“สุริยะ” สั่งปิดหมิงตี้ พร้อมเร่งเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบ

กรุงเทพฯ 8 ก.ค. – “สุริยะ” เผยสั่งปิดหมิงตี้แล้วและไม่อนุญาตให้สร้างโรงงานใหม่ในพื้นที่ เร่งกำจัดสารสไตรีน 600 ตัน ภายใน 3 วัน พร้อมตั้งจุดรับเรื่องร้องทุกข์ 3 แห่ง

นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม เปิดเผยแนวทางการดำเนินงานของกระทรวงอุตสาหกรรมและแนวทางเยียวยาประชาชน กรณีเกิดเหตุเพลิงไหม้ บริษัทหมิงตี้ เคมีคอล จำกัด และบริษัทฟลอรอลเมนูแฟคเจอริ่งกรุ๊ป โดยกรณีโรงงานหมิงตี้เคมีคอล จากการตรวจสอบพบว่า ว่ายังมีสารสไตลีนโมโนเมอร์ตกค้างอยู่ประมาณ 600 ตัน ซึ่งขณะนี้ได้รับความร่วมมือจากบริษัท ปตท. จำกัด และบริษัท ดาว เคมีคอล ประเทศไทย จำกัด เติมสารดีฮาร์(DEHA) เพื่อลดปฏิกิริยาทางเคมีให้มีสภาพเสถียรและคาดว่าจะสามารถขนย้ายออกเพื่อไปหมดภายใน 3 วัน เพื่อนำไปกำจัดตามหลักวิชาการต่อไป พร้อมระบุ ได้สั่งปิดโรงงานหมิงตี้แล้ว และขอยืนยันว่าจะไม่มีการสร้างโรงงานใหม่ในพื้นที่เดิม หากบริษัทจะดำเนินการต่อไปก็ต้องย้ายไปอยู่ในพื้นที่นิคมอุตสาหกรรม จะไม่มีการก่อสร้างโรงงานที่เป็นอันตรายในพื้นที่ชุมชน


ส่วนการตรวจสอบคุณภาพอากาศล่าสุดพบว่าอยู่ในระดับที่ปลอดภัยต่อระบบทางเดินหายใจของประชาชนโดยรอบ สภาพอากาศอยู่ในช่วง 0.42 – 0.83 ppm (ส่วนในล้านส่วน) ซึ่งไม่เกินมาตรฐานบรรยากาศตามที่กำหนด (20 ppm) / ส่วนคุณภาพน้ำ พบการปนเปื้อนของสารสไตรีน ที่เกิดจากการดับเพลิงไหลลงสู่แหล่งน้ำบริเวณรอบโรงงาน ซึ่งตามหลักวิชาการจะสามารถสลายตัวได้เองภายใน 30-45 วัน อย่างไรก็ตามขอให้งดใช้น้ำคลองเพื่อการอุปโภคบริโภคในช่วงเวลานี้เป็นการชั่วคราว

ขณะที่แนวทางการเยียวยาประชาชน กระทรวงฯ ได้สั่งให้โรงงานดำเนินการตาม พ.ร.บ.โรงงาน มาตรา 39 วรรค 1 เพื่อให้มีมาตรการแก้ไขปัญหาที่ประชาชนจะต้องได้รับอย่างเร่งด่วน โดยได้สั่งการให้ตั้งจุดรับเรื่องร้องทุกข์ 3 แห่ง  ประกอบด้วย 1. หน้าโรงงานหมิงตี้  2. สถานีตำรวจบางแก้ว  และ 3. สำนักงานอุตสาหกรรมจังหวัดสมุทรปราการ โดยกระทรวงอุตสาหกรรม รับเป็นหน่วยงานกลางทำหน้าที่ในการประสาน เพื่อเยียวยาประชาชนต่อไป


