เกษตรฯ ออกประกาศคุ้มครองพืชพันธุ์ใหม่ 7 ชนิด

กรุงเทพฯ 29 ต.ค. -กรมวิชาการเกษตรแจ้ง 7 ชนิดพืชพันธุ์ใหม่ได้รับความคุ้มครองแล้ว หลังผ่านความเห็นชอบคณะกรรมการคุ้มครองพันธุ์พืชเข้าหลักเกณฑ์ให้นักปรับปรุงพันธุ์จดทะเบียนเป็นเจ้าของพันธุ์พืชใหม่ผลิตขายได้แต่เพียงผู้เดียว เผยยอดรวมชนิดพืชตามประกาศขอรับความคุ้มครองได้ถึง 100 ชนิดแล้ว โดยยูคาลิปตัสขึ้นแท่นแชมป์แห่จดทะเบียนขอรับความคุ้มครองสิทธิ์มากสุด


นางสาวอิงอร  ปัญญากิจ  รองอธิบดีกรมวิชาการเกษตร เปิดเผยว่า ในปี 2564 นี้มีผู้แจ้งความประสงค์ขอให้กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ประกาศกำหนดชนิดพืชที่พันธุ์พืชใหม่สามารถขอรับความคุ้มครองได้เพิ่มเติมจำนวน 7 ชนิดพืช ได้แก่  พืชสกุลแคนนาบิส ถั่วลิสง  กะเพรา  บัวบก  โกโก้  กล้วยไม้สกุลซิมบิเดียมและลูกผสม  และหอมแดง  กรมวิชาการเกษตรในฐานะเลขานุการคณะกรรมการคุ้มครองพันธุ์พืช จึงนำเสนอต่อคณะอนุกรรมการคุ้มครองพันธุ์พืชใหม่ และคณะกรรมการคุ้มครองพันธุ์พืช  เพื่อมีมติเห็นชอบเสนอพืชจำนวน 7 ชนิดพืชดังกล่าวต่อรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ให้เป็นชนิดพืชที่พันธุ์พืชใหม่สามารถขอรับความคุ้มครองได้   

สำหรับการพิจารณาชนิดพืชเพื่อออกประกาศเป็นพันธุ์พืชใหม่ที่สามารถนำมาขอรับความคุ้มครองได้ พิจารณาเลือกจาก 3 ประเด็น คือ พืชที่มีความสำคัญและโอกาสเติบโตทางเศรษฐกิจ  พืชที่มีนักปรับปรุงพันธุ์พืชของไทยทำการปรับปรุงพันธุ์ และพืชที่มีพันธุ์พืชพื้นเมืองให้เกษตรกรเลือกใช้ ซึ่งขณะนี้พืชทั้ง 7 ชนิดดังกล่าวได้ผ่านความเห็นชอบจากคณะกรรมการคุ้มครองพันธุ์พืชและประกาศลงราชกิจจานุเบกษามีผลบังคับใช้แล้วส่งผลให้นักปรับปรุงพันธุ์พืชทั้งภาครัฐ ภาคเอกชน หรือนักปรับปรุงพันธุ์พืชอิสระ สามารถนำพันธุ์ใหม่ที่ปรับปรุงพันธุ์ได้ทั้ง 7 ชนิดมายื่นขอรับความคุ้มครองตามกฎหมายได้  ทำให้ปัจจุบันมีชนิดพืชที่สามารถนำมาขอจดทะเบียนรับความคุ้มครองเป็นพันธุ์พืชใหม่เพิ่มขึ้นจากเดิมซึ่งมีจำนวน 93 ชนิดรวมเป็น 100 ชนิดแล้ว


