เกษตรมีความหวัง “ลุงป้อม” สั่ง บจธ.ช่วยสร้างอาชีพเพิ่มรายได้ช่วงโควิดระบาด

30 มิ.ย. – “พล.อ.ประวิตร” สั่ง บจธ. ช่วยสร้างอาชีพ เพิ่มรายได้ แก่พี่น้องเกษตกร ช่วงโควิด-19 ระบาด


วันที่ 30 มิถุนายน 2564 พล.ต.อ.เฉลิมเกียรติ ศรีวรขาน ประธานกรรมการ กล่าวว่า พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะกำกับดูแล บจธ. มีความห่วงใยความเป็นอยู่พี่น้องชาวเกษตรในช่วงการระบาดของโรคโควิด-19 ได้สั่งการให้ บจธ. ดำเนินการติดตามโครงการบริหารจัดการที่ดินอย่างยั่งยืนของ บจธ. ซึ่งได้ดำเนินการไปแล้วจำนวน 12 พื้นที่ จำนวนพื้นที่ 1,234-2-17.7 ไร่ ช่วยเหลือกลุ่มเกษตรกรให้มีที่ดินทำกินไปแล้วจำนวน 482 ครัวเรือน มีหลักในการทำงานที่สำคัญในการส่งเสริมสนับสนุนให้เกษตรกรและผู้ยากจนรวมกลุ่มจัดตั้งเป็นวิสาหกิจชุมชน หรือสหกรณ์การเกษตร อบรมปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงเพื่อให้กลุ่มมีระบบบริหารจัดการกลุ่มที่เข้มแข็ง โดยดำเนินการจัดหาที่ดินด้วยกระบวนการมีส่วนร่วมของชุมชน และพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานตามที่กลุ่มร้องขอความช่วยเหลือ พร้อมทั้งสนับสนุนการจัดจำหน่าย และประสานการจัดตลาดนัดชุมชน โดยในพื้นที่ ตัดระบบพ่อค้าคนกลาง เพื่อให้กลุ่มเกษตรกรมีรายได้เพียงพอในช่วงการระบาดโควิด-19

ที่ผ่านมาสมาชิกทั้ง 12 กลุ่มวิสาหกิจชุมชนทุกคนได้รับการอบรมการพัฒนาจิตใจและศาสตร์พระราชาตามแนวหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง เกษตรทฤษฎีใหม่ และโคกหนองนา ที่ บจธ. ได้จัดหลักสูตรขึ้น ปัจจุบันสมาชิกได้เข้ามาพัฒนาพื้นที่ และตั้งใจผลิตพืชผักปลอดสารพิษ ผลผลิตที่ได้ของกลุ่มเกษตรกรมีทั้งที่เกษตรกรนำออกไปจำหน่ายเอง และมีคนมารับซื้อถึงบ้าน โดยหลังจากที่สมาชิกในกลุ่มได้รับที่ดินและได้เพาะปลูกในแปลงเกษตรของตนเองมาแล้ว 1 ปีเศษ สามารถสร้างรายได้ให้เกษตรกรในชุมชนได้เดือนละประมาณ 6,000-10,000 บาท/ครัวเรือน กลุ่มสามารถผ่อนชำระค่าเช่าของ บจธ. โดยเฉลี่ยครัวเรือนละ อัตราค่าเช่า 400-900 บาทต่อไร่ต่อปี แปลผันตามราคาที่ดิน ได้อย่างสบาย ส่งผลให้สมาชิกในชุมชนสามารถลดรายจ่าย เพิ่มรายได้ ในช่วงของภาวะวิกฤติเศรษฐกิจในปัจจุบันได้ และยังมีผลผลิตเหลือแจกจ่ายให้กับชุมชนใกล้เคียงได้ ทั้ง 12 กลุ่มชุมชน ปัจจุบันมีรายได้เพียงพอในการดำรงชีพ และมีเงินเหลือเก็บออมไว้ในชุมชน ซึ่งผู้นำประธานวิสาหกิจทุกชุมชนได้ยืนยันเป็นเสียงเดียวกันว่ากลุ่มจะสามารถเปลี่ยนเป็นสัญญาเช่าซื้อได้ในปีที่ 3 ได้อย่างแน่นอน