ทั้งนี้เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดเหตุลักษณะนี้ขึ้นอีก จึงได้ให้ทางกรมโรงงานอุตสาหกรรมแจ้งให้โรงงานปฏิบัติตามแผนบริหารความเสี่ยงอย่างเคร่งครัดโดยเฉพาะกลุ่มโรงงานเคมีภัณฑ์ 446 โรงงาน  ส่วนระยะยาว  ได้กำชับให้ กรอ.และสำนักงานอุตสาหกรรมจังหวัด จัดลำดับโรงงานที่มีความเสี่ยงและตรวจสอบอย่างเป็นระบบ โดย กรอ.ได้นำระบบอิเล็กทรอนิกส์มาใช้เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพ และพัฒนาแอพพลิเคชั่นที่เรียกว่า Safety Application เพื่อใช้สำหรับโรงงานที่มีความเสี่ยงสูง เช่น มีการใช้สารเคมีอันตราย เพื่อเป็นการป้องกันการรั่วไหลของสารเคมี หรือ วิธีปฏิบัติการดำเนินการต่างๆ ที่อาจก่อให้เกิดอันตรายได้

ด้านตัวแทนบริษัทหมิงตี้ เผย ทางบริษัทยืนยันจะรับผิดชอบความเสียหายที่เกิดขึ้นกับประชาชนทุกกรณี โดยทางบริษัทจะตั้งจุดให้ประชาชนยื่นเรื่องร้องเรียน พร้อมระบุความเสียหายที่เกิดขึ้น เพื่อรับเงินเยียวยา แต่ทั้งนี้ต้องรอให้ทางบริษัทติดต่อกับบริษัทประกันภัยว่าประชาชนที่ได้รับความเสียหายจะต้องนำหลักฐานอะไรไปยื่นบ้าง  ยืนยันจะรับผิดชอบความเสียหายทุกส่วน

ขณะที่ นายประกอบ วิวิธจินดา อธิบดีกรมโรงงานอุตสาหกรรม กล่าวว่า ถึงแม้จะมีคำสั่งปิดกิจการบริษัท หมิงตี้ฯ ไปแล้วแต่ไม่ใช่การถอนใบอนุญาต ที่ผ่านมาโรงงานหมิงตี้ฯได้ก่อตั้งก่อนที่จะมีกฎหมายเรื่องสิ่งแวดล้อมทำให้ไม่อยู่ในเกณฑ์ทำรายงานผลกระทบสิ่งแวดล้อม(EIA) และโรงงานนี้ได้มีการขอขยายโรงงานเมื่อพ.ค. 2560 ในพื้นที่เดิมแต่ปรับปรุงประสิทธิภาพการผลิตให้ดีขึ้นมีกำลังผลิตสูงสุดเป็น 40,000 ตันและกรณีที่ระบุว่าพ.ร.บ.โรงงานที่ปรับปรุงใหม่จะยกเว้นการต่ออายุใบอนุญาตที่ทำให้การดูแลโรงงานอ่อนลงนั้นยืนยันว่าไม่จริง แต่ตรงกันข้ามที่เข้มงวดขึ้นเพราะต้องประเมินตนเองด้วยและยังประเมินผลกระทบความเสี่ยงตามเงื่อนไข และโรงงานประเภทเดียวกันกับหมิงตี้ฯทั่วประเทศก็มีอีกเพียง 1 แห่งที่ระยองของไออาร์พีซีเท่านั้น


