ทล. เผยแผนพัฒนามอเตอร์เวย์

กรุงเทพฯ 7 ก.พ.- กรมทางหลวง เดินหน้าแผนลงทุนปี 65 กว่า 4.3 หมื่นล้านบาท สร้างมอเตอร์เวย์ ใน 3 โครงการหลัก “ต่อขยายโทลล์เวย์-O&M บางขุนเทียน-บ้านแพ้ว-พัฒนาที่พักริมทางศรีราชา และบางละมุง” และมีแผนพัฒนาโครงข่ายทางหลวงพิเศษระหว่างเมืองระยะ 20 ปี (ปี 60-79) พร้อมสร้างที่พักริมทาง


นายสราวุธ ทรงศิวิไล อธิบดีกรมทางหลวง(ทล.) เปิดเผยถึงแผนพัฒนาโครงข่ายทางหลวงพิเศษระหว่างเมือง(มอเตอร์เวย์)ที่จะดำเนินการในปี 65 ว่า ขณะนี้ทางกรมทางหลวงได้จัดลำดับความสำคัญที่สร้างมอเตอร์เวย์จำนวน 3 โครงการที่จะดำเนินการในปี 65 วงเงินรวมกว่า 43,800 ล้านบาท ประกอบไปด้วย 1. ส่วนต่อขยายทางยกระดับอุตราภิมุข ช่วงรังสิต-บางปะอิน (M5) ระยะทาง 22 กม. วงเงินลงทุน 27,800 ล้านบาท 2.งานดำเนินงานและบำรุงรักษา (O&M) รวมทั้งการเก็บค่าผ่านทางแบบไร้ไม้กั้นโดยเทคโนโลยี AI (Artificial Intelligence) ด้วยระบบ M-Flow ในเส้นทางมอเตอร์เวย์ บางขุนเทียน-บ้านแพ้ว (M82) มูลค่ารวม 12,000 ล้านบาท  

และ 3. โครงการให้เอกชนเข้ามาร่วมลงทุนพัฒนาที่พักริมทาง  สถานที่บริการทางหลวงบางละมุง กม.137+800 ซึ่งโครงการนี้อยู่ระหว่างเสนอขอรูปแบบการให้เอกชนร่วมลงทุนฯ และ ศูนย์บริการทางหลวงศรีราชา กม.93+750 อยู่ระหว่างเสนอขอรูปแบบการให้เอกชนร่วมลงทุนฯ วงเงินรวมในการดำเนินการประมาณ 4,000 ล้านบาท


ทั้งนี้ตามแผน โครงการส่วนต่อขยายทางยกระดับอุตราภิมุข ช่วงรังสิต-บางปะอิน (M5)นั้น คาดว่าจะสามารถเสนอครม.ขออนุมัติรูปแบบ การร่วมลงทุนระหว่างรัฐและเอกชน (Purchasing Private Partnership: PPP) ภายในไตรมาส 1 ของปี 65 หลังจากนั้นจะเปิดให้เอกชนมาร่วมดำเนินการ โดยมีแผนก่อสร้างปี 66 – 69 เปิดให้บริการได้ในปี 70 , ส่วนงานบำรุงรักษา (O&M) รวมทั้งการเก็บค่าผ่านทางแบบไร้ไม้กั้นโดยเทคโนโลยี AI ในเส้นทางมอเตอร์เวย์ บางขุนเทียน-บ้านแพ้ว ในเส้นทางดังกล่าวนี้ ทล. อยู่ระหว่างเตรียมเสนอรูปแบบ PPP  ให้กระทรวงฯ พิจารณา เพื่อนำเสนอ ครม.เห็นชอบต่อไป คาดว่าจะสามารถประมูล PPP ได้ภายในปี 65 และดำเนินการติดตั้งระบบในปี 66 – ปลายปี 67 จากนั้นจึงเปิดให้ประชาชนวิ่งฟรีทดสอบระบบและเปิดให้บริการเต็มรูปแบบได้ภายในปี 68 