ด้านนายกุลพัชร ภูมิใจอวดผู้อำนวยการ เปิดเผยว่า สถาบันบริหารจัดการธนาคารที่ดิน (องค์การมหาชน) หรือ บจธ. เป็นหน่วยงานของรัฐที่มีภารกิจลดความเหลื่อมล้ำด้านที่ดินทำกิน เพื่อให้เกษตรกรและผู้ยากจนได้มีที่ดินทำกินเป็นของตนเอง โดยน้อมนำหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง เกษตรทฤษฎีใหม่ และโคกหนองนา มาเป็นแนวทางให้เกษตรกรและผู้ยากจนได้ประยุกต์ใช้ในการทำเกษตร โดยส่งเสริมสนับสนุนโครงการดำเนินการอย่างครบวงจร

ตั้งแต่ต้นน้ำ : ส่งเสริมสนับสนุนให้เกษตรกรและผู้ยากจนรวมกลุ่มจัดตั้งเป็นวิสาหกิจชุมชนหรือสหกรณ์การเกษตร อบรมปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงเพื่อให้กลุ่มมีระบบบริหารจัดการกลุ่มให้เข้มแข็ง

กลางน้ำ : ดำเนินการจัดหาที่ดินและพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน (ถนน น้ำ ไฟฟ้า) ตามที่กลุ่มร้องขอความช่วยเหลือโดยเป็นไปตามหลักเกณฑ์ของ บจธ. ร่วมวางแผนร่วมกันในการจัดทำผังที่ดิน พื้นที่ส่วนกลางวางแผนการผลิตเกษตรปลอดภัยเกษตรอินทรีย์ และแผนการตลาดโดยใช้เทคโนโลยีทำการเกษตร


ปลายน้ำ : ประสานงานร่วมกับภาคีเครือข่ายทั้งหน่วยงานของรัฐและเอกชน ในการพัฒนาผลิตภัณฑ์การเกษตรจัดหาสถานที่จัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์แปรรูปที่มีคุณภาพ รวมทั้งกำกับดูแลและติดตามการดำเนินงานอย่างต่อเนื่อง เพื่อส่งเสริมให้กลุ่มวิสาหกิจชุมชนหรือสหกรณ์การเกษตรสามารถพึ่งพาตนเองได้อย่างยั่งยืน

โดยตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา บจธ. ได้ดำเนินการกระจายการถือครองที่ดิน โดยการจัดหาและจัดสรรที่ดินให้แก่เกษตรกร แก้ไขปัญหาการสูญเสียสิทธิ์ในที่ดิน ตลอดจนพัฒนาและส่งเสริมอาชีพให้แก่เกษตรกรและผู้ยากจน รวมเนื้อที่ทั้งหมด 4,702-2-24.9 ไร่ มีเกษตรกรที่ได้รับความช่วยเหลือไปแล้วจำนวน 1,371 ครัวเรือน ซึ่งส่งผลให้เกษตรกรและผู้ยากจนได้มีที่ดินทำกินเป็นของตนเอง ครอบครัวสามารถลดรายจ่ายเพิ่มรายได้ เป็นความมั่นคงและยั่งยืน หลักเกณฑ์การให้ความช่วยเหลือ

1.เกษตรกร ผู้ยากจน รวมตัวกันเป็นกลุ่มไม่น้อยกว่า 7 คนจะตั้งเป็นวิสาหกิจชุมชน สำนักงานเกษตรอำเภอ/กิ่งอำเภอ 2.มีเป้าหมายที่ดินที่เหมาะสมและศักยภาพ ทำการเกษตรได้เป็นที่ดินของเอกชนที่วิสาหกิจชุมชนต้องการจะเข้าใช้ประโยชน์ในที่ดินที่มีเอกสารสิทธิ์ถูกต้องที่หน่วยงานราชการออกให้ 3.มีระบบการบริหารของวิสาหกิจชุมชน แผนการดำเนินการโครงการ เช่น แผนพัฒนาที่ดิน (โครงสร้างพื้นฐาน) แผนการจัดผังแบ่งแปลง แผนการผลิตแผนการตลาด ส่วนวิธีการพิจารณาให้ความช่วยเหลือ

บจธ. พิจารณาความเป็นไปได้ของโครงการโดยการวิเคราะห์กลุ่มวิสาหกิจชุมชนและที่ดินที่มีความเหมาะสมกับการทำเกษตร มีการกำหนดผังแปลงที่ดินตามหลักภูมิสถาปัตย์ พร้อมโครงสร้างพื้นฐานสนับสนุนให้จะทำการเกษตรแบบผสมผสานตามหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงและเกษตรทฤษฎีใหม่ ค่าเช่า อัตราค่าเช่า 400-900 บาทต่อไร่ต่อปี แปลผันตามราคาที่ดิน ค่าเช่าซื้อ จัดซื้อที่ดินมาเป็นของ บจธ. และให้กลุ่มวิสาหกิจชุมชนเช่าซื้อเป็นระยะเวลาไม่เกิน 30 ปี อัตราดอกเบี้ยร้อยละ 3 ต่อปี ผู้สนใจติดต่อสอบถามได้ที่กองบริหารจัดการที่ดิน 2 โทรศัพท์ 0 2278 1648 ต่อ 511 หรือ 06 3214 7844 .-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ผ่าไชน่า เรลเวย์ คว้า 3 โครงการรัฐในภูเก็ต

เหตุการณ์ตึก สตง.ถล่ม กลายเป็นปฐมบทในการปูพรมตรวจสอบบริษัท ไชน่า เรลเวย์ หลังพบเป็นผู้ชนะการประมูลโครงการก่อสร้างตึก สตง. และโครงการรัฐหลายแห่งทั่วประเทศ ล่าสุดที่ จ.ภูเก็ต ตรวจพบ 3 โครงการ และหนึ่งในนั้นกำลังมีปัญหาก่อสร้างที่ไม่ได้มาตรฐาน

มหาสงครามโลก

นักวิชาการชี้ “มหาสงครามโลกครั้งที่ 3” เกิดแน่ถ้าโลกยังตึงเครียด

นักวิชาการด้านความมั่นคงและการต่างประเทศระดับแนวหน้าของไทย มีความเห็นตรงกันว่า หากผู้นำชาติมหาอำนาจไม่เร่งลดระดับความตึงเครียดสถานการณ์โลก

กู้ภัยนานาชาติ เครือข่าย USAR ถอนกำลังแล้ว

กู้ภัยนานาชาติ เครือข่าย USAR ถอนกำลังแล้ว หลังอยู่ปฏิบัติภารกิจค้นหา-กู้ชีพ สนับสนุนกู้ภัยไทย เหตุตึก สตง.ถล่ม กว่า 1 สัปดาห์

ธรรมชาติใต้ดินเปลี่ยนไป หลังแผ่นดินไหว 1 สัปดาห์

แผ่นดินไหวที่เกิดขึ้นเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ส่งแรงสั่นสะเทือนในหลายพื้นที่ของภาคเหนือ แม้บนพื้นผิวดินจะไม่ได้สร้างความเสียหายมากนัก แต่พบความเปลี่ยนแปลงสภาพใต้ดินจนเกิดปรากฏการณ์ที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน ทั้งหลุมยุบขนาดใหญ่ น้ำพุร้อนที่เคยพุ่งจากใต้ดินหายไป แต่น้ำตกที่แห้งในหน้าแล้งกลับมีน้ำไหลออกมา ซึ่งนักธรณีวิทยายืนยันเป็นผลพวงจากแผ่นดินไหวครั้งนี้

ข่าวแนะนำ

“ไฮโซกำมะลอ” กระโดดชั้น 3 สน.โคกคราม

“ไฮโซเก๊” โลก 2 ใบ เครียดปีนตึก หลังถูก “คะน้า” ดาราสาว ออกมาแฉกลางรายการดัง จนตำรวจต้องเข้าเกลี้ยกล่อมพาไปโรงพัก แต่ยังวิ่งหนีการควบคุม กระโดดลงมาจากชั้น 3 สน.โครกคราม บาดเจ็บ

วันที่ 11 ปฏิบัติการกู้ซากตึก สตง. ถล่ม

วันที่ 11 ของปฏิบัติการกู้ซากตึก สตง. พังถล่ม เจ้าหน้าที่เดินหน้าใช้เครื่องจักรหนักเข้า เคลียร์ซากต่อเนื่อง โดยเฉพาะโซนบี และซี ที่คาดว่าเป็นจุดที่มีผู้ติดค้างอยู่จำนวนมาก

ชุดค้นหาลงโพรงโซน B, C ลึก 5-6 เมตร ได้กลิ่นแรง ไม่พบผู้สูญหาย

“กู้ภัย” เผยเจาะโพรงพื้นที่โซน B และ C ได้แล้ว พร้อมส่งชุดค้นหาลงโพรงไปตรวจสอบลึก 5-6 เมตร ยังไม่พบผู้สูญหายเพิ่ม แต่ได้กลิ่นแรง เร่งเดินหน้าเครื่องจักรหนักเคลียร์ซากต่อเนื่อง ยันจะช่วยเหลือจนกว่านำร่างสุดท้ายออกมาครบ