นนทบุรี 20 ต.ค.-กระทรวงพาณิชย์เน้นย้ำมีการติดตามราคาสินค้าทุกรายการอย่างต่อเนื่องมีการเปรียบเทียบต้นทุนราคาเพื่อสร้างความเป็นธรรมทุกฝ่าย ขณะที่กรมการค้าภายในหารือห้างค้าปลีกขอให้สินค้ามีเพียงพอไม่ขาดแคลน
นายรณรงค์ พูลพิพัฒน์ ผู้อำนวยการสำนักงานนโยบายและยุทธศาสตร์การค้า (สนค.) เปิดเผยถึงความเคลื่อนไหวของราคาสินค้าและค่าบริการที่เปลี่ยนแปลงไปในช่วงหนึ่งปีที่ผ่านมา โดยอ้างอิงจากข้อมูลที่ใช้ในการจัดทำข้อมูล ดัชนีราคาผู้บริโภค ซึ่งเป็นภารกิจหลักหนึ่งของ สนค. โดยการคำนวณดัชนีข้างต้นเกิดจากการเปรียบเทียบราคาสินค้า
และบริการ จำนวน 430 รายการ ใน 7 หมวดที่จำเป็นต่อการครองชีพ ได้แก่
(1) หมวดอาหารและเครื่องดื่มไม่มีแอลกอฮอล์
(2) หมวดเครื่องนุ่งห่มและรองเท้า
(3) หมวดเคหสถาน (4) หมวดการตรวจรักษาและบริการส่วนบุคคล
(5) หมวดพาหนะ การขนส่งและการสื่อสาร
(6) หมวดการบันเทิง การอ่าน การศึกษาฯ
(7) หมวดยาสูบและเครื่องดื่มมีแอลกอฮอล์ เปรียบเทียบกับราคาในปีฐาน และคำนวณอัตราการเปลี่ยนแปลงเป็น
อัตราเงินเฟ้อ
อย่างไรก็ตาม หากดูอัตราเงินเฟ้อล่าสุด เดือนกันยายน 2564 เมื่อเทียบกับเดือนเดียวกันของปีก่อน ขยายตัวร้อยละ 1.68 ซึ่งเป็นอัตราที่ไม่สูงมากนัก เมื่อเทียบกับประเทศอื่น และเมื่อพิจารณาเป็นรายสินค้าและบริการจะพบว่า มีจำนวน
การเปลี่ยนแปลงของราคาสินค้าและบริการ ดังนี้ สินค้าและบริการที่ราคาเพิ่มขึ้น จำนวน 204 รายการ เช่น น้ำมันปาล์ม 1 ลิตร ราคาเฉลี่ยเดือนกันยายน เท่ากับ 47.03 บาท เพิ่มขึ้น 11.11 บาท จากเดือนเดียวกันของปีก่อน น้ำมันแก๊สโซฮอล์ 91 ราคาเฉลี่ย เดือนกันยายน เท่ากับ 30.43 บาท เพิ่มขึ้น 8.07 บาท จากเดือนเดียวกันของปีก่อน ขณะที่สินค้าและบริการที่ราคาไม่เปลี่ยนแปลง จำนวน 69 รายการ เช่น ค่าโดยสารรถประจำทาง ค่าบริการใช้โทรศัพท์มือถือ เป็นต้น
ส่วนสินค้าและบริการที่ราคาลดลง จำนวน 157 รายการ เช่น เนื้อสุกร ส่วนสันนอก 1 กิโลกรัม ราคาเฉลี่ยเดือนกันยายน เท่ากับ 153.74 บาท ลดลง 8.83 บาท จากเดือนเดียวกันของปีก่อน ข้าวสารเจ้า 1 กิโลกรัม ราคาเฉลี่ยเดือนกันยายน เท่ากับ 39.54 บาท ลดลง 4.90 บาท จากเดือนเดียวกันของปีก่อน และค่าธรรมเนียมการศึกษา โรงเรียนรัฐบาล ระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 ราคาเฉลี่ยเดือนกันยายน เท่ากับ 5,232.32 บาท ลดลง 178.75 บาท จากเดือนเดียวกันของปีก่อน
