fbpx

สบน. ย้ำรัฐบาลกู้เงินภายใต้ต้นทุนที่เหมาะสม

กรุงเทพฯ 12 ก.ค. – สบน. ย้ำรัฐบาลกู้เงินภายใต้ต้นทุนที่เหมาะสมและความเสี่ยงที่ยอมรับได้


นางแพตริเซีย มงคลวนิช ผู้อำนวยการสำนักงานบริหารหนี้สาธารณะชี้แจงตามที่นายธีระชัย ภูวนารถนรานุบาล ได้มีความสงสัยเกี่ยวกับการกู้เงินของสำนักงานบริหารหนี้สาธารณะและต้นทุนการกู้เงินของรัฐบาล โดยแสดงความคิดเห็นผ่าน Facebook ว่า สำนักงานบริหารหนี้สาธารณะ (สบน.) ใช้พันธบัตรรัฐบาลเป็นเครื่องมือการระดมทุนหลัก เพื่อส่งเสริมการพัฒนาตลาดตราสารหนี้ให้เป็นแหล่งระดมทุนที่ยั่งยืน ควบคู่กับการกระจายการกู้เงินผ่านเครื่องมืออื่น ได้แก่ ตั๋วเงินคลัง ตั๋วสัญญาใช้เงิน สัญญากู้ยืมเงิน พันธบัตรออมทรัพย์ และพันธบัตรเพื่อความยั่งยืน (Sustainability Bond) เพื่อดูแลให้สภาพคล่องในตลาดตราสารหนี้มีเพียงพอสำหรับการรองรับการกู้เงินจากทั้งภาครัฐและเอกชน และป้องกันไม่ให้ความต้องการกู้เงินที่เพิ่มขึ้นของรัฐบาลก่อให้เกิดความผันผวนในตลาดการเงินซึ่งอาจทำให้ต้นทุนการกู้เงินเพิ่มขึ้น

การออกตราสารหนี้ของรัฐบาลเป็นการดำเนินการภายใต้กฎกระทรวง กำหนดหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขในการออก การซื้อ การโอน และการใช้ตราสารหนี้เป็นหลักประกัน พ.ศ. 2550 โดยการออกพันธบัตรรัฐบาลจะดำเนินการผ่านการประมูลตราสารหนี้ด้วยวิธีอิเล็กทรอนิกส์ (e-Auction)โดยจะพิจารณาจากผู้ที่เสนออัตราผลตอบแทนต่ำที่สุดเป็นหลัก ซึ่งนักลงทุนที่เข้าร่วมการประมูล ได้แก่ ผู้ค้าหลักสำหรับธุรกรรมประเภทซื้อขายขาดของกระทรวงการคลัง(Primary Dealer) ธนาคารพาณิชย์ บริษัทประกันชีวิต กองทุนบำเหน็จบำนาญข้าราชการ สำนักงานประกันสังคมสหกรณ์ ตลอดจนนักลงทุนต่างชาติ สำหรับการออกพันธบัตรออมทรัพย์จะดำเนินการผ่านการจำหน่ายโดยตรงให้กับนักลงทุนรายย่อย สภากาชาดไทย มูลนิธิ สมาคม สหกรณ์ วัด สถานศึกษาของรัฐ โรงพยาบาลของรัฐ นิติบุคคลอื่นที่ไม่มีวัตถุประสงค์ในการแสวงหากำไร และประชาชนทั่วไปเพื่อส่งเสริมการออมของนักลงทุนรายย่อย และการออกตั๋วสัญญาใช้เงินและการทำสัญญาเงินกู้กับธนาคารพาณิชย์จะดำเนินการผ่านการเสนอประมูลอัตราผลตอบแทนหรือวิธีการเสนอซื้อโดยพิจารณาจากอัตราดอกเบี้ยที่ต่ำที่สุดเช่นกัน