ส่วนกรณีไฟไหม้โกดังเก็บสินค้าของ บริษัท ฟลอรอลแมนูแฟคเจอริ่งกรุ๊ป ภายในนิคมอุตสาหกรรมลาดกระบัง โซน 3 ถนนฉลองกรุง เขตลาดกระบัง ทาง กนอ.ได้รายงานสถานการณ์เข้ามาว่าเพลิงได้ยุติลงในเวลาอันรวดเร็วในเวลา3ชั่วโมง โดยไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บและเสียชีวิต จากการรายงานเบื้องต้นทราบว่าเสียหายประมาณ 31 ล้านบาท สำหรับกรณีที่ปรากฎในตามข่าวในสื่อมวลชนเมื่อเช้านี้ที่มีน้ำเสียสีชมพูอยู่บริเวณรางน้ำฝนโดยรอบบริเวณโรงงาน ขอชี้แจงว่าน้ำดังกล่าวเกิดจากการดับเพลิงและยังอยู่ในบริเวณนิคมอุตสาหกรรมไม่ได้ระบายออกไปภายนอกและเป็นความรับผิดชอบของบริษัทฯ ที่ต้องเร่งบำบัดให้ได้ภายในพรุ่งนี้(9ก.ค.) . – สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

โค้งสุดท้ายเลือกตั้ง นายก อบจ.อุบลฯ เดือด ส่งท้ายปี

ใกล้เข้ามาทุกขณะสำหรับการเลือกตั้งนายก อบจ.อุบลราชธานี วันอาทิตย์ที่ 22 ธันวาคมนี้ ซึ่งถือเป็นสนามเลือกตั้งท้องถิ่นขนาดใหญ่ส่งท้ายปีนี้ การแข่งขันดุเดือดเกินคาด ผู้สมัครต่างเร่งหาเสียงกันอย่างเต็มที่ โดยมีผู้สมัคร 4 คน ลงชิงชัย ไปติดตามบรรยากาศโค้งสุดท้ายว่าใครจะเป็นผู้คว้าชัย

ทอ.ส่ง F-16 ขึ้นบินป้องน่านฟ้า หลังมีอากาศยานไม่ทราบฝ่าย เหนือชายแดนไทย-เมียนมา

กองทัพอากาศส่งเครื่องบินขับไล่ F-16 ขึ้นบิน เพื่อพิสูจน์ฝ่ายและสกัดกั้นอากาศยานไม่ทราบฝ่าย บริเวณแนวชายแดนไทย-เมียนมา จ.ตาก

อุตุฯ เผยอีสาน-เหนือ อากาศหนาว กทม.อุณหภูมิลดลงเล็กน้อย

กรมอุตุฯ เผยภาคอีสาน ภาคเหนือ มีอากาศเย็นถึงหนาว ส่วนภาคกลาง ภาคตะวันออก ภาคใต้ตอนบน มีอากาศเย็นในตอนเช้า ส่วนกรุงเทพฯ-ปริมณฑล อุณหภูมิลดลงเล็กน้อย ขอให้ประชาชนบริเวณดังกล่าวดูแลรักษาสุขภาพเนื่องจากสภาพอากาศหนาวเย็น

