล้ว ราคาที่เรียกเก็บจากผู้บริโภคต้องตรงกับราคาที่ระบุในเมนู หาก “ไม่ตรงปก” จะบั่นทอนความเชื่อมั่นทางการค้า “การค้าขายจะยั่งยืนได้ต้องอาศัยความไว้เนื้อเชื่อใจ หากผู้บริโภครู้สึกว่า​ ราคาไม่ตรงกับที่เห็นในเมนู ย่อมเสียความรู้สึก” นายจตุพรกล่าว เรื่องนี้เริ่มจาก “พีชชี่” โพสต์ผ่าน X เมื่อวันที่ 15 ส.ค. ระบุว่าไปทานไข่เจียวปู ซึ่งเป็นร้านอาหารไทยเพียงไม่กี่แห่งที่ได้รับการบรรจุใน Michelin Guide โดยเมนูระบุราคา 1,500 […]

“บิ๊กต่าย” ถกบอร์ดกลั่นกรอง เลื่อน “สำราญ-อิทธิพล” ขึ้นรอง ผบ.ตร.

กรุงเทพฯ 17 ส.ค. – ผบ.ตร. นั่งหัวโต๊ะประชุมกลั่นกรองแต่งตั้งนายพลสีกากี เลื่อน “สำราญ-อิทธิพล” ขึ้นรอง ผบ.ตร. ที่ห้องประชุม 2 สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) เป็นประธานคณะกรรมการพิจารณาการแต่งตั้งข้าราชการตำรวจระดับ ตร. หรือ “บอร์ดกลั่นกรอง” พิจารณาแต่งตั้งข้าราชการตำรวจระดับรอง ผบ.ตร.-ผบก. โดยมี พล.ต.อ.ไกรบุญ ทรวดทรง รอง ผบ.ตร. พล.ต.อ.ธนา ชูวงศ์ รอง ผบ.ตร. พล.ต.อ.ประจวบ วงศ์สุข รอง ผบ.ตร. พล.ต.อ.กรไชย คล้ายคลึง รอง ผบ.ตร. พล.ต.อ.นิรันดร เหลื่อมศรี รอง ผบ.ตร. พล.ต.อ.ธัชชัย ปิตะนีละบุตร จตช. และ พล.ต.ท.อาชยน ไกรทอง ผบช.สกพ. และเลขานุการ เข้าร่วมประชุม ทั้งนี้ […]

เสียงเรียกแห่งความอร่อย…ก๋วยเตี๋ยวแต้จิ๋วโบราณเชียงใหม่

เชียงใหม่ 17 ส.ค. – โดดเด่นไม่เหมือนใคร “ก๋วยเตี๋ยวแต้จิ๋วสูตรโบราณ” ของอาแปะตี๋อ้วน ที่แต่งกายแบบล้านนาโบราณ เดินหาบขายตามตลาดและย่านชุมชนใน จ.เชียงใหม่ มานานกว่า 10 ปีแล้ว โดยใช้การตีกังสดาล หรือระฆังวงเดือน เรียกลูกค้า สะดุดตาผู้พบเห็น หลายคนติดใจในรสชาติและราคาที่ย่อมเยา จนมีลูกค้ามากมาย .-สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

