สุราษฎร์ธานี 24 ก.พ. – คาดราคาปาล์ม-น้ำมันขายปลีกของไทยขยับขึ้นอีก หลังราคาน้ำมันดิบแตะ 100 ดอลลาร์สหรัฐ เหตุรัสเซียบุกยูเครน สกนช. ตามติดสถานการณ์ ยอมรับดูแลดีเซล 30 บาท “ยากลำบาก” ส่งสัญญาณให้ชาวบ้านประหยัด
จากกรณีราคาน้ำมันดิบซื้อขายระหว่างวันในส่วนของตลาด Brent วันนี้ขยับขึ้นแตะ 101 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล สูงสุดในรอบ 8 ปี หลังกองทัพรัสเซียดำเนินการโจมตีทางอากาศกับกองกำลังทหารของยูเครน ด้านโรงงานปาล์มน้ำมัน นายไกรวุฒิ ศิริอนันตภัทร์ กรรมการผู้จัดการบริษัท เอส พี โอ อะโกร อินดัสตรี้ส์ คาดว่า ราคา CPO พุ่งอีกตามน้ำมันเบรนท์ที่แตะ 101 ดอลลาร์สหรัฐ
ล่าสุดน้ำมันปาล์มดิบ (CPO) 47-48บาท/ลิตร และราคาผลปาล์มดิบอยู่ที้ประมาณ 9 บาท/ลิตร ซึ่งรัสเซียเป็นผู้ส่งออกน้ำมันทานตะวันรายใหญ่ของโลกหากถูกคว่ำบาตรผู้บริโภคจะมาใช้ปาล์มเพิ่มขึ้น
นายวิศักดิ์ วัฒนศัพท์ ผู้อำนวยการสำนักงานกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง (สกนช.)ยอมรับว่าหากราคาน้ำมันดิบอยู่ในราคา100ดอลลาร์/บาร์เรล เป็นเวลานานจะส่งผลกระทบทำให้กลไกดูแลราคาดีเซลไม่เกิน30บาท/ลิตร บริหารงานได้ยากเพราะทุกราคาน้ำมัน1ดอลลาร์ที่เพิ่มขึ้นส่งผลต้นทุนน้ำมันเพิ่มขึ้น20สต./ลิตร โดยราคาขายปลีกดีเซลของไทยที่เพิ่มขึ้นเช้าวันนี้ 60 สตางค์/ลิตร ราคาขายปลีกบางจากฯ พีทีทีสเตชั่นสูงถึง 28.54 บาทต่อลิตร ซึ่งหากราคาน้ำมันดิบไปถึง 100 ดอลลาร์ก็ทำให้ต้นทุนเกิน 30 บาท ซึ่งในขณะนี้รัฐบาลคงต้องส่งสัญญาณให้ประชาชนรับรู้และช่วยประหยัดพลังงานกันมากขึ้น
“ราคาน้ำมัน100ดอลลาร์/บาร์เรลอาจทำให้ดูแลราคาดีเซล30บาทได้ยาก เพราะขณะนี้ได้ใช้กลไกลดภาษีสรรพสามิต3บาท/ลิตรแล้ว ส่วนกองทุนน้ำมันฯคงไม่สามารถอุดหนุนได้เพิ่มจากขณะนี้ลดอุดหนุนดีเซลเหลือ2.30บาท/ลิตร ซึ่งหากราคาอยู่ราว 90-92 ดอลลาร์/บาร์เรล เราจะมีสภาพคล่องดูแลได้ถึงพ.ค. โดยขณะนี้เงินไหลออกรวมดูแลราคาก๊าซหุงต้มราว 5 พันล้าน/เดือน ซึ่งทางสำนักงานฯ มอนิเตอร์และรายงานกระทรวงพลังงานเพื่อตัดสินใจด้านนโยบายต่อไป” นายวิศักดิ์กล่าว
นายวิศักดิ์กล่าวว่า ในส่วนของการกู้เงิน 2 หมื่นล้านบาทเพื่อเสริมสภาพคล่องกองทุนฯน้ำมันนั้น ขณะนี้อยู่ในขั้นตอนดำเนินการตามคำแนะนำด้านบัญชีของสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) โดยคาดว่า เงินกู้จะเข้ามาเสริมสภาพคล่องได้ไม่เกินเดือนพฤษภาคม ปัจจุบันเงินกองทุนติดลบแล้วกว่า 2 หมื่นล้านบาท.-สำนักข่าวไทย