lightened Christmas tree in front of U.S. Capitol

รู้จัก “ชัตดาวน์” ของสหรัฐและผลกระทบ

วอชิงตัน 20 ธ.ค.- หน่วยงานจำนวนมากของรัฐบาลสหรัฐเสี่ยงต้องปิดทำการชั่วคราว หรือที่เรียกว่า กัฟเวิร์นเมนต์ ชัตดาวน์ (government shutdown) หลังผ่านพ้นเที่ยงคืนวันนี้ (20 ธันวาคม) ตามเวลาสหรัฐ หากรัฐสภาไม่สามารถผ่านร่างงบประมาณฉบับใหม่ได้ทันเวลา หลังจากสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐลงมติไม่เห็นชอบร่างงบประมาณฉบับใหม่เมื่อวานนี้ สาเหตุที่เสี่ยงชัตดาวน์ ปกติแล้วรัฐสภาสหรัฐ ซึ่งประกอบด้วยสภาผู้แทนราษฎรและวุฒิสภาจะต้องจัดสรรงบประมาณให้แก่หน่วยงานรัฐบาลกลางทั้งหมด 438 แห่งก่อนวันที่ 1 ตุลาคมของทุกปี แต่ที่ผ่านมาสมาชิกรัฐสภามักทำไม่ได้ตามกำหนดเวลา และมักผ่านร่างงบประมาณชั่วคราวเพื่อให้หน่วยงานรัฐบาลสามารถดำเนินการได้ต่อไปในระหว่างที่สมาชิกรัฐสภาหารือกันเพื่อผ่านร่างงบประมาณจริง ร่างงบประมาณชั่วคราวฉบับปัจจุบันจะหมดอายุเมื่อเข้าสู่เช้าวันเสาร์ตามเวลาสหรัฐ สมาชิกรัฐสภาพรรครีพับลิกันและพรรคเดโมแครตเตรียมร่างกฎหมายที่จะขยายเวลาไปจนถึงวันที่ 14 มีนาคม 2568 แต่นายโดนัลด์ ทรัมป์ ว่าที่ประธานาธิบดีเรียกร้องให้สมาชิกรัฐสภาพรรครีพับลิกันลงมติไม่เห็นด้วย และเมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐลงมติไม่เห็นชอบร่างงบประมาณที่เสนอใหม่ ดังนั้นหากรัฐสภาไม่สามารถผ่านร่างงบประมาณฉบับใหม่ได้ก่อนที่ร่างงบประมาณชั่วคราวฉบับปัจจุบันจะหมดอายุ ก็จะเกิดการชัตดาวน์ เพดานหนี้ที่ทรัมป์ต้องการให้แก้ นายทรัมป์ยังต้องการให้สมาชิกรัฐสภาแก้ปัญหาเรื่องการกำหนดเพดานหนี้ประเทศให้รัฐบาลสามารถกู้ยืมได้มากขึ้น ก่อนที่เขาจะสาบานตนรับตำแหน่งประธานาธิบดีในวันที่ 20 มกราคม 2568 รัฐสภาสหรัฐเป็นผู้กำหนดเพดานหนี้สาธารณะที่อนุญาตให้รัฐบาลก่อหนี้ แต่เนื่องจากรัฐบาลมักใช้จ่ายมากกว่ารายได้ที่ได้จากการจัดเก็บภาษี สมาชิกรัฐสภาจึงต้องคอยแก้ปัญหานี้เป็นครั้งคราว รัฐสภาสหรัฐกำหนดเพดานหนี้สาธารณะครั้งแรกในปี 2482 โดยกำหนดไว้ที่ 45,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 1.55 ล้านล้านบาทในปัจจุบัน) และนับจากนั้นเป็นต้นมาได้ขยายเพดานหนี้แล้วทั้งหมด 103 […]

ข่าวแนะนำ

ฟรีคอนเสิร์ต “มหานครคัลเลอร์ฟูลปาร์ตี้ 2025” ส่งสุขรับปีใหม่

ส่งความสุขรับปีใหม่ กับฟรีคอนเสิร์ต “มหานครคัลเลอร์ฟูลปาร์ตี้ 2025” ศิลปินลูกทุ่งเกือบ 100 ชีวิต ร่วมโชว์จัดเต็ม

เลือกตั้งนายก อบจ.อุบลฯ “กานต์” ส่อเข้าป้าย

เลือกตั้งนายก อบจ.อุบลราชธานี “กานต์” หมายเลข 1 จากเพื่อไทย ส่อเข้าป้าย ด้าน ปชน. แถลงยอมรับยังไม่เป็นที่ไว้วางใจ ส่วนอุตรดิตถ์ “ชัยศิริ” อดีตนายก อบจ. ส่อเข้าวิน

เด้ง ตร.จราจร ปมคลิปรับเงินแลกไม่เขียนใบสั่ง

ผบก.ภ.จว.นนทบุรี สั่งย้าย “รอง สว.จร.สภ.รัตนาธิเบศร์” เซ่นคลิปรับเงินแลกไม่ออกใบสั่ง พร้อมตั้งกรรมการสอบข้อเท็จจริงภายใน 3 วัน ด้านเจ้าตัวอ้างไม่เห็นเงินที่วางบนโต๊ะในตู้ควบคุมสัญญาณไฟจราจร