ไทยออยล์อ่วม ปี 63 ขาดทุน 3.3 พันล้านบาท

กรุงเทพฯ 15 ก.พ. -โควิด-19 กดดันผลประกอบการโรงกลั่น TOP ปี 63 ขาดทุน 3.3 พันล้านบาท แต่ยังปันผล 0.70 บาท/หุ้น ด้าน GPSC กำไรสุทธิ 7,508 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 85%


บมจ.ไทยออยล์ (TOP ) แจ้งผลดำเนินงานปี 2563 ขาดทุนสุทธิ 3,301.40 ล้านบาท จากที่ปี 62 กำไรสุทธิ 6,276.68 ล้านบาท ในขณะที่มีรายได้จากการขาย 242,840 ล้านบาท ลดลง 118,928 ล้านบาท หรือ 57% จากปี 62 สาเหตุหลักจากผลกระทบโควิด-19 ที่ส่งผลกระทบทำให้ราคาและปริมาณการขายผลิตภัณฑ์รวมที่ปรับลดลงจากผลกระทบของสงครามราคาน้ำมัน และยังมีผลขาดทุนจากสตอกน้ำมัน 7,399 ล้านบาท เทียบกับปีก่อนที่มีกำไรจากสตอกน้ำมัน 1,581 ล้านบาท นอกจากนี้ยังมีขาดทุนจากเครื่องมือทางการเงินที่เกิดขึ้นจริงสุทธิ 174 ล้านบาท ภาพรวมแล้วกำไรขั้นต้นจากการผลิตของกลุ่มไม่รวมผลกระทบจากสตอกน้ำมันลดลง 2.3 เหรียญสหรัฐ ต่อบาร์เรล มาอยู่ที่ 2.4 เหรียญสหรัฐ ต่อบาร์เรล

กลุ่มไทยออยล์มีผลขาดทุน EBITDA 2,055 ล้านบาท เทียบกับปี 62 ที่ EBITDA อยู่ที่ประมาณ 14,149 ล้านบาท ส่วนกำไรจากอัตราแลกเปลี่ยนอยู่ที่ 1,784 ล้านบาทจากค่าเงินบาทที่แข็งค่า รวมทั้งมีกำไรจากการขายเงินลงทุนในบริษัท โกลบอล เพาเวอร์ ซินเนอร์ยี่ จำกัด (มหาชน) หรือ GPSC จำนวน 5,801 ล้านบาท


สำหรับไตรมาส 4/63 มีกำไรสุทธิ 7,257 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 266% จากช่วงเดียวกันปีก่อน โดยมีรายได้จากการขาย 59,592 ล้านบาท ลดลง 36,260 ล้านบาท และคณะกรรมการไทยออยล์เมื่อวันที่ 12 ก.พ. 64 มีมติจ่ายปันผล 0.70 บาท/หุ้น กำหนดวันที่ไม่ได้รับสิทธิปันผล (XD) วันที่ 25 ก.พ.

ทั้งนี้ แนวโน้มราคาน้ำมันดิบช่วงครึ่งแรกของปี 64 มีแนวโน้มปรับตัวสูงขึ้นกว่าครึ่งหลังของปี 63 หลังตลาดคาดสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 มีแนวโน้มคลี่คลาย และกิจกรรมทางเศรษฐกิจมีแนวโน้มฟื้นตัวขึ้น ส่งผลให้อุปสงค์น้ำมันโลกมีแนวโน้มขยายตัว รวมถึงมีความคืบหน้าการพัฒนาและส่งมอบวัคซีนต้านเชื้อไวรัสโควิด-19 อย่างไรก็ตาม ราคาน้ำมันดิบยังถูกกดดันจากอุปทานน้ำมันดิบที่มีแนวโน้มปรับตัวเพิ่มขึ้น จากประเทศนอกกลุ่มโอเปก เช่น ประเทศนอร์เวย์และบราซิล รวมถึงสหรัฐ ที่มีแนวโน้มปรับเพิ่มกำลังการผลิตเช่นกัน

ส่วนธุรกิจการกลั่นคาดว่าครึ่งปีแรกจะได้รับแรงหนุนจากอุปสงค์ที่มีแนวโน้มเพิ่มขึ้น หลังหลายประเทศเริ่มมีการสั่งซื้อวัคซีนโควิด-19 และเริ่มมีการฉีดให้กับประชาชน ประกอบกับแรงหนุนจากนโยบายการกระตุ้นเศรษฐกิจของหลายประเทศทั่วโลกซึ่งจะช่วยสนับสนุนความต้องการใช้น้ำมันเบนซินและน้ำมันดีเซลสำหรับภาคคมนาคมขนส่ง และภาคอุตสาหกรรมให้ฟื้นตัวดีขึ้น แต่ตลาดน้ำมันอากาศยานยังมีแนวโน้มถูกกดดันต่อเนื่อง