ผู้ว่าฯ สงขลา ยืนยันไม่ได้ออกคำสั่งรับ มท.3

สงขลา 18 ส.ค.-ผู้ว่าฯ สงขลา ยืนยันไม่ได้ออกคำสั่งให้นายอำเภอจัดเวรต้อนรับ-ส่ง “เดชอิศม์” ส่วนมีใครคิดจะปลอมแปลงขึ้นมาก็ต้องตรวจสอบกันต่อไป นายโชตินรินทร์ เกิดสม ผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา ออกมากล่าวถึงเรื่องที่มีหนังสือคำสั่งทางราชการให้นายอำเภอของจังหวัดสงขลาทั้ง 16 อำเภอจัดเวรต้อนรับ-ส่ง และจัดห้อง VIP พร้อมอาหารว่าง ต้อนรับ รัฐมนตรีช่วยกระทรวงมหาดไทย นายเดชอิศม์ ขาวทอง ซึ่งรายละเอียดในหนังสือกล่าวว่าให้นายอำเภอเมืองสงขลาปฏิบัติหน้าที่ในวันที่ 18 สิงหาคม 2568 คือในวันนี้ ว่าไม่เป็นความจริง ตนไม่ได้ออกหนังสือฉบับนี้ เพราะหนังสือที่ตนลงนามฉบับสุดท้ายในวันนั้นคืองานประชุม ส่วนความจริงตอนนี้มอบหมายให้รองผู้ว่าราชการที่เกี่ยวข้องตรวจสอบเรื่องนี้แล้ว แต่ให้ข้อคิดว่าหนังสือที่จะขอใช้พื้นที่หน่วยงานจากท่าอากาศยาน ก็ต้องเป็นลายเซ็นของผู้ว่าราชการเท่านั้น ส่วนมีใครคิดจะปลอมแปลงหรือทางหนังสือปลอมขึ้นมาก็ต้องตรวจสอบกันต่อไป แต่จะให้ได้ความจริงให้เร็วที่สุด เมื่อมีการสอบถามเรื่องความขัดแย้งของจังหวัดสงขลาราชการจังหวัดสงขลากล่าวว่าท่านไม่น่าจะมีความขัดแย้งกับใคร เพราะไม่เคยทำงานในพื้นที่มาก่อน เพิ่งมารับตำแหน่งผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลาในครั้งแรก ผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา ยังกล่าวอีกว่า วันและเวลาดังกล่าวที่มีการออกหนังสือ ตนก็ไม่ได้อยู่ในพื้นที่ ไปธุระส่วนตัวงานแต่งงานของญาติที่จังหวัดนครศรีธรรมราช แต่จะให้ผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องหาความจริงเรื่องนี้ให้เร็วที่สุดเพราะถือว่าเป็นการทำผิดอย่างมาก.-สำนักข่าวไทย

“วันนอร์” จี้ สส.ที่ถูกติดต่อให้เงิน 10 กก. เปิดโปง อย่าอ้ำอึ้ง

รัฐสภา 18 ส.ค.-“วันนอร์” จี้ สส.ที่ถูกติดต่อให้เงิน 10 กก. เปิดโปง อย่าอ้ำอึ้ง ยันพร้อมตรวจสอบหากส่งเรื่อง-หลักฐานร้องมา ส่วนปัญหาองค์ประชุม โยนวิปรัฐคุมเสียงปริ่มน้ำ นายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานสภาผู้แทนราษฎร กล่าวถึงปัญหาองค์ประชุมที่เสียงรัฐบาลปริ่มน้ำทำให้ประธานต้องชิงปิดประชุมหลายครั้งเพราะองค์ประชุมไม่ครบ ว่าเสียงของรัฐบาลเป็นหน้าที่ของวิปรัฐบาล ที่จะทำให้องค์ประชุมเกินกึ่งหนึ่งเพื่อให้ประชุมได้ ซึ่งในการพิจารณาร่างพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ 2569 ที่ผ่านมา ต้องมีการตรวจสอบองค์ประชุมก่อนลงมติ ดังนั้นหากประสานงานกันให้ดีและทุกคนรู้หน้าที่ตนเอง สภาก็คงดำเนินการเดินหน้าไปได้ ซึ่งไม่ว่าจะเป็นกฎหมายอะไรก็เช่นกัน หากมีการลงมติที่มีผู้ที่เห็นด้วยและไม่เห็นด้วย ก็คิดว่าหากทุกคนปฏิบัติตามหน้าที่ ก็ไม่มีปัญหาอะไร เพราะรัฐบาลมีเสียงเกินกึ่งหนึ่งจะมากหรือจะน้อยก็ถือว่าเกินกึ่งหนึ่ง ก็ถือว่าเป็นองค์ประชุมและลงคะแนนได้ ไม่มีปัญหาอะไร ส่วนที่มีการปิดประชุมก่อนเนื่องจากเสียงไม่พอนั้น ประธานสภาผู้แทนราษฎรกล่าวว่า หากองค์ประชุมไม่ครบก็ต้องปิดประชุม เพราะตามกฎหมายและข้อบังคับไม่สามารถดำเนินการไปได้ ซึ่งก็ต้องดูกันไป โดยในช่วงสัปดาห์ต่อไปก็มีกฎหมายหลายฉบับที่จะเข้ามา ซึ่งตนคิดว่าแม้องค์ประชุมมาก หากสมาชิกไม่มาอยู่ในห้องประชุมให้ครบองค์ประชุมก็ไม่มีประโยชน์อะไรเช่นกัน แต่ถ้าองค์ประชุมปริ่มน้ำ แต่มาครบเกินกึ่งหนึ่งก็ดำเนินการไปได้ เป็นการปฏิบัติหน้าที่ตามปกติ ที่มีฝ่ายค้านและรัฐบาล โดยหากรัฐบาลต้องการให้กฎหมายผ่าน มติกฎหมายของฝ่ายรัฐบาล รัฐบาลก็ต้องดูแลสมาชิกให้เกินกึ่งหนึ่งจะมากหรือจะน้อยก็ให้เกินกึ่งหนึ่งก็ถือว่าใช้ได้แล้ว ประธานสภาผู้แทนราษฎรยังกล่าวถึงกรณีที่มี สส.ออกมาเปิดเผยว่า มีการเสนอให้เงิน 10 กิโล เพื่อแลกกับการลงมติ ผ่านร่างพระราชบัญญัติงบประมาณฯ และร่างกฎหมายเอ็นเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ ว่า […]

