fbpx

กรมศุลกากรออกมาตรการด่วนช่วยผู้ประกอบการลดภาระ-เพิ่มสภาพคล่อง

กรุงเทพฯ 1 ก.ค. – กรมศุลกากร ออกมาตรการด่วนช่วยบรรเทาความเดือดร้อนของผู้ประกอบการจากโควิด-19 เพื่อลดภาระ เพิ่มสภาพคล่อง เปิดให้ยื่นขอทุเลาภาษี


ตามที่กรมศุลกากรได้ออกประกาศฯ ที่ 189/2560 ลงวันที่ 29 ธันวาคม 2560 ให้สามารถยื่นอุทธรณ์การประเมินอากรศุลกากรและภาษีมูลค่าเพิ่มได้ที่กรมศุลกากรจุดเดียวในทุกกรณี และเพื่อให้การขอทุเลาการเสียอากรเป็นไปด้วยความเรียบร้อยและเป็นมาตรฐานเดียวกันนั้น ได้กำหนดให้ต้องยื่นคำขอทุเลาการเสียอากรพร้อมหลักประกันอย่างใดอย่างหนึ่งหรือรวมกัน เป็นประกันการชำระเงินอากร ประกอบด้วย เงินสดหรือพันธบัตรรัฐบาล สมุดบัญชีเงินฝากประจำของธนาคารพาณิชย์ โฉนดที่ดิน หนังสือค้ำประกันการทุเลาการเสียอากรของธนาคารพาณิชย์ หนังสือประกันตนเอง และหลักทรัพย์หรือการประกันอย่างอื่น ๆ ซึ่งปลอดภาระผูกพัน โดยยื่นอย่างใดอย่างหนึ่งให้ครอบคลุมเงินอากรและเงินเพิ่มตามแบบแจ้งการประเมินอากรที่ค้างชำระ ซึ่งอาจทำให้ผู้ประกอบการมีความเดือดร้อน เพราะสภาวะเศรษฐกิจในช่วงการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19)

ดังนั้น เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนแก่ผู้นำของเข้าและผู้ส่งของออกที่ได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) และเพิ่มสภาพคล่องทางการเงิน กรมศุลกากรจึงได้มีประกาศกรมศุลกากร ที่ 103/2564 ลงวันที่ 1 กรกฎาคม 2564 เรื่อง หลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขการขอทุเลาการเสียอากรในสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) สำหรับผู้ที่ต้องการยื่นคำขอทุเลาการเสียอากร ตั้งแต่วันที่ 1 กรกฎาคม 2564 ถึงวันที่ 30 กันยายน 2564 ให้สามารถยื่นหนังสือประกันตนเองของนิติบุคคล หรือหนังสือค้ำประกันของธนาคารฉบับเดิม มาใช้เพิ่มเติมเพื่อเป็นหลักประกันการชำระอากรได้


นอกจากนี้ ยังออกระเบียบกรมศุลกากรว่าด้วยการงดหรือลดเบี้ยปรับ (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2564 สำหรับผู้นำเข้าหรือผู้ส่งออกที่ไม่เสียอากรภายในกำหนดโดยไม่มีเจตนาหลีกเลี่ยงอากร และได้นำเงินอากรที่ต้องเสียตามแบบแจ้งการประเมินอากร มาชำระต่อกรมศุลกากร ภายในวันที่ 1 มิถุนายน 2564 ถึงวันที่ 30 กันยายน 2564 โดยได้ประกาศ ณ วันที่ 28 มิถุนายน 2564 จะได้รับการงดเบี้ยปรับ ภายในระยะเวลาดังกล่าว ซึ่งทั้งหมดนี้จะเป็นการช่วยบรรเทาความเดือดร้อนให้แก่ผู้นำเข้าหรือผู้ส่งออกได้อีกทางหนึ่ง. – สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ชี้อิสราเอล-อิหร่านส่งสัญญาณหาทางถอยจากสงคราม

