กรุงเทพฯ 15 ก.พ. – อธิบดีกรมชลประทานระบุ เตรียมพร้อมรับภาวะน้ำทะเลหนุนสูงซึ่งจะต่อเนื่องถึงวันที่ 18 กุมภาพันธ์นี้ ตลอดจนวางมาตรการล่วงหน้ารับมือน้ำทะเลหนุนสูงตลอดฤดูแล้งอย่างรัดกุมให้สอดคล้องกับประกาศของกองอำนวยการน้ำแห่งชาติ (กอนช.) เพื่อลดผลกระทบที่จะเกิดกับประชาชนในลุ่มน้ำเจ้าพระยา
นายประพิศ จันทร์มา อธิบดีกรมชลประทานเปิดเผยว่า กรมชลประทานได้วางแผนการบริหารจัดการน้ำเพื่อบรรเทาปัญหาน้ำทะเลหนุนสูงในช่วงฤดูแล้งเพื่อควบคุมความเค็มในแม่น้ำเจ้าพระยา ด้วยการเพิ่มการระบายจากเขื่อนภูมิพล ตั้งแต่ช่วงวันที่ 2 – 5 กุมภาพันธ์ 2565 ในอัตราเฉลี่ยวันละ 24 ล้านลูกบาศก์เมตร พร้อมกับรักษาระดับน้ำเหนือเขื่อนเจ้าพระยาให้อยู่ในเกณฑ์ และควบคุมปริมาณน้ำไหลผ่านเขื่อนเจ้าพระยาในอัตราเฉลี่ย 85 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที
สำหรับที่เขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ ปรับแผนเพิ่มการระบายน้ำในอัตราเฉลี่ยวันละ 5.18 ล้านลูกบาศก์เมตร ตั้งแต่วันที่ 10 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา หลังจากนั้นจะทยอยปรับลดการระบายลงเหลืออัตราเฉลี่ยวันละ 4.32 ล้านลูกบาศก์เมตร ในขณะเดียวกันจะควบคุมระดับเหนือเขื่อนพระรามหกให้อยู่ในเกณฑ์ และปรับแผนเพิ่มการระบายน้ำอยู่ในอัตราเฉลี่ย 40 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที จากนั้นจะทยอยปรับลดการระบายลงเหลืออัตราเฉลี่ย 20 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที ในลำดับต่อไป
ล่าสุดพิจารณาผันน้ำจากลุ่มน้ำแม่กลอง-เจ้าพระยา โดยการระบายน้ำผ่านประตูระบายน้ำ (ปตร.) สิงหนาท 2 ในอัตราไม่ต่ำกว่า 12 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที พร้อมควบคุมปริมาณน้ำจากเขื่อนเจ้าพระยา เขื่อนพระรามหก และปตร.สิงหนาท 2 รวมกันที่บริเวณอำเภอบางไทร จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ในเกณฑ์ไม่ต่ำกว่า 100 – 120 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที
จากแผนการระบายน้ำและบริหารจัดการน้ำข้างต้น ส่งผลให้ปริมาณน้ำทั้งหมดไหลมาบรรจบเพื่อบรรเทาปัญหาน้ำทะเลหนุนสูงในพื้นที่ลุ่มน้ำเจ้าพระยาจากนี้ถึงวันที่ 18 กุมภาพันธ์ 2565 ได้ตามการคาดการณ์ ซึ่งสอดคล้องกับประกาศ กองอำนวยการน้ำแห่งชาติ ฉบับที่ 1/2565 เรื่อง เฝ้าระวังน้ำทะเลหนุนสูงและความเค็มรุกตัวบริเวณแม่น้ำเจ้าพระยา
ปัจจุบัน แม่น้ำเจ้าพระยา ตรวจวัดค่าความเค็มที่สถานีสูบน้ำสำแล จังหวัดปทุมธานี อยู่ที่ 0.22 กรัมต่อลิตร ซึ่งอยู่ในเกณฑ์ปกติ โดยที่ผ่านมากรมชลประทานมีมาตรการบริหารจัดการน้ำในการบรรเทาปัญหาน้ำทะเลหนุนสูงในพื้นที่ลุ่มน้ำเจ้าพระยาอย่างรัดกุม พร้อมเฝ้าระวังสถานการณ์น้ำเค็มรุกอย่างต่อเนื่อง เพื่อลดผลกระทบที่จะเกิดกับประชาชนให้มากที่สุด ทั้งนี้กรมชลประทานจะบริหารจัดการน้ำจากอ่างเก็บน้ำและอาคารชลประทานให้สอดคล้องกับช่วงการหนุนของน้ำทะเลอย่างเหมาะสมตลอดช่วงฤดูแล้งนี้.- สำนักข่าวไทย