กรุงเทพฯ 16 ธ.ค.- คลังเตรียมเสนอ ครม.พิจารณาบัตรสวัสดิการแห่งรัฐก่อนสิ้นปี 64 เปิดลงทะเบียนต้นปี 65 เตรียมใช้บัตรประชาชนรูดซื้อสินค้าแทน
นายสันติ พร้อมพัฒน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลังกล่าวว่า กระทรวงการคลังเตรียมสรุปรายละเอียดการลงทะเบียนผู้ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐหลังจากนำมาใช้ในช่วงที่ผ่านมา โดยยอมรับว่า มีทั้งข้อดีและข้อเสีย จึงต้องปรับเงื่อนไขเพิ่มเติม เพื่อรองรับการขึ้นทะเบียนใหม่ กระทรวงคลังเตรียมเสนอครม.พิจารณาก่อนสิ้นปี 64 เพื่อเปิดให้ประชาชนผู้มีรายได้น้อยลงทะเบียนในช่วงต้นปี 65 โดยกำหนดคุณสมบัติคือ เป็นคนไทย อายุตั้งแต่ 18 ปีขึ้นไป รายได้ต่อปีไม่เกิน 100,000 บาท หากเป็นรายได้ทั้งครอบครัวไม่เกิน 2 แสนบาทต่อปี หากมีบุตรจะคำนวณลดหย่อนให้เพิ่มเติม จึงขอสรุปให้ชัดเจนในเร็วๆ นี้
นายสันติยอมรับว่า ผู้มีรายได้เกิน 100,000 บาท ต้องเปิดโอกาสให้ผู้อื่นเข้ามาถือบัตร หากมีปัญหารายได้ลดลงภายหลัง จะเปิดให้เข้ามาลงทะเบียนในปีถัดไปได้ นายกรัฐมนตรีเร่งรัดเรื่องนี้อย่างต่อเนื่อง เพื่อนำมาช่วยเหลือผู้มีรายได้น้อย กระทรวงการคลังยังเตรียมเปลี่ยนให้มาใช้บัตรประชาชนเพียงใบเดียวจากหมายเลข 13 หลัก เพื่อใช้รูดซื้อสินค้ารายเดือนตามที่รัฐบาลโอนเงินให้ทุกเดือน เปิดให้ถือคนละใบเหมือนเดิม จึงขอย้ำแก่ประชาชนผู้ถือบัตรสวัสดิการฯ ว่า บัตรสวัสดิการฯ ใบเดิมยังใช้งานได้ต่อเนื่อง จนกว่าจะเริ่มใช้บัตรประชาชนใบเดียว ซึ่งเป็นการอำนวยความสะดวกกับประชาชนทั้งการติดต่อกับส่วนรายการ ไม่ต้องพกบัตรหลายใบในการติดต่อทั้งเรื่องการเงิน ภาษี ที่ดิน และบริการจากภาครัฐทุกเรื่อง
ปัจจุบันผู้ถือบัตรสวัสดิการฯ ได้รับเงินโอนช่วยเหลือสำหรับซื้อสินค้าในชีวิตประจำวัน 700/800 บาทต่อเดือน ส่วนลดค่าก๊าซหุงต้ม 45 บาทต่อ 3 เดือน ค่าใช้จ่ายในการเดินทาง ประกอบด้วย ค่าโดยสารรถ บขส. 500 บาทต่อเดือน ค่าโดยสารรถไฟ 500 บาทต่อเดือน ค่าโดยสารรถไฟฟ้า ขสมก./ MRT/ BTS และ ARL 500 บาทต่อเดือน (สำหรับผู้ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐที่อาศัยอยู่ในเขต กทม. และปริมณฑล) .-สำนักข่าวไทย