กัมพูชาขอเลื่อนประชุม RBC ทภ.2 เป็น 27 ส.ค.นี้

กทม. 18 ส.ค.-กัมพูชาขอเลื่อนประชุม RBC กองทัพภาคที่ 2 เป็นวันที่ 27 ส.ค.นี้ เตรียมนัดหารือที่ช่องสะงำ ศบ.ทก. แจ้งความคืบหน้าการประชุมคณะกรรมการชายแดนส่วนภูมิภาค RBC ไทย-กัมพูชา ในส่วนของกองทัพภาคที่ 2 โดยระบุว่ากองเลขาฯ ฝ่ายกัมพูชา ประสานขอเลื่อนการประชุม RBC สมัยวิสามัญ จากเดิมวันที่ 21 ส.ค.68 เป็นวันที่ 27 ส.ค.68 เพื่อมีเวลาเตรียมการประชุมเพิ่มขึ้น ทั้งนี้ พลโท บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 นำเรียน พลเอกพนา แคล้วปลอดทุกข์ ผบ.ทบ. แล้ว ไม่ขัดข้องสำหรับการเลื่อนห้วงการประชุม RBC ตามที่ฝ่ายกัมพูชาเสนอ ดังนั้น กองทัพภาคที่ 2 จึงขอเลื่อนการประชุมประสานการปฏิบัติ และการประชุม RBC สมัยวิสามัญ ดังนี้1.วันที่ 25-26 ส.ค.68 : ประชุมกองเลขาฯ2.วันที่ 27 […]

“เดชอิศม์” ยันหนังสือด่วนปลอม เชื่อหวังดิสเครดิต

กทม.18 ส.ค.-“เดชอิศม์” ยันหนังสือด่วนปลอม จัดคิวนายอำเภอรับ-ส่งสนามบินหาดใหญ่ เชื่อหวังดิสเครดิต นายเดชอิศม์ ขาวทอง รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย กล่าวถึงกรณี ที่มีการเผยแพร่ทำหนังสือด่วนลงนามโดยนายโชตินรินทร์ เกิดสม ผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา เนื้อหาลักษณะจัดคิวนายอำเภอ ต้อนรับและส่ง นายเดชอิศม์ สนามบินหาดใหญ่ ทุกสัปดาห์ว่า ได้ตรวจสอบไปยังผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลาแล้ว พบว่าเป็นเอกสารปลอม ผู้ว่าราชการจังหวัดบอกว่าไม่มีไม่ใช่ลายเซ็นของท่าน นายเดชอิศม์ กล่าวว่าส่วนตัวไม่ได้ต้องการให้มีใครมารับมาส่ง เพราะเป็น สส.สงขลาอยู่แล้ว ไม่จำเป็นต้องให้ใครมาต้อนรับ พร้อมตั้งข้อสังเกตว่าอาจจะเป็นกระบวนการ ต้องการดิสเครดิตผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา และอาจมีความพยายามต้องการให้มาถึงตนเองด้วย.-(1)319.-สำนักข่าวไทย