อีอีซี จับมือ 4 พันธมิตร พัฒนาทักษะบุคลากรด้านดิจิทัล ขับเคลื่อน 5G

กรุงเทพฯ 15 ต.ค.- อีอีซี จับมือ 4 พันธมิตร ซิสโก้ – มาเวเนีย -5จีซีที -แพลนเน็ตคอม พัฒนาทักษะบุคลากรด้านดิจิทัล ขับเคลื่อนเทคโนโลยี 5G สร้างอุตสาหกรรม 4.0 ในพื้นที่อีอีซี ตั้งเป้าสร้างคน ตรงความต้องการอุตสาหกรรมดิจิทัล 40,000 คนภายใน 3 ปี ดึงการลงทุนอุตสาหกรรมเป้าหมาย เสริมแกร่งเศรษฐกิจไทยแข่งขันได้ในเวทีโลก สร้างแรงงานไทยทักษะสูง รายได้ยั่งยืน


สำนักงานคณะกรรมการนโยบายเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (สกพอ.) หรืออีอีซี ร่วมกับ บริษัท ซิสโก้ ซีสเต็มส์ (ประเทศไทย) จำกัด บริษัท มาเวนเนีย ซิสเท็มส์ (ประเทศไทย) จำกัด บริษัท 5จี แคททะลิซท์ เทคโนโลยีส์ จำกัด  และบริษัท แพลนเน็ต คอมมิวนิเคชั่น เอเชีย จำกัด (มหาชน) ลงนามความร่วมมือ (MOU) “การพัฒนาทักษะบุคลากร เพื่อส่งเสริมการประยุกต์ใช้เทคโนโลยีดิจิทัล และ 5G แก่ภาคอุตสาหกรรมในพื้นที่อีอีซี (5G & Digital Talent Development in EEC)” ผ่านระบบออนไลน์ โดยมี นายไมเคิล ฮีธ อุปทูต รักษาการแทน เอกอัครราชทูตสหรัฐอเมริกา ประจำประเทศไทย เป็นประธานและสักขีพยาน โดย ดร.คณิศ แสงสุพรรณ เลขาธิการ อีอีซี และ ผู้บริหารระดับสูงจากหน่วยงานทั้ง 4 แห่งร่วมกันลงนาม ฯ

ดร.คณิศ แสงสุพรรณ เลขาธิการอีอีซี กล่าวว่า การจัดงานฯ ครั้งนี้ จะช่วยกระชับความสัมพันธ์อันดีด้านการลงทุนระหว่างไทย และสหรัฐอเมริกา ซึ่งในช่วง 10 ปีที่ผ่านมา สหรัฐ ได้ลงทุนในไทยสูงถึง 1.6 แสนล้านเหรียญสหรัฐ และในปี 2563 มีการลงทุนตรงกว่า 20,000 ล้านเหรียญสหรัฐ โดยเฉพาะด้านการลงทุนในอุตสาหกรรมในพื้นที่อีอีซี ซึ่งทั้ง 2 ประเทศมีนโยบายพัฒนาเศรษฐกิจชีวภาพ เศรษฐกิจหมุนเวียน และเศรษฐกิจสีเขียว (BCG) ที่จะส่งเสริมให้เกิดความร่วมมือพัฒนาธุรกิจที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมในอีอีซี และขับเคลื่อนคู่ไปกับการลงทุนในอุตสาหกรรมเป้าหมายใหม่ ตามแผนลงทุนอีอีซี ระยะ 2 ที่จะให้มีมูลค่าการลงทุนรวมไม่น้อยกว่า 2.2 ล้านล้านบาท เน้นการลงทุนนวัตกรรมและเทคโนโลยีขั้นสูงจากอุตสาหกรรมยานยนต์ไฟฟ้า อุตสาหกรรมขนส่ง อุตสาหกรรมการแพทย์ และอุตสาหกรรมดิจิทัล 5G