ด้าน บริษัท โกลบอล เพาเวอร์ ซินเนอร์ยี่ จำกัด (มหาชน) หรือ GPSC แกนนำนวัตกรรมธุรกิจไฟฟ้า กลุ่ม ปตท. เปิดเผยว่า กำไรสุทธิส่วนของบริษัทใหญ่ สำหรับปี 2563 มีจำนวน 7,508 ล้านบาท ปรับตัวเพิ่มขึ้นจากปี 2562 จำนวน 3,447 ล้านบาท หรือ 85% โดยมีสาเหตุหลักเนื่องมาจากการรับรู้ผลประกอบการจาก GLOW เต็มปี 2563 ประกอบกับต้นทุนค่าก๊าซธรรมชาติและถ่านหินที่ปรับตัวลดลงตามสภาวะตลาด ทำให้ผลประกอบการของบริษัทฯ โดยเฉพาะโรงไฟฟ้าขนาดเล็ก (SPP) มี margin จากการขายไฟฟ้าเพิ่มมากขึ้น อีกทั้งต้นทุนทางการเงินของบริษัทฯ ลดลงจากการปรับโครงสร้างเงินทุน โดยได้ดำเนินการเพิ่มทุนแล้วเสร็จในเดือนตุลาคม 2562 และปรับโครงสร้างเงินกู้ยืมจากการเข้าซื้อ GLOW แล้วเสร็จในเดือนมีนาคม 2563 นอกจากนี้ บริษัทฯ ยังมีรายได้อื่นเพิ่มขึ้นจากเงินปันผลรับ ส่วนแบ่งกำไรจากเงินลงทุนในบริษัทร่วมและกิจการร่วมค้า รวมถึงการรับรู้มูลค่า Synergy จากการควบรวม GLOW จำนวน 701 ล้านบาท ซึ่งส่วนใหญ่มาจากการบริหารจัดการโรงไฟฟ้าและโครงข่ายร่วมกัน

ทั้งนี้ ประชุมคณะกรรมการบริษัทฯ ได้มีมติอนุมัติให้เสนอจ่ายเงินปันผลประจำปี 2563 ในอัตราหุ้นละ 1.50 บาท กำหนดรายชื่อผู้ถือหุ้นที่มีสิทธิรับเงินปันผล (Record Date) ในวันที่ 4 มีนาคม 2564 (หรือ XD วันที่ 3 มีนาคม 2564) และกำหนดวันจ่ายเงินปันผลในวันที่ 21 เมษายน 2563.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

car blocked hydrant delaying Thai temple fire control in New York

เปิดภาพรถจอดขวางหัวจ่ายน้ำดับเพลิงในเหตุไฟไหม้วัดไทย

นิวยอร์ก 13 ก.พ. – หน่วยงานดับเพลิงในนครนิวยอร์กโพสต์ภาพรถยนต์ที่จอดกีดขวางหัวจ่ายน้ำดับเพลิง เป็นเหตุให้เกิดความล่าช้าในการดับไฟไหม้วัดไทยในเขตบรองซ์ของนครนิวยอร์ก ที่เกิดขึ้นเมื่อเช้าวานนี้ตามเวลาท้องถิ่น พร้อมกับเปิดเผยสาเหตุที่ทำให้เกิดไฟไหม้ นายโรเบิร์ต เอส. ทักเกอร์ ผู้อำนวยการสำนักงานดับเพลิงนิวยอร์กหรือเอฟดีเอ็นวาย (FDNY) โพสต์ในแพลตฟอร์มเอ็กซ์ (X) แสดงความเสียใจกับเหตุไฟไหม้ในเขตบรองซ์ และขอบคุณสภากาชาดและหน่วยงานฉุกเฉินที่ช่วยเหลือผู้ประสบภัย พร้อมกับโพสต์ภาพรถยนต์ที่จอดกีดขวางหัวจ่ายน้ำดับเพลิง โดยระบุว่า นับเป็นครั้งที่ 2 ในรอบ 3 วันที่เจ้าหน้าที่ดับเพลิงประสบปัญหาหัวจ่ายน้ำดับเพลิงถูกกีดขวาง และครั้งนี้เป็นหัวจ่ายน้ำดับเพลิงที่อยู่ตรงข้ามกับอาคารที่เกิดไฟไหม้ วินาทีที่มีค่าต้องสูญเปล่าเพราะยวดยานที่จอดกีดขวางหัวจ่ายน้ำดับเพลิงอย่างผิดกฎหมาย เรื่องนี้เป็นยิ่งกว่าการทำผิดกฎหมาย เพราะเป็นเรื่องของความเป็นความตาย ด้านเอฟดีเอ็นวายโพสต์เอ็กซ์ว่า เหตุไฟไหม้วัดอุษาพุฒยาราม เมื่อราว 06.00 น. วานนี้ตามเวลาท้องถิ่น ทวีความรุนแรงจากการเตือนภัยระดับ 2 เป็นระดับ 3 เจ้าหน้าที่มากกว่า 40 หน่วย รวม 150 นาย พยายามควบคุมไฟที่ไหม้ 2 อาคาร แต่น่าเสียใจที่มีผู้เสียชีวิต 2 คน มีรถยนต์คันหนึ่งจอดกีดขวางหัวจ่ายน้ำดับเพลิงซึ่งอยู่ใกล้ที่เกิดเหตุที่สุด และเป็นสิ่งที่เกิดขึ้นหลายครั้งในช่วงไม่นานมานี้ เอฟดีเอ็นวายโพสต์ในเวลาต่อมาว่า เหตุไฟไหม้ดังกล่าวเป็นอุบัติเหตุที่เกิดจากเครื่องทำความร้อนแบบพกพาสัมผัสกับวัสดุที่ติดไฟง่าย พร้อมกับย้ำว่า […]

ปลอดภัยแล้ว นร.ถูกเก๋งฝ่าไฟแดงพุ่งชนขณะข้ามทางม้าลาย

รถเก๋งฝ่าไฟแดงชนนักเรียนขณะข้ามทางม้าลายหน้าโรงเรียนดัง คนขับอ้างไม่ใช่คนพื้นที่ มัวมองดู GPS ส่วนน้องนักเรียนปลอดภัยแล้ว

ภูมิใจไทยวอล์กเอาต์

ประชุมร่วมรัฐสภา วุ่นตั้งแต่เริ่ม “ภท.” วอล์กเอาต์ยกพรรค

“ภูมิใจไทย” วอล์กเอาต์ยกพรรคตั้งแต่เริ่มถกแก้ รธน. “ไชยชนก” บอกขัดต่อคำวินิจฉัยศาล ด้าน “หมอเปรม” โร่เสนอญัตติด่วนขอให้ศาล รธน.ตีความก่อน ลั่น เป็นคนมีวุฒิภาวะ-ทำอะไรรอบคอบ บรรจงเขียนอย่างสุดยอดในชีวิต ทำ “ณัฐวุฒิ” โวยยังไม่เห็นเอกสาร สุดท้ายประธาน “วันนอร์” สั่งพักประชุม 15 นาที

ข่าวแนะนำ

มือฆ่า 3 ศพ ขอโทษในสิ่งที่ทำลงไป ยันไม่ได้ยิงเด็ก แต่ปืนลั่น

มือฆ่า 3 ศพ เปิดปากครั้งแรก ขอโทษในสิ่งที่ทำลงไป รู้ว่าไม่สมควร ยืนยันไม่ได้ยิงเด็ก แต่ปืนลั่นเพราะแม่เด็กยื้อแย่งปืน

จับแล้วหนุ่มใช้ค้อนทุบหัวเพื่อนรุ่นพี่เสียชีวิต

ตำรวจ สภ.พระนครศรีอยุธยา รวบตัว “นายก๊อง” ได้แล้ว หลังก่อเหตุใช้ค้อนทุบหัวเพื่อนรุ่นพี่จนเสียชีวิต เมื่อกลางดึกคืนที่ผ่านมา

ตร.ออกหมายจับชายชาวจีน คดีสาวเอ็นฯ ดับปริศนา

ตำรวจออกหมายจับชายชาวจีน คดีสาวเอ็นฯ เสียชีวิตปริศนาในโรงแรม พบเข้าไทยถูกกฎหมาย ชุดสืบฯ เตรียมรวบตัวเร็วๆ นี้ หลังพบพิกัดยังอยู่ในพื้นที่ กทม. เบื้องต้นทราบว่าเจ้าตัวไม่พร้อมเข้าสู่กระบวนการทางกฎหมาย

ผู้ช่วย รมต.จีน บินลงพื้นที่แม่สอด เตรียมรับคนจีนกลับประเทศ

นายหลิว จงอี ผู้ช่วยรัฐมนตรีจีน บินลงพื้นที่ อ.แม่สอด จ.ตาก เตรียมข้ามฝั่งพบ รมต.มหาดไทยของเมียนมา รับคนจีนกลับประเทศจีน