สำหรับการบริหารจัดการต้นทุนการกู้เงินสบน.ได้กำหนดกลยุทธ์การบริหารหนี้สาธารณะระยะปานกลาง (Medium Term Debt Strategy: MTDS) โดยครอบคลุมความเสี่ยง 3 ด้าน ได้แก่ ด้านอัตราแลกเปลี่ยน  ด้านอัตราดอกเบี้ย และด้านการปรับโครงสร้างหนี้เพื่อบริหารต้นทุนการกู้เงินของรัฐบาลให้มีเสถียรภาพ มีความยืดหยุ่นตามภาวะตลาดการเงินที่ผันผวน ตลอดจนสามารถทำให้ Portfolio หนี้ของรัฐบาลไม่มีความเสี่ยงในการปรับโครงสร้างหนี้และการผิดนัดชำระหนี้ ซึ่งเป็นการสร้างความมั่นคงทางการเงินให้กับประเทศ

นอกจากนี้ สบน. ได้ปรับกลยุทธ์การกู้เงินของรัฐบาลให้สอดคล้องกับสภาวะตลาดอย่างต่อเนื่องและสม่ำเสมอ โดยนับตั้งแต่ปีงบประมาณ พ.ศ. 2563 สบน. ได้เพิ่มสัดส่วนการออกตราสารหนี้ระยะสั้น ได้แก่   ตั๋วเงินคลังอายุ 6 เดือน และพันธบัตรรัฐบาลอายุ 3 ปี ให้ความสอดคล้องกับความต้องการของนักลงทุนและลดต้นทุนการกู้เงินของรัฐบาล โดยร่วมมือกับธนาคารแห่งประเทศไทยเพื่อหลีกเลี่ยงไม่ให้การระดมทุนของรัฐบาลกระจุกตัวอยู่ในพันธบัตรรัฐบาลเพียงเครื่องมือเดียวหรือกระจุกตัวในรุ่นอายุใดอายุหนึ่ง เพื่อป้องกันไม่ให้การระดมทุนของภาครัฐไปแย่งเงินลงทุนจากภาคเอกชน (Crowding-Out-Effect) และเสริมสร้างสภาพคล่องในตลาดการเงิน ดังนั้นภายหลังจากการดำเนินการตามกลยุทธ์ดังกล่าวส่งผลให้ต้นทุนเฉลี่ยของหนี้รัฐบาลปรับลดลงจากร้อยละ 3.34 ในเดือนมกราคม 2562 ลงมาอยู่ที่ร้อยละ 2.46 ในเดือนพฤษภาคม 2564

สบน.ขอย้ำว่า สบน. ได้วางแผนและดำเนินการกู้เงินโดยใช้เครื่องมือทางการเงินที่หลากหลายให้สอดคล้องกับภาวะตลาด ความต้องการของนักลงทุน โดยคำนึงถึงต้นทุนที่เหมาะสมและความเสี่ยงที่ยอมรับได้เป็นสำคัญอีกทั้งได้วางแผนการบริหารจัดการหนี้สาธารณะในภาพรวม อาทิ การบริหารความเสี่ยง การปรับโครงสร้างหนี้ และการชำระหนี้ควบคู่กันไปด้วยดังนั้นขอให้ประชาชนมั่นใจว่า สบน.ได้บริหารจัดการหนี้สาธารณะอย่างรอบคอบภายใต้ต้นทุนที่เหมาะสมและกรอบวินัยทางการคลัง. – สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

รวบผู้ต้องสงสัยคดีฆ่าหั่นศพที่นนทบุรี นำตัวเข้าเซฟเฮาส์

รวบตัวชายไทย อายุประมาณ 35-40 ปี ต้องสงสัยคดีฆ่าหั่นศพ ภายในซอยจัดสรรสวิง 2 ถนนบ้านกล้วย-ไทรน้อย ต.พิมลราช อ.บางบัวทอง จ.นนทบุรี ตำรวจนำตัวเข้าเซฟเฮาส์ อยู่ระหว่างสอบสวนและรวบรวมพยานหลักฐาน