ทั้งนี้ถือเป็นการต่อยอดความร่วมมือ เพื่อผลักดันส่งเสริมการประยุกต์ใช้เทคโนโลยีดิจิทัล 5G ต่อเนื่อง จากที่อีอีซีได้ร่วมกับภาคเอกชนทั้ง 4 บริษัทดังกล่าว นำร่องใช้เทคโนโลยี 5G ในเทศบาลตำบลบ้านฉาง สู่ต้นแบบเมืองอัจฉริยะ (Smart city) ที่ได้เริ่มปรับปรุงโครงสร้างพื้นฐานดิจิทัลทั้งหมด โดยคาดว่าสิ้นปี 2564 จะติดตั้งเสา 5G smart pole แล้วเสร็จรวม 160 ต้น ซึ่งจะครอบคลุมพื้นที่บ้านฉางทั้งหมด นำร่องสู่โรงงานอัจฉริยะ Factory 4.0 ก้าวสู่เมืองอุตสาหกรรมแห่งอนาคต พร้อมยกระดับคุณภาพชีวิตให้ชุมชมบ้านฉางครบมิติ โดยความร่วมมือฯ ครั้งนี้ จะช่วยเชื่อมโยงการพัฒนาทักษะบุคลากร ควบคู่การส่งเสริมประยุกต์ใช้ดิจิทัล และ 5G แก่ภาคอุตสาหกรรม ตั้งเป้าหมายพัฒนาทักษะบุคลากร ทั้งด้านเพิ่มทักษะใหม่ ยกระดับ ปรับทักษะบุคลากร New – Up-Re skill ตามแนวทางสร้างคนให้ตรงกับความต้องการ (Demand Driven) ให้ได้ไม่ต่ำกว่า 40,000 คน ภายใน 3 ปี เพิ่มขีดความสามารถการแข่งขันในตลาดโลก ยกระดับรายได้แรงงานไทย ทำให้คุณภาพชีวิตดีขึ้นอย่างสมดุลและยั่งยืน  

นายทวีวัฒน์ จันทรเสโน กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ซิสโก้ ซิสเต็มส์ (ประเทศไทย)  ผู้นำทางด้านไอทีและระบบเครือข่ายอินเทอร์เน็ตระดับโลก กล่าวว่า ซิสโก้ ได้เล็งเห็นถึงความสำคัญของการสร้างทักษะใหม่ (Reskill) ที่จำเป็นในการทำงาน และการพัฒนาเพื่อยกระดับทักษะเดิม (Upskill) ให้ดีขึ้น โดยนำเทคโนโลยีดิจิทัลมาปรับใช้ในการทำงาน และสร้างฐานความรู้ด้านต่างๆ เช่น ระบบเครือข่ายและความปลอดภัยสำหรับอุตสาหกรรมและระบบขนส่งอัจฉริยะ ระบบไร้สายแบบต่างๆสำหรับการใช้งานในอุตสาหกรรมและเมืองอัจฉริยะ ระบบศูนย์ข้อมูล ตลอดจนระบบบริหารจัดการเครือข่ายที่ควบรวมทั้ง IP และ 5G ให้เป็นหนึ่งเดียว เป็นต้น โดยบริษัทฯ พร้อมจะร่วมพัฒนาแรงงานยุคใหม่  (New Workforce) ที่มีศักยภาพสูง พร้อมผลักดันองค์กรธุรกิจให้เติบโต พร้อมรับกิจกรรมทางเศรษฐกิจต่างๆ

มร.นอร์แมน โดนัลด์ ไพรซ์ ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายเทคนิค ธุรกิจเกิดใหม่ และ หน่วยธุรกิจองค์กร บริษัท มาเวนเนีย ซิสเต็มส์ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวเสริมว่า พื้นที่อีอีซี ถือเป็นประตูสู่เศรษฐกิจที่เติบโตเร็วที่สุดแห่งหนึ่งของโลก และเป็นที่ตั้งของบุคลากรที่สำคัญ และมีความหลากหลายครบวงจร มีสภาพแวดล้อมที่มีการพัฒนาต่อเนื่องและดำเนินไปอย่างรวดเร็ว โดยบริษัทมาเวเนียฯ จึงมีความมุ่งมั่นที่จะสร้างเครือข่ายแห่งอนาคต ด้วยซอฟต์แวร์คลาวด์เนทีฟ ระบบคลาวด์ที่ทำงานบนคลาวด์ใดๆ และเปลี่ยนแปลงวิธีการเชื่อมต่อสื่อสารในโลกปัจจุบัน การลงนาม MOU ครั้งนี้ ถือเป็นความมุ่งมั่นการขับเคลื่อนในระดับในภูมิภาคนี้ ที่จะเป็นส่วนสำคัญในการเสริมสร้างแรงงานให้มีด้วยทักษะที่จำเป็น และแสดงให้เห็นถึงความจำเป็นของเทคโนโลยี 5G ในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจอย่างยั่งยืน


