Fitch Ratings คงอันดับความน่าเชื่อถือไทยมีเสถียรภาพ

โรงแรมแคนทารี โคราช 19 มิ.ย. – Fitch Ratings คงอันดับความน่าเชื่อถือไทย BBB+ คงมุมมองมีเสถียรภาพ พร้อมดึงดูดการลงทุน แม้ไทยต้องออก พ.ร.ก.กู้เงิน 1 ล้านล้านบาท และ พ.ร.ก.กู้เงิน 5 แสนล้านบาท และขาดดุลงบประมาณ แผนเปิดประเทศส่งเสริมการท่องเที่ยวช่วยฟื้นเศรษฐกิจไทย


นางแพตริเซีย มงคลวนิช ผู้อำนวยการสำนักงานบริหารหนี้สาธารณะ เปิดเผยว่า บริษัท Fitch Ratings (Fitch) ได้คงอันดับความน่าเชื่อถือของไทยในระดับ BBB+ และคงมุมมองความน่าเชื่อถือของไทย มีเสถียรภาพ (Stable Outlook) ประกอบด้วย ภาคการคลังสาธารณะมีความแข็งแกร่ง จากการรักษาวินัยทางการคลัง แม้ว่าหนี้สาธารณะจะเพิ่มขึ้นจาก พ.ร.ก.เงินกู้ 1 ล้านล้านบาท ในการฟื้นฟูเศรษฐกิจและสังคม จากปัญหา COVID-19 และการจัดทำงบประมาณรายจ่ายขาดดุลปี 2564 การออก พ.ร.ก.เงินกู้ ฉบับที่ 2 วงเงิน 500,000 ล้านบาท

แต่ Fitch เชื่อมั่นว่า รัฐบาลไทยสามารถบริหารจัดการความเสี่ยงหนี้สาธารณะที่เพิ่มขึ้นได้เป็นอย่างดี ส่งผลให้หนี้สาธารณะของไทย ณ เดือนเมษายน 2564 มีอายุเฉลี่ย 9.5 ปี สัดส่วนหนี้สาธารณะสกุลเงินบาทมากกว่าร้อยละ 98 อยู่ในระดับสูงเมื่อเทียบกับกลุ่มประเทศที่มีอันดับความน่าเชื่อถือในระดับเดียวกัน (BBB peers) เช่น อินโดนีเซีย ฟิลิปปินส์ โปรตุเกส ฮังการี บัลกาเรีย รัสเซีย และคาซัคสถาน เป็นต้น โดยมีค่ากลางของหนี้สกุลท้องถิ่น ร้อยละ 68.8


Fitch คาดว่า สัดส่วนหนี้ภาครัฐบาล (General Government Debt) ต่อ GDP ของไทยในปี 2565 เพิ่มขึ้นอยู่ที่ร้อยละ 52.7 ต่อ GDP เมื่อต้องกู้เงินฟื้นฟู COVID-19 จำนวน 2 ฉบับ สัดส่วนหนี้ต่อภาครัฐอยู่ที่ร้อยละ 59.4 Fitch ยังเชื่อมั่นว่า แนวโน้มเศรษฐกิจไทยในไตรมาส 2 ของปี 2564 จะเริ่มฟื้นตัว เนื่องจากการเพิ่มขึ้นของการส่งออกสินค้า และการเร่งรัดการเบิกจ่ายโครงการลงทุนของภาครัฐ คาดว่าจีดีพีไทยในปี 2565 ขยายตัวร้อยละ 4.2 จากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจในประเทศ และการเริ่มเปิดรับนักท่องเที่ยวต่างชาติ

คาดว่าในปี 2564 ดุลบัญชีเดินสะพัดของไทย ยังคงเกินดุลร้อยละ 0.5 ต่อ GDP และจะเกินดุลเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง จากการฟื้นตัวของภาคการท่องเที่ยว การเร่งฉีดวัคซีนให้ประชาชนให้ครอบคลุมประชากรกว่าร้อยละ 70 ตั้งแต่ต้นเดือนมิถุนายน 2564 และแผนการเปิดรับนักท่องเที่ยวต่างชาติที่มีศักยภาพสูงฉีดวัคซีนครบโดสแล้วจากประเทศที่มีความเสี่ยงต่ำและปานกลาง โดยเริ่มจาก จ.ภูเก็ต เป็นจังหวัดนำร่อง โดย Fitch ยังติดตามเรื่องธรรมาภิบาล รายได้เฉลี่ยต่อหัว หนี้ครัวเรือน ความเสี่ยงทางการเมือง และการเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุของไทย. – สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

Joe Biden and Kamala Harris on stage

ผู้เชี่ยวชาญชี้สาเหตุที่ “แฮร์ริส” พ่ายแพ้

ผู้เชี่ยวชาญชี้สาเหตุที่นางคอมมาลา แฮร์ริส ตัวแทนพรรคเดโมแครต พ่ายแพ้การเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐ ให้แก่นายโดนัลด์ ทรัมป์ จากพรรครีพับลิกัน

“ทรัมป์” คว้าชัยเด็ดขาด ครองตำแหน่งประธานาธิบดีอีกสมัย

โดนัลด์ ทรัมป์ ผู้สมัครจากพรรครีพับลิกัน คว้าชัยชนะเด็ดขาดในการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐ เหนือคู่แข่งอย่าง คอมมาลา แฮร์ริส จากพรรคเดโมแครต นับเป็นการกลับมาครองตำแหน่งผู้นำสหรัฐอีกครั้ง หลังต้องออกจากทำเนียบขาวไปเมื่อ 4 ปีก่อน

พบศพไวยาวัจกรวัดดังระยองถูกยิงดับพร้อมหญิงสาวในบ้านพัก

พบศพไวยาวัจกรวัดดัง จ.ระยอง ถูกยิงเสียชีวิตในบ้านพัก พร้อมหญิงสาวหน้าตาดี คาดเสียชีวิตมาแล้ว 3 วัน ตำรวจเร่งหาสาเหตุ

พบเด็กหญิงฝาแฝดวัย 9 ขวบ ดวงตาสีฟ้า

พบเด็กหญิงฝาแฝดชาวนครพนม วัย 9 ขวบ มีดวงตาสีฟ้าสดใส ซึ่งเป็นโรคทางพันธุกรรมที่พบได้ยาก อาศัยอยู่กับแม่เลี้ยงเดี่ยว แม่เผยลูกมีปัญหาทางการได้ยิน ใช้ชีวิตลำบาก ถูกบลูลี่ แต่ไม่ขอเปิดรับบริจาค เพราะเคยถูกมิจฉาชีพแอบอ้าง

ข่าวแนะนำ

นำ “ทนายตั้ม-ภรรยา” ฝากขัง เจ้าตัวยกมือไหว้ ปัดตอบทุกประเด็น

กองปราบฯ นำ “ทนายตั้ม-ภรรยา” ฝากขังศาลอาญารัชดา เบื้องต้นท้ายคำร้องพนักงานสอบสวนคัดค้านการประกันตัว ด้านเจ้าตัวยกมือไหว้ ปัดตอบทุกประเด็น

ครูปรีชาทนายตั้ม

“ครูปรีชา” หิ้วกาแฟ-ข้าวผัด เยี่ยม “ทนายตั้ม”

เกือบ 24 ชั่วโมง ที่ตำรวจกองปราบฯ คุมตัว “ทนายตั้ม-ภรรยา” มาสอบปากคำ เบื้องต้นทั้งคู่ยังให้การปฏิเสธ เตรียมส่งตัวฝากขังบ่ายนี้ ส่วนคู่กรณีหวย 30 ล้าน “ครูปรีชา” นำข้าวผัดและกาแฟ เข้าเยี่ยม “ทนายตั้ม” พร้อมยืนยันคำเดิม “ความจริงก็คือความจริง”

นายกฯ เร่งตั้งทีม JTC เจรจา MOU44 คาดชัด 18 พ.ย.นี้

นายกฯ ยันรัฐบาลเร่งตั้งคณะกรรมการ JTC หารือเส้นเขตแดน MOU 44 และพลังงานใต้ทะเล คาด 18 พ.ย.นี้ ชัดเจน “ภูมิธรรม” มั่นใจกัมพูชายึดตามสนธิสัญญาเจนีวา แม้ไม่เข้าร่วม ย้ำมีผลผูกพันทุกประเทศทั่วโลก