ด้านนายธนศักดิ์ วงศ์ธนากิจเจริญ ผู้อำนวยการกองทางหลวงพิเศษระหว่างเมือง กล่าวว่า  แผนลงทุนพัฒนาโครงข่ายทางหลวงพิเศษระหว่างเมือง (มอเตอร์เวย์) ระยะ 20 ปี (ปี60-79)  ทาง ทล.ได้จัดอันดับความสำคัญไว้ทั้งหมดใน 5 โครงการ วงเงินลงทุนกว่า 2.5 แสนล้านบาท ซึ่งจะเริ่มทยอยลงทุนได้ปี 65-70 ซึ่งส่วนนี้ถือเป็นส่วนสำคัญที่ช่วยอัดฉีดเม็ดเงินกระตุ้นเศรษฐกิจ และทำให้เกิดการจ้างงานได้เพิ่ม ประกอบด้วย 1.มอเตอร์เวย์วงแหวนรอบนอกกรุงเทพฯ ด้านตะวันตก (M9) วงเงินลงทุน  79,060 ล้านบาท ระยะทางรวม 37 กม. โดยแบ่งเป็นช่วงบางขุนเทียน-บางบัวทอง กำลังขออนุมัติรูปแบบร่วมทุนระหว่างภาครัฐและเอกชน  ส่วนช่วงบางบัวทอง-บางปะอิน ดำเนินการออกแบบเสร็จแล้ว คาดก่อสร้างระหว่างปี 66 – 68  ,

2. ส่วนต่อขยายทางยกระดับอุตราภิมุข ช่วงรังสิต-บางปะอิน (M5) ระยะทาง 22 กม. วงเงินลงทุน 27,800 ล้านบาท อยู่ระหว่างเตรียมสรุปผลศึกษาเพื่อเสนอขออนุมัติรูปแบบร่วมทุน PPP   โดยมีแผนก่อสร้างปี 66 – 69  3.มอเตอร์เวย์ นครปฐม-ชะอำ (M8) ระยะทาง 119 กม. วงเงินลงทุน 79,006 ล้านบาท ขณะนี้อยู่ระหว่างปรับปรุงรูปแบบและขอบเขตการดำเนินโครงการตามมติของคณะกรรมการ PPP คาดว่าจะเริ่มก่อสร้างในปี 66 แล้วเสร็จปี 67


และ 4.มอเตอร์เวย์ศรีนครินทร์ – สุวรรณภูมิ (M7) ระยะทาง 18.50 กม. วงเงินลงทุน 29,550 ล้านบาท ขณะนี้ได้ศึกษารูปแบบ PPP และรายละเอียดเสร็จแล้ว แต่อยู่ระหว่างการแก้ไขรายงานอีไอเออยู่  และ 5 .มอเตอร์เวย์หาดใหญ่ – ชายแดนไทย/มาเลเซีย (M84) ระยะทาง 62.60 กม. วงเงินลงทุน 40,787 ล้านบาท ปัจจุบันศึกษารูปแบบการร่วมลงทุน PPP เสร็จแล้ว และมีแผนดำเนินงานก่อสร้างระหว่างปี 67 – 70

นายธนศักดิ์  กล่าวต่อว่า นอกจากนั้นยังมีแผนพัฒนาที่พักริมทาง มอเตอร์เวย์ จำนวนรวม 5 เส้นทาง โดยจะเปิดให้เอกชนร่วมลงทุนพัฒนาที่พักริมทาง ซึ่งจะมีทั้งจุดพักรถ สถานที่บริการทางหลวง และศูนย์บริการทางหลวง 1.เส้นทางแรก คือ M 7-1 สายกรุงเทพฯ – บ้านฉาง โดยช่วงกรุงเทพฯ – ชลบุรี ได้เปิดให้บริการแล้วทั้งจุดพักรถลาดกระบัง กม.21+700  และสถานที่บริการทางหลวงบางปะกง กม.49+300 , 2.เส้นทาง M 7-2 สายกรุงเทพฯ – บ้านฉาง  ช่วงชลบุรี – พัทยา เปิดให้บริการแล้วจุดพักรถหนองรี กม.72+500  ส่วนที่ศูนย์บริการทางหลวงศรีราชา กม.93+750 อยู่ระหว่างเสนอขอรูปแบบการให้เอกชนร่วมลงทุนฯ คาดเปิดบริการได้ปี 67