นางสาวชาริณี กัลยาณมิตร กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท 5จี แคททะลิซท์ เทคโนโลยีส์ จำกัด กล่าวว่า ความท้าทายระดับโลกและวิกฤตโควิด-19 ได้ตอกย้ำถึงความสำคัญของ Digital Transformation ที่มีต่อทุกธุรกิจ และความจำเป็นต้องพัฒนาศักยภาพของแรงงานให้พร้อมปรับตัว เพื่อใช้งานเทคโนโลยีดิจิทัลได้อย่างมีประสิทธิภาพ  ความร่วมมือครั้งนี้ บริษัทฯ ในฐานะของตัวแทนบริษัทขนาดย่อมและสตาร์ทอัพ จะทำหน้าที่เป็นสะพานในการเชื่อมโยงเทคโนโลยีสมัยใหม่ให้ปรับใช้กับธุรกิจในประเทศไทยได้อย่างไร้รอยต่อ บริษัทฯ จะให้ความสำคัญต่อการสร้างแพลตฟอร์มการเรียนรู้และแลกเปลี่ยนประสบการณ์ระหว่างผู้ประกอบการ ธุรกิจสตาร์ทอัพ และหน่วยงานภาครัฐ เพื่อพัฒนาทักษะการทำงานใหม่ด้านเทคโนโลยีดิจิทัลบนโครงข่าย 5G ซึ่งเป็นโครงสร้างพื้นฐานสำคัญ ที่ทำให้เทคโนโลยีหลากรูปแบบทำงานร่วมกันได้อย่างราบรื่น และส่งต่อประโยชน์ทางอาชีพและเศรษฐกิจ ไปถึงประชาชนแบบยั่งยืน ทั้งนี้ ช่วงไตรมาส 4 ของปีนี้

นายประพัฒน์ รัฐเลิศกานต์ กรรมการผู้อำนวยการ และหัวหน้าเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท แพลนเน็ต คอมมิวนิเคชั่น เอเชีย จำกัด (มหาชน)  กล่าวว่า ความร่วมมือครั้งนี้เน้นสร้างฐานความรู้และแพลตฟอร์มสำหรับ Smart City Data Platform และ IOT Platform ซึ่งมีความสำคัญต่อการขับเคลื่อนด้านการศึกษาในพื้นที่อีอีซี และช่วยให้ EEC HDC ได้รับความสนใจและเป็นที่รู้จักมากขึ้น และเป็นศูนย์กลางแห่งการเรียนรู้ ด้านเทคโนโลยี และการลงทุนในพื้นที่อีอีซี เพื่อยกระดับการฝึกอบรมเพิ่มทักษะบุคลากร ด้วยหลักสูตรมาตรฐานสากลรองรับการใช้เทคโนโลยีขั้นสูง พร้อมสร้างความเชื่อมั่น ดึงดูดการลงทุนจากทั่วโลกผลักดันให้ไทยก้าวสู่ศูนย์กลางอุตสาหกรรมดิจิทัลอันดับ 1 ของภูมิภาคอาเซียน -สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

