นนทบุรี 5 ต.ค.-อัตราเงินเฟ้อเดือน ก.ย.64 กลับมาบวกเพิ่มขึ้นร้อยละ 1.68 หลังจากหมดมาตรการชดเชยค่าน้ำ ค่าไฟจากภาครัฐ แถมเจอราคาน้ำมันปรับขึ้นต่อเนื่อง ส่งผลให้เงินเฟ้อเฉลี่ย 9 เดือนขยับขึ้นร้อยละ 0.83 แต่ยังเชื่อทั้งปีเป็นไปตามคาดอยู่ที่ร้อยละ 0.8 – 1.2 แต่ขอติดตามสถานการณ์ราคาน้ำมันในตลาดโลกหลังจากนี้ด้วย
นายวิชานัน นิวาตจินดา รองผู้อำนวยการสำนักงานนโยบายและยุทธศาสตร์การค้าหรือ สนค. กระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยถึงดัชนีราคาผู้บริโภคทั่วไป หรือ เงินเฟ้อประจำเดือนกันยายน 2564 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันปีก่อนอยู่ที่ร้อยละ 1.68 หลังจากในเดือนสิงหาคมติดลบเป็นเดือนแรกปีนี้ร้อยละ 0.02 เหตุผลอัตราเงินเฟ้อสูงขึ้นจากหมดจากมาตรการภาครัฐ เช่น ค่าน้ำ ค่าไฟฟ้า หมดไปในสิ้นเดือนสิงหาคม 64 และราคาน้ำมันในตลาดโลกปรับสูงขึ้นจากค่าเนื่อง ทำให้ราคาขายปลีกภายในประเทศสํงขึ้นตาม และประเภทสินค้าอาหารสด เช่น เนื้อหมู ไก่ นม ไข่ไก่ แม้จะสูงขึ้นแต่เทียบกับปีที่ผ่านมาไม่มากหนักในกลุ่มสินค้าอาหารสด
อย่างไรกตาม แม้เงินเฟ้อในเดือนกันยายน 64 สูงขึ้น ส่งผลให้เงินเฟ้อในช่วงไตรมาส 3 เพิ่มขึ้นร้อยละ 0.7 ทำให้เงินเฟ้อตลอด 9 เดือนปีนี้ ตั้งแต่เดือนมกราคม-กันยายน 64 เงินเฟ้อเฉลี่ยอยู่ที่ 0.83 ดังนั้นเงินเฟ้อในไตรมาสสุดท้ายของปี หากไม่มีมาตรการลดค่าครองชีพของภาครัฐที่ส่งผลต่อราคาสินค้าและบริการอย่างมีนัยสำคัญเพิ่มเติม จะมีแนวโน้มขยายตัวสูงขึ้นอย่างต่อเนื่องได้
ทั้งนี้ โดยมีปัจจัยสำคัญจาก 1.แนวโน้มราคาน้ำมันยังอยู่ในทิศทางที่ปรับตัวเพิ่มขึ้น แต่ในอัตราเพิ่มที่น้อยกว่าช่วงที่ผ่านมา 2.แนวโน้มสถานการณ์โควิดเริ่มผ่อนคลายและกิจกรรมทางเศรษฐกิจเริ่มกลับมาดำเนินการได้ตามลำดับ และ 3.แนวโน้มการอ่อนค่าของค่าเงินบาท ส่งผลต่อต้นทุนการผลิตและขนส่ง อย่างไรก็ตาม สินค้าในหมวดอาหารสดบางชนิด โดยเฉพาะ ข้าว ผักสดและผลไม้สด ยังคงมีแนวโน้มต่ำกว่า ปีก่อน และมีโอกาสผันผวนตามสภาพอากาศและภัยธรรมชาติ ขณะที่สถานการณ์โควิดยังคงเป็นความเสี่ยงที่เป็นตัวแปรสำคัญของการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจที่ต้องเฝ้าระวังและส่งผลต่อเงินเฟ้ออย่างมีนัยสำคัญ ดังนั้น สนค.ได้คาดการณ์อัตราเงินเฟ้อในปี 64 โดยอัตราเงินเฟ้อปี 64 จะเฉลี่ยอยู่ที่ร้อยละ 0.8 – 1.2 ซึ่งมีปัจจัยสมมุติฐานประกอบด้วยจีดีพีของประเทศเป็นบวกร้อยละ 1.5-2.5 อัตราแลกเปลี่ยน 30.0-32.0 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐ ราคาน้ำมันจะอยู่ที่ 60-70 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล แต่ในส่วนของราคาน้ำมันอาจจะต้องมีการติดตามดูสถานการณ์หลังจากนี้อีกครั้งว่าจะราคาในตลาดโลกจะปรับเพิ่มขึ้นไปอีกหรือไม่และจะมีผลต่ออัตราเงินเฟ้อในช่วงเวลาที่เหลือของปีนี้หรือไม่อย่างไร.-สำนักข่าวไทย