และ 3. เส้นทาง M 7-3 สายกรุงเทพฯ –บ้านฉาง  โดยช่วงพัทยา – มาบตาพุด จุดพักรถมาบประชัน กม.119+20 ได้ออกแบบเสร็จแล้ว และจะเปิดให้เอกชนเข้าร่วมบริหารเชิงพาณิชย์  ส่วนอีกจุดสถานที่บริการทางหลวงบางละมุง กม.137+800 อยู่ระหว่างเสนอขอรูปแบบการให้เอกชนร่วมลงทุนฯ คาดเปิดใช้ได้ปี 67 และ 4.เส้นทาง M 6 สายบางปะอิน – นครราชสีมา อยู่ระหว่างจัดทำผลการศึกษารูปแบบการให้เอกชนร่วมลงทุนฯ คาดเปิดบริการได้ปี 66 และ 5.เส้นทาง M 81 สายบางใหญ่ – กาญจนบุรี ซึ่งอยู่ระหว่างจัดทำผลการศึกษารูปแบบการให้เอกชนร่วมลงทุนฯ   คาดเปิดบริการได้ในปี 66   โดยแผนการลงทุนโครงการมอเตอร์เวย์ทั้งหมดของกรมทางหลวง เชื่อว่าจะเป็นส่วนสำคัญในการช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจให้กลับมาขยายตัว ตลอดจนยกระดับศักยภาพระบบโลจิสติกส์ของประเทศได้.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

จำคุกสมรักษ์คำสิงห์

ศาลสั่งคุก 2 ปี 13 เดือน 10 วัน “สมรักษ์” พยายามข่มขืนสาววัย 17

ศาลจังหวัดขอนแก่น พิพากษาจำคุก “สมรักษ์ คำสิงห์” อดีตนักมวยฮีโร่เหรียญทองโอลิมปิก เป็นเวลา 2 ปี 13 เดือน 10 วัน พร้อมชดใช้ค่าสินไหมทดแทนรวม 170,000 บาท คดีพยายามข่มขืนเด็กสาววัย 17 ปี

Chinese foreign ministry in January 2025

ถอดบทเรียนจากจีน แก้ปัญหาฝุ่นพิษ PM 2.5 จริงจัง

ปักกิ่ง 23 ม.ค. – สถานการณ์ฝุ่นพิษ PM 2.5 ที่กำลังเป็นปัญหาใหญ่และเร่งด่วนในไทยอยู่ในขณะนี้ หลายฝ่ายกำลังหาทางแก้ไขด้วยการมุ่งไปที่ต้นตอที่ทำให้เกิดฝุ่น จากข้อมูลขององค์การอนามัยโลกระบุว่า ในปี พ.ศ. 2542 ประชากรโลกมากถึง 92% ได้รับฝุ่น PM2.5 ในระดับความเข้มข้นสูงกว่าที่องค์การอนามัยโลกกำหนด และถ้ารัฐบาลทุกประเทศไม่เร่งแก้ปัญหาอย่างเอาจริงเอาจัง ภายในอีก 7 ปีข้างหน้า หรือ พ.ศ. 2573 คุณภาพชีวิตคนทั่วโลกจะยิ่งเลวร้ายสุดขีด เพราะปริมาณ PM2.5 จะเพิ่มขึ้นจากเดิม 50% และประเทศที่สามารถพิสูจน์ให้เห็นเป็นตัวอย่างว่า หากรัฐบาลตั้งใจจริงจัง ทุ่มสรรพกำลังความพยายาม จะสามารถกำจัดปัญหาฝุ่นควันพิษได้อย่างแน่นอนนั่นก็คือ จีน   จีนเคยมีคนเสียชีวิตเพราะมลพิษในอากาศปีละหลายล้านคน แต่ทุกวันนี้แม้แต่ธนาคารโลกยังยกย่องจีนว่า เป็นแบบอย่างของความพยายาม สามารถพลิกฟ้าหม่นเพราะฝุ่น PM2.5 ให้กลับเป็นฟ้าใสได้สำเร็จ ความพยายามของเหมา เจ๋อตุง ผู้นำจีนที่มุ่งเปลี่ยนสังคมเกษตรกรรมเป็นสังคมอุตสาหกรรม ทำให้จำนวนโรงงานในจีนเพิ่มขึ้นทวีคูณภายใน พ.ศ. 2502 แน่นอนว่า นโยบายเศรษฐกิจของผู้นำจีนช่วยให้คนจีนหลายล้านหลุดพ้นจากขีดความยากจน แต่ก็ต้องแลกกับชีวิตและสุขภาพ เพราะควันพิษจากโรงงานทำให้ฝุ่น PM2.5 พุ่งในระดับเกินกว่าจะรับไหว กว่ารัฐบาลจะรู้ตัวว่าปัญหามาถึงขั้นวิกฤต […]

