คปภ.แจงแนวปรับเงื่อนไขเคลมโควิด

กรุงเทพฯ 7 ก.พ. – คปภ. แจงกรณีสมาคมประกันชีวิตไทย ปรับเงื่อนไขยื่นเคลมโควิด-19 ขอเบิกค่ารักษาพยาบาล ชดเชยรายวัน ตามเงื่อนไขใหม่ของสาธารณสุข ส่วน “เจอ จ่าย จบ” ยื่นเคลมตามกรมธรรม์เดิม


นายอาภากร ปานเลิศ ผู้ช่วยเลขาธิการสายกำกับ สำนักงานคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย (คปภ.) เปิดเผยว่า กรณีสมาคมประกันชีวิตไทย ออกแนวปฏิบัติการให้ความคุ้มครองผู้เอาประกันตามกรมธรรม์ประกันสุขภาพ เมื่อติดเชื้อโควิด-19 มีผลตั้งแต่วันที่ 15 ก.พ.65 นั้น เพื่อให้สอดคล้องกับแนวทางการแพทย์ดูแลผู้ป่วยโควิด-19 ของกระทรวงสาธารณสุข ปรับปรุงใหม่ เมื่อวันที่ 4 ม.ค.65 ทำให้เงื่อนไขการจ่ายเคลมค่ารักษาพยาบาล และค่าชดเชยรายวันของผู้ป่วยต้องปรับเปลี่ยนตามทางการ

ขณะนี้กระทรวงสาธารณสุขกำหนดเงื่อนไขผู้ติดเชื้อโควิดใหม่ จะได้รับค่าชดเชยการรักษาพยาบาล ต้องมีอาการตามกระทรวงสาธารณสุขกำหนด ประกอบด้วย 1. ผู้ป่วยมีอาการไข้สูงกว่า 39 องศาเซลเซียส ติดต่อกันมากกว่า 24 ชั่วโมง 2.ผู้ป่วย ผู้ใหญ่ หายใจมากกว่า 25 ครั้งต่อนาที 3.ระดับความเข้มขนของออกซิเจนในเลือดน้อยกว่าร้อยละ 94 4.หากมีโรคประจำตัวที่มีอาการเปลี่ยนแปลง หรือจำเป็นต้องติดตามอาการอย่างใกล้ชิดตามดุลยพินิจของแพทย์ 5.สำหรับผู้ป่วยเด็ก หากหายใจลำบาก ซึมลง ดื่มนมหรือทานอาหารน้อยลง ยื่นเคลมขอค่ารักษา หรือค่าชดเชยได้


นายอาภากร กล่าวเพิ่มเติมว่า สำหรับผู้ติดเชื้อโควิด-19 ไม่แสดงอาการ หรือมีอาการไม่รุนแรง แม้ได้พักรักษาตัวในโรงพยาบาล Hospitel, Home Isolation หากแพทย์ไม่ได้วินิจฉัยถึงความจำเป็น จะไม่ได้รับความคุ้มครองค่ารักษา และค่าชดเชยรายวัน ยกเว้นกรณีที่อยู่นอกเหนือเงื่อนไข 5 ข้อที่กำหนด หากแพทย์วินิจฉัยว่ามีความจำเป็นต้องรักษาอาการ มีสิทธิรับความคุ้มครอง

สำหรับแนวทางปฏิบัติทางการแพทย์ของสาธารณสุข ครอบคลุมเฉพาะกรมธรรม์ประกันโควิด และประกันสุขภาพ ของบริษัทประกันชีวิตและวินาศภัย ที่ให้ความคุ้มครองค่ารักษาพยาบาลผู้ป่วยใน และค่าชดเชยรายวันเท่านั้น ไม่เกี่ยวข้องกับประกันโควิด-19 แบบ “เจอ จ่าย จบ” เนื่องจากกรมธรรม์กำหนดไว้หากพบว่าติดเชื้อโควิด-19 ยังขอชดเชยได้เหมือนเดิม เมื่อผลตรวจพบเชื้อโควิด-19 ด้วยวิธี RT-PCR จากโรงพยาบาลหรือสถานพยาบาล ที่ได้รับรองจากกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ เพียงนำหลักฐานมาแจ้งเคลมกับบริษัทประกันที่ซื้อกรมกรรมธ์.-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