พบแล้วบ้าน “พระอลงกต” ที่ขอนแก่น ชาวบ้านเผยเป็นคนใจดี

ขอนแก่น 25 ส.ค. – พบแล้วบ้านของ “พระอลงกต” ใน อ.เมือง จ.ขอนแก่น ตรวจสอบพบเป็นบ้านพักข้าราชการของกรมทางหลวง ชาวบ้านเผย “พระอลงกต” เป็นคนใจดี กลับมาแจกเงินทุกปี พอเห็นข่าวรู้สึกตกใจและสงสาร เพราะเที่เคยสัมผัสเป็นคนใจดี ทีมข่าวตรวจสอบข้อมูลเพื่อตามหาบ้านของพระอลงกต รู้ว่าเป็นคน จ.ขอนแก่น ตั้งแต่กำเนิด สืบค้นที่อยู่ตามทะเบียนบ้าน พบระบุว่าบ้านเกิดของหลวงพ่ออลงกต อยู่ใน อ.เมือง จ.ขอนแก่น ตรวจสอบพบว่าเป็นบ้านพักข้าราชการของกรมทางหลวง และไปพบบ้านของพ่อเฉย พ่อของพระอลงกต ซึ่งทุกคนไม่ได้เรียกว่าพระอลงกต แต่จะคุ้นเคยเรียกกันว่าพระจอร์จ และนิสัยของพระพระอลงกตมีแต่เรื่องราวดีๆ มอบให้กับสังคม พระอลงกตจะแวะเวียนมาบอกบุญเสมอปีละครั้ง ในช่วงวันเกิดที่โรงเรียนแก่นนคร ที่พระอลงกตเคยศึกษา อย่างช่วงที่พ่อเฉย พ่อของพระอลงกต ยังมีชีวิต พ่อเฉยจะทำว่าวให้เด็กๆ ละแวกนี้เล่น เป็นที่รักของคนในชุมชนเช่นกัน พี่สาวของพระอลงกต ขายข้าวแกงอยู่ตรงข้ามบ้านพักข้าราชการ ซึ่งบ้านของครอบครัวพระอลงกต จะอยู่ติดกับรั้วของสำนักงานทางหลวง แต่พอครอบครัวพระอลงกตเกษียณก็พากันย้ายออกไปอยู่ที่อื่น บ้านพักปัจจุบันนี้ไม่มีใครอยู่ และบ้านส่วนตัวก็ไม่มีใครอยู่อาศัยเช่นกัน พระอลงกตออกจากบ้านไปช่วงปี 2527 แต่พระอลงกตจะกลับมาที่บ้านส่วนตัวทุกปี หลังจากเป็นเจ้าอาวาสวัดพระบาทน้ำพุ เพื่อมาทำบุญวันเกิดโรงเรียนแก่นนคร มอบทุนการศึกษาให้กับเด็กๆ เสมอ […]

ตำรวจแจ้งข้อหาเมาแล้วขับ “มารี เบรินเนอร์”

กทม. 24 ส.ค.-ตำรวจแจ้งข้อหาเมาแล้วขับ “มารี เบรินเนอร์” ขับรถหรูเจอด่านตรวจวัดแอลกอฮอล์แล้วไม่ยอมเป่า ส่วนเพื่อนชายที่มาด้วยโวยวายและขัดขวางการปฏิบัติหน้าที่ของตำรวจ คาดน่าจะเกิดจากมึนเมา กรณีนักแสดงสาว “มารี เบรินเนอร์” ขับรถหรูเจอด่านตรวจวัดแอลกอฮอล์แล้วไม่ยอมเป่าวัด ส่วนเพื่อนชายที่มาด้วยได้ลงจากรถมาโวยวายขัดขวางการปฏิบัติหน้าที่ของตำรวจ ทาง พ.ต.อ.เจษฎา ยางนอก ผกก.สน.วังทองหลาง เผยว่า เมื่อคืนที่ผ่านมา ตำรวจ สน.วังทองหลาง ได้ตั้งด่านตรวจวัดแอลกอฮอล์ ที่ถนนประดิษฐ์มนูธรรม ช่วงเวลาประมาณ 02.00-04.00 น. ได้ขอตรวจรถยนต์ยี่ห้อปอร์เช่ สีเขียว ปรากฏว่ามี น.ส.มารี เบรินเนอร์ นักแสดงสาว เป็นผู้ขับขี่ และมีนายอัศม์กรณ์ โดยสารมาด้วย ซึ่งนั่งข้างหน้า และมีผู้หญิงมาด้วยอีก 2 คน เมื่อขอตรวจวัดปริมาณแอลกอฮอล์ นายอัศม์กรณ์ กลับโวยวาย ขัดขวางไม่ให้ตรวจ และมีการด่าทอด้วยคำที่หยาบคาย แต่ไม่ได้มีการทำร้ายร่างกายเจ้าหน้าที่ ในที่สุดตำรวจได้คุมตัวทั้งหมดมายัง สน.วังทองหลาง พร้อมกับแจ้งข้อกล่าวหาเมาแล้วขับ กับนางสาวมารี เนื่องจากนางสาวมารี ไม่ยินยอมเป่าเครื่องตรวจวัดแอลกอฮอล์ จากนั้นนางสาวมารี ได้ยื่นหลักทรัพย์เป็นเงินสดจำนวน 20,000 บาท […]

