กรุงเทพฯ 20 ธ.ค.-ออมสินโชว์ผลงานปี 64 ลดต้นทุนได้กว่า 12,200 ล้านบาท เน้นช่วยคน-ช่วยสังคม เผยกลยุทธ์ปี 65 สานต่อธนาคารเพื่อสังคม ด้วย 5 แนวทางหลัก เน้นสร้างงาน-สนับสนุนแหล่งเงินทุน สินเชื่อที่ดิน-ขายฝาก รุก digital Lending on MyMo ให้บริการออมเพื่อเกษียณ และพัฒนาเงินฝาก-การขายโอนหนี้เพิ่มความคล่องตัว
นายวิทัย รัตนากร ผู้อำนวยการธนาคารออมสิน เปิดเผยว่าในปี 2564 ธนาคารได้ขับเคลื่อนภารกิจ “ธนาคารเพื่อสังคม” อย่างเต็มกำลังเพื่อช่วยเหลือประชาชนผู้มีรายได้น้อย และผู้ประกอบการรายย่อย ภายใต้สถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด–19 รวมถึงการบริหารจัดการเสริมความแข็งแกร่งของธนาคารด้วยการเน้นการควบคุมค่าใช้จ่าย สำหรับผลการดำเนินงานในปี 2564 ธนาคารมีรายได้ดอกเบี้ยอยู่ที่ประมาณ 89,730 ล้านบาท รายได้อื่นๆ 10,320 ล้านบาท ขณะที่มีค่าใช้จ่ายดอกเบี้ยอยู่ที่ 28,040 ลดลง 7,859 ค่าใช้จ่ายในการดำเนินงาน 28,790 ลดลง 4,400 ล้านบาท ส่งผลให้ผลการดำเนินสามารถลดต้นทุนกว่า 12,259 ล้านบาท ขณะเดียวกันยังสามารถนำส่งรายได้เข้าคลังได้ 15,978 ล้านบาท สูงสุดในรอบ 3 ปี และสูงสุดเป็นอันดับ 4 จากรัฐวิสาหกิจ 58 แห่ง และยังยกระดับความแข็งแกร่งขององค์กร โดยธนาคารได้ตั้งสำรองทั่วไป (General Provision) ได้สูงที่สุดเป็นประวัติการณ์ ทั้งนี้ ณ เดือนพฤศจิกายน 2564 ธนาคารมีสินทรัพย์ 2.97 ล้านล้านบาท เงินฝาก 2.55 ล้านล้านบาท สินเชื่อ 2.26 ล้านล้านบาท ระดับ NPLs = 2.56% และ BIS Ratio = 15.82%
โดยกำไรจากการดำเนินงานในปี 2564 ธนาคารได้นำไปสนับสนุนภารกิจเพื่อสังคมตามยุทธศาสตร์ของธนาคาร อาทิ ช่วยเหลือประชาชนระดับฐานราก ผู้ประกอบการรายย่อย และ SMEs ผ่านมาตรการเยียวยา ฟื้นฟู และเสริมสภาพคล่องอย่างครบวงจรอย่างต่อเนื่องจากปี 2563 จนถึงปัจจุบัน รวมกว่า 36 โครงการ ช่วยเหลือประชาชนได้ถึง 11.6 ล้านคน คิดเป็นเม็ดเงินรวมกว่า 1.8 ล้านล้านบาท และช่วยเหลือประชาชนจำนวนกว่า 2.16 ล้านคน
สำหรับปี 2565 ธนาคารยังยึดจุดยืนธนาคารเพื่อสังคม เพื่อลดความเหลื่อมล้ำ และสร้างการเข้าถึงแหล่งเงินที่เป็นธรรม ธนาคารมุ่งเน้นดำเนินการ 5 ภารกิจที่สำคัญ ประกอบด้วย 1.การสร้างงาน สร้างอาชีพ เพื่อช่วยสร้างทักษะอาชีพ สนับสนุนเงินทุน และช่องทางการสร้างรายได้ ช่วยเหลือประชาชนที่ต้องออกจากการจ้างงานจากวิกฤติโควิด 2.จัดทำโครงการสินเชื่อที่ดินและขายฝาก ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างการศึกษา และหากได้รับการอนุมัติจากคณะกรรมการฯ จะสามารถเปิดให้บริการได้ในช่วงกลางปี 2565
3.การพัฒนา Digital Lending ให้สามารถพิจารณาอนุมัติสินเชื่อบนสมาร์ทโฟนด้วยแอป MyMo ให้สมบูรณ์ขึ้น หลังจากในช่วงปีที่ผ่านมาธนาคารสามารถปล่อยสินเชื่อรายย่อยผ่าน MyMo ได้มากกว่า 1.5 ล้านราย วงเงินสินเชื่อรวมกว่า 24,000 ล้านบาท 4.การออกผลิตภัณฑ์เงินฝากออมสินเพื่อการเกษียณ และ 5.การขาย หรือ โอนหนี้ เพื่อเพิ่มความคล่องตัวในการบริหารจัดการทรัพย์สินของธนาคารได้อย่างมีประสิทธิภาพ .-สำนักข่าวไทย