“การที่ประชาชนส่วนใหญ่รู้สึกว่าค่าครองชีพสูงขึ้น ทั้งที่เงินเฟ้อทั่วไปอยู่ในระดับไม่สูงมากนัก อาจจะมีสาเหตุจากค่าใช้จ่ายในสินค้าและบริการที่เกี่ยวข้องและใกล้ชิดกับการใช้จ่ายในชีวิตประจำวันสูงขึ้น เช่น กับข้าวสำเร็จรูป ก๋วยเตี๋ยว ข้าวราดแกง อาหารเช้า และอาหารตามสั่ง รวมทั้ง น้ำมันเชื้อเพลิง อย่างไรก็ตาม กระทรวงพาณิชย์ไม่ได้นิ่งนอนใจ ด้วยบทบาทและหน้าที่ มีนโยบายและมาตรการเพื่อดูแลราคาสินค้าและบริการอย่างสม่ำเสมอตลอดมา ขอให้ประชาชนมั่นใจในเรื่องเสถียรภาพราคา ซึ่งในขณะนี้ยังไม่มีสัญญาณชัดเจนที่บ่งชี้ว่ากำลังอยู่ในภาวะเงินเฟ้อ (Inflation) เงินฝืด (Deflation) หรือความซบเซาทางเศรษฐกิจ (Stagnation) ในทางตรงกันข้าม มีสัญญาณทางบวก จากทั้งการส่งออกและความเชื่อมั่นผู้บริโภคที่ปรับตัวดีขึ้นตามลำดับ สนค. จะติดตามสถานการณ์ราคาสินค้าและบริการอย่างใกล้ชิดต่อไป
นายวัฒนศักย์ เสือเอี่ยม อธิบดีกรมการค้าภายในกล่าวว่า เมื่อต้นสัปดาห์นี้กรมฯได้มีการประชุมหารือร่วมกับกลุ่มผู้ผลิตสินค้าอุปโภคบริโภคและขอความร่วมมือให้ตรึงราคาสินค้าเพื่อบรรเทาภาระค่าครองชีพพี่น้องประชาชนกับห้างค้าปลีกค้าส่ง ร้านสะดวกซื้อ และห้างท้องถิ่น โดยพบว่า ปริมาณสินค้ามีเพียงพอและการจัดส่งสินค้าก็เริ่มกลับเข้ามาสู่ภาวะปกติแล้ว และขณะนี้ยังไม่มีปัญหา การจัดส่งสินค้าไปยังสาขาที่อยู่ในพื้นที่น้ำท่วม ส่วนด้านความต้องการซื้อเพิ่มขึ้นแต่ยังไม่กลับสู่ภาวะปกติ
“ได้ย้ำขอให้ห้างต่างๆ จัดเพิ่มสตอกในสินค้ากลุ่มอาหารและของใช้ประจำวันที่นิยมจัดในชุดถุงยังชีพเพิ่มขึ้นและต้องมีจำหน่ายเพียงพอ รวมทั้งให้ เตรียมสินค้าและแผนการจัดส่งให้พร้อมกับสถานการณ์และยังได้ขอความร่วมมือให้ห้างตรึงราคาสินค้า และจัดกิจกรรมส่งเสริมการขายในสินค้าที่จำเป็นต่อการครองชีพของพี่น้องประชาชน ซึ่งทางห้างต่างๆ ยินดีให้ความร่วมมือ โดยจะได้จัดสินค้ามาหมุนเวียนจัดกิจกรรมลดราคาต่อเนื่องอีกด้วย ทั้งนี้ หากพี่น้องประชาชนพบเห็นการฉวยโอกาส หรือ จำหน่ายสินค้าแพงเกินสมควรแจ้งได้ที่สายด่วน 1569 ตลอด 24 ชั่วโมง.-สำนักข่าวไทย