กรุงเทพฯ 14 ก.ย. – กรมชลประทาน แจ้งเตือนระดับน้ำในแม่น้ำเจ้าพระยาเพิ่มสูงขึ้น หลังมีฝนตกหนักทางตอนบน คาดจะมีปริมาณน้ำไหลผ่านที่ จ.นครสวรรค์ ในเกณฑ์ 1,800-1,900 ลบ.ม./วินาที จำเป็นต้องปรับการระบายน้ำผ่านเขื่อนเจ้าพระยา ในเกณฑ์ไม่เกิน 1,500 ลบ.ม./วินาที จะส่งผลกระทบต่อพื้นที่ลุ่มต่ำบางแห่ง พร้อมประสานจังหวัดแจ้งเตือนประชาชนแล้ว

นายประพิศ จันทร์มา อธิบดีกรมชลประทาน เปิดเผยว่า ฝนที่ตกหนักในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา ในพื้นที่ภาคเหนือตอนล่าง และภาคกลาง ส่งผลให้มีน้ำท่าไหลหลากลงสู่แม่น้ำสายหลักต่างๆ ก่อนจะไหลลงสู่แม่น้ำเจ้าพระยา ทำให้ระดับน้ำเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง คาดการณ์ว่าจะมีปริมาณน้ำไหลผ่านสถานีวัดน้ำ C.2 จังหวัดนครสวรรค์ เพิ่มขึ้นในเกณฑ์ประมาณ 1,800-1,900 ลูกบาศก์เมตร/วินาที มีการตัดยอดน้ำเข้าระบบชลประทานทั้ง 2 ฝั่ง รวม 393 ลูกบาศก์เมตร/วินาที และควบคุมปริมาณน้ำไหลผ่านเขื่อนเจ้าพระยา ในเกณฑ์ไม่เกิน 1,500 ลูกบาศก์เมตร/วินาที เนื่องจากมีปริมาณน้ำท่าตามธรรมชาติที่เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว จึงจำเป็นต้องปรับการระบายน้ำไหลผ่านเขื่อนเจ้าพระยาในเกณฑ์ดังกล่าว จะส่งผลให้ระดับน้ำด้านท้ายเขื่อนเจ้าพระยาเพิ่มสูงขึ้นจากปัจจุบัน โดยเฉพาะบริเวณที่ลุ่มต่ำริมแม่น้ำน้อย ในพื้นที่ตำบลบ้านกระทุ่ม ตำบลหัวเวียง อำเภอเสนา และตำบลท่าดินแดง อำเภอผักไห่ จังหวัดพระนครศรีอยุธยา จะเพิ่มสูงขึ้นจากปัจจุบันประมาณ 0.75 เมตร ในช่วงวันที่ 15-18 กันยายน 2564 กรมชลประทานจะบริหารจัดการน้ำเต็มศักยภาพของพื้นที่ โดยมิให้มีผลกระทบต่อพื้นที่การเกษตร หากมีปริมาณน้ำหลากเพิ่มขึ้นที่จะส่งผลให้มีปริมาณน้ำไหลผ่านเขื่อนเจ้าพระยามากกว่า 1,500 ลูกบาศก์เมตร/วินาที จะแจ้งให้ทราบต่อไป
ทั้งนี้ ได้สั่งการให้โครงการชลประทานในพื้นที่ลุ่มน้ำเจ้าพระยา ประสานแจ้งไปยังผู้ว่าราชการจังหวัดและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อประชาสัมพันธ์แจ้งเตือนประชาชนให้ทราบถึงสถานการณ์น้ำแล้ว จึงขอให้ประชาชนติดตามสถานกาณ์น้ำในระยะนี้อย่างใกล้ชิด หากต้องการความช่วยเหลือ ติดต่อได้ที่โครงการชลประทานใกล้บ้าน หรือโทร.สายด่วนกรมชลประทาน 1460 ได้ตลอดเวลา. – สำนักข่าวไทย