คึกคัก คู่รักจูงมือกันไปจดทะเบียนวันแรกกฎหมายสมรสเท่าเทียมมีผล

วันนี้กฎหมายสมรสเท่าเทียมมีผลใช้บังคับอย่างเป็นทางการ หลายคู่รักควงแขนไปจดทะเบียนสมรสกันชื่นมื่น ที่สยามพารากอน มีคู่รักที่ลงทะเบียนมาจดทะเบียนสมรสที่นี่กว่า 300 คู่

ผู้ป่วยเสียชีวิต

รพ.สิรินธร ยืนยันไม่มีผู้ป่วยช็อก-เสียชีวิต จากเหตุชายผิวสีคลุ้มคลั่ง

ผอ.รพ.สิรินธร ยืนยันไม่มีผู้ป่วยช็อก หรือเสียชีวิต จากเหตุต่างชาติผิวสีคลุ้มคลั่ง มีเพียงเจ้าหน้าที่ รพ.บาดเจ็บจากการถูกต่อยเล็กน้อย

ข่าวแนะนำ

ตร.ทางหลวงไล่ล่ากระบะขนแรงงานต่างด้าวลักลอบเข้าไทย

ระทึก! ตำรวจทางหลวงขับรถไล่ล่ากระบะขนแรงงานต่างด้าว 2 คัน สุดท้ายไม่รอด จนมุมบริเวณ ต.หาดท่าเสา อ.เมือง จ.ชัยนาท ตรวจสอบพบแรงงานต่างด้าวจำนวนมาก จึงนำตัวทั้งหมด พร้อมกับคนขับรถทั้ง 2 คัน ส่งดำเนินคดีที่ สภ.เมืองชัยนาท

คุมพ่อชาวรัสเซียฝากขัง จับลูกชายวัย 13 โยนลงทะเลเสียชีวิต

ตำรวจคุมตัว “หนุ่มรัสเซีย” ฝากขัง หลังก่อเหตุโยนลูกวัย 13 ปี ออกจากเรือ บริเวณหมู่เกาะสุรินทร์ จ.พังงา จนถูกใบพัดเรือบาดเจ็บสาหัส ก่อนเสียชีวิตในเวลาต่อมา อ้างเสียความทรงจำ ไม่รู้ทำอะไรลงไป

ดีเอสไอจ่อล่องเรือใช้เลเซอร์สแกนจำลอง 3 มิติ สืบคดี “แตงโม”

ดีเอสไอ นำผู้เชี่ยวชาญหลายด้านเปิดประชุมนัดแรก ลุยสืบสวน “คดีแตงโม” จ่อล่องเรือใช้เลเซอร์สแกนจำลอง 3 มิติ หาพยานหลักฐานใหม่ และบินเก็บข้อมูลระบบ Cloud ในมือถือทุกคนบนเรือ-นอกเรือ

แก้ปัญหาฝุ่น

นายกฯ สั่งการด่วนคมนาคมออกมาตรการหยุด PM 2.5

นายกฯ สั่งการคมนาคมออกมาตรการเร่งด่วน หยุด PM 2.5 ให้ประชาชนนั่งรถไฟฟ้าทุกสาย-ขสมก.ฟรี 7 วัน 25-31 ม.ค.นี้ เตรียมใช้งบกลางกว่า 140 ล้านบาท ชดเชยผู้ประกอบการ เข้มตั้งจุดตรวจควันดำ 8 จุด รอบ กทม.-ปริมณฑล