กรุงเทพฯ 25 ส.ค. – ตลาดหลักทรัพย์ฯ จัดงาน Thailand Focus 2021 ภายใต้แนวคิด “Thriving in the Next Normal” นำภาครัฐและเอกชน ชูศักยภาพตลาดทุนไทยแก่ผู้ลงทุนสถาบันทั่วโลก 25 – 27 สิงหาคมนี้
นายภากร ปีตธวัชชัย กรรมการและผู้จัดการ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย กล่าวว่า งาน Thailand Focus ในปีนี้จัดต่อเนื่องเป็นครั้ง ที่15 ภายใต้แนวคิด “Thriving in the Next Normal” โดยนำเสนอศักยภาพ ความแข็งแกร่ง และความพร้อมของตลาดทุนและเศรษฐกิจไทยภายใต้วิถีธุรกิจยุคใหม่ แม้ขณะนี้ทั่วโลกยังเผชิญกับการแพร่ระบาดของ COVID-19 แต่ตลาดทุนไทยยังเดินหน้าก้าวผ่านสถานการณ์ความไม่แน่นอน
ทั้งนี้เกือบสองปีที่เกิดสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด -19 แต่ในทุกวิกฤตย่อมมีโอกาสตลาดทุนไทยได้พิสูจน์ความคงทนด้วยการฟื้นตัวอย่างรวดเร็วจากการระบาดหลายระลอก ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ยังคงประสบความสำเร็จ โดย SET เป็นหนึ่งในแหล่ง IPO ที่ได้รับความนิยมอย่างมาก ในปี 2020 มูลค่าของ IPO ของเราทะลุ 5,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ และได้รับการจัดอันดับใน 10 อันดับแรกของโลก, 5 อันดับแรกของเอเชีย และเป็นอันดับ 1 ของอาเซียนในช่วงครึ่งแรกของปีนี้ มีการนำเสนอขายหุ้นต่อสาธารณะเป็นครั้งแรกอย่างคึกคัก โดยมูลค่าหุ้นที่นำออกมาเสนอขายพุ่งขึ้นจนถึงระดับ 3,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ไปแล้ว
ขณะที่ SET เป็นตลาดหลักทรัพย์ที่มีสภาพคล่องสูงสุดในบรรดาตลาดหลักทรัพย์ในอาเซียนด้วยกัน มูลค่าการซื้อขายต่อวันพุ่งขึ้นมากกว่าสามพันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ต่อวันในปีนี้ จากเดิม 2.2 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ของปีที่แล้ว อันเนื่องมาจากฐานของผู้ลงทุนที่มีความหลากหลายของตลาดหลักทรัพย์ไทย และมีการจดทะเบียนเข้าตลาดหุ้นของบริษัทต่าง ๆ อย่างต่อเนื่อง
นอกจากนี้ บริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยจำนวนไม่น้อยเป็นผู้นำในการดำเนินนโยบายพัฒนาอย่างยั่งยืน รวมทั้งได้รับรางวัลและคำชมเชยหลากหลาย บริษัทที่จดทะเบียนใน SET นั้นได้รับเลือกให้เข้าไปเป็นปัจจัยหนึ่งในดัชนีความยั่งยืนดาวโจนส์ หรือ Dow Jones Sustainability Indices (DJSI) นับเป็นจำนวนสูงสุดในอาเซียน และเมื่อเร็ว ๆ นี้ ประเทศไทยได้รับการจัดอันดับให้เป็นอันดับ 1 ในบรรดาประเทศอาเซียนที่สามารถบรรลุ เป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน ของสหประชาชาติ (UN SDGs)
ทั้งนี้ SET ได้มุ่งสู่การเปลี่ยนผ่านที่ราบรื่นไปสู่ “next normal” หรือยุคหลังการระบาดของโควิด-19 โดยการรับเอาเทคโนโลยีดิจิทัลใหม่ ๆ เข้ามาใช้ รวมทั้งเปิดให้ผู้ลงทุนสามารถเชื่อมโยงได้กับตลาดทุนระดับโลกต่าง ๆ มากขึ้น เพื่อสร้างความแข็งแกร่งเพิ่มความสามารถในการแข่งขันในด้านต่อไปนี้
- สำหรับแพลตฟอร์มข้อมูลการพัฒนาแบบยั่งยืน (ESG data platform) SET ได้พัฒนาแพลตฟอร์มการเปิดเผยข้อมูลออนไลน์ ซึ่งมีการจัดสร้างรูปแบบข้อมูลทั้งหลายอยู่เพื่อแสดงและเปรียบเทียบข้อมูลด้านความยั่งยืนสำหรับนักลงทุนและผู้ใช้อื่น ๆ อันเป็นเพิ่มมูลค่าให้แก่การเปิดเผยข้อของบริษัทที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์
- ด้านแพลตฟอร์ม Golbal Product หรือ พัฒนาโครงสร้างพื้นฐานดิจิทัลสำหรับตลาดทุนไทย เพิ่มผลิตภัณฑ์ที่เชื่อมโยงตลาดทุนโลก SET ได้พัฒนาการออกผลิตภัณฑ์และแพลตฟอร์มการซื้อขายเพื่อเชื่อมโยงโอกาสการลงทุนในตลาดนอกประเทศโดยผ่านกองทุนรวมดัชนี (Index Fund) และ ตราสารแสดงสิทธิการฝากหลักทรัพย์ต่างประเทศ (Depositary Receipt หรือ DR) แพลตฟอร์มนี้จะทำให้ทั้งตัวกลางและลูกค้าสามารถนำเสนอผลิตภัณฑ์และลงทุนในสินทรัพย์ต่างประเทศโดยผ่านตลาดภายในประเทศ
- สำหรับโครงสร้างพื้นฐานดิจิทัล SET จะเดินหน้าปรับปรุงโครงสร้างพื้นฐานดิจิทัลในตลาดหลักทรัพย์ด้วยการเพิ่มบริการใหม่ ๆ เราได้ร่วมมือกับผู้เล่นรายสำคัญ เพื่อสามารถให้บริการได้ดีกว่าเดิมโดยผ่านบริการออนไลน์ อย่างเช่น การประชุมผู้ถือหุ้น ผ่านสื่ออิเล็กทรอนิกส์ หรือ e-AGM , การออกเสียงในการประชุมผู้ถือหุ้นออนไลน์ หรือ e-proxy voting และ การทำความรู้จักลูกค้าผ่านทางอิเล็กทรอนิกส์ หรือ e-KYC ในกระบวนการนี้ SET จะนำเอาแพลตฟอร์มสินทรัพย์ดิจิทัลมาใช้ในปี 2022 ซึ่งจะทำให้บรรดาธุรกิจใหม่และนักลงทุนสามารถเข้าถึงการลงทุนทางเลือกหลากประเภท
อย่างไรก็ดี สามยุทธศาสตร์หลักที่ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยใช้เพื่อต่อยอดความสำเร็จของปัจจุบัน คือ การดำเนินธุรกิจและการลงทุนแบบยั่งยืน, การใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยีดิจิทัล และการเชื่อมโยงในประเทศเข้ากับภูมิภาคและระดับโลก . – สำนักข่าวไทย