จำคุกเอกราช

ศาลสั่งจำคุก 5 ปี 93 เดือน “เอกราช” สส.ภูมิใจไทย

ศาลจังหวัดขอนแก่น พิพากษาจำคุก 5 ปี 93 เดือน นายเอกราช ช่างเหลา สส.ขอนแก่น เขต 4 พรรคภูมิใจไทย พร้อมสั่งชดใช้เงินกว่า 405 ล้านบาท คดียักยอกเงินสหกรณ์ออมทรัพย์ครูขอนแก่น 1,275 ล้านบาท

ลูกนายกเบี้ยว

“อนุทิน” ลั่นต้องดำเนินคดี “ลูกชายนายกเบี้ยว”

“อนุทิน” ลั่นไม่มีใครใหญ่กว่าผม ต้องดำเนินคดี “ลูกชายนายกเบี้ยว” ฮึ่มเป็นลูกใครทำผิดกฎหมายก็โดน ถามใหญ่กว่าผมไหม ถ้าไม่ใช่ก็โดนหมด

สลด แม่คลอดลูกเสร็จ ไปเล่นสงกรานต์ต่อ ปล่อยเด็กตาย

สลด สาววัย 27 ปี คลอดลูกทิ้งไว้ข้างกระถางต้นไม้ แล้วไปเล่นน้ำสงกรานต์ต่อ นานกว่า 1 ชม. มีคนแจ้งกู้ภัย พยายามปั๊มหัวใจ แต่ช่วยเด็กไม่ทัน

ผู้ป่วยแจ้งกู้ภัยเข้ามาช่วย แต่บอกบ้านเลขที่ผิด สุดท้ายเสียชีวิต

สลด หญิงวัย 54 ปี หายใจไม่ออกโทรแจ้งกู้ภัยให้เข้ามาช่วยพาส่งโรงพยาบาล แต่ปรากฏว่าแจ้งบ้านเลขที่ผิด เจ้าหน้าที่หลงทาง สุดท้ายไปไม่ทัน เสียชีวิตอยู่ข้างแม่ที่เป็นผู้ป่วยติดเตียง พบทั้งบ้านมีกองขยะสูงเท่าหลังคา

ข่าวแนะนำ

ผบ.ตร.สั่งดำเนินคดีทุกข้อหาชายซิ่งเก๋งชนกระบะ ระบุน่ารังเกียจ-ไร้วุฒิภาวะ

ผบ.ตร.จวกพฤติกรรมชายซิ่ง BMW ชนกระบะ “น่ารังเกียจ-ไร้วุฒิภาวะ” สั่งดำเนินคดีทุกข้อหา แม้เป็นลูกหลานนักการเมืองดังไม่มีละเว้น

ค้านนำเข้าเนื้อวัวสหรัฐ

“สมาคมโคเนื้อ” นำมวลชนคัดค้าน “วัวอเมริกา”

สมาคมโคเนื้อแห่งประเทศไทย นำเกษตรกรผู้เลี้ยงโคจาก 60 กลุ่มทั่วประเทศ กว่า 100 คน ชุมนุมหน้ากระทรวงเกษตรฯ​ เพื่อยื่นหนังสือถึง​นายกฯ และ​รัฐมนตรี​ 3 กระทรวง​ คัดค้านนโยบายการเปิดนำเข้าเนื้อโคและเครื่องในโคจากสหรัฐ​ หวั่นราคาตกต่ำซ้ำรอย​และ​กระทบ​สุขภาพประชาชน

ลูกนายกเบี้ยว

“อนุทิน” ลั่นต้องดำเนินคดี “ลูกชายนายกเบี้ยว”

“อนุทิน” ลั่นไม่มีใครใหญ่กว่าผม ต้องดำเนินคดี “ลูกชายนายกเบี้ยว” ฮึ่มเป็นลูกใครทำผิดกฎหมายก็โดน ถามใหญ่กว่าผมไหม ถ้าไม่ใช่ก็โดนหมด