รองอธิบดีกรมวิชาการเกษตรกล่าวต่อว่า การนำพันธุ์พืชใหม่ตามชนิดที่ระบุไว้ในประกาศกระทรวงเกษตรและสหกรณ์มายื่นจดทะเบียนขอรับความคุ้มครองจะทำให้เจ้าของพันธุ์พืชใหม่มีสิทธิ์แต่เพียงผู้เดียวในการผลิตขายหรือจำหน่าย นำเข้ามาในราชอาณาจักร ส่งออกนอกราชอาณาจักร แต่มีข้อยกเว้นสามารถใช้ได้ในกรณีเพื่อการศึกษา ค้นคว้าทดลอง วิจัยเพื่อปรับปรุงพันธุ์ เพาะปลูกหรือขยายพันธุ์โดยเกษตรกร ไม่มีวัตถุประสงค์เพื่อใช้เป็นส่วนขยายพันธุ์หรือเพื่อการค้า  และถูกนำออกจำหน่ายด้วยความยินยอมของเจ้าของพันธุ์ ซึ่งเป็นไปตามเจตนารมณ์ของพระราชบัญญัติคุ้มครองพันธุ์พืช พ.ศ. 2542 ที่ต้องการส่งเสริม กระตุ้น สร้างแรงจูงใจให้เกิดการพัฒนาปรับปรุงพันธุ์พืชใหม่ ด้วยการให้สิทธิคุ้มครองตามกฎหมายแก่นักปรับปรุงพันธุ์พืช 

ทั้งนี้ ในช่วงที่ผ่านมามีพืชตามประกาศกระทรวงเกษตรฯ ที่นักปรับปรุงพันธุ์ สถาบันการศึกษา เอกชน  มูลนิธิ  องค์กร และหน่วยงานภาครัฐได้ยื่นจดทะเบียนขอรับความคุ้มครองรวมจำนวนทั้งสิ้น 44 ชนิดพืช  รวม 1,732 คำขอ โดยชนิดพืชที่ขอยื่นจดทะเบียนรับความคุ้มครองมากที่สุด 10 อันดับแรก ได้แก่ ยูคาลิปตัส   ข้าวโพด  แตงกวา/แตงร้าน  พริก   ข้าว  กล้วยไม้สกุลหวาย  มะเขือเทศ  ไม้ดอกสกุลขมิ้น  แตงโม  และบัว  นักปรับปรุงพันธุ์พืชที่ต้องการจดทะเบียนพันธุ์พืชเพื่อขอรับความคุ้มครองเป็นพันธุ์พืชใหม่ สามารถสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่กลุ่มวิจัยการคุ้มครองพันธุ์พืช  สำนักคุ้มครองพันธุ์พืช  โทรศัพท์  0 2940 7214.- สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

พ่อเลี้ยงล่วงละเมิด

“ต้นอ้อ” แฉพิรุธพ่อเลี้ยงปมคลิปเสียง-DNA ส่วนเด็กอาการดีขึ้น

“ต้นอ้อ” แฉพิรุธพ่อเลี้ยงปมคลิปเสียง-DNA เชื่อ แม่ไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง แค่เชื่อผัวเพราะลูกเคยโกหก เผย ตอนแม่รู้ความจริงว่าใครทำลูกถึงกับร้องไห้โฮโผกอดลูก ส่วนเด็ก 10 ขวบอาการดีขึ้น แต่ต้องรักษาตัวอีกหลายสัปดาห์

งานแต่งธนกร

วิวาห์ชื่นมื่น “ธนกร-แคทลีน” คนดังการเมือง-นักธุรกิจ ร่วมยินดีครึกครื้น

งานวิวาห์ “ธนกร-แคทลีน” ชื่นมื่น คนดังการเมือง-นักธุรกิจ ร่วมยินดีครึกครื้น ด้าน “ทักษิณ” ไม่ได้มาร่วม แต่ส่งของขวัญแสดงความยินดี

ทรัมป์สั่งปลด

“ทรัมป์” สั่งปลดประธานคณะเสนาธิการร่วมตามแผนปรับปรุงกลาโหม

ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐ ออกคำสั่งในวันศุกร์ตามเวลาท้องถิ่นปลด พลอากาศเอก ซี. คิว. บราวน์ จูเนียร์ (Charles Quinton Brown Jr.) เป็นประธานคณะเสนาธิการทหารร่วมของสหรัฐออกจากตำแหน่ง

