กรุงเทพฯ 8 พ.ย.-GPSC-สพฐ. GPSC เสริมศักยภาพครูประถม 16 แห่ง ดึงหลักสูตร S.T.E.M มาใช้ ส่วนด้านธุรกิจ เดินหน้าปรับพอร์ตมีพลังงานทดแทนราวครึ่งหนึ่ง
นายณรงค์ชัย วิสูตรชัย ผู้จัดการฝ่ายอาวุโสรัฐกิจสัมพันธ์และกิจการสาธารณะ บริษัท โกลบอล เพาเวอร์ ซินเนอร์ยี่ จำกัด (มหาชน) หรือ GPSC แกนนำนวัตกรรมธุรกิจไฟฟ้ากลุ่ม ปตท. เปิดเผยว่า วันที่ 6 พฤศจิกายน 2564 ได้จัดกิจกรรมอบรมโครงการ “การพัฒนาครู..สู่การเรียนรู้วิถีใหม่” ประจำปี 2564 ผ่านระบบออนไลน์แพลตฟอร์ม Zoom ซึ่งจัดขึ้นเป็นปีแรกให้กับ โรงเรียนชั้นประถมศึกษาในสังกัด สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน สพฐ. จำนวน 15 แห่ง และ จำนวน 1 แห่ง ในสังกัดกรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น (สถ.) ที่ GPSC ให้การสนับสนุนมาอย่างต่อเนื่อง ซึ่งนับเป็นความร่วมมือระหว่างหน่วยงานภาครัฐ สถาบันการศึกษา และภาคเอกชน ในการพัฒนายกระดับมาตรฐานครูและบุคลากรทางการศึกษาให้มีศักยภาพ ผ่านการนำทักษะกระบวนการทางวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี วิศวกรรมศาสตร์ และคณิตศาสตร์ หรือสะเต็ม ( S.T.E.M ) เป็นหลักสูตรที่ได้รับการส่งเสริมและรับรองจาก สพฐ. มาปรับใช้ในการออกแบบการเรียนการสอนผ่านสื่อการเรียนรู้แทนการเรียนการสอนในห้องเรียนรูปแบบเดิม
นายวรวัฒน์ พิทยศิริ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ GPSC เปิดเผยว่า ผลการดำเนินงานไตรมาส 3/2564 มีรายได้ทั้งสิ้น 17,997 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 8% และคาดการเปิดประเทศ ประกอบกับภาคการผลิตจะเร่งส่งมอบสินค้าเพื่อรองรับช่วงเทศกาลในปลายปี มีแนวโน้มที่ความต้องการไฟฟ้าและไอน้ำจะสูงขึ้นในไตรมาส 4 อย่างไรก็ตามคงต้องติดตามต้นทุนด้านพลังงานที่อาจจะปรับตัวสูงขึ้นประกอบด้วย /ในระยะยาว บริษัทยังได้ปรับกลยุทธ์ มุ่งสู่พลังงานสะอาดในการลดภาวะโลกร้อน โดยมีเป้าหมายที่จะก้าวสู่การเป็นบริษัทชั้นนำด้านนวัตกรรมพลังงานเพื่อความยั่งยืน 1 ใน 3 ของเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ที่มีสัดส่วนของพลังงานสะอาดในพอร์ตมากกว่า 50%
ผลการดำเนินงานไตรมาส 3/2564 มีรายได้ทั้งสิ้น 17,997 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 8% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน กำไรสุทธิของบริษัทฯ ในไตรมาส 3/2564 มีทั้งสิ้น 1,875 ล้านบาท ลดลง 699 ล้านบาท หรือลดลง 27% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน และลดลง 427 ล้านบาท หรือลดลง 19% เมื่อเทียบกับไตรมาส 2/2564 สาเหตุมาจากกำไรขั้นต้นของโรงไฟฟ้าขนาดเล็ก (SPP) ลดลง เนื่องจากได้รับผลกระทบจากราคาก๊าซธรรมชาติและถ่านหินที่ปรับตัวเพิ่มสูงขึ้นตามกลไกราคาตลาดโลก .–สำนักข่าวไทย