“คาจิกิ” ทวีกำลังเป็นพายุไต้ฝุ่น ส่งผลให้ไทยฝนตกเพิ่มทุกภาค

กรุงเทพฯ 24 ส.ค.- กรมอุตุฯ ออกประกาศระบุ ช่วงเช้าที่ผ่านมา พายุโซนร้อน “คาจิกิ” ในทะเลจีนใต้ ได้ทวีกำลังแรงเป็นพายุไต้ฝุ่น เตือน 57 จังหวัด เฝ้าระวังฝนตกหนักถึงหนักมาก ตั้งแต่วันที่ 24-27 ส.ค.68 นายสมควร ต้นจาน ผู้อำนวยการกองพยากรณ์อากาศ กรมอุตุนิยมวิทยา เปิดเผยว่า พายุโซนร้อน “คาจิกิ” บริเวณทะเลจีนใต้ตอนกลาง ทวีกำลังแรงเป็นพายุไต้ฝุ่น “กำลังเคลื่อนตัวทางทิศตะวันตก ค่อนไปทางเหนือเล็กน้อย และมีแนวโน้มที่จะเคลื่อนเข้าสู่อ่าวตังเกี๋ย ก่อนจะขึ้นฝั่งตอนบนของ ประเทศเวียดนาม และ สปป.ลาว ในช่วงวันที่ 25–26 สิงหาคมนี้ ขอบด้านหน้าของพายุ เริ่มส่งผลกระทบต่อไทยตั้งแต่วันนี้ โดยเฉพาะพื้นที่ด้านตะวันออกของภาคตะวันออกเฉียงเหนือ จะมีเมฆฝนเพิ่มขึ้น จากนั้นจะมีฝนตก ก่อนขยายไปยังภาคกลาง รวมทั้ง กรุงเทพฯ และปริมณฑล ภาคตะวันออก และ ภาคใต้ ในช่วงวันถัดไป กรมอุตุนิยมวิทยาเตือนว่า อิทธิพลของพายุ ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ ที่มีกำลังแรง จะทำให้มีฝนตกเพิ่มขึ้นและมีฝนตกหนักถึงหนักมากในหลายพื้นที่ โดยเฉพาะ […]

“จิรายุ” ย้ำคลิป “นั่งลงลูก” ในห้องพิจารณาคดี เป็นคลิปตกแต่งเสียง

ทำเนียบ 24 ส.ค.-“จิรายุ” ย้ำคลิป “นั่งลงลูก” ในห้องพิจารณาคดีศาล รธน. ที่ “ชวน” ได้ยินเป็นคลิปตกแต่งเสียง ฟังกี่รอบก็ชัดว่า “นั่งลงครับ” เตือนประชาชนบิดเบือนข้อมูลใส่ร้าย อย่าโพสต์ ไม่ชัวร์ อย่าแชร์ นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ ที่ปรึกษาของนายกรัฐมนตรี อดีตประธานคณะกรรมาธิการกิจการศาล องค์กรอิสระ องค์กรอัยการฯ กล่าวถึง กรณีมีการบิดเบือนคำพูดในวันสืบพยานของนายกรัฐมนตรี โดยหลังจากนายกรัฐมนตรีกล่าวคำสาบานตนแล้ว ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญท่านหนึ่งได้กล่าวคำว่า “นั่งลงครับ” แต่กลับมีกระบวนการนำไปบิดเบือนและตกแต่งเสียง โดยกล่าวหาว่า ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญพูดว่า “นั่งลงลูก“ ซึ่งเป็นการบิดเบือน ขณะเดียวกัน ยังพบว่าอดีตประธานรัฐสภา นายชวน หลีกภัย ได้สัมภาษณ์ให้ความเห็นในกรณีดังกล่าวหลายประเด็น ซึ่งอาจเป็นไปได้ว่า นายชวน หลีกภัย อาจจะยังไม่ได้ฟังคลิปเต็มๆ จริงๆ ในวันดังกล่าว หรือไม่ก็อาจจะได้ฟังจากคลิปที่ถูกบิดเบือนและตกแต่ง ซึ่งความเป็นจริงการบันทึกเสียงทั้งหมดหรือการกล่าวบนบัลลังก์ คนที่นั่งอยู่ในห้องพิจารณาก็ได้ยินตรงกันว่า “นั่งลงครับ” ทั้งสิ้น นายจิรายุ กล่าว ตนในฐานะเคยดำรงตำแหน่งประธานคณะกรรมาธิการกิจการศาลองค์กรอิสระ องค์กรอัยการฯ ติดตามการทำงานกระบวนการยุติธรรมมาโดยตลอด ไม่มีเหตุผลใดๆ ในกระบวนการยุติธรรมที่จะใช้คำพูดในลักษณะเช่นนี้ […]