เยรูซาเล็ม 19 เม.ย.- สื่ออิสราเอลมองว่า การที่อิหร่านพยายามปฏิเสธว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในอิหร่านวันนี้ไม่ใช่การโจมตีแก้แค้นของอิสราเอล และการที่อิสราเอลยังคงนิ่งเฉยไม่ออกตัวว่าเป็นผู้กระทำ เป็นการส่งสัญญาณว่าทั้ง 2 ฝ่ายกำลังหาทางล่าถอยจากการทำสงครามในขณะที่นานาชาติกดดันให้ใช้ความอดกลั้น เว็บไซต์ไทมส์ออฟอิสราเอลรายงานว่า จนถึงขณะนี้ยังไม่มีการยืนยันจากทางการอิสราเอลว่า ได้โจมตีอิหร่านในเช้าวันนี้ ขณะที่สื่อทางการอิหร่านรายงานเพียงว่า มีการเปิดใช้งานระบบป้องกันภัยทางอากาศ และปฏิเสธรายงานข่าวเรื่องมีการโจมตีที่ตั้งทางทหารในเมืองอิสฟาฮาน ที่อยู่ห่างจากกรุงเตหะรานลงไปทางใต้ 315 กิโลเมตร โดยระบุว่าเหตุการณ์ปกติ แต่เจ้าหน้าที่อิสราเอลและสหรัฐที่ขอสงวนนามเผยกับสื่อในสหรัฐว่า เป็นฝีมือของอิสราเอล หนังสือพิมพ์นิวยอร์กไทมส์ของสหรัฐอ้างแหล่งข่าวอิหร่าน 3 คนว่า ฐานทัพอากาศในเมืองอิสฟาฮานถูกโจมตีแต่ไม่มีข้อมูลเรื่องความเสียหาย ไทมส์ออฟอิสราเอลมองว่า ลักษณะของการโจมตีอย่างจำกัด ซึ่งมีรายงานว่าเป็นการใช้โดรน ไม่ใช่ขีปนาวุธหรือปฏิบัติการโจมตีทางอากาศ ประกอบกับการที่อิสราเอลไม่ได้ยอมรับอย่างเป็นทางการ น่าจะเปิดทางให้รัฐบาลอิหร่านสามารถปฏิเสธเรื่องความจำเป็นที่จะต้องขู่โจมตีอิสราเอลเป็นครั้งที่ 2 หลังจากระดมยิงขีปนาวุธและโดรนมากกว่า 300 ลูกใส่อิสราเอลเมื่อเช้ามืดวันที่ 14 เมษายนตามเวลาอิสราเอล เป็นสัญญาณเบื้องต้นว่า ทั้ง 2 ประเทศอาจกำลังหาทางล่าถอยจากการทำสงคราม ก่อนหน้านี้มีการคาดการณ์กันอย่างกว้างขวางว่า อิสราเอลจะแก้แค้นอิหร่านตามที่แสดงท่าทีมาตลอดทั้งสัปดาห์ว่า จะไม่ยอมปล่อยให้อิหร่านโจมตีโดยไม่ตอบโต้ จุดกระแสวิตกว่า การโจมตีตอบโต้กันไปมาจะบานปลายกลายเป็นสงครามเต็มรูปแบบ อย่างไรก็ดี มีสัญญาณว่ากองกำลังป้องกันอิสราเอลได้ลดความุรนแรงของแผนการโจมตีตามที่นานาชาติกดดันให้ใช้ความอดกลั้น.-814.-สำนักข่าวไทย  

ผงะ! พบศพหนุ่มเมียนมาในแท็งก์น้ำ ดาดฟ้าหอพัก

ผงะ! พบศพหนุ่มเมียนมาสภาพเปลือย ในแท็งก์น้ำบนดาดฟ้าหอพัก ย่านมีนบุรี เสียชีวิตมาแล้ว 2 วัน คาดลงไปเล่นน้ำคลายร้อน

ระทึก! สารแอมโมเนียจากโรงน้ำแข็งรั่ว บาดเจ็บนับร้อย

ระทึกกลางดึก สารแอมโมเนียรั่วในโรงน้ำแข็ง อ.บางละมุง จ.ชลบุรี ชาวบ้านสูดดม ได้รับผลกระทบกว่า 100 คน ต้องกระจายส่งตาม รพ. ต่างๆ

จับแล้ว! ชายอินเดียฆ่าปาดคอหญิงวัย 51 ปี

เกิดเหตุฆ่าปาดคอหญิงอายุ 51 ปี ในโรงแรมท้องที่ สน.ตลาดพลู ผู้ต้องสงสัยเป็นชายชาวอินเดียที่อยู่ด้วยกันในโรงแรม กว่า 1 สัปดาห์ ก่อนหายตัวไปหลังเกิดเหตุ ล่าสุดตามจับได้แล้ว สารภาพอ้างแค้นผู้ตายไม่คืนเงิน

ข่าวแนะนำ

ยังระดมฉีดน้ำ-โฟม สกัดเพลิงไหม้โกดังสารเคมี

เหตุเพลิงลุกไหม้โกดังเก็บสารเคมี ที่จังหวัดระยอง ผ่านมากว่า 30 ชั่วโมงแล้ว แต่เจ้าหน้าที่ยังคงเร่งทำงานอย่างหนักเพื่อทำให้เพลิงสงบ ขณะที่ล่าสุด จ.ระยอง ประกาศให้พื้นที่ 2 ตำบล เป็นพื้นที่ประสบสาธารณภัย

“บิ๊กโจ๊ก” ถอนคำร้องเอาผิด “เศรษฐา” อ้างไม่ติดใจแล้ว

“บิ๊กโจ๊ก” ยื่น ป.ป.ช. ขอถอนคำร้องเอาผิด “นายกฯ เศรษฐา” กรณีปฏิบัติหน้าที่มิชอบตาม ม.157 อ้างไม่ติดใจดำเนินคดีแล้ว

ร้อนทะลุ 42 องศาฯ จนท.ดับไฟป่า ฮีทสโตรก 3 ราย

อากาศร้อนทะลุ 42 องศาฯ เจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติทับลาน เข้าดับไฟป่า เกิดฮีทสโตรก หัวใจหยุดเต้น 3 ราย ต้องทำ CPR ก่อนหามลงเขาสูงชันกว่า 4 กม. ขึ้นรถส่งโรงพยาบาล