ผู้ว่าการ ธปท.เตือน ครม. หวั่นดิจิทัลวอลเล็ตก่อหนี้จำนวนมาก

ทำเนียบฯ 24 เม.ย.- ผู้ว่าการ ธปท. ทำหนังสือถึง ครม. เตือนเดินหน้าดิจิทัลวอลเล็ต 10,000 บาท หวั่นก่อหนี้จำนวนมาก นายเศรษฐพุฒิ สุทธิวาทนฤพุฒิ ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ได้ทำหนังสือถึงสำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรี ลงวันที่ 22 เมษายน 2567 เพื่อเสนอความเห็นประกอบการพิจารณาในการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) วันที่ 23 เม.ย.2567 มองว่า โครงการเติมเงินดิจิทัลวอลเล็ต 10,000 บาท เป็นโครงการขนาดใหญ่ของประเทศ  ต้องใช้เงินจำนวนมาก อาจก่อให้เกิดภาระหนี้ผูกพันต่อรัฐบาลในอนาคตดังนี้ 1.ความจำเป็น โครงการเติมเงินดิจิทัลวอลเล็ต 10,000 บาท และผลกระทบต่อเสถียรภาพทางการคลังของประเทศ ควรดูแลครอบคลุมเฉพาะกลุ่มเป้าหมาย  เพื่อเป็นการแบ่งเบาภาระค่าครองชีพ ช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจอย่างมีประสิทธิผลคุ้มค่า และใช้งบประมาณลดลง  โดยเฉพาะกลุ่มเปราะบาง ยังไม่ฟื้นตัวเต็มที่ เช่น กลุ่มผู้มีรายได้น้อย หรือผู้ถือบัตรสวัสดิการฯ 15 ล้านคน ซึ่งดำเนินการได้ทันที และใช้งบประมาณเพียง 150,000 ล้านบาท และควรทำแบบแบ่งเป็นระยะ (phasing) เพื่อลดผลกระทบต่อเสถียรภาพการคลัง  […]

“สารวัตรแจ๊ะ” ยื่นฟ้องหมิ่น “ทนายรัชพล” กล่าวหาจับแพะติดคุกฟรีปีกว่า

“สารวัตรแจ๊ะ” พร้อมทนายความ ยื่นฟ้องหมิ่นประมาททนายดัง และฟ้องแพ่งเรียกค่าเสียหาย 5 ล้านบาท ยันไม่ได้นําตัวไปเซฟเฮาส์ ด้านทนายเผยพบหลักฐานทนายคู่กรณีบีบผู้เสียหายกลับคําให้การ แบ่งเงินคนละครึ่ง

ข่าวแนะนำ

คดีสะเทือนขวัญ ฆ่าหั่นศพ “ยากูซ่า” จ.นนทบุรี

คดีสะเทือนขวัญ พบชิ้นส่วนมือ ในพื้นที่ อ.บางบัวทอง จ.นนทบุรี ล่าสุดตำรวจจับกุมหนึ่งในผู้ต้องหาได้แล้ว และทราบว่าทั้งผู้ตายและผู้ลงมือฆ่าหั่นศพ เป็นแก๊งยากูซ่าชาวญี่ปุ่น

ชาวบ้านร้องโรงงานเก็บสารเคมีเร่งเยียวยาเหตุไฟไหม้

ชาวบ้านที่เดือดร้อนจากเหตุไฟไหม้โกดังเก็บสารเคมีอุตสาหกรรม จ.ระยอง เรียกร้องโรงงานช่วยเหลือ บอกน้ำสักขวดก็ไม่ได้

แบงก์ชาติ​ส่งหนังสือให้ทบทวนดิจิทัลวอลเล็ต​​ ไม่ทำสะดุด

ปลัดคลัง ระบุแบงก์ชาติ​ส่งหนังสือถึง ครม.ทบทวนดิจิทัลวอลเล็ต​​ ไม่ทำให้สะดุด ชี้เป็นข้อเสนอเก่า​​ เดินหน้าตามแผนเดิม​ 

สถานการณ์ชายแดนไทย-เมียนมา เริ่มมีสัญญาณที่ดี-การสู้รบเงียบสงบ

สถานการณ์ชายแดนไทย-เมียนมา ด้าน อ.แม่สอด จ.ตาก เริ่มมีสัญญาณที่ดีขึ้น หลังการสู้รบเงียบสงบเกินกว่า 24 ชั่วโมง คาดมีการเจรจากันของกลุ่มต่อต้านและทางการเมียนมา หยุดยิงชั่วคราวเพื่อลดผลกระทบ