ข่าวแนะนำ

ผู้ว่าฯ สระแก้ว สั่งเร่งออกโฉนดให้ชาวบ้านหนองจาน

สรแก้ว 25 ส.ค. – ผู้ว่าฯ สระแก้ว สั่งที่ดินจังหวัดเร่งดำเนินการออกเอกสารสิทธิให้ชาวบ้านหนองจานโดยเร็ว พร้อมส่งทีมสำรวจ เร่งแก้ไขปัญหาที่ดินตามแนวชายแดนให้แล้วเสร็จ นายปริญญา โพธิสัตย์ ผู้ว่าราชการจังหวัดสระแก้ว พร้อมหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เช่น ที่ดินจังหวัด ป่าไม้ ส.ป.ก. ชี้แจงกรณีปัญหาของที่ดินบ้านหนองจาน พร้อมให้ประชาชนแสดงการยื่นเอกสารสิทธิการถือครองที่ดิน เพื่อคัดกรองเตรียมออกโฉนดให้กับชาวบ้านในพื้นที่บ้านหนองจาน และบ้านกุดผือ ที่มีที่ดินอยู่ติดแนวชายแดนไทย-กัมพูชา บริเวณหลักเขตแดนที่ 46-47 เพื่อดำเนินการออกโฉนดที่ดินให้โดยเร็ว โดยมีชาวบ้านนำเอกสารสิทธิ น.ส.2 สค.1 น.ส.3 มายื่นให้เจ้าหน้าที่เข้าสู่ระบบการคัดกรองเพื่อออกโฉนดที่ดินตามนโยบายเร่งด่วน ซึ่งจังหวัดจะแบ่งทีมสำรวจลงพื้นที่เป็น 3 ชุด เพื่อเร่งแก้ไขปัญหาที่ดินตามแนวชายแดน ตั้งแต่พื้นที่อำเภออรัญประเทศ อำเภอโคกสูง และอำเภอตาพระยา ให้แล้วเสร็จโดยเร็ว สร้างความดีใจให้กับประชาชนเป็นอันมาก.- สำนักข่าวไทย

“แพทองธาร” รีโพสต์โต้คลิปบิดเบือน ยันศาลบอก “นั่งลงครับ”

กรุงเทพฯ 25 ส.ค.- “แพทองธาร” รีโพสต์สตอรี่ไอจี โต้ดรามาคลิปบิดเบือน ยันศาล รธน. บอก “นั่งลงครับ” นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม รีโพสต์สตอรี่ในอินสตราแกรมของสำนักข่าว VOICE TV ยืนยันไม่เป็นความจริง ต่อกระแสดรามาปล่อยคลิปเสียงตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ พูดว่า “นั่งลงลูก” ภายหลัง น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม กล่าวคําปฏิญาณ ในระหว่างที่ศาลรัฐธรรมนูญไต่สวนพยาน คดีคลิปสนทนากับ ฮุน เซน เมื่อวันที่ 21 สิงหาคมที่ผ่านมา ซึ่งในคลิปดังกล่าวมีข้อความระบุว่า ฟังชัดๆๆ ศาลบอกว่า “นั่งลงครับ” ไม่ใช่ “นั่งลงลูก” อย่างที่มีคนปั่น!! อย่ามั่ว อย่าบิดเบือนข่าว อย่างไรก็ตาม คาดว่าในช่วงเช้าวันนี้ (25 ส.ค.) นางสาวแพทองธาร จะดำเนินการเรื่องการส่งคำแถลงปิดคดีต่อศาลรัฐธรรมนูญ เนื่องจากศาลนัดยื่นคำแถลงปิดคดีภายในวันนี้ ก่อนจะนัดฟังคำวินิจฉัยในวันที่ 29 สิงหาคม เวลา 15.00 น.-316 -สำนักข่าวไทย

แจงยิบข้อดี MOU43 กรอบแนวทางสำรวจปักปันเขตแดน

กต. 25 ส.ค.- อธิบดีกรมสนธิสัญญาฯ แจงละเอียดยิบข้อดี MOU43 ใช้เป็นกรอบแนวทางการสำรวจปักปันเขตแดน เพื่อทำแผนที่ใหม่ร่วมกันตามหลักสากล เตือนยกเลิกหนีแผนที่ 1 : 200,000 ไม่พ้น และจะวนมาทำ MOU กันใหม่ นายเบญจมินทร์ สุกาญจนัจที อธิบดีกรมสนธิสัญญาและกฎหมาย กระทรวงการต่างประเทศ ร่วมกับนายนิกรเดช พลางกูร อธิบดีกรมสารนิเทศและโฆษกกระทรวงการต่างประเทศ อธิบายถึงที่มาของบันทึกความเข้าใจว่าด้วยการสำรวจและจัดทำหลักเขตแดนทางบกระหว่างไทยกับกัมพูชา หรือ MOU 43 ว่าเป็นเอกสารพื้นฐานของกรอบการเจรจา ระหว่างรัฐบาลไทยกับรัฐบาลกัมพูชา ว่าด้วยการสำรวจและจัดทำหลักเขตแดนทางบกปี 2543 หรือ MOU2543 หรือ MOU43 อธิบดีกรมสนธิสัญญาฯ มั่นใจว่า ประเทศไทยได้เปรียบจาก MOU43 เนื่องจาก MOU43 เป็นการกำหนดกรอบความตกลง และกลไกการปักปันเขตแดน เพื่อร่วมกันสำรวจ-จัดทำหลักเขตแดน เพื่อให้ได้แผนที่ที่นำมาใช้ได้จริง โดยใช้หนังสือสัญญาสยาม-ฝรั่งเศส ค.ศ.1904 และ 1907 เป็นเอกสารประกอบ เนื่องจาก หนังสือสัญญาดังกล่าวได้พูดถึงคณะกรรมการปักปันเขตแดน เพื่อให้ไปทำแผนที่ตามหลักสันปันน้ำ แม่น้ำ และแนวเส้นตรง […]

“ภูมิธรรม” รับหนักใจ “กัมพูชา” ตกลงกันแล้วไปพูดอีกอย่าง

ทำเนียบ 25 ส.ค.- “ภูมิธรรม” บอกประชุม RBC กองทัพภาค 2 เป็นเรื่องเขตแดน ยอมรับหนักใจ “กัมพูชา” ตกลงกันแล้วไปพูดอีกอย่าง ย้ำไม่ยอมให้ใครรุกล้ำอธิปไตย มองเรื่องเขตแดนไม่เคยจบง่าย บางประเทศใช้เวลาเป็นร้อยปี อย่ากังวลใจ ถ้ายังยืนหยัดผลประโยชน์ชาติ พร้อมยกนาฬิกาข้อมือ ก่อนแซวตัวเอง “วันนี้วันที่เท่าไหร่ ดูเวลาทุกวัน จะพ้นตำแหน่งแล้ว” นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย รักษาราชการแทนนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงการประชุมคณะกรรมการชายแดนส่วนภูมิภาค RBC ไทย-กัมพูชาในส่วนของกองทัพภาคที่2ในวันที่ (27 ส.ค.) จะมีการเสนอเงื่อนไขเหมือนกับการประชุม RBC ของกองทัพภาคที่ 1 หรือแตกต่างกันหรือไม่ว่า ก็ไม่มี เป็นการต่อเนื่อง จากการประชุม RBC ครั้งที่แล้ว แต่อาจจะแตกต่างกันบ้างของแต่ละสภาพพื้นที่และสภาพปัญหา และพื้นฐานจะเป็นการประชุมต่อเนื่องจากครั้งก่อน เป็นเรื่องระดับแม่ทัพไปคุยกัน ส่วนใหญ่เป็นเรื่องเส้นแดน ทำอย่างไรที่จะทำให้ได้ข้อสรุปที่ตรงกันมากที่สุด ส่วนแนวโน้มน่าจะมีสัญญาณที่ดีใช่หรือไม่ เพราะการประชุมครั้งก่อนฝ่ายกัมพูชารับเงื่อนไข แต่การประชุมที่กองทัพภาคที่2 มีเรื่องรั้วลวดหนาม ที่แตกต่างกับกองทัพภาคที่ 1 นายภูมิธรรม กล่าวว่า เรื่องรั้วลวดหนามอาจจะเป็นสิ่งที่ไม่ตรงกับที่พูดคุยกันมา […]