ข่าวแนะนำ

“ทักษิณ” ถึงนราธิวาส กลับมาในรอบ 19 ปี

“ทักษิณ” ถึงนราธิวาส บอกคนนราธิวาสน่ารักเสมอ ต้อนรับอบอุ่นกับการกลับมาในรอบ 19 ปี ก่อนเดินทางต่อตามกำหนดเดิม แม้มีระเบิดที่สนามบิน

บึ้มรถกระบะ สนามบินนราธิวาส ก่อน “ทักษิณ” ลงพื้นที่

บึ้มรถกระบะจอดใกล้กับหอบังคับการบิน ท่าอากาศยานนราธิวาส ก่อน “ทักษิณ” ลงพื้นที่สนามบินบ้านทอน ในอีก 50 นาที ไม่มีรายงานผู้ได้รับบาดเจ็บ

น้ำป่าหลากท่วม อ.ไทรโยค กลางดึก

ระทึกกลางดึก น้ำป่าหลากท่วมบ้านเรือนประชาชน อ.ไทรโยค จ.กาญจนบุรี ถนนหลายเส้นถูกน้ำป่าพัดขาด จนท.เร่งอพยพประชาชนด้วยความยากลำบาก

Pope at Vatican on Feb 5, 2025 says have a strong cold

โป๊ปฟรันซิสพระอาการวิกฤต

วาติกัน 23 ก.พ.- พระอาการประชวรของสมเด็จพระสันตะปาปาฟรันซิส พระประมุขแห่งพระศาสนจักรโรมันคาทอลิก ทรุดลงอยู่ในขั้นวิกฤตในช่วง 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา สำนักวาติกันออกแถลงการณ์ฉบับล่าสุดเมื่อวันเสาร์ว่า พระอาการประชวรของสมเด็จพระสันตะปาปาทรุดลงในช่วง 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา และระบุเป็นครั้งแรกว่า พระอาการของพระองค์อยู่ในขั้นวิกฤตจากโรคระบบทางเดินหายใจคล้ายกับโรคหอบหืดในช่วงเช้าวันเสาร์ ทำให้ขณะนี้พระองค์จำเป็นต้องได้รับออกซิเจนเสริมและการถ่ายเลือด โดยรวมแล้วถือว่า พระอาการอยู่ในขั้นวิกฤตและยังไม่พ้นขีดอันตราย อย่างไรก็ดี พระองค์ยังทรงตื่นตัว และประทับนั่งบนเก้าอี้ตลอดวัน แม้ว่าทรงประชวรมากกว่าวันก่อนหน้านี้ก็ตาม พระสันตะปาปาฟรันซิส พระชนมายุ 88 พรรษา ทรงเข้ารับการถวายการรักษาที่โรงพยาบาลเจเมลลี ในกรุงโรม ตั้งแต่วันที่ 14 กุมภาพันธ์ หลังทรงมีพระอาการหายใจติดขัดต่อเนื่องหลายวัน และตรวจพบว่าปอดอักเสบทั้งสองข้าง ทรงร้องขอให้เปิดเผยรายละเอียดเกี่ยวกับพระอาการของพระองค์อย่างตรงไปตรงมา สำนักวาติกันจึงออกแถลงการณ์ชี้แจงความคืบหน้าอาการประชวรของพระองค์ต่อเนื่องทุกวัน แต่แถลงการณ์ฉบับล่าสุดถือเป็นครั้งแรกที่มีเนื้อหาระบุชัดเจนว่า อาการประชวรของพระองค์อยู่ในขั้นวิกฤต ขณะที่แพทย์คาดการณ์ว่า พระองค์จะต้องประทับอยู่ในโรงพยาบาลอย่างน้อยตลอดสัปดาห์หน้า ภารกิจต่อสาธารณชนทั้งหมดของพระสันตะปาปาจึงถูกยกเลิกตลอดสัปดาห์ ทั้งพิธีมิสซาประจำวันอาทิตย์ รวมถึงการสวดภาวนาแองเจลัส (Angelus) ตามปกติทุกสัปดาห์ด้วย.-815(814).-สำนักข่าวไทย