ศรีสะเกษ 22 ม.ค.- รมช. เกษตรฯ เผย สถานการณ์โรคโรคลัมปี สกินในโค-กระบือระบาดน้อยลงมาก คาดขอคืนสถานะปลอดโรค เร่งจ่ายเงินเยียวยาให้กับเกษตรกรผู้ที่โค-กระบือล้มจากโรคลัมปี สกิน
นายประภัตร โพธสุธนกล่าวว่า กรมปศุสัตว์รายงานสถานการณ์โรคลัมปี สกินซึ่งระบาดในโค-กระบือ โดยยืนยันว่า พบการระบาดน้อยลงมาก คาดว่า ประเทศไทยจะสามารถขอคืนสถานะปลอดโรคลัมปี – สกิน ได้ในไม่ช้า ก่อนหน้านี้รัฐบาลอนุมัติงบกลาง 684,218,000 บาท เพื่อเป็นค่าใช้จ่ายในการควบคุม กรมปศุสัตว์จัดซื้อวัคซีนและกระจายไปทั่วประเทศ ส่งผลให้หลายพื้นที่ไม่พบโรคแล้ว
จากการตรวจสอบและเก็บข้อมูลของกรมปศุสัตว์ พบสัตว์ป่วยจากโรคลัมปี สกินทั้งหมด 68 จังหวัด รวม 605,115 ตัว รักษาหายทั้งหมด 523,429 ตัว อยู่ระหว่างรักษา 20,293 ตัว และสัตว์ตายทั้งหมด 61,393 ตัว ใน 63 จังหวัด (ข้อมูล ณ วันที่ 20 มกราคม 2564)
ทั้งนี้พลเอก ประยุทธ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีห่วงใยเกษตรกรที่ได้รับผลกระทบจากโค-กระบือตายเพราะติดโรค จึงเร่งจ่ายเงินเยียวยาให้เกษตรกร เริ่มที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือเป็นที่แรก ซึ่งมีเกษตรกกรใน 5 จังหวัดมารับได้แก่ จังหวัดศรีสะเกษ ยโสธร นครพนม อุบลราชธานี และอุดรธานี
สำหรับอัตราการช่วยเหลือเยียวยาเกษตรกรที่ได้รับผลกระทบโค-กระบือตายจากโรคลัมปี – สกิน ตามหลักเกณฑ์วิธีปฏิบัติปลีกย่อยเกี่ยวกับการให้ความช่วยเหลือด้านเกษตรผู้ประสบภัยพิบัติกรณีฉุกเฉิน พ.ศ. 2564 ซึ่งมีผลบังคับใช้ย้อนหลังตั้งแต่วันที่ 1 มีนาคม 2564 นั้น โค ได้ไม่เกินรายละ 5 ตัว อายุน้อยกว่า 6 เดือน 13,000 บาท อายุ 6 เดือนถึง 1 ปี 22,000 บาท อายุมากกว่า 1 ปีถึง 2 ปี 29,000 บาท อายุมากกว่า 2 ปีขึ้นไป 35,000 บาท ส่วนกระบือ ไม่เกินรายละ 5 ตัว อายุน้อยกว่า 6 เดือน 15,000 บาท อายุ 6 เดือนถึง 1 ปี 24,000 บาท อายุมากกว่า 1 ปีถึง 2 ปี 32,000 บาท อายุมากกว่า 2 ปีขึ้นไป 39,000 บาท
ขณะนี้มีจังหวัดส่งเรื่องขอความช่วยเหลือจากกรมปศุสัตว์แล้ว 46 จังหวัด เกษตรกร 49,293 ราย โค – กระบือ 54,778 ตัว กรมปศุสัตว์ได้ตรวจสอบเกษตรกรและส่งให้กระทรวงเกษตรและสหกรณ์แล้ว 36 จังหวัด เกษตรกร 36,572 ราย จำนวนสัตว์ 40,963 ตัว กระทรวงเกษตรฯ ตรวจสอบและส่งรายชื่อเกษตรกรให้กระทรวงการคลังแล้ว 33 จังหวัด เกษตรกร 26,077 ราย จำนวนสัตว์ 29,368 ตัว กระทรวงการคลังอนุมัติ และกระทรวงเกษตรฯ โอนเงินให้ทางจังหวัดแล้ว 20 จังหวัด เกษตรกร 12,465 ราย จำนวนสัตว์ 15,233 ตัว เป็นเงินทั้งสิ้น 317,765,300 บาท อยู่ระหว่างขั้นตอนการโอนเงินให้เกษตรกร 10,177 ราย จำนวนสัตว์ 11,945 ตัว จำนวนเงิน 249,580,300 บาท เกษตรกรได้รับเงินช่วยเหลือเยียวยาแล้ว 2,288 ราย จำนวนสัตว์ 3,288 ตัว เป็นเงินทั้งสิ้น 68,185,000 บาท
หลังจากนี้กระทรวงเกษตรฯ เร่งส่งเสริมอาชีพที่เหมาะสมให้กับเกษตรกร โดยเฉพาะการเลี้ยงโครุ่นใหม่ขึ้นมาทดแทนที่เสียหายไปจากการระบาดของโรค โดยกรมปศุสัตว์ พร้อมจะเข้าไปให้การช่วยเหลือ สนับสนุนอย่างเต็มที่ให้กับเกษตรที่มีความสนใจ โดยร่วมกับธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) ดำเนินโครงการ “สานฝันสร้างอาชีพ และยกระดับรายได้เกษตรกร” มีวัตถุประสงค์ในการปล่อยสินเชื่อสำหรับใช้ในการประกอบอาชีพการเกษตร หรืออาชีพนอกภาคเกษตร หรือการลงทุนค้าขาย เพื่อเสริมรายได้ในครัวเรือน เน้นอาชีพที่มีตลาดรองรับชัดเจน มีการประกันราคารับซื้อผลผลิต สามารถสร้างรายได้ในระยะเวลา ไม่เกิน 6 เดือน มีผลตอบแทนเบื้องต้นเพียงพอต่อการดำรงชีพ และสามารถต่อยอดเป็นอาชีพที่มั่นคงต่อไปได้ในอนาคต ซึ่งโครงการดังกล่าว ไม่ได้มีเพียงการส่งเสริมการเลี้ยงโคเท่านั้น แต่มีเมนูทางเลือกให้กับเกษตรกรในด้านต่าง ๆ ทั้งเมนูอาชีพด้านปศุสัตว์ โดยสนับสนุนให้เกษตรกรเลี้ยงสุกรขุน ไก่ไข่ จิ้งหรีด เป็ดไข่ และแพะขุน เมนูอาชีพด้านพืช สนับสนุนให้เกษตรกรปลูกฟักทอง ฟักเขียว กระชายขาว และข้าวโพด และเมนูอาชีพด้านประมง สนับสนุนให้มีการเลี้ยงปลาตะเพียน ปลาทับทิม ปลาดุก และกุ้ง
ทั้งนี้ หากเกษตรที่สนใจ สามารถยื่นความประสงค์ขอกู้ตามโครงการได้ 2 ช่องทาง ได้แก่
1) ยื่นขอกู้เงินที่ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) สาขาที่ตนเองมีภูมิลำเนาหรือที่ตั้งของโครงการ (Walk In)
2) ให้ผู้ขอกู้ลงทะเบียนยื่นขอสินเชื่อผ่านช่องทาง Line Official : BAAC Family และนัดหมายผู้ขอกู้ผ่านระบบนัดหมาย โดยวงเงินกู้สูงสุดรายละไม่เกิน จำนวน 100,000 บาท แต่ต้องไม่เกินค่าใช้จ่ายและหรือค่าลงทุนจริงของลูกค้าแต่ละราย